ตอนที่ 651 แพศยาชอบยุ่งกับคนอื่น

นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น

นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น ตอนที่ 651 แพศยาชอบยุ่งกับคนอื่น
และเฟิงไป่โจวไม่ยอมอ่อนให้แม้แต่น้อย สู้กับฮ่อหยุนเฉิงซึ่งๆ หน้า ทันใดนั้นทรัพยากรทางธุรกิจก็ถูกทั้งสองบริษัทถูกแย่งกันจนหมด นักธุรกิจสองคนต่อสู้ห้ำหั่นกัน แค่ชั่วพริบตาเดียวก็เข้าสู่ความยากลำบากราวกับตกนรกทั้งเป็น

ผ่านไปหนึ่งสัปดาห์ ทั้งสองยังไม่รู้แพ้รู้ชนะ และฮ่อหยุนเฉิงที่กำลังนั่งอยู่ภายในห้องทำงานเครียดคิ้วขมวดคิดวางแผนอยู่

ทันใดนั้นเองก็ได้ยินเสียงเคาะประตูห้องทำงาน

ฮ่อหยุนเฉิงนึกว่าเป็นเลขาเข้ามารายงานควบคืบหน้ำ เลยส่งเสียงอนุญาตให้เข้ามา พอเงยหน้าขึ้นก็คิดไม่ถึงว่าจะเป็นเฉินเจียว

ฮ่อหยุนเฉิงยิ่งแสดงสีหน้าเคร่งไม่พอใจ มองดูคนตรงหน้าแต่งหน้ามาอย่างสวย พร้อมกับสวมชุดเดรสสีเหลืองอ่อน บนหัวก็ติดที่คาดผมสีเรียบ ดูสไตล์การแต่งตัวคล้ายกับซูฉิง

ฮ่อหยุนเฉิงที่อารมณ์ไม่ดีอยู่แล้วก็ยิ่งอารมณ์ไม่ดียิ่งขึ้น ที่เห็นเฉินเจียวตั้งใจแต่งตัวอย่างนี้ที่เลียนแบบการแต่งตัวของซูฉิงเข้ามา แต่น่าเสียดายที่เธอไม่ใช่ซูฉิง

“เธอมาทำอะไร”

นึกถึงเรื่องครั้งก่อนที่ในห้องทำงาน ฮ่อหยุนเฉิงก็มองเฉินเจียวอย่างระมัดระวังแล้ว

“ได้ข่าวว่าเกิดเรื่องขึ้นกับตระกูลฮ่อกรุ๊ป ฉันก็เลยมาดูสักหน่อย”

ตอนที่เฉินเจียวมาเยี่ยมคุณปู่ฮ่อ บังเอิญได้ยินคนคุยกันเรื่องนี้ดังนั้นเธอเลยตั้งใจแต่งตัวออกมา

นึกถึงครั้งที่แล้วที่ทำเรื่องขายหน้าไว้ ครั้งนี้เฉินเจียวเลยตั้งเตรียมตัวมาให้ดี เธอตั้งใจเลียนแบบการแต่งตัวของซูฉิงและท่าทางการเดินของเธอ เพื่อจะทำให้ฮ่อหยุนเฉิงประทับใจ

“เธอมาดูแล้วจะมีประโยชน์อะไร”

ฮ่อหยุนเฉิงยิ่งอารมณ์ไม่ดีกว่าเดิม หลายวันมานี้เขาเอาแต่คิดเรื่องของเฟิงไป่โจวตลอด แม้แต่เรื่องพนักงานระดับสูงยังจัดการได้ยาก แล้วเฉินเจียวที่เป็นคนนอกจะรู้อะไรด้วย

“ฉัน ฉันรู้ว่าฉันสามารถช่วยคุณได้”

เฉินเจียวทำท่ายักคิ้วขึ้นอย่างมั่นใจ วันนี้เธอทำหน้าตาน่าสงสารอย่างโจ่งแจ้ง ถ้าหาดคนอื่นเห็นคงจะใจอ่อนไปแล้ว

แต่ฮ่อหยุนเฉิงไม่ใช่คนอื่น ตั้งแต่เฉินเจียวเดินเข้ามา เขาไม่เหลวมองเธอแม้แต่น้อย

“ครั้งที่แล้วฉันผิดเอง ที่หุนหันคุณยังโกรธฉันอยู่หรอ”

เฉินเจียวกะพริบตาปริบๆ วันนี้เธอตั้งใจแต่งหน้ามาให้ดูสวยมีชีวิตชีวายิ่งดูน่าสนใจมาก

“ไม่ได้โกรธอะไร”

นอกจากซูฉิงแล้ว ฮ่อหยุนเฉิงไม่เคยสนใจผู้หญิงคนไหนเลย และยิ่งมาลวนลามเขาอย่างนี้ เขายิ่งไม่สนใจ

“งั้นก็ดี”

เสียงของเฉินเจียวยิ่งเบาลง น้ำเสียงอ่อนหวานเหมือนกับผุดออกมาจากบ่อน้ำ

“ไม่มีอะไรแล้วฉันขอตัวนะ”

เฉินเจียวที่ยืนอยู่ข้างๆ ฮ่อหยุนเฉิงรู้สึกเหมือนถูกกดดัน เลยลุกขึ้นยืนแล้วเดินออกไปจากห้องทำงาน

แต่เฉินเจียวก็ยังไม่อม เดินตามฮ่อหยุนเฉิงออกมา:”คุณไม่ใช่บอกว่าไม่โกรธหรองั้นคุณจะหลบหน้าฉันทำไม”

“ฉันก็แค่ไม่อยากอยู่กับเธอ”

ฮ่อหยุนเฉิงตอบเฉินเจียวอย่างไม่ไว้หน้า แววตาเย็นเยือก หน้าเคร่งขรึมราวกับกำลังเตือนเธอว่าอย่าเข้าใกล้เขา

แต่เฉินเจียวยังไม่ยอมหยุด ยิ่งคนมารุมเยอะเท่าไหร่ เฉินเจียวก็ยิ่งเข้ามารุ่มร่ามกับฮ่อหยุนเฉิงมากเท่านั้น

“ทำไม ฉันเป็นถึงคุณหนูของตระกูลเฉิน แม้แต่คุณปู่ของคุณก็ยังรักเอ็นดูฉัน หรือว่าฉันจะเป็นคนที่อยู่เคียงข้างคุณไม่ได้เชียวหรอ”

เฉินเจียวที่พยายามบีบน้ำตาให้ไหลออกมา เบ้าตาที่แดงก่ำ ยิ่งทำให้คนอื่นรู้สึกสงสาร

“เธออย่าทำอย่างนี้นะ”

ยิ่งคนอื่นมองมาเยอะเท่าไหร่ ฮ่อหยุนเฉิงยิ่งรู้สึกแปลกใจ แล้วก็โบกมือไปมาให้เฉินเจียวหลบไป

แต่เฉินเจียวที่เห็นคนมองมาเยอะขึ้นเรื่อยๆ ก็ยิ่งไม่ยอมแพ้ เข้าไปจับแขนของฮ่อหยุนเฉิง:”คุณไม่ปฏิเสธฉันออกมาไปตรงๆ ก็แสดงว่าคุณมีใจให้กับฉันไม่ใช่หรอ”

ทุกคนที่มองมาได้ยินอย่างนั้นก็พูดเสียงฮือฮากัน

พวกเขาต่างก็กระซิบกันรื่องที่ฮ่อหยุนเฉิงแต่งงานแล้วทุกคนต่างก็รู้ดี แต่ตอนนี้เกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้น หมายความว่ายังไง

ฮ่อหยุนเฉิงน่าเคร่งด้วยความโกรธแขนออก ดึงมือของเธอออกจากตัว แต่ว่าเรื่องที่เฉินเจียวพูดก็ถูกต้องเล็กน้อย

เธอเป็นคุณหนูตระกูลเฉิน มีอำนาจแค่ไหนก็รู้กันอยู่ แม้แต่คุณปู่ฮ่อนั้นเอ็นดูเธอมาก

เพียงแค่สองข้อนี้ฮ่อหยุนเฉิงก็รู้แล้วว่าไม่สามารถที่จะปฏิเสธเธอออกไปตรงๆ ต่อหน้าคนอื่น

“เธออย่าทำอย่างนี้นะ คนตั้งเยอะ รักษาหน้าตัวเองด้วย”

“ฉันไม่กลัว!”

เฉินเจียวที่เห็นฮ่อหยุนเฉิงไม่ปฏิเสธก็ยิ่งชอบ แล้วก็พุ่งเข้าไปกอดฮ่อหยุนเฉิง

ทุกคนที่อยู่ให้เหตุการณ์ต่างก็ถ่ายเอาไว้ ฮ่อหยุนเฉิงที่ถูกเฉินเจียวเข้ามากอดเลยไม่ทันได้สังเกตเห็น

“คุณเข้าใจฉันมั้ย ครั้งที่แล้วที่ฉันเข้าไปหาคุณ คุณทำแบบนั้นกับฉันทำให้ฉันเสียใจไปนานเลย”

เฉินเจียที่ทำเป็นดีต่อฮ่อหยุนเฉิง ยิ่งทำให้ฮ่อหยุนเฉิงรู้สึกปวดหัว

คนโดยรอบที่ชอบยุ่งเรื่องชาวบ้านก็บางคนถึงกับต้องการเกลี้ยกล่อม แต่พวกเขากลับตกใจกับรูปลักษณ์ของฮ่อหยุนเฉิง

ฮ่อหยุนเฉิงชักมือกลับ ไม่มองเฉินเจียวแม้แต่น้อย แล้วก็เดินไปห้องทำงานโดยไม่สนใจใคร

ตอนนี้เหลือเพียงเฉินเจียวที่ยืนอยู่คนเดียว พนักงานคนอื่นก็ต่างก็มามุงล้อม

เพียงไม่นาน ภาพของเฉินเจียวกับฮ่อหยุนเฉิงที่ถูกถ่ายไว้ก็ถูกแชร์ไปในโลกโซเชียว เพราะฮ่อหยุนเฉิงไม่ได้ปฏิเสธเลยเป็นที่ดึงดูดของพวกแฟนคลับคู่จิ้น

ทันใดนั้นเอง ข่าวเสียหายของฮ่อหยุนเฉิงกับเฉินเจียวก็ดังไปทั่ว ไม่นานเรื่องก็ไปถึงหูของซูฉิง

เธอดูภาพของฮ่อหยุนเฉิงกับเฉินเจียวในเวยป๋อ ด้วยสีหน้าพอใจและดีใจ แต่ฮ่อหยุนเฉิงกับตรงกันข้าม มีแต่คนฉลาดเท่านั้นแหละที่สามารถมองออกว่าฮ่อหยุนเฉิงไม่เต็มใจ ยังมีคนมาปลุกกระแสติดเทรนคำค้นหาอีกหรอ

คอมเมนท์ที่ถกเถียงกันในโลกโซเซียลก็คือฮ่อหยุนเฉิงไม่ได้ปฏิเสธเฉินเจียว และยังพูดเหมือนไม่รู้จะพูดอะไร พวกแฟนคลับคู่จิ้นก็ยั่วยุให้หวานกัน

ซูฉิงยิ้มบาง แล้วก็ลุกขึ้น ให้เลขาไปส่งตนที่ตระกูลฮ่อกรุ๊ป

ส่วนเฉินเจียวในเวลานี้ก็ถูกพวกพนักงานรุมล้อม มีพนักงานหลายคนตาวาว และกำลังถามถึงเรื่องความสัมพันธ์กับเฉินเจียว

พอเห็นเฉินเจียวทำหน้าเขินก็ยิ่งทำให้ซูฉิงโมโห

ซูฉิงเดินเข้าไปแล้วก็กระชากเฉินเจียว จนทำให้ชุดเดรสสีเหลืองอร่ามของเธอยับยู่ยี่

“เธอพูดเหลวไหลอะไร ระวังฉันจะไม่เกรงใจเธอนะ”

ซูฉิงแววตาคมของซูฉิงมองอย่างรู้ทัน ทำให้เฉินเจียวทำตัวไม่ถูก

“เธอทำอะไร ปล่อยฉันนะ!”

เฉินเจียวต่อว่าออกมาพร้อมกับฟันจ้องซูฉิงเขม็ง

แต่ซูฉิงก็ไม่ปล่อย ยังจับคอเสื้อของเฉินเจียวไว้แน่น :”เป็นถึงคุณหนูตระกูลเฉิน วิ่งมาหาสามีคนอื่นถึงบริษัท คนอื่นคงคิดว่าเธอใจกว้างอยากจะเป็นบ้านเล็กบ้านน้อยให้กับสามีคนอื่นสินะ”

ซูฉิงที่พูดประโยคนี้ออกไปทำให้เฉินเจียวคิดหนัก เธอผลักซูฉิงออก:”เธอพูดอะไร อย่ามาใส่ร้ายป้ายสีฉันนะ ฉันไม่มีอะไรกับฮ่อหยุนเฉิงทั้งนั้น!”

“ไม่มีอะไร แล้วเธอยังฉุดดึงเขา ไม่มีมาดคุณหนูผู้สูงส่งแห่งตระกูลเฉินเลย”

ซูฉิงที่เหลือบมองพร้อมกับมองเฉินเจียวตั้งแต่หัวจรดเท้า ถ้าพูดถึงเรื่องภูมิฐาน เฉินเจียวยังด้อยกว่าเธอมาก

“เธอ พูดจาเหลวไหล!”

เฉินเจียวที่ไม่ยอมรับ ตาหดลง:”ไม่รู้ว่าพี่ฮ่อชอบเธอได้ยังไง เข้ามาก็มาฉุดกระชากชุดของฉัน ใครไม่จักก็คงคิดว่าเป็นมนุษย์ป้ามาจากไหน!”