บทที่ 883 คุณเก้า ผมถูกปรักปรำ! / บทที่ 884 นายท่าน จะเออออห่อหมกเกินไปแล้วมั้งครับ?

แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี

บทที่ 883 คุณเก้า ผมถูกปรักปรำ!

จิ่นหยวน

คนอื่นพบกันหลังจากไม่ได้พบกันมานาน แต่ครั้งนี้เธอกับซือเยี่ยหานเกือบตายจากกันเสียแล้ว

เยี่ยหวันหวั่นเตรียมตัวรับอ้อมกอดต้อนรับอันอบอุ่น ปรากฏว่าเพิ่งมาถึงบ้าน เขาก็ส่งตัวหมอสิบกว่าคนเวียนเข้ามาตรวจตามลำดับ ไม่ง่ายเลยกว่าจะยืนยันได้ว่าเธอไม่บาดเจ็บ แล้วยังถูกบังคับให้ดื่มน้ำขิงที่รสชาติแย่สุดๆ อีกหนึ่งถ้วยใหญ่ ตบท้ายด้วยการโดนไล่ให้ขึ้นไปอาบน้ำร้อนที่ชั้นบน…

ไม่โรแมนติกเลยจริงๆ…

ข้างล่าง ซือเยี่ยหานนั่งอยู่บนโซฟา ดูเหมือนรูปสลักน้ำแข็ง

คนสนิทของซือหมิงหลี่สองคนนั้นถูกจัดการไปพร้อมกันแล้ว ส่วนต้วนลี่เจาที่รับหน้าที่ทรมานนักโทษในห้องขังกำลังยืนหน้าซีดอยู่ตรงหน้าซือเยี่ยหาน “คุณเก้า ผมไม่ได้ทำนะครับ…ผมสาบานกับฟ้าดินได้! ผมไม่ได้ทำร้ายคุณหนูเยี่ยเลยแม้แต่น้อย!”

พอนึกถึงจุดจบของผู้คุมสองคนนั้น ต้วนลี่เจาที่รับหน้าที่ทรมานนักโทษมานานหลายปี กลับรู้สึกว่าการยืนอยู่ต่อหน้าซือเยี่ยหานน่ากลัวกว่าเอาวิธีทรมานทั้งหมดมารวมกันเสียอีก…

เวลานี้เอง สวี่อี้สาวเท้าเข้ามาอย่างเร่งรีบพร้อมกับแฟลชไดร์ฟในมือ “คุณเก้า ได้ภาพวงจรปิดในห้องขังมาแล้วครับ”

สภาพสวี่อี้ในตอนนี้เรียกได้ว่าเหงื่อท่วมตัว ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับเยี่ยหวันหวั่นในห้องขัง…เขาคิดถึงผลที่ตามมาไม่ออกเลย

ถึงแม้หมอจะตรวจยืนยันแล้วว่าคุณหนูหวันหวั่นไม่ได้บาดเจ็บ แต่สถานที่อย่างห้องขังและวิธีการทรมานที่น่าสะพรึงกลัว กลับสร้างบาดแผลฝังใจให้คนได้มากกว่า

ต่อให้ต้วนลี่เจาไม่ได้สร้างบาดแผลทางกายให้คุณหนูหวันหวั่นก็จริง แต่หากทำให้คุณหนูหวันหวั่นตกใจแม้แต่นิดเดียว ด้วยนิสัยของคุณเก้า เขาต้องไม่รอดแน่นอน…

ซือเยี่ยหานเอ่ยปาก “เปิดดู”

สวี่อี้หันมองต้วนลี่เจาอย่างอับจนหนทาง “ครับ…”

ต้วนลี่เจาอยู่ในตระกูลซือมาหลายปี รับหน้าที่ดูแลห้องขังมาตลอด ถึงแม้จะมีนิสัยเหมือนซือหมิงหรงผู้เป็นนาย แข็งกระด้างไปบ้าง ทว่าก็จงรักภักดีกับตระกูลซือมาก แต่ครั้งนี้เขาละเมิดข้อห้ามที่ร้ายแรงที่สุดของคุณเก้า…

สวี่อี้ไม่กล้ารอช้า รีบเสียบแฟลชไดร์ฟเข้ากับแล็ปท็อป และเปิดคลิปวิดีโอทันที

หลังจากเลือกช่วงเวลาเสร็จ ไม่นานบนหน้าจอก็ปรากฏร่างของเยี่ยหวันหวั่น

หญิงสาวเหมือนเชื่อมั่นแต่แรกแล้วว่าอาการของซือเยี่ยหานจะต้องดีขึ้นแน่นอน เธอแต่งหน้าอย่างประณีต สวมชุดกระโปรงสวยงามดูสุภาพ เดินตามคนของซือหมิงหลี่เข้ามาด้วยสีหน้าไม่สะทกสะท้าน…

“อ๊ากกกก!” เสียงกรีดร้องน่าขนลุกดังออกมาจากแล็ปท็อป

เห็นแต่ผู้ชายคนหนึ่งในห้องขังถูกเหล็กร้อนๆ ทาบหน้าอกจนเนื้อหนังถลอกปอกเปิก เลือดสดไหลเป็นทาง แม้แต่สวี่อี้ที่ยืนดูอยู่ข้างๆ ยังสะดุ้งเล็กน้อย ส่วนสีหน้าของซือเยี่ยหานยิ่งดูน่ากลัวกว่าเดิม

“อ๊ากกกก!” เสียงร้องปานใจจะขาดดังขึ้นเรื่อยๆ เยี่ยหวันหวั่นถูกนำทางไปจนถึงห้องที่อยู่ตรงข้ามห้องขังนั้น

สวี่อี้กลืนน้ำลายลงคอ แทบไม่กล้าดูต่อไป ต่อให้คุณหนูหวันหวั่นเก่งกาจอีกแค่ไหน ถึงอย่างไรเธอก็เป็นเพียงผู้หญิงที่เพิ่งอายุยี่สิบปี ภาพเหตุการณ์อย่างนั้นเธอจะรับไหวได้อย่างไร…

เมื่อกี้ตอนที่คุณเก้าไปรับคุณหนูหวันหวั่น คุณหนูหวันหวั่นรีบโผเข้าอ้อมแขนของคุณเก้า ต้องตกใจกลัวมามากแน่ๆ…

ขณะที่สวี่อี้กำลังคิด ก็ได้ยินเสียงแหลมใสของเยี่ยหวันหวั่นดังออกมาจากคอมพิวเตอร์…

‘นี่มันยุคสมัยไหนแล้ว ยังใช้วิธีสอบปากคำโบราณๆ แบบนี้อยู่อีก?’

เยี่ยหวันหวั่นกระเด้งตัวเข้าใกล้ห้องขังห้องนั้น ชะโงกหน้าเข้าไปดูข้างในพลางส่ายหน้า สีหน้าท่าทีล้อเลียนด้วยความดูถูก

‘นี่ ฉันจะบอกให้ ของอย่างนี้ใช้ได้ผลกับแค่พวกกระจอกเท่านั้นแหละ …’

‘นี่ พวกนายรู้จักเทคนิคจิตวิทยาการสอบปากคำไหม…’

‘ใช่แล้ว ยังมีอีกนะ วิธีที่สิบก็คือ…’

สวี่อี้เห็นบอดี้การ์ดสองคนนั้นรีบเดินหนีออกไป เห็นเยี่ยหวันหวั่นหันไปมองต้วนลี่เจาด้วยดวงตาเป็นประกาย แล้วเริ่มพูดต่อ…

…………………………………………..

บทที่ 884 นายท่าน จะเออออห่อหมกเกินไปแล้วมั้งครับ?

‘โธ่ ไม่ใช่อย่างนั้นสิ พี่ชาย ฝีมือใช้แส้เฆี่ยนหยาบไปแล้ว! ไม่รู้จริงนี่นา!”

‘ผิดแล้วๆ องศาผิดแล้ว…’

‘นี่ๆๆๆ เดี๋ยวฉันสอนให้เอง! มีวิธีประหยัดแรงอยู่อย่างหนึ่ง…’

สุดท้าย คลิปวิดีโอฉายภาพที่ต้วนลี่เจาโยนแส้ลงบนพื้นด้วยสีหน้าที่แทบเรียกได้ว่าสติหลุด ‘มา! มาเลย! เธอมาทำเองเลย! เดี๋ยวฉันจะให้เธอมาทำเองเลยดีไหม!’

บนหน้าจอ หญิงสาวยิ้มหยีตาบอกด้วยความดีใจ ‘ก็ได้!’

หลังจากดูคลิปวิดีโอจบ…

ซือเยี่ยหานไม่พูดอะไร

สวี่อี้เองก็เงียบ ต้องเป็นเพราะวิธีเปิดคลิปของเขามีปัญหาแน่ๆ…

ต้วนลี่เจายืนอยู่ด้านหนึ่ง ทำหน้าเหมือนถูกปรักปรำ เขารีบกล่าวว่า “คุณเก้า…ผมจะกล้าโกหกคุณได้ยังไงครับ…คุณหนูเยี่ยไม่ได้รับความกระทบกระเทือนทางจิตใจเลยจริงๆ นะครับ…”

สวี่อี้ไม่คาดคิดเลยว่าสถานการณ์จะต่างไปจากที่เขาคิดอย่างสิ้นเชิง แม้แต่ซือเยี่ยหานก็เงียบงัน สายตาจับจ้องหญิงสาวในภาพหน้าจออย่างไม่ละสายตา มองนัยน์ตาเจ้าเล่ห์เป็นประกายของหญิงสาวซ้ำแล้วซ้ำเล่า…

น่ารักมากจริงๆ…

ในตอนนั้นเอง โทรศัพท์มือถือของต้วนลี่เจาดังขึ้น

ไม่รู้ว่าคนปลายสายพูดอะไรบ้าง สีหน้าของต้วนลี่เจาถึงได้ซีดเผือดกว่าเดิม

“มีอะไรเหรอ” สวี่อี้ถาม

ต้วนลี่เจากระแอมเล็กน้อย แล้วตอบว่า “ผู้…ผู้ชายคนนั้นยอมสารภาพแล้วครับ…”

สวี่อี้ถาม “สายลับที่มาขโมยข้อมูลธุรกิจคนนั้นน่ะเหรอ?”

ต้วนลี่เจาตอบ “ใช่ครับ ก็…คนที่อยู่ในคลิปนั่นแหละ…ถูกขังมาสามเดือนแล้ว ผมทรมานเขาด้วยวิธีทั้งหมดที่มีแต่เขาก็ยังไม่ยอมพูด…”

สวี่อี้สงสัย “แล้วทำไมจู่ๆ เขาถึงยอมสารภาพล่ะ”

สวี่อี้พูดพลางหันไปมองคลิปวิดีโอโดยสัญชาตญาณ จู่ๆ…ความคิดไม่เข้าท่าก็แวบเข้ามาในหัว…

ต้วนลี่เจาตอบว่า “เขาบอกว่าจะยอมสารภาพ แต่มีเงื่อนไขข้อหนึ่ง”

สวี่อี้ถาม “เงื่อนไขอะไร?”

ต้วนลี่เจาว่า “อย่าส่งตัวเขาให้คุณหนูเยี่ย…”

สวี่อี้อึ้งงัน

เขาไม่รู้แล้วว่าควรพูดอะไรดี…

คุณหนูหวันหวั่นไปเยือนห้องขังมาครั้งหนึ่ง ไม่เพียงไม่ตกใจ กลับยังทำให้สายลับในห้องขังตกใจกลัวจนยอมสารภาพ?

“คุณเก้าครับ…” ต้วนลี่เจาค่อยๆ หันไปมองชายหนุ่มที่นั่งอยู่บนโซฟาอย่างระมัดระวัง

ซือเยี่ยหานโบกมือ เป็นเชิงบอกให้เขาออกไปได้

ต้วนลี่เจาถอนหายใจโล่งอกทันที และรีบถอยออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว สวี่อี้เองก็จัดการเก็บแล็ปท็อปบนโต๊ะชาไปเรียบร้อย

สวี่อี้จะเอ่ยปากพูดอะไรกับซือเยี่ยหาน แต่เสียงฝีเท้าดังมาจากชั้นบนเสียก่อน เป็นเยี่ยหวันหวั่นที่อาบน้ำเสร็จแล้วเดินลงมา

เยี่ยหวันหวั่นไม่ได้ใส่ชุดสุภาพเพราะอยู่ในบ้าน เธอใส่ชุดนอนกระต่ายสีชมพูขนฟูฟ่องของตน ดูไร้เดียงสาและไร้พิษภัย ทำให้ยากจะจินตนาการได้ว่าเธอเป็นคนเดียวกับในคลิปวิดีโอจริงๆ

“คุณเก้า!”

“อาบเสร็จแล้วเหรอ”

“อื้มๆ เสร็จแล้วๆ กอดค่ะ!”

เธอตรวจร่างกายเสร็จแล้ว น้ำขิงก็ดื่มแล้ว น้ำก็อาบแล้วด้วย ตอนนี้น่าจะกอดได้แล้วมั้ง?

ครั้งหน้าซือเยี่ยหานไม่มีเงื่อนไขอะไรอีก รั้งตัวหญิงสาวเข้ามาในอ้อมแขนอย่างเอาใจ

พอเยี่ยหวันหวั่นได้กลิ่นกายที่คุ้นเคย ก็เริ่มอ้าปากหาวทันที…

ตั้งแต่ที่ซือเยี่ยหานอาเจียนเป็นเลือดและหมดสติไป เธอยังไม่ได้นอนเลย

ซือเยี่ยหานขมวดคิ้ว “ไปนอนสักหน่อยเถอะ”

เยี่ยหวันหวั่นพึมพำด้วยท่าทางน่าสงสาร “ถ้าอย่างนั้นคุณก็ไปนอนกับฉันสิ ฉันไม่อยากนอนคนเดียว ฉันกลัว คุณเก้า คุณไม่รู้หรอกว่าห้องขังนั่นมืดและน่ากลัวขนาดไหน ถ้าคุณฟื้นช้ากว่านั้นอีกนิดเดียว ฉันต้องมีปมในใจไปตลอดชีวิตแน่ๆ…”

สวี่อี้พูดไม่ออก

ซือเยี่ยหานมองหญิงสาว แล้วจูบหน้าผากเธอเบาๆ “ได้สิ ฉันจะอยู่กับเธอเอง”

สวี่อี้พูดไม่ออกอีกครั้ง

นายท่าน จะเออออห่อหมกเกินไปแล้วมั้งครับ…

………………..