ถังซียิ้ม มองหน้าเฉินจื่อเยียนซึ่งยังคงมีท่าทางไม่พอใจ และถามว่า “พวกเขาเลือกเพลงอะไรเหรอ”
เฉินจื่อเยียนทำปากยื่น “เพลงบรรเลงเปียโนสิบอันดับที่สุดของโลก”
ถังซีเลิกคิ้ว ‘เดอะ เวดดิง ออฟ เดอะ ดรีม’ ‘อา กอม มามูร์’ ‘บัลลาด ปูร์ อาเดอแลง’ ‘เดอะ บลู ดานูบ’ ‘เฟือร์ เอลีเซอ’ ‘โซนาตา พาเธทีค’ ‘เลิฟ อิส บลู’ ‘คิส เดอะ เรน’ ‘คุกคูวอลซ์’ และ ‘ไชลด์ฮูด เมโมรียส์’ เธอเล่นได้ทุกเพลง จำได้ว่าเธอเคยเข้าร่วมการแข่งขันเปียโนเมื่อครั้งเรียนบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต ที่สหรัฐอเมริกา เธอเล่นเพลง ‘เดอะ เวดดิง ออฟ เดอะ ดรีม’ และชนะการแข่งขัน
เธอได้รู้จักกับนักออกแบบชุดแต่งงานที่โด่งดังระดับโลกอย่างริกก้า ก็เพราะเสียงเปียโนนี้ เธอได้รับเชิญให้เล่น ‘เดอะ เวดดิง ออฟ เดอะ ดรีม’ ในงานแฟชั่นโชว์ของริกก้า ถ้าเธอโชคดีพอ เลือกได้เพลงนี้ก็จะดี แต่อันที่จริงเธอเล่นได้หมดทุกเพลง แม้จะไม่ชอบเพลงอื่นๆ แต่เธอก็เล่นได้ดี เมื่อคิดเช่นนี้ถังซีก็ยิ้ม ตบไหล่เฉินจื่อเยียนแล้วเดินต่อไป
เมื่อเห็นถังซีไม่วิตกกังวลอะไรเลย เฉินจื่อเยียนก็ละล่ำละลักบอกว่า “ว้า นี่ฉันรู้สึกเหมือนว่าฉันวุ่นวายไปเองเลย ทำไมเธอถึงเอาแต่ยิ้มอยู่ได้! เธอรู้ไหมว่าเพลงพวกนั้นน่ะยากแค่ไหน เธออาจพลาดได้ถ้าสมาธิไม่ดีพอ ฉันคิดว่าพวกนั้นต้องวางแผนหาทางให้เธอจับได้ ‘เดอะ เวดดิง ออฟ เดอะ ดรีม’ แน่ๆ เลย”
ถังซีเลิกคิ้ว “จริงเหรอ” น้ำเสียงเธอฟังดูตื่นเต้นเล็กน้อย
“ใช่! เธอไม่รู้หรอกว่าการแสดงงานศิลปะของโรงเรียนเราน่ะ เป็นเรื่องที่นักเรียนบ้าคลั่งกันแค่ไหน!” เฉินจื่อเยียนเกาะแขนเธอเดินไปห้องเรียน “ฉันหาข้อมูลทางออนไลน์ดูแล้วเกี่ยวกับการแสดงงานศิลปะ คืนนั้นคือช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่นักเรียนจะได้แสดงตัวตนของตัวเอง นักเรียนจะได้สวมเสื้อผ้าแบรนด์เนมดังๆ เดินพรมแดง และได้แสดงความสามารถพิเศษบนเวที แล้วช่วงท้ายโรงเรียนก็จะเลือกดาวโรงเรียน และมอบรางวัลให้ด้วย เด็กผู้หญิงที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในคืนนั้นจะได้เป็นดาวโรงเรียน และเด็กผู้ชายที่ได้รับความนิยมมากที่สุดจะได้เป็นเดือนโรงเรียน ไม่ใช่แค่นั้นนะ โรงเรียนจะมอบถ้วยรางวัลให้ทั้งสองคนด้วย… เป็นเวทีที่เธอจะได้แสดงความสามารถพิเศษ นักเรียนพวกนั้นเลยเป็นบ้า พวกเขาพยายามจะให้เธอเล่นเปียโนเพลงสิบอันดับแรกของโลกให้ได้!”
“แล้วทำไมล่ะ” ถังซีมองเฉินจื่อเยียนด้วยสายตาสงสัย “ทำไมเธอถึงต้องโกรธพวกเขามากขนาดนี้” ถังซีเล่นเปียโนเพลงสิบอันดับแรกของโลกได้คล่องทุกเพลง เพราะฉะนั้นนั่นคือทางเลือกที่ดีสำหรับเธอ
“ทำไมน่ะเหรอ” เฉินจื่อเยียนเบิกตาโตจ้องมองถังซี “เธอไม่รู้เหรอว่าทำไมเพลงพวกนั้นถึงได้ชื่อว่าเป็นเพลงเปียโนยอดเยี่ยมสิบอันดับแรกของโลก ถึงแม้จะไพเราะ แต่ทุกเพลงก็ยากมาก! ถ้าเธอเล่นผิดเธอจะกลายเป็นตัวตลกของคนทั้งโรงเรียน แล้วเธอก็จะไม่มีทางได้เป็นดาวโรงเรียน!” จากนั้นเธอก็กล่าวอย่างขุ่นเคือง “เด็กผู้หญิงพวกนั้นอิจฉาเธอ กลัวว่าเธอจะดังกว่า ก็เลยวางแผนกลั่นแกล้งเธอ! และเด็กผู้ชายพวกนั้นก็อิจฉาผลการเรียนที่ยอดเยี่ยมของเธอ เลยอยากเห็นเธอแสดงความโง่ออกมา! เลวมาก! พวกนี้นี่ใจร้ายจริงๆ!”
ถังซีรู้สึกขำเฉินจื่อเยียน เธอหัวเราะและตบหลังเฉินจื่อเยียนเบาๆ “ไม่เป็นไรหรอก ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร คนพวกนั้นแค่อยากให้ฉันเล่นเพลงยากๆ เราจะได้ชนะชั้นเรียนอื่นไง”
เฉินจื่อเยียนกะพริบตาปริบๆ มองหน้าถังซี “จริงเหรอ”
ถังซียิ้ม “แน่นอน” แล้วเธอก็เดินเลี้ยวเข้าห้องเรียน
ทันทีที่ทั้งสองเดินเข้าไปในห้องเรียน บรรยากาศห้องเรียนอันอึกทึกก็เงียบกริบลงทันที เฉินจื่อเยียน แอบเอาข้อศอกกระทุ้งถังซีเบาๆ กระซิบว่า “ดูสิ เห็นไหม ทุกคนปิดบังความชั่วร้ายที่มีต่อเธอ! ถ้าไม่ใช่อย่างนั้นทำไมถึงต้องเงียบกริบทันทีแบบนี้!”
ถังซีมองเฉินจื่อเยียนอย่างอ่อนใจและกล่าวว่า “ที่รัก เมื่อกี้เธอไม่ได้ยินเสียงกระดิ่งเข้าเรียนเหรอ”
เธอใช้เวลาสองนาทีพูดคุยกับเซียวเจี่ยนที่หน้าประตูโรงเรียน สองนาทีหัวเราะกับชุดที่น่าขันของอาหก และอีกหลายนาทีสนทนากับเฉินจื่อเยียนมาตามทางเดิน เมื่อกี้เธอรีบลากเฉินจื่อเยียนเข้าห้องเรียน เพราะเธอได้ยินเสียงกระดิ่งเข้าเรียนดังขึ้นแล้ว
เฉินจื่อเยียนเกาศีรษะอย่างเคอะเขินและหัวเราะเบาๆ “ฉันไม่ได้สนใจฟังเลย”
ถังซีส่ายหน้า “ฉันก็ว่าอย่างนั้นแหละ เอาละ ถึงเวลาเรียนแล้ว ทบทวนบทเรียนภาษาอังกฤษของเมื่อวานนี้ ถ้ามีปัญหาอะไรก็ถามฉัน ฉันจะนอน”
เมื่อคืนนี้เธอมัวยุ่งอยู่กับการจัดการปัญหาของเดอะควีน กว่าจะได้นอนก็เที่ยงคืน เธอง่วงนอนมากระหว่างทางมาโรงเรียน แต่ต้องเก็บอาการ เพราะกลัวเซียวเจี่ยนจะถามว่าทำไมเธอถึงไม่รีบเข้านอนเมื่อคืนนี้ โชคดีที่ชั่วโมงแรกเป็นชั้นเรียนการเรียนรู้ด้วยตนเองของคุณครูเหอ เขาคงอนุญาตให้เธองีบหลับในชั้นเรียนได้
ไม่นานคุณครูเหอก็มาถึงห้องเรียน เมื่อเห็นถังซีเขาก็ยิ้มแล้วพูดเสียงดัง “พวกนักเรียนเสนอให้เซียวโหรวแสดงเปียโนด้วยเพลงยอดเยี่ยมที่สุดสิบอันดับแรก ในการแสดงงานศิลปะ เธอเห็นด้วยไหม เซียวโหรว ถ้าเธอตกลง เราจะให้เธอเลือกด้วยการจับฉลาก โอเคไหม”
เมื่อได้ยินคุณครูเหอเรียกชื่อเธอ ถังซีซึ่งกำลังหลับอยู่ก็ลืมตาขึ้นมองเขา เธอหาวและพยักหน้า “ได้ค่ะ คุณครูเหอ คุณครูหยิบฉลากให้หนูใบหนึ่งเลยค่ะ หรือว่า…” ถังซีโน้มตัวลงบนโต๊ะแล้วชี้เฉินจื่อเยียน “ให้เพื่อนร่วมโต๊ะของหนูเลือกให้หนูก็ได้ค่ะ หนูจะเล่นเพลงไหนก็ได้ที่เธอเลือก”
นักเรียนคนอื่นๆ เริ่มวิพากษ์วิจารณ์…
“แหม เธอช่างมั่นใจจริงๆ …”
“เธอโตบนภูเขาไม่ใช่เหรอ จะเล่นเปียโนได้ยังไงน่ะ”
“ใช่ เธอไม่เหมือนเด็กที่เติบโตบนภูเขาเลย”
“บางทีเธออาจเป็นอัจฉริยะก็ได้นะ”
“แม้แต่อัจฉริยะก็ไม่สามารถเรียนรู้การเล่นเปียโนได้ในเวลาอันรวดเร็วอย่างนี้!” นักเรียนคนหนึ่งกล่าว “นี่เธอต้องเล่นเปียโนเก่งกว่าฉันด้วยนะ! ฉันเริ่มหัดเล่นเปียโนตั้งแต่แปดขวบ แต่ก็ยังเล่นเพลงสิบอันดับแรกไม่ได้!”
ถังซีไม่อยากเอ่ยคำพูดใดๆ เลย แต่พวกเขาส่งเสียงดังจนเธอนอนไม่หลับ
เธอลุกขึ้นยืน มองนักเรียนคนนั้น “เฮ้ นี่เป็นเวลาเรียน ไม่ใช่เวลาซุบซิบนินทา เดี๋ยวในงานแสดงศิลปะเธอก็รู้เองแหละ ว่าฉันเล่นเปียโนได้หรือไม่ได้ ไม่มีประโยชน์อะไรที่เธอจะเดาตอนนี้ จริงไหม”
ในฐานะแฟนตัวยง เฉินจื่อเยียนสนับสนุนทันที “ใช่! ถ้าเธอไม่เชื่อมือเซียวโหรว เธอก็แสดงเองได้นี่!”