บทที่ 885 นายน้อยหายไปแล้ว
ความวุ่นวายที่เกือบทำลายทั้งตระกูลซือและแวดวงธุรกิจทั่วประเทศหายไปทันที เมื่อมีข่าวว่าซือเยี่ยหานหายดีจากอาการป่วยสาหัส
แต่ก่อนซือหมิงหลี่รอบคอบระมัดระวังเสมอ ทำให้จับจุดอ่อนไม่ได้ แต่คราวนี้เขาคิดไปว่าซือเยี่ยหานต้องตายแน่นอน จึงสะเพร่าเผยพิรุธออกมามากมาย
พรรคพวกของซือหมิงหลี่ถูกกำจัดออกจากตระกูลซือจนสิ้นซาก ขณะเดียวกันสายลับในที่มืดของเขาก็ถูกจับได้ไม่น้อย ตระกูลซือสับเปลี่ยนอำนาจครั้งใหญ่หลวงอีกครั้ง
กลางดึก
“อ้ากกก— พ่อ! ผมเจ็บ! เจ็บจะตายอยู่แล้ว! พ่อครับ พ่อต้องแก้แค้นให้ผมนะ! ผมอยากให้พวกมันตาย! อยากให้พวกมันตาย!” ซืออี้เจี๋ยกลิ้งไปมาบนเตียงไม่หยุด
ครั้งนี้เขาไม่เพียงถูกหักขาอีกข้าง แต่ยังถูกลงโทษอย่างโหดร้าย จนไม่ต่างกับพิการไปทั้งตัวแล้ว
เวลานี้ซือหมิงหลี่ไหนเลยจะมีเวลาว่างไปสนใจลูกชาย เขาแผดเสียงด้วยความหงุดหงิด “แกหุบปากเลย! ยังสร้างปัญหาให้ฉันไม่พอเหรอ”
บนโซฟาฝั่งตรงข้ามซือหมิงหลี่ มีซืออี้เชียนที่เพิ่งเร่งกลับมาจากต่างประเทศนั่งอยู่
ซืออี้เชียนเอ่ยด้วยสีหน้าอึมครึมเล็กน้อย “พ่อ ครั้งนี้พ่อย่ามใจเกินไปจริงๆ เมื่อก่อนผมก็แนะนำพ่อหลายครั้งแล้ว ถ้าจะจัดการซือเยี่ยหานห้ามชะล่าใจเด็ดขาด ครั้งนี้ผมก็เตือนพ่อหลายครั้งแล้วว่าอย่าทำอะไรโดยไม่ยั้งคิด แล้วทำไมพ่อยัง…”
ซือหมิงหลี่บูดบึ้ง “อี้เชียน เรื่องนี้จะมาโทษฉันได้ยังไง! ข้อมูลที่ซือเยี่ยหานป่วยหนักนั่นยืนยันแล้ว ครั้งนี้หมอก็แจ้งว่าป่วยเข้าขั้นวิกฤต ฉันจะไปรู้ได้ยังไงว่าแค่พริบตาเดียวมันก็รอดแล้ว!”
พอเห็นว่าไม่มีใครสนใจตัวเอง ซืออี้เจี๋ยที่อยู่บนเตียงก็ตะโกนด้วยความโกรธ “มีสิทธิ์อะไร! พ่อมีสิทธิ์อะไรมาให้ผมรับโทษพวกนี้แทนพ่อ! เพราะผมเป็นลูกชายคนโตเหรอ ซืออี้เชียน นายก็เป็นลูกชายพ่อ ทำไมถึงไม่ใช่นายกัน!”
ซืออี้เชียนได้ยินแบบนั้น หัวคิ้วก็ขมวดมุ่นอย่างหมดความอดทน สายตามองซืออี้เจี๋ยบนเตียงอย่างเย็นชาเล็กน้อย เอ่ยปากด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ว่า “เพราะพี่เป็นสวะ นี่เป็นเรื่องเดียวที่พี่ทำแทนตระกูลได้ไง”
“แก! ซืออี้เชียนฉันจะฆ่าแก! อั่ก…” บาดแผลของซืออี้เจี๋ยถูกกระเทือน จึงร้องโหยหวนอย่างต่อเนื่องอีกระลอก
ซืออี้เจี๋ยจ้องอีกฝ่ายอย่างบ้าคลั่งพร้อมตะโกนด้วยความโมโห “ฮ่า ซืออี้เชียน ฉันเป็นสวะ! งั้นแกล่ะเป็นอะไร! แกนึกว่าแกดีกว่าฉันตรงไหน แกนึกว่าแกสูงส่งขนาดไหน ฉินรั่วซีผู้หญิงคนนั้นเคยมองแกมากขึ้นสักครั้งไหม
ตอนนี้ซือเยี่ยหานเริ่มหายดีแล้ว พ่อยังถูกขับไล่ออกจากตระกูล แกยังนับเป็นอะไรได้! ชาตินี้ก็เป็นได้แค่ตัวสำรองเท่านั้นละ!”
วินาทีถัดมา ลำคอของซืออี้เจี๋ยก็ถูกซืออี้เชียนคว้าไว้ในพริบตา หากออกแรงขึ้นอีกหน่อย เขาก็รักษาชีวิตไว้ไม่ได้แล้ว
“พี่พูดอีกครั้งสิ?” บนใบหน้าที่เหมือนจะหล่อเหลาอ่อนโยนของซืออี้เชียนเผยแววทะมึนถึงขีดสุด
“อี้เชียน พอได้แล้ว จะไปถือสาหาความกับมันทำไม…”
ซือหมิงหลี่เหลือบมองลูกชายคนโตที่เอะอะหนวกหูอย่างสุดจะทน จากนั้นหันไปพูดกับซืออี้เชียน “ซือเยี่ยหานเจ้าลูกหมาป่วยนั่น มันนึกจริงๆ ว่าตัวเองมีอำนาจล้นฟ้าในประเทศ! อี้เชียน แกวางใจเถอะ ไม่ว่าตระกูลซือหรือว่าผู้หญิง สิ่งที่แกควรได้ ทั้งหมดจะเป็นของแก!”
…
ในเวลาเดียวกัน
สุดขอบมหาสมุทร ดวงอาทิตย์ยามเช้าเพิ่งขึ้นสูง
แสงอาทิตย์อบอุ่นสาดส่องเข้าไปในคฤหาสน์โบราณอย่างเงียบสงบ
เห็นแค่ว่าบนกำแพงซึ่งแกะสลักลวดลายโบราณลึกลับตรงทางเข้าคฤหาสน์ ใช้ตัวอักษรจ้วน[1]ของประเทศจีนสลักคำว่า ‘เนี่ย’ ที่น่าเกรงขามไว้
ทันใดนั้น เสียงกรีดร้องของสาวใช้กับเสียงเครื่องเคลือบแตกกระจายก็ดังเสียดหูขึ้นในคฤหาสน์ ทำลายยามเช้าอันเงียบงันนี้…
“กรี๊ด! ยะ…แย่แล้ว! นายน้อย! นายน้อยหายไปแล้ว!”
……………………………………………….
บทที่ 886 ใครคือผู้ชนะ
เช้าตรู่วันถัดมา
ผู้อาวุโสตระกูลกับคนระดับสูงของบริษัทต่างต่อแถวรอเข้าพบซือเยี่ยหานอยู่ที่นอกจิ่นหยวน ทุกคนสวมชุดสีสันสดใสดูชื่นมื่น คนรับใช้ที่อยู่ด้านข้างคอยย้ายกล่องของขวัญน้อยใหญ่
เพิ่งผ่านเหตุการณ์วุ่นวายครั้งใหญ่อย่างนั้นมา ย่อมต้องรีบร้อนแสดงความภักดี
ซือเยี่ยหานนั่งบนโซฟาห้องรับแขก เยี่ยหวันหวั่นนั่งอยู่ด้านข้างอย่างเบื่อหน่าย
สิ่งที่ทำให้เธอค่อนข้างคาดไม่ถึงคือ พวกคนที่มาวันนี้ส่วนใหญ่มาหาเธอ…
“คุณหนูเยี่ย ของขวัญเล็กๆ น้อยๆ ไม่พอแสดงความเคารพ ได้โปรดรับไว้ด้วยครับ!”
“คุณหนูเยี่ยได้รับความไม่เป็นธรรมแล้ว คุณหนูทุ่มแรงกายแรงใจดูแลหัวหน้าตระกูล แต่กลับถูกสงสัยแบบนี้ ซือหมิงหลี่นั่นไร้คุณธรรมจริงๆ! ของบำรุงพวกนี้ คุณหนูเยี่ยกรุณารับไว้บำรุงร่างกายเถอะ!”
เยี่ยหวันหวั่นหันไปมองซือเยี่ยหาน
ซือเยี่ยหานเอ่ย “ชอบก็รับไว้”
ดังนั้นเธอจึงเอ่ยปาก “ขอบคุณมาก”
ถึงแม้สถานการณ์นี้ก็อยู่ในความคาดหมายของเธอ แต่คนพวกนี้เปลี่ยนท่าทีกะทันหัน เธอจึงยังไม่ชินในตอนแรก
เมื่อก่อนถึงแม้เธอมีซือเยี่ยหานสนับสนุน แต่ซือเยี่ยหานป่วยหนัก ตระกูลซืออาจเปลี่ยนผู้นำได้ทุกเมื่อ บวกกับพื้นเพครอบครัวของเธอ จึงไม่แปลกที่ไม่มีใครเห็นเธอในสายตา
แต่ตอนนี้ ใครก็ไม่คาดคิดว่าเยี่ยหวันหวั่นจะสามารถอยู่ข้างกายหัวหน้าตระกูลได้นานขนาดนี้ หนำซ้ำนับวันตำแหน่งยิ่งมั่นคงขึ้น ถึงขั้นแม้แต่อาการป่วยของหัวหน้าตระกูลเธอก็ยังรักษาจนหายดีแล้ว
ส่วนอำนาจของตระกูลฉินย่อมไม่ต้องพูดให้มาก คบหากับตระกูลซือมาหลายชั่วอายุคน ทั้งสองตระกูลสานสัมพันธ์จากการแต่งงานกันหลายครั้ง จนถึงรุ่นนี้ ฉินรั่วซีก็ถูกเลี้ยงดูให้เป็นนายหญิงในอนาคตของตระกูลซือโดยตรง เป็นนายหญิงในอนาคตที่ทุกคนยอมรับอย่างเป็นนัย
คนส่วนใหญ่ในตระกูลซือย่อมยังถือหางตระกูลฉิน แต่มองเยี่ยหวันหวั่นในตอนนี้แล้วเหมือนจะไม่ง่าย พวกเขาเริ่มให้ความสำคัญกับเธอทีละน้อย อย่างน้อยภายนอกก็ไม่กล้าเสียมารยาทกับเธออีก
เห็นแบบนี้ ใครคือผู้ชนะก็ยังไม่แน่…
บ้านใหญ่
ในห้องรับแขกมีนายหญิงใหญ่ ฉินเฟิง และซือหมิงหรงอยู่ครบ
ฉินเฟิงมาในวันนี้ เห็นชัดว่ามาเพื่อกดดัน
“นายหญิงใหญ่ อาหรง หัวหน้าตระกูลทำตัวแบบนี้ช่างน่าผิดหวังจริงๆ”
นายหญิงใหญ่ถอนหายใจเบาๆ “ฉินเฟิง ฉันเข้าใจความรู้สึกคุณนะ รั่วซีเป็นเด็กดี ฉันก็ชอบเธอมาก ถ้าเธออยู่กับเจ้าเก้าได้ ทุกคนย่อมมีความสุขกัน
แต่ตอนที่เจ้าเก้าเพิ่งกลับมา ฉันก็เคยคุยกับคุณแล้ว การแต่งงานของเจ้าเก้าก็ให้เจ้าตัวเป็นคนตัดสินใจ นี่เป็นเงื่อนไขเดียวที่ตอนนั้นเขายอมกลับมารับตำแหน่งหัวหน้าตระกูล ฉันจะผิดสัญญากับเขาไม่ได้
ยิ่งไปกว่านั้น ฉันมองออกว่าเจ้าเก้าชอบเด็กผู้หญิงคนนั้นจริงๆ เมื่อก่อนฉันเป็นห่วงตลอดว่าเด็กคนนั้นจะทำร้ายเจ้าเก้า แต่เวลาพิสูจน์แล้วว่า เด็กคนนั้นก็ปฏิบัติกับเจ้าเก้าด้วยใจจริง…”
ฉินเฟิงได้ยินแล้วสีหน้าก็ทะมึนยิ่งขึ้น ตอนแรกนายหญิงใหญ่เคยบอกเรื่องนี้กับพวกเขา แต่เขาเชื่อว่าซือเยี่ยหานต้องเลือกรั่วซีแน่นอน ดังนั้นจึงไม่เก็บมาใส่ใจ
ใครจะรู้ว่าเวลานี้จู่ๆ ก็มีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งโผล่ออกมา…แถมซือเยี่ยหานยังถึงกับจะสนับสนุนเธอให้เป็นนายหญิงตระกูล!
ฉินเฟิงหัวเราะเสียงเย็น “งั้นนายหญิงใหญ่หมายความว่า จะให้ผู้หญิงคนนั้นแย่งตำแหน่งรั่วซีของเราไปง่ายๆ?”
เขาไม่เชื่อว่านายหญิงใหญ่กับซือหมิงหรงจะกล้าล่วงเกินตระกูลฉินจริง!
ตอนนี้แต่ละฝักฝ่ายในตระกูลซือมีกี่คนกันที่สมคบกับพวกเขาตระกูลฉินอย่างลับๆ
กระทั่งพูดได้ว่าตระกูลฉินสนับสนุนฝ่ายไหน ฝ่ายนั้นก็จะได้แต้มต่อในการสืบทอดตระกูลซือเพิ่มขึ้นมาก ถึงแม้ตอนนี้ซือเยี่ยหานเป็นหัวหน้าตระกูลแล้ว แต่ภายนอกตำแหน่งนี้ก็มีเสือที่จ้องตะครุบเหยื่ออยู่ไม่น้อย
ซือหมิงหรงได้ยินดังนั้นก็เอ่ยปลอบ “หลานชายอย่าเพิ่งใจร้อน เธอก็รู้ว่าร่างกายหัวหน้าตระกูลตอนนี้ยังต้องพึ่งพาการดูแลจากคุณหนูเยี่ย คนหนุ่มถูกความรักครอบงำเป็นเรื่องปกติ ต่อให้หัวหน้าตระกูลมีความสามารถเลิศล้ำอีกขนาดไหน สุดท้ายก็ยังเป็นวัยรุ่น อาเชื่อว่าพอนานไปผู้นำตระกูจะตาสว่าง และตัดสินใจได้ถูกต้องเอง!”
………………………………………………
[1] ตัวอักษรจ้วน เป็นตัวอักษรจีนพื้นฐานในสมัยราชวงศ์ฉิน แบ่งออกเป็นเสี่ยวจ้วนและต้าจ้วน ลายเส้นมีลักษณะโค้งมน ค่อนข้างเป็นระเบียบเรียบร้อย