ตอนที่ 939 กระทืบมัน

เนตรเซียนทะลุสมบัติ

ตอนที่ 939 กระทืบมัน

 

หยางหลางถูกจับตัวมาส่งไว้ตรงหน้าหยางโป หยางโปกวาดตามองดูเขาอย่างพินิจพิเคราะห์ “ ตอนนี้รู้จักแล้วใช่ไหม ? ”

 

หยางหลางยิ้มอย่างเก้อเขิน เขาเหลือบมองหน้าหยางโปยิ้มเหยเก “ เสี่ยวโป นายทำไมมาเยี่ยมฉันถึงที่นี่เลยล่ะ ? ”

 

“ นายคิดว่า ฉันมาเยี่ยมนายงั้นเหรอ ? ” หยางโปปเอ่ยถาม

 

หยางหลางนิ่งอึ้งไปสักพัก พูดด้วยความแปลกใจปนดีใจ “ นายมาเยี่ยมพ่อกับแม่เหรอ ! แบบนี้ก็ดีเลย ! เสี่ยวโป นายรู้ไหม ? ช่วงที่นายไม่อยู่ พวกเขาคิดถึงนายมากแค่ไหน ! ”

 

“ คิดถึงรอยิ้มของนาย คิดถึงเสื้อกันหนาวของนาย คิดถึงกางเกงสีขาวของนาย กลิ่นกายของนาย !เสี่ยวโป นายก็น่าจะรู้ดี พวกเรารักนายขนาดไหน นายกลับมาเถอะ พวกเรามาอยู่ด้วยกัน

 

ทุกวันตื่นมา แม่ทำกับข้าว นายก็ไปช่วยอยู่ข้างๆ ทุกวันหลังนายกลับมาจากโรงเรียน แม่ก็มักจะสอนนายทำอาหาร ฉันจำได้เวลานั้น นายมักจะพูดเสมอว่านายมีการบ้านเยอะ ไม่มีเวลา…… ”

 

ในขณะที่พูดอยู่นั้น หยางหลางจู่ๆก็หยุดพูด ตัวเขาเองรู้ตัวแล้ว ว่าเขาได้พูดผิดไปแล้ว

 

หยางโปไม่พูดอะไรมาก โบกมือจากนั้นก็มีคนมาพาตัวหยางหลางออกไป

 

เมื่อคนกลุ่มนั้นออกมาจากห้องในโรงงาน เลขาหลิวก็เหลือบมองมาที่พี่ถัง “ อาถัง ครั้งต่อไปถ้าเจอสองคนนั้นเมื่อสักครู่อีก จะต้องวางตัวให้เหมาะสมนะ แต่ก่อนฉันกับนายหัวเราะต่อกระซิบกัน ทั้งหมดนี้มันไม่เป็นอะไร ฉันก็ไม่เคยถือสาจะเก็บเอามาใส่ใจ แต่ถ้านายกล้าที่จะทำแบบนี้กับสองคนนั้น นายก็หาเรื่องตายดีๆนี่เอง ! ”

 

พี่ถังถึงกับตกตะลึงนิ่งอึ้งไป สีหน้าซีดขาว เขาหันมือชี้ไปด้านนอก “ คนสองคนเมื่อสักครู่นั้นเป็นใครกัน ? ”

 

“ คุณไม่ต้องสนใจอะไรมาก อีกทั้งยังไม่จำเป็นต้องไปรู้ว่าสองคนนั้นเป็นใคร สิ่งที่คุณควรรู้มีแค่เรื่องเดียว แค่พวกเขาพูดมาแค่เพียงคำเดียวก็สามารถเอาชีวิตของคุณได้แล้ว ! ” เลขาหลิวจ้องหน้าพี่ถัง ถอนหายใจอย่างดูถูก และเอ่ยขึ้นว่า “ อย่าได้คิดเชียวว่าผมกำลังพูดเล่นกับคุณอยู่ ! ”

 

พี่ถังรีบพยักหน้าลง “ เลขาหลิวว่าไง ผมก็จะทำตามและฟังคำแนะนำของเลขาหลิวทุกอย่าง ! ”

 

เลขาหลิวพยักหน้า “ ต่อไปไม่ต้องให้หยางหลางมาเล่นพนันอีก ถ้าถูกจับได้อีกครั้ง นายจะถูกตัดขาทิ้งไปเลยข้างหนึ่ง ! ”

 

พี่ถังตกตะลึง รีบพยักหน้า และรีบรับปากทันที “ ผมจะฟังที่เลขาหลิวพูดทุกอย่าง ! ”

 

เลขาหลิวพยักหน้า หันหลังแล้วเดินออกไป

 

พี่ถังลูบเหงื่อบนหน้าผาก ด้วยท่าทางที่หวาดผวาแม้เหตุการณ์นั้นจะผ่านพ้นไปแล้ว

 

หม่าจือที่ยื่นอยู่ข้างเขา เมื่อเห็นท่าทีแบบนั้นของพี่ถัง ก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามออกมาด้วยความสงสัย “ พี่ถัง คนๆนั้นเป็นใครกัน ? ทำไมถึงได้หยิ่งผยองขนาดนี้ ? ”

 

“ เพี๊ยะ ! ” พี่ถังตบหน้าหม่าจือไปทีหนึ่ง “ เรื่องที่ไม่รู้อย่าไปพูดมั่วซั่ว ! แค่คำพูดแกเมื่อตะกี้

 

แขนของแกก็หายไปข้างหนึ่งได้แล้ว ”

 

หม่าจือก้มหน้าลงทันที และไม่เอ่ยปากพูดอะไรอีกเลย

 

พี่ถังโบกมือ “ เอาล่ะ เอาล่ะ ไม่ต้องมองกันแล้ว เล่นไพ่ก็เล่นกันไป ! ”

 

ทุกคนต่างเพ่งมองไปที่พี่ถัง เมื่อเห็นว่าเรื่องราวในวันนี้กลับตาลปัตร ก็ไม่กล้าถามอะไรมาก

 

หยางโปและพรรคพวกพาหยางหลางออกมา ที่รอบๆมีแต่ทุ่งนา ไม่มีแม้แต่เงาคน หยางหลางถึงกลับเกิดความรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมา “ เสี่ยวโป นายจะทำแบบนี้กับฉันไม่ได้ พวกเราโตมาด้วยกัน ผูกพันกันมานาน ตอนนั้นนายยังจำได้ไหม ? ตอนนั้นนายไม่มีสมุดทำการบ้าน ฉันยังเอาสมุดทำการบ้านให้นายเลย ! ”

 

หยางโปจ้องหน้าหยางหลาง ส่ายหน้าและพูดขึ้นว่า “ ใช่นายเอาสมุดการบ้านให้ฉัน แต่ฉันยังได้ว่า เวลานั้นนายต้องการให้ฉันช่วยทำการบ้านให้ พอทำการบ้านนายเสร็จ ถึงได้ใช้สมุดการบ้านมาทำของฉันเอง ! ”

 

“ ใช่ ! ตอนนั้นฉันทำเพื่อนายนะ ฉันทำเพื่อให้นายได้ฝึกบทเรียนของมัธยมต้นก่อนไง ! ”

 

หยางหลางตอบ

 

หลูตงซิงที่อยู่ด้านข้าง กลับฟังไม่เข้าหู เตะไปที่เอวหยางหลางไปทีหนึ่ง “ นายไม่อายบ้างหรือไง ? ”

 

หยางหลางที่ถูกเตะจนไปนอนกองอยู่บนพื้น เขากุมเอวไว้ และไม่หยุดที่จะร้องโอดครวญ

 

“ อัยยะ เจ็บมาก เจ็บมากจริงๆ ฉันทนไม่ไหวแล้ว รีบพาฉันไปส่งโรงพยาบาลเร็วเข้า ! ”

 

“ เสี่ยวโป ! เสี่ยวโป ! ขอร้องล่ะ นายช่วยฉันที ! ต้องช่วยฉันให้ได้นะ ! ”

 

“ เสี่ยวโป ! ถ้านายไม่ไปส่งฉันที่โรงพยาบาล ต่อจากนี้จะเอาหน้าไปเจอพ่อแม่ได้ยังไง ?

 

นายลองคิดดูดีๆสิ นายจะต้องคิดให้รอบคอบนะ ! ”

 

หยางหลางโอดครวญไม่หยุด ดูเหมือนจะเจ็บปวดมาก

 

หยางโปยืนอยู่ด้านข้างด้วยความเย็นชา โดยที่ไม่พูดอะไรสักคำ เขาเอาแต่จ้องมองหยางหลางแบบนี้

 

หยางหลางคร่ำครวญอยู่สักพัก แต่ก็ไม่ได้ยินหยางโปมีปฏิกิริยาตอบสนองกลับใดๆเลย จึงอดไม่ได้ที่จะเงยหน้าขึ้นมอง เมื่อเห็นหลายคนที่อยู่รอบตัวต่างมีแววตาที่เย็นชา แต่หยางโปกลับยืนกอดอกมองดูเฉยๆอยู่ข้างๆ

 

ในที่สุดหยางหลางก็หยุดร้องคร่ำครวญ เขานวดคลึงบริเวณเอว แต่อดไม่ได้ที่จะพูดขึ้นมา

 

“ ดีขึ้นหน่อยแล้ว ไอ๊หยา เถ้าแก่หลู คุณเป็นถึงเถ้าแก่ใหญ่ เท้าทองคำของคุณแพงกว่าชีวิตเล็กๆของผมอีก คุณอย่าทำแบบนี้เลยนะ ! ”

 

หลูตงซิงจ้องมองหยางหลาง ส่ายหน้าแล้วพูดว่า “ ผมไม่เตะอีกแล้ว ผมรู้สึกว่าทำแบบนี้มันจะทำให้รองเท้าผมสกปรก ”

 

หยางหลางยิ้มอย่างดีอกดีใจ “ เถ้าแก่หลู คุณอย่าชมผมแบบนี้สิ ! ”

 

หยางโปยืนอยู่ด้านข้าง อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว หยางหลางหน้าด้านหน้าทนจริงๆ

อีกทั้งยังไร้ยางอายสิ้นดี !

 

หยางโปไม่ยอมที่จะเอ่ยปากพูดอะไรแม้แต่คำเดียว โบกมือและพูดขึ้นว่า “ กระทืบ ! ”

 

หยางหลางที่นอนอยู่บนพื้น ตัวเต็มไปด้วยดินโคลน เมื่อได้ยินคำนี้ จู่ๆก็หน้าซีดขาวขึ้นมาทันที

 

เขาจ้องหยางโปตาเขม็ง “ เสี่ยวโป นายจะทำแบบนี้ไม่ได้นะ ! ”

 

หยางโปหันหน้าไปทางด้านข้าง แต่ไม่ได้เอ่ยปากพูดอะไร

 

จากนั้นผู้ชายร่างกำยำหลายคนที่อยู่ตรงบริเวณนั้น ต่างพากันรวมตัวกันหันมาทักทายหยางหลาง

 

ถึงแม้ทุกคนจะไม่รู้แน่ชัดเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของหยางโปและหยางหลาง แต่ที่ทั้งสองคนพูดกันเมื่อสักครู่ ก็พอทำให้ทุกคนเดาเบาะแสบางอย่างได้ ดังนั้นตอนที่ลงมือ ก็พยายามที่จะยั้งมือไว้บ้าง เพื่อเหลือทางหนีทีไล่ไว้

 

หยางหลางถูกกระทืบจนร้องโวยวายไม่หยุด แต่กลับไม่กล้าพูดมากสักคำ

 

ผ่านไปสักครู่ หยางโปก็โบกมือขึ้น คนที่ลงมือต่างพากันยั้งมือ หยางหลางโผล่หัวออกมาจากกลางฝูงชน เวลานี้ ใบหน้าของเขาบวมปูดเขียวช้ำ คิดว่าบนตัวก็คงไม่ต่างกัน

 

หยางโปจ้องมองหยางหลางตาเม็ง “ ยังจะไปเล่นพนันอยู่อีกไหม ? ”

 

มุมปากของหยางหลางบวมช้ำมาก พูดไม่ค่อยชัด “ ไม่ไปแล้ว ต่อไปก็จะไม่ไปอีกแล้ว ”

 

หยางโปพยักหน้า “ เอาเงินมาจากไหน ? ”

 

“ เงินอะไร ? ” หยางหลางตอบ

 

หยางโปจ้องหน้าหยางหลาง “ ฉันพูดถึงเงินที่นายเอาไปเล่นพนัน เอามาจากไหน ? นายหาเงินมาเอง หรือว่าไปขโมยมา ? ”

 

หยางหลางรู้สึกไม่ค่อยพอใจ “ นายพูดแบบนี้ได้ยังไง ฉันก็เอาเงินมาจากบ้านสิ พูดออกมาได้ยังไงว่าขโมยมา ? ”

 

“ นายเอามาจากบ้าน ? แต่พ่อกับแม่ต่างก็ไม่รู้เรื่อง ไม่ใช่ขโมยมาหรือยังไง ? ” หยางโปกล่าวตำหนิ

 

หยางหลางรู้สึกโมโห “ นายกำลังพูดจาไร้สาระอะไรอยู่ เงินพนันนี้ ฉันไม่ได้เอามาจริงๆ มันเป็นเงินที่พ่อให้ฉันมา เขาเอาเงินให้ฉัน และบอกกับฉันให้ใช้ตามใจเลย ถ้าใช้เงินหมดแล้ว พวกเราสามคน ก็ไปขอทานที่เขตเมืองจินหลิงกัน ตอนนี้ขอทานก็หาเงินกันได้เยอะแล้ว ”

 

หยางโปจ้องมองหยางหลางตาเขม็ง ถึงกับอึ้งไปเลยทีเดียว นี่มันพ่อแบบไหนกัน คิดไม่ถึงว่าจะพูดแบบนี้ออกมาได้ !