ตอนที่ 828 : หอแมกไม้มังกร

Nine Sun God King เทพราชันเก้าตะวัน

ตอนที่ 828 : หอแมกไม้มังกร

 

ความต้องการสถานที่พักอาศัยรอบคฤหาสน์ราชันมังกรสูงทะยานฟ้า ทั้งยังมีแต่จะสูงขี้นต่อเนื่อง ดังนั้นแล้ว สิ่งปลูกสร้างสูงใหญ่ทั้งหลายจึงอยู่ที่นี่ กระนั้น สิ่งปลูกสร้างสูงใหญ่เหล่านี้ก็หาได้แออัดกันไม่ แต่ละอาคารจะมีสวนคั่นกลาง ฉินหยุนและเชี่ยวเย่ว์เหม่ยตัดสินใจเลือกโรงเตี๊ยมแห่งหนึ่ง

 

“พี่ชาย ดูโรงเตี้ยมนี้น่าจะธรรมดาที่สุดแล้ว สูงเพียงสามสิบชั้น ทั้งยังสร้างจากไม้!” เชี่ยวเย่ว์เหม่ยชี้ที่หอไม้ซึ่งอยู่ไม่ไกลออกไป

 

“พวกเราเข้าพักที่นี่ก็แล้วกัน อยู่แถวนี้เลือกเก็บตัวไว้จะดีกว่า!” มองที่หอคอยไม้ตรงหน้าฉินหยุนรู้สึกว่านี่ดูดีไม่น้อยแล้ว

 

โรงเตี้ยมส่วนใหญ่ที่นี่ต่างหรูหราฟุ่มเฟือยอย่างถึงที่สุด มีแต่หอคอยไม้แห่งนี้จึงดูบริสุทธิ์และเงียบสงบ

 

แม้ว่าภายนอกเรียบง่ายธรรมดา ทว่าเช่นนี้จะทำให้ผู้คนรับรู้ถึงความรู้สึกสดชื่นผ่อนคลายได้

 

ภายในหอคอยไม้ทรงสี่เหลี่ยมแห่งนี้ มันมีลายไม้ประดับอยู่ทั่ว และตั้งตระหง่านกลางสวนประหนึ่งไม้ใหญ่ ให้ความรู้สึกสงบสบายยามรับชม

 

ฉินหยุนไม่ทราบว่ารสนิยมตนเองผิดแผกหรือไม่ ทว่าเขาคิด ว่าหอคอยไม้เช่นนี้ มันดีกว่าโรงเตี้ยมหรูหราเป็นไหน

 

อย่างไรแล้ว สวนภายในโรงเตี้ยมทั้งหลายใกล้เคียงต่างจอแจ ทว่าหอคอยไม้แห่งนี้กลับให้ความรู้สึกแยกโดดเดี่ยวเป็นเอกเทศ แม้มีผู้คนภายในอยู่บ้าง ทว่าก็ยังน้อยกว่าหากเทียบกับที่อื่น

 

“เย่ว์เหม่ย พวกเราควรไปยังที่ที่คนเยอะกว่านี้ดีหรือไม่? นั่นจะช่วยให้พวกเรารวบรวมข่าวคราวได้ดียิ่งขึ้น” ฉินหยุนกล่าวถาม เขาและเชี่ยวเย่ว์เหม่ยเวลานี้ ถึงประตูหน้าสวนของหอคอยไม้แล้ว

 

“ตามแต่ท่าน แต่หากพูดถึงการรวบรวมข่าว ที่ต้องใช้ก็แค่เหรียญม่วง อยู่ที่ใดล้วนไม่สำคัญสักนิด” เชี่ยวเย่ว์เหม่ยตอบคำ

 

ทันทีที่ฉินหยุนผ่านเข้าประตูสวน พวกเขาสัมผัสได้ถึงม่านพลัง ทั้งสองต่างพบว่าเรื่องราวผิดแผก ที่โรงเตี้ยมจะถึงกับมีม่านพลังปกคลุม

 

เวลานี้เอง สตรีในชุดขาวงดงามผู้หนึ่งจึงมาถึง นางกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนนุ่ม “แขกผู้มีเกียรติทั้งสอง พวกท่านมาจากที่ใด? ทราบกฎการเข้าสู่หอแมกไม้มังกรแห่งนี้หรือไม่?”

 

“สถานที่นี้นามหอแมกไม้มังกรหรือ?” ฉินหยุนหันมองรอบ พบว่าไม่มีป้ายใดบ่งบอก

 

“เพื่อเข้าสู่หอแมกไม้มังกร แขกท่านนั้นจำเป็นต้องมีหนึ่งพันล้านเหรียญม่วงในครอบครอง!” ได้เห็นฉินหยุนและเชี่ยวเย่ว์เหม่ยเผยความงงงัน สตรีชุดขาวจึงบอกกล่าวออกมา

 

“มีเงินหนึ่งพันล้านเหรียญม่วงงั้นหรือ?” ฉินหยุนเอ่ยถาม

 

“ถูกต้องแล้ว” สตรีตรงหน้ารับคำ

 

“พี่ชาย ข้าไม่มีมากมายเพียงนั้น…” เสี่ยวเย่ว์เหม่ยดึงแขนฉินหยุนมากล่าวเสียงเบา “พี่ชายพวกเราไปหาสถานที่อื่นกันแล้ว ผู้ใดทราบ ว่าสถานที่ดูไม่มีอะไรเช่นที่นี่กลับต้องใช้ข้อเรียกร้อง ใหญ่หลวงเพียงนั้น?”

 

ตอนนี้เอง กลุ่มคนหนุ่มสวมใส่ชุดหรูหราจึงมาถึง ระหว่างนี้พวกเขาเผยบัตรแสดงตัว จึงได้ยินคำกล่าวของเชี่ยวเย่ว์เหม่ยและหันมอง ทั้งฉินหยุนและเชี่ยวเย่ว์เหม่ยต่างสวมใส่ชุดเรียบง่ายเป็นชุดสีครามที่เรียบง่ายอย่างไม่มีอะไรโดดเด่น

 

“คงเพิ่งมาถึงเมืองแห่งนี้กระมัง? แต่แล้วยังกล้าเข้ามายังโรงเตี้ยมที่แพงที่สุดของเมืองนี้อีกอย่างนั้นหรือ?” ชายหนุ่มชุดแดงเผยสีหน้าประหนึ่งคางคกสีน้ำเงินน่าเกลียดขณะมองฉินหยุนและเชี่ยวเย่ว์เหม่ย

 

“หากเจ้าไม่มีหนึ่งพันล้านใช้เข้าที่นี่ เช่นนั้นจงไสหัวไป! อย่าได้ทำให้ไปเกือเซียนเสียเวลาแล้วนางคือราชันยุทธ์ และเป็นผู้ดูแลของหอแมกไม้มังกร กิจธุระของนางยังมีให้ทำอีกมาก!” ชายหนุ่มชุดสีน้ำเงินเผยยิ้มขณะมองที่สตรีชุดขาว

 

“ผู้ดูแลไป พวกมันก็แค่คนยากไร้ อย่าได้เผยมารยาทใดต่อพวกมันไปแล้ว!” ชายชุดสีทองเผยยิ้มกล่าว

 

ไปเกือเชียนเผยยิ้มมองทางฉินหยุนและเชี่ยวเย่ว์เหม่ย ก่อนจะก้มศีรษะให้เล็กน้อยและหันกลับ

 

ฉินหยุนพลันกล่าว “ผู้ดูแลไป หากข้ามีหนึ่งพันล้าน เช่นนั้นก็เข้าไปได้?”

 

เมื่อครู่ ฉินหยุนคิดอยู่ว่าสถานที่แห่งนี้ค่อนข้างดูดี ทว่าคล้ายไม่ค่อยมีคน เขาคิดว่ารสนิยมตนเองไม่เหมือนผู้อื่น กระนั้นผู้ใดทราบ ว่าสถานที่เช่นนี้กลับเรียกร้องมากมายเพื่อเข้าสู่ภายใน

 

“เจ้าคนไร้หัวนอนปลายเท้า ก่อนอื่นจงไปซื้อหาเสื้อผ้าที่ดีสวมใส่แล้วค่อยพูดกล่าว! เสื้อผ้าคุณภาพต่ำต้อยที่เจ้าทั้งสองสวมใส่ มีแต่จะทำให้หอแมกไม้มังกรที่ทรงเกียรติเสื่อมเสีย!” ชายหนุ่มชุดสีน้ำเงินกล่าวออกอย่างเป็นเดือดเป็นแค้น

 

คนกลุ่มนี้มาเยือนหอแมกไม้มังกรก็เพื่อแสดงสถานะและความเลิศล้ำของตน หากผู้ใดล้วนสามารถเข้าไปได้ เช่นนั้นจะยังมีอันใดให้ต้องอวดโอ่?

 

“คงไม่รู้ว่าต้องไปซื้อเสื้อผ้าที่ไหนกระมัง? ข้าจะบอกให้เอาบุญ จงตรงไปยังร้านอาภรณ์มังกรถูกสุดที่นั้นน่าจะสักสามแสนเหรียญม่วง แต่ดูไปแล้ว พวกเจ้าคงไม่มีจ่าย!”

 

“เร่งรีบไสหัวไปได้แล้ว พวกเจ้ายืนที่นี่ชวนสะอิดสะเอียนนัก! ด้วยรูปลักษณ์น่ารังเกียจเช่นนั้นมีแต่จะทำให้บรรยากาศที่นี่เหม็นอับ!”

 

กลุ่มชายหนุ่มเริ่มเย้ยหยันฉินหยุนและเชี่ยวเย่ว์เหม่ยกันอย่างนึกสนุก

 

เชี่ยวเย่ว์เหม่ยจึงแค่นเสียงเผยความมาดมั่นกล่าวคำออก “พวกเจ้าก็แค่หยิบยืมเงินจากทั้งตระกูลที่อุตส่าห์เก็บหอมรอมริบมาเพื่อเข้าหอแมกไม้มังกรหรือไม่ใช่? พวกเจ้าคิดปีนป่ายขึ้นสู่ชั้นแถวหน้าหรือไม่ใช่? กับกลุ่มคนเช่นพวกเจ้าที่หลงมัวเมากับแสงสี นี่คงเป็นครั้งแรกที่ได้เข้าสู่หอแมกไม้มังกรกระมัง เช่นนั้นจึงได้หว่านโปรยความโอหังและแต่งตัวเป็นตู้ทองเคลื่อนที่เช่นนี้!”

 

ฉินหยุนเผยยิ้มบางกล่าว “รัศมีของชนชั้นสูงตัวจริง นั่นไม่ใช่อะไรที่ปุถุชนสามารถครอบครองผู้ที่ทำเกียรติแห่งหอแมกไม้มังกรเสียหายจึงเป็นพวกเจ้า!”

 

กลุ่มชายหนุ่มในชุดหรูหรากราดเกรี้ยวอย่างถึงที่สุด พวกเขาคิดเข้าปะทะกับฉินหยุนและเชี่ยวเย่ว์เหม่ยอย่างไม่สนอื่นใดแล้ว

 

ได้เห็นกลุ่มคนใกล้มีเรื่อง ไปเกือเซียนจึงกล่าวคำขึ้น “ทุกท่าน ขอไว้หน้าข้าและอย่าได้พูดกล่าวอันใดกันอีกแล้ว!”

 

เชี่ยวเย่ว์เหม่ยกล่าว “ผู้ดูแลไป หอแมกไม้มังกรท่านจำเป็นต้องกำหนดชุดเพื่อเข้าสู่ภายในด้วยหรือไร?”

 

ไปเกือเซียนคิดอยู่ครู่จึงกล่าว “จำเป็น!”

 

“พวกเจ้าสองตัวจงไปซื้อหาเสื้อผ้าจากร้านอาภรณ์มังกรและค่อยเสนอหน้ากลับมา สวะชั้นต่ำ!” ชายหนุ่มชุดสีน้ำเงินสบถออกเสียงเบา

 

เสื้อผ้าที่พวกเจ้าสวมใส่ซื้อหาจากร้านอาภรณ์มังกร? ยามข้ามองไป ไม่เห็นว่าจะมีอันใดดี มีแต่หน้าโง่จึงซื้อหาพวกมันมาสวมใส่!” ฉินหยุนกล่าว

 

“เจ้า นี่เจ้ากล่าวว่าอะไร? เสื้อผ้าที่ข้าสวมใส่ เป็นสินค้าขายดีของร้านอาภรณ์มังกรในขณะนี้มูลค่าของมันคือเจ็ดแสน! ยากไร้เช่นพวกเจ้าคงไม่มีทางได้แม้แต่จะคิด!” ชายหนุ่มชุดสีน้ำเงินเผยเสียงกราดเกรี้ยวดังก้อง

 

ผู้คนซึ่งสัญจรไปมาต่างหยุดรับชม ได้ยินว่าเสื้อผ้านั้นมูลค่าถึงเจ็ดแสน เวลานี้ต่างอุทานนับถือกันซ้ำแล้วซ้ำเล่า

 

ไปเกือเชียนได้กล่าวออกอย่างกระดากเล็กน้อย “เสื้อผ้าของข้าเองก็ซื้อหาจากร้านอาภรณ์มังกร!”

 

เวลานี้ ฝูงชนที่รับชมต่างชื่นชมร้านอาภรณ์มังกร ถึงคุณภาพของเสื้อผ้า และความทรงเกียรติหรูหราที่มอบแก่ผู้สวมใส่

 

“ชุดของผู้ดูแลไปมูลค่าแปดแสน แม้ดูเรียบง่าย ทว่าชุดของร้านอาภรณ์มังกรย่อมคุณภาพสูงล้ำ! พวกเจ้าสองตัวยากไร้ย่อมไม่มีวันได้เข้าใจ!” ชายหนุ่มชุดน้ำเงินแค่นเสียง

 

ฝูงชนที่รับชมเริ่มวิพากย์ต่อเสื้อผ้าของฉินหยุนและเชี่ยวเย่ว์เหม่ย หลายคนที่นี้ต่างสวมใส่เสื้อผ้ามียี่ห้อ ซึ่งจะได้รับการออกแบบตกแต่งเป็นพิเศษ อย่างร้านอาภรณ์แห่งมังกร มันจะมีลายลักษณ์มังกรสีทองอ่อนจางปรากฏ

 

ฉินหยุนกล่าวคำขึ้น “วิเศษนัก เช่นนั้นข้าขอถาม เสื้อผ้าราคาแพงของร้านอาภรณ์มังกรนั่นปกป้องชีวิตเจ้าได้หรือไม่? มันจะทำให้ชีวิตเจ้ายืนยาวขึ้นได้หรือไม่? ที่แพงที่สุด ย่อมเป็นสิ่งที่ปกป้องชีวิตได้! เสื้อผ้าราคาแพงล้ำของร้านอาภรณ์มังกร มันก็แค่ปักลายมังกรเพิ่มเข้าไปให้ดึงดูดสายตา อื่นใดล้วนดีงั้นหรือ? มีแต่หน้าโง่เช่นพวกเจ้าจึงชื่นชอบอวดโอยามซื้อหาพวกมันมาสวมใส่!”

 

ไปเกือเซียนรู้สึกไม่ดีเท่าใดนัก เพราะนางก็ใช้จ่ายไปมากเพื่อซื้อหาเสื้อผ้าจากร้านอาภรณ์มังกร และยังมีหลายผู้คนที่นี้ที่สวมใส่เสื้อผ้าของร้านอาภรณ์มังกร พวกเขาต่างรู้สึกไม่พอใจยามได้รับฟัง

 

“นายน้อยผู้นี้ ท่านกล่าวว่าเสื้อผ้าของร้านอาภรณ์มังกรไม่ดี เช่นนั้นบอกต่อพวกเรา ว่าเสื้อผ้าใดจึงดี หรือจะบอกว่าเสื้อผ้าที่พวกท่านสวมใส่สามารถรักษาชีวิตได้” ไปเกือเซียนเอ่ยถาม

 

“หากถามข้า พวกมันสามารถช่วยชีวิตได้!” ฉินหยุนหัวเราะดัง “ พวกเจ้าคงมีอุปกรณ์ลึกล้ำกระมัง ข้ารับประกัน ว่าอุปกรณ์ลึกล้ำพวกเจ้าไม่มีทางตัดเสื้อข้าขาดได้!”

 

หนึ่งในผู้ชมเฒ่าชราหัวเราะกล่าวคำ “เสื้อผ้าที่สวมใส่นั่นสร้างขึ้นจากวัสดุอ่อน หากมันสามารถต้านทานอุปกรณ์ลึกล้ำได้จริง เช่นนั้นย่อมเป็นเกราะอ่อนลึกล้ำ มูลค่าอย่างน้อยก็ต้องสิบล้าน! นอกจากนี้แล้วเสื้อผ้านั่นยังเข้ารูปพอดี หมายความถึงเป็นการตัดชุดขึ้นสำหรับบุคคล อาจารย์จารึกใดที่จะยอมสละเวลาอันล้ำค่ามาทำของน่าเบื่อหน่ายเช่นนี้ให้”

 

ผู้อื่นต่างพยักหน้ารับเห็นพ้อง

 

“นายน้อย อย่าได้ก่อความวุ่นวายขึ้นที่นี่แล้ว หากนายท่านทราบ เขาต้องโกรธไม่ใช่น้อยแน่ ๆ รบกวนแยกย้ายกันได้แล้ว!” ไปเกือเซียนเอ่ยเสียงเบา

 

“จะปล่อยไปได้อย่างไร? สวมใส่เสื้อผ้าเน่าเหม็นเช่นนั้นหรือจะต้านรับอุปกรณ์ลึกล้ำอันคมกริบของข้าได้? อุปกรณ์ลึกล้ำของข้า คือดาบลึกล้ำระดับกลาง หากไม่อาจตัดเสื้อผ้าของมัน เช่นนั้นข้าจะกลืนดาบตนเองลงท้อง!” ชายหนุ่มชุดสีน้ำเงินก้าวเดินเข้ามา น้ำเสียงแค่นออกดังขึ้น “เร่งรีบให้ข้าทดสอบ!”

 

ฉินหยุนยึดมุมหนึ่งของเสื้อออกมาพร้อมเผยยิ้ม “ลอง!”

 

ชายหนุ่มชุดสีน้ำเงินจ้วงแทงดาบออกอย่างดุดัน กระนั้นกลับไม่อาจทะลวงผ่านชุด เสียงฮือฮาครั้งใหญ่จึงปรากฏ ชายหนุ่มชุดสีน้ำเงินผู้นี้ ผู้คนต่างได้เห็นว่าทุ่มสุดแรงจ้วงแทงออกหลายครั้งครา กระนั้นกลับยังไม่อาจทะลวงผ่านเสื้อผ้าอีกฝ่าย เวลานี้สีหน้ากลับกลายเป็นอัปลักษณ์แล้ว

 

การทดสอบนี้ถือเป็นการยืนยัน ว่ามันคือชุดเกราะอ่อนลึกล้ำที่ตัดวัดสร้างขึ้นเป็นอย่างดี มูลค่าพวกมันอย่างน้อยก็หลายสิบล้าน มันคือสิ่งที่เหนือล้ำว่าเศษผ้าของร้านอาภรณ์มังกร! และชุดเกราะอ่อนที่ฉินหยุนและเชี่ยวเย่ว์เหม่ยสวมใส่ พวกมันจำเป็นต้องหาช่างฝีมือสูงล้ำเพื่อตัดชุดขึ้นมา

 

“อย่าได้นำเสนอชุดเน่าเหม็นของพวกเจ้าต่อหน้าเราอีก!” เชี่ยวเย่ว์เหม่ยขึ้นเสียงกล่าวคำเหยียดหยาม

 

ฝูงชนที่ร่วมกันดูหมิ่นฉินหยุนและเชี่ยวเย่ว์เหม่ยเมื่อครู่เริ่มสีหน้าดำมืด ไปเก้อเขียนเป็นผู้ดูแลมาก็นาน นางได้พบเจอผู้คนหลากหลาย ทว่าครั้งนี้เป็นครั้งแรก ที่นางได้พบบุคคลเช่นฉินหยุนและเชี่ยวเย่ว์เหม่ย นางเกิดเชื่อ ว่าคนทั้งสองตรงหน้ามีพื้นเพอันยิ่งใหญ่

 

“นี่ นี่เป็นไปได้อย่าไง? สมควรเป็นพวกเจ้าปล้นจากคนตายมาแล้วกระมัง! แล้วยังมีอีกเรื่องพวกเจ้าครอบครองเหรียญม่วงมากพอเข้าสู่หอแมกไม้มังกรหรือไร?” ชายชุดแดงเผยเสียงตะโกนดังด้วยอารมณ์

 

“เจ้าผู้สวมใส่ชุดสีน้ำเงิน เหตุใดจึงยังไม่กลืนดาบตนเองลงท้อง? เมื่อครู่เจ้าเพิ่งกล่าวไปว่าจะกลืนมันลงท้องตนเอง!” เสี่ยวเย่ว์เหม่ยเผยยิ้มเย้ยหยัน

 

ชายหนุ่มชุดสีน้ำเงินไม่กล่าวคำใดอีก ที่กระทำ คือเร่งรีบเดินหนีเข้าสู่ภายใน

 

ฉินหยุนนำบัตรผลึกม่วงออกมาเชื่องช้า ส่งให้แก่ไปเกือเซียนเพื่อรับชม ไปเกือเซียนตื่นตะลึงยามมอง เพราะมันมีมากกว่าหนึ่งหมื่นล้าน!

 

“แขกผู้มีเกียรติทั้งสอง เชิญเข้าแล้ว!” ไปเกือเซียนส่งมอบบัตรผลึกม่วงกลับคืนแก่ฉินหยุน

 

“ข้าไม่มีหนึ่งพันล้าน” เชี่ยวเย่ว์เหม่ยกล่าวเสียงเบา

 

“นายน้อยผู้นี้มีมากเกินพอให้ท่านได้เข้า!” ใบหน้าของไปเกือเซียนเผยความนับถือพร้อมรอยยิ้มการค้า