ตอนที่ 2201 เรื่องราวอีกบทของหวาเซี่ย (42)
หนานกงชวนกำลังมอบหมายงานสำคัญในบริษัทแต่จู่ๆ ก็ได้รับสายโทรศัพท์จากหนานกงอวิ๋นอี้ เขาไม่แม้แต่จะคิดอะไรแล้วตะคอกใส่หนานกงอวิ๋นอี้
ตอนที่เขากำลังจะวางสาย เสียงเฉยชาของหนานกงอวิ๋นอี้ก็ดังขึ้น “คุณปู่ขอให้คุณมาที่คฤหาสน์ มีบางอย่างเกิดขึ้นกับจ้าวเหม่ยเสวี่ยและลูกสาวเธอ”
หลังจากที่จ้าวเหม่ยเสวี่ยเข้ามาในตระกูลหนานกง หนานกงอวิ๋นอี้ก็ไม่เคยเรียกนางว่าแม่แต่เรียกนางด้วยชื่อ ตอนแรกหนานกงชวนโกรธเขาเรื่องนี้มากแต่ก็ค่อยๆ กลายเป็นความเคยชิน แต่เมื่อเขาได้ยินว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นกับจ้าวเหม่ยเสวี่ยและลูกสาวของเธอ ความโกรธของเขาก็ลุกโชนอีกครั้ง
“หนานกงอวิ๋นอี้ แกทำอะไรบางอย่างกับเหม่ยเสวี่ยและหลานเอ๋อร์ใช่ไหม หลานเอ๋อร์เป็นน้องสาวแกนะ และเหม่ยเสวี่ยก็เป็นแม่แก ทำไมแกถึงไปหาเรื่องพวกเธอตลอดเวลา แกช่วยหยุดทำร้ายพวกเธอไม่ได้เหรอ แกมันบ้าไปแล้ว!”
เสียงของหนานกงชวนเดือดดาลมากราวกับว่าปลายสายไม่ใช่ลูกชายของตัวเองแต่เป็นคนแปลกหน้า
…
คฤหาสน์ตระกูลหนานกง
มือที่หนานกงอวิ๋นอี้ใช้ถือโทรศัพท์อยู่สั่นแต่เขาก็วางสายด้วยสีหน้าเฉยชา
“อีกไม่นานเขาจะกลับมาครับ” เขาพูดแล้วมองปู่หนานกงที่อยู่ตรงหน้าเขา
ตราบใดที่จ้าวเหม่ยเสวี่ยมีปัญหา เขาก็จะพุ่งกลับมาอย่างรวดเร็ว
“เฮ้อ!”
ปู่หนานกงไม่ได้หูหนวกดังนั้นเขาจึงได้ยินเสียงเดือดดาลของหนานกงชวนและดูอับอายเล็กน้อย “อวิ๋นอี้ หลายปีมานี้ หลานถูกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมจริงๆ”
หนานกงชวนลำเอียงต่อต้านหนานกงอวิ๋นอี้มากเกินไป และโทษเขาทันทีโดยไม่ถามว่าเกิดอะไรขึ้น
คนเป็นพ่อปฏิบัติกับลูกชายแบบนี้ได้อย่างไร
หนานกงอวิ๋นอี้ไม่ได้พูดอะไร เขามองใบหน้าซีดเผือดของจ้าวเหม่ยเสวี่ยแล้วพูดอย่างเฉยชาว่า “ไม่เป็นไรครับ ถึงอย่างไรไม่นานหนานกงชวนก็จะรู้ว่าผู้หญิงที่เขารักนอกใจเขาไปมีชู้”
แม้แต่ลูกสาวที่รักของเขาก็เป็น…
“ไม่นะ!” จ้าวเหม่ยเสวี่ยกรีดร้องแล้วคุกเข่าร้องไห้ “คุณพ่อคะ หนูรู้ว่าหนูผิดไปแล้ว หนูผิดไปแล้วจริงๆ ได้โปรดอย่าให้ชวนรู้เรื่องนี้เลยนะคะ เขาทนไม่ได้หรอกค่ะ”
ในฐานะภรรยาเขา ไม่มีใครรู้จักผู้ชายคนนั้นไปมากกว่าตัวเธอ เขารักเธอและตามใจเธอมากแต่เขาก็มีขอบเขตเหมือนกัน ถ้าเขารู้ว่าเธอนอกใจเขา เขาจะไม่มีวันให้อภัยเธอแน่!
“ที่นี่ไม่มีอะไรเกี่ยวกับฉันแล้ว ฉันไปก่อนก่อนแล้วกัน”
ชายคนนี้เดินอ้อมปู่หนานกงและพยายามจะออกไปแต่ถูกหนานกงอวิ๋นอี้หยุดไว้เสียก่อน ในเมื่ออวิ๋นลั่วเฟิงและอวิ๋นเซียวไม่อยากเข้ามายุ่งเรื่องความสัมพันธ์ในตระกูลหนานกง หลังจากที่ยื่นปากกาอัดเสียงให้ พวกเขาก็ไม่ได้มาที่คฤหาสน์ ดังนั้นเมื่อชายคนนี้ไม่เห็นคนประหลาดสองคนนั้นก็เตะหนานกงอวิ๋นอี้ทันทีเมื่อเห็นว่าหนานกงอวิ๋นอี้กล้าหยุดเขา
แต่ว่า…
ทันทีที่เขาเตะเท้าออกไป หนานกงอวิ๋นอี้ก็จับเท้าเขาไว้แน่น
“แกเป็นคนทำให้คุณปู่เกิดอุบัติเหตุใช่ไหม แล้ววันนี้แกก็เป็นคนควบคุมรถยนต์ไร้คนขับให้ไปชนอวิ๋นลั่วเฟิงด้วยใช่ไหม”
สีหน้าของชายคนนี้เปลี่ยนไปแล้วพูดว่า “ฉันไม่รู้ว่าแกกำลังพูดถึงอะไร”
เขาไม่ได้เปิดเผยว่าเขาเป็นคนทำร้ายปู่หนานกงดังนั้นเขาไม่ยอมรับ
เมื่อเห็นว่าชายคนนี้ปฏิเสธที่จะสารภาพ หนานกงอวิ๋นอี้ก็ไม่พูดอะไรอีก เขายิ้มเยาะแล้วยิ้มปากกาอัดเสียงออกมา เมื่อเขากดปุ่ม เสียงที่คุ้นเคยก็ดังขึ้นมาจากปากกาแล้วทำให้ชายคนนี้หน้าถอดสีทันที
“นังสารเลว!” สีหน้าของชายคนนี้เปลี่ยนไปแล้วเขาก็ต่อยจ้าวเหม่ยเสวี่ย “แกขายฉันงั้นเหรอ แกเป็นคนบอกให้ตระกูลหนานกงมาที่นี่วันนี้ใช่ไหม”
ตอนที่ 2202 เรื่องราวอีกบทของหวาเซี่ย (43)
จ้าวเหม่ยเสวี่ยเลือดไหลนองจากการโดนต่อย แต่นางก็กัดริมฝีปากแน่นแล้วไม่พูดอะไร
ตอนนั้นเองประตูก็ถูกเปิดออกแล้วหนานกงชวนที่ถือกระเป๋าเอกสารอยู่ก็รีบเดินเข้ามา ทันทีที่เขาเห็นจ้าวเหม่ยเสวี่ยที่ใบหน้าเต็มไปด้วยเลือด เขาก็เดือดดาลแล้วพุ่งเข้ามา
“เหม่ยเสวี่ย เกิดอะไรขึ้น เธอเป็นอะไรไหม”
เขาเงยหน้ามองหนานกงอวิ๋นอี๋อย่างโมโหด้วยหัวใจที่เจ็บปวด “หนานกงอวิ๋นอี้ ฉันไม่คิดเลยว่าแกจะใจกล้าขนาดนี้! แกกล้าตีแม่แกได้ยังไง ฉันจะเรียกตำรวจมาจับแก ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ฉัน หนานกงชวน ไม่มีลูกชาย!”
ตอนที่หนานกงชวนพูดแบบนี้ก็ไม่มีใครหยุดเขาแล้วฟังกันเงียบๆ
แต่ใบหน้าของปู่หนานกงเต็มไปด้วยความผิดหวัง เขาผิดหวังในตัวลูกชายของเขามาก
“ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้าเป็นบิดาของหนานกง ข้าก็คงทำตัวหยาบคายกับเจ้าแล้ว!” หงหลวนกำหมัดแล้วดวงตาของนางก็เต็มไปด้วยเจตนาสังหาร
“เขาให้คนมาทำร้ายแม่ตัวเองแล้วพวกแกยังมาทำตัวน่ารังเกียจกับฉันอีกเหรอ” หนานกงชวนยิ้มเยาะแล้วช่วยพยุงจ้าวเหม่ยเสวี่ยขึ้นจากพื้น
เขารู้สึกได้ว่าจ้าวเหม่ยเสวี่ยตัวสั่น แต่เขาก็คิดว่าเป็นเพราะเธอกลัวเกินไป เขารู้สึกเจ็บปวดใจแทนเธออีกครั้ง
ตั้งแต่ที่เหม่ยเสวี่ยแต่งงานกับเขา เธอก็ไม่เคยใช้ชีวิตอย่างมีความสุขอีกเลย ตอนที่พวกเขาอาศัยอยู่กับพ่อของเขา เธอก็ต้องเอาใจพ่อของเขา และคนพวกนี้ก็ยังมาสร้างความวุ่นวายให้เธออีกแม้ว่าพวกเขาจะย้ายออกมาอยู่ด้วยตัวเองแล้ว
พวกเขาคิดจริงๆ หรือว่าเขาจะไม่โกรธ
“หนานกงชวน” ปู่หนานกงยิ้มเยาะ “แกเป็นพ่อภาษาอะไรถึงโทษลูกชายทั้งๆ ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง ทำไมแกถึงมั่นใจนักว่าเป็นความผิดเขา เขาเป็นลูกชายแกจริงๆ หรือเปล่า”
“พ่อครับ อย่าพยายามปกป้องเด็กสารเลวนี้ เขาพาคนมาบุกรุกบ้านผมแล้วทำร้ายเหม่ยเสวี่ยจนบาดเจ็บหนัก ผมไม่มีทางปล่อยเขาไปแน่!”
หนานกงชวนพุ่งเข้าไปทำร้ายหนานกงอวิ๋นอี้แต่ปู่หนานกงก็ใช้ร่างกายของเขาบังตัวอวิ๋นอี้เอาไว้
“ถ้าแกอยากตีอวิ๋นอี้ ก็ตีฉันก่อนเลย!”
ตอนนั้นเองปู่หนานกงดูโกรธและแม้แต่หมัดที่เขากำไว้ก็สั่นเล็กน้อย
“พ่อ!” หนานกงชวนร้องด้วยความไม่เชื่อ “ไอ้ชั่วนี่ทำเรื่องเลวร้ายลงไป แต่พ่อยังจะพยายามปกป้องมันอีกเหรอ”
ปู่หนานกงยิ้มอย่างเย็นชา “ต่อให้อวิ๋นอี้ทำร้ายเธอจริง เธอก็สมควรโดนแล้ว ตลอดหลายปีมานี้เธอนอกใจแกไปมีชู้หลายครั้ง แม้แต่ลูกสาวแกก็ไม่ใช่ลูกแกด้วยซ้ำ! ตอนนี้เธอมามีอะไรกันกับคนรักในคฤหาสน์ของตระกูลพวกเรา แล้วยังวางแผนจะฮุบสมบัติของตระกูลเราด้วย แกไม่คิดว่าเธอสมควรโดนเหรอ”
จ้าวเหม่ยเสวี่ยตัวสั่นแรงยิ่งกว่าเดิมและไม่กล้าพูดออกมาสักคำเดียว เธอเอาแต่ก้มหน้าเพื่อปิดบังดวงตาสิ้นหวังของเธอ
“พ่อ พ่อพูดเรื่องอะไร” หนานกงชวนโกรธขึ้ง “เหม่ยเสวี่ยไม่ใช่คนแบบนั้น! ตอนที่ผมตามตื๊อเธอ เธอคิดว่าผมยากจนและไม่รู้ว่าผมเป็นผู้นำของตระกูลหนานกง! ผู้หญิงดีๆ แบบเธอจะวางแผนฮุบสมบัติของผมได้อย่างไร นั่นเป็นสิ่งที่แม่ของหนานกงอวิ๋นอี้ต่างหากที่จะทำ! นังนั่นแต่งงานกับผมก็เพราะเงินไม่ใช่หรือไง”
เพียะ!
ปู่หนานกงโกรธแล้วตบหน้าของหนานกงชวน เขาพูดทั้งน้ำตาว่า “หลิงเอ๋อร์เป็นลูกสาวของเพื่อนเก่าฉัน! เพื่อนคนนั้นติดหนี้ฉันไว้ครั้งหนึ่ง เขาอยากตอบแทนฉันด้วยวิธีอื่น แต่ฉัน ฉันโง่เกินไปแล้วขอให้เขายกลูกสาวเขาให้แต่งกับแก!”