ตอนที่ 246 สืบเรื่องแก๊งมังกรคราม / ตอนที่ 247 ยืมมือคนอื่นฆ่าคน

(Yaoi) เดิมพันอันตรายคุณชายจอมเจ้าเล่ห์

ตอนที่ 246 สืบเรื่องแก๊งมังกรคราม

 

 

           ‘เอะอะก็กัดเขา เขาเป็นเนื้อหมูเหรอ’

 

 

           ซือเหยี่ยนยกเท้าขึ้นมาถูขาของเจียงมู่เฉิน “ขยับมือขยับปากไม่ได้ ขยับเท้าได้อยู่ใช่ไหมล่ะ”

 

 

           เจียงมู่เฉิน “…” แบบนี้ก็ยังได้อีกเหรอ

 

 

           ที่แท้เรื่องหน้าไม่อายแบบนี้ ไม่มีขีดจำกัดต่ำสุดเลยสักนิด

 

 

           เพื่อที่จะระงับเหตุป้องกันตัวเองที่ไม่รู้ว่าไปแหย่โดนจุดแปลกประหลาดไหนของซือเหยี่ยน ถึงได้ทำให้สัญชาตญาณดิบของสัตว์เติบโต เขารีบยันกายขึ้นมานั่งอีกฝั่ง ถอยห่างออกไปไกลๆ

 

 

           เจียงมู่เฉินถูกซือเหยี่ยนย่ำยีมาหลายวัน ถ้าเขาอดกลั้นไม่อยู่ทำอะไรแบบนั้นกับตัวเองอีก ชีวิตน้อยๆ นี้ก็จะไม่เหลือแล้วจริงๆ

 

 

           ซือเหยี่ยนเห็นท่าทางหวาดระแวงแบบนั้นของเขาก็ตัดสินใจไม่แกล้งแหย่เขาแล้ว เจ้าตัวลุกยืนขึ้น “ผมจะกลับไปบริษัทก่อนแล้ว คุณนอนหลับดีๆ นะ”

 

 

           เจียงมู่เฉินหรี่ตามองเขา “อืม ไสหัวไปเถอะ”

 

 

           ซือเหยี่ยนยิ้มหัวเราะ เวลานี้เองถึงได้ออกจากที่นี่ ทันทีเขาออกไป เจียงมู่เฉินรีบเข้าห้องนอนไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วออกไปข้างนอก

 

 

           เขาขับรถมุ่งหน้าไปโรงพยาบาลที่ซูเตอร์พักรักษาตัวอยู่ก่อนหน้านี้ กว่าเขาจะถึงห้องพักผู้ป่วย ซูเตอร์ก็ออกจากโรงพยาบาลไปแล้ว

 

 

           เจียงมู่เฉินหรี่ตาลง ออกจากโรงพยาบาลตั้งนานแล้วยังไม่มาคิดบัญชีกับเขา ครั้งนี้ซูเตอร์คิดจะทำอะไรอีก

 

 

           เขาขับรถออกจากโรงพยาบาลมุ่งหน้าไปหามั่วไป๋ เขามีบางเรื่องจำเป็นต้องให้มั่วไป๋ช่วยเขาหาข้อมูล

 

 

           ……

 

 

           “นายอยากจะสืบเรื่องแก๊งมังกรคราม?” มั่วไป๋ขมวดคิ้ว

 

 

           “อืม แก๊งมังกรครามที่นายรู้จักแก๊งนั้นแหละ” เจียงมู่เฉินค่อยๆ จิบกาแฟไป

 

 

           “นายไม่มีอะไรแล้วจะสืบเรื่องแก๊งมังกรครามไปทำไม” เมื่อก่อนก็เคยได้ยินมาบ้าง แต่เขาไม่เข้าใจว่าทำไมเจียงมู่เฉินถึงคิดจะสืบเรื่องนี้ได้

 

 

           “ไม่กี่วันมานี้ฉันลงไม้ลงมือกับผู้สืบทอดของพวกเขาจนบาดเจ็บ ตามแนวทางปฏิบัติของพวกเขาแล้ว เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่มาหาเรื่องฉัน ดังนั้นฉันคิดว่าก่อนที่พวกเขาจะลงมือ ก็ทำความเข้าใจพวกเขาซะก่อน ถึงเวลาจะได้พอรับมือได้บ้าง”

 

 

           “ทำไมจู่ๆ นายถึงไปมีเรื่องกับแก๊งมังกรครามได้” ถึงแม้เจียงมู่เฉินจะเป็นที่รู้จักไปทั่วถานโจว แต่ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีที่ควรมีก็ไม่ได้น้อย จะไปแตกหักกับแก๊งมังกรครามแบบไม่มีปี่ไม่ขลุ่ยได้อย่างไร

 

 

           เจียงมู่เฉินถอนหายใจ “เรื่องนี้จะพูดกันก็ยาว ฉันไม่พูดได้ไหม”

 

 

           มั่วไป๋เลิกคิ้ว “ไม่ได้อยู่ทนโท่ ถ้านายอยากให้ฉันช่วย ต้องบอกฉันทุกอย่าง ไม่อย่างนั้นฉันก็ช่วยนายไม่ได้”

 

 

           “ซูเตอร์คนของแก๊งมังกรครามวางยาซือเหยี่ยน ฉันยื่นมือเข้าไปช่วยซือเหยี่ยน สุดท้ายไปยั่วโมโหซูเตอร์เข้า” เจียงมู่เฉินสีหน้าไร้ความผิด “นายว่าคนเขายั่วโมโหฉันขนาดนี้ ฉันลงมือก็เป็นเรื่องปกติมากใช่หรือเปล่า”

 

 

           มั่วไป๋ยิ้มเยาะ “นายคิดว่าฉันเชื่อเหรอ”

 

 

           เจียงมู่เฉินลูบจมูกปอยๆ “เอาเถอะ วันที่สองฉันก็ถือโอกาสไปโรงพยาบาล ไปประกาศศักดาครองอำนาจสิทธิ์ขาดของตัวเอง”

 

 

           มั่วไป๋จ้องเขาเขม็ง เจียงมู่เฉินรีบโบกมือ “ฉันทำถึงแค่ตรงนี้จริงๆ ไม่ได้ทำอะไรอย่างอื่นเลย”

 

 

           ‘แน่นอนว่าท่าทีที่เขาทำจะรุนแรงไปหน่อย พูดเอาเรื่องไปหน่อย ตอนลงมือก็หนักไปหน่อย แต่อะไรอย่างอื่นก็ดีหมดเลยนะ’

 

 

           มั่วไป๋ถอนหายใจ เจียงมู่เฉินทำในสิ่งที่เขาไม่อยากให้ทำจริงๆ

 

 

           แต่ว่าเขาทำเรื่องแบบนี้ออกมาได้ก็ไม่แปลก ถ้าเขาทำเป็นทองไม่รู้ร้อนไม่ทำอะไรสักอย่าง แบบนั้นต่างหากถึงจะรู้สึกว่าแปลก

 

 

           “ดังนั้น วันนี้นายมาหาฉัน อยากให้ฉันหาข้อมูลอะไร”

 

 

           “ซูเวลล์”

 

 

           เขาเคยสืบหาข้อมูลแก๊งมังกรคราม รู้ว่านอกจากซูแวนพ่อของซูเตอร์แล้ว ตอนนี้ก็มีแค่ซูเวลล์น้องชายต่างแม่ของเขา ซูเวลล์คนนี้ถึงแม้จะเป็นพี่น้องของซูแวน แต่ใจนี้ไม่เคยจะอยู่บนเส้นทางเดียวกัน

 

 

           เขาคนนี้ถึงรูปลักษณ์ภายนอกจะดูเหมือนพวกพูดจาดี เป็นเสือยิ้มกว้าง ในความเป็นจริงนั้นใจโหดมือเ**้ยม มีแค่ใจเดียวที่อยากครอบครองแก๊งมังกรครามไว้ในมือของตัวเอง

 

 

           “ซูเวลล์? นายคิดจะลงมือจากฝั่งเขาเหรอ”

 

 

           

 

 

      ตอนที่ 247 ยืมมือคนอื่นฆ่าคน

 

 

           เจียงมู่เฉินยิ้มหัวเราะเล็กน้อย “ซูเวลล์อยากจะได้ตำแหน่งของแก๊งมังกรคราม แล้วซูเตอร์ก็คือหัวหน้าแก๊งคนต่อไป นายว่าถ้าซูเวลล์รู้ว่าซูเตอร์มาถานโจวคนเดียว เขาคิดจะทำอะไรลงไปได้บ้าง”

 

 

           ในที่สุดมั่วไป๋ก็เข้าใจแล้ว “นายคิดจะยืมมือคนอื่นฆ่าคนเหรอ”

 

 

           เจียงมู่เฉินยกมุมปากขึ้น “จะมาว่าฉันยืมมือคนอื่นฆ่าคนได้ยังไง นี่เป็นความขัดแย้งภายในแก๊งของพวกเขา ฉันไม่ได้มีส่วนร่วมอะไรด้วยเลย ฉันก็แค่อยากให้นายบอกซูเวลล์ถึงตำแหน่งของซูเตอร์ ส่วนที่เหลือก็เป็นเรื่องระหว่างพวกเขา พวกเราไม่น่าเอี่ยวด้วยอยู่แล้ว”

 

 

           มั่วไป๋ถอนหายใจ “นายทำแบบนี้ซือเหยี่ยนรู้ไหม”

 

 

           “เขาเหรอ เขาจำเป็นต้องรู้เหรอ” เจียงมู่เฉินหรี่ตาลง “นายวางใจเถอะ ถึงฉันจะไม่ใช่คนดีอะไร แต่ก็ไม่ทำเรื่องที่ไร้มนุษยธรรมได้หรอก ขอเพียงแต่ซูเตอร์ไม่มาระรานฉัน ฉันก็ไม่มีทางเป็นฝ่ายทำร้ายเขา”

 

 

           “อืม” มั่วไป๋ขานรับ “รู้แล้ว เรื่องนี้ฉันจัดการเอง เพียงแต่ว่านายแน่ใจเหรอว่าซูเวลล์จะมาได้”

 

 

           เจียงมู่เฉินยักไหล่ “ไม่รู้สิ ฉันแค่รับผิดชอบแจ้งข่าว ที่เหลือก็ดูพวกเขาเองแล้ว” เขามองมั่วไป๋กะพริบตาปริบๆ “คนเราต้องสร้างบุญ ทำเรื่องไม่ดีไม่ได้ ฉันไม่ได้คิดจะทำเรื่องไม่ดีตัดอายุตัวเองหรอก”

 

 

           มั่วไป๋ขำจนยกยิ้มมุมปากขึ้น “ในที่สุดฉันก็เข้าใจแล้ว นายไม่ได้อยากจะให้ซูเวลล์ฆ่าซูเตอร์มาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว แต่อยากให้ซูเวลล์คุมตัวซูเตอร์เอาไว้ แบบนี้จะได้ไม่มีเวลามาพัวพันนายกับซือเหยี่ยน”

 

 

           เจียงมู่เฉินกะพริบตาปริบๆ “สมกับเป็นไป๋ไป๋ของฉัน เป็นอย่างที่คิดไว้…ฉลาดเหมือนกันกับฉัน”

 

 

           “ดังนั้นสาเหตุที่นายไม่คิดจะบอกซือเหยี่ยน ก็เพราะนายรู้ว่าถึงนายจะพูดกับซือเหยี่ยน เขาเองก็คัดค้านไม่ได้ ถูกไหม”

 

 

           เจียงมู่เฉินเผลอยิ้มออกมา “ไป๋ไป๋ นายก็รู้อยู่แล้วว่าฉันระวังมากขนาดนี้ มีวันไหนกันจะโดนฆ่าปิดปากได้”

 

 

           มั่วไป๋เลิกคิ้วมองเขา “นายทำกันลงคอเหรอ”

 

 

           “ทำไม่ลงอยู่แล้ว ไป๋ไป๋ของฉันดีขนาดนี้ มีหรือจะฆ่านายปิดปากได้ลงคอ” เขาโน้มตัวเข้าไปใกล้ท่าทางอยากจะจูบอีกคน “มา ให้คุณชายจูบที”

 

 

           มั่วไป๋กวาดสายตามองเขาอย่างเย็นชา “ครั้งก่อนนายจูบฉันก็โดนซือเหยี่ยนกักตัวไว้สามวันเต็มๆ ครั้งนี้ยังกล้าจูบอีกเหรอ นี่เตรียมจะโดนเขากักตัวไว้สัปดาห์หนึ่งเลยใช่ไหม”

 

 

           เจียงมู่เฉินระเบิดลง “นายรู้ได้ยังไงว่าฉันโดนซือเหยี่ยนกักตัวไว้สามวัน”

 

 

           มั่วไป๋ยิ้มหัวเราะเล็กน้อยขายไป๋จิ่งโดยไม่ลังเลเลยสักนิด เขายกมือถือขึ้น “เมื่อกี้มีคนคาบข่าวมาบอก”

 

 

           เจียงมู่เฉินตาค้าง

 

 

           ‘ไป๋จิ่งเจ้าหมอนี่ไม่อยากจะมีชีวิตแล้วใช่ไหม’ ครั้งก่อนเรื่องที่ขายเขาไปยังไม่ได้คิดบัญชีดีๆ กัน ครั้งนี้ยิ่งเล่นหนักกว่าเดิม ยังบอกมั่วไป๋ว่าเขาโดนซือเหยี่ยนกักตัวไว้สามวันอีกเหรอ

 

 

           ‘เชี่ยแม่ง นี่ไม่ใช่ว่ากล้าบอกพวกเขาว่าคุณชายโดนซือเหยี่ยนจับกดสามวันเต็มๆ กันโจ่งแจ้งเลยใช่ไหม’

 

 

           เจียงมู่เฉินเด้งตัวขึ้นมาจากโซฟา คิดบัญชี ต้องคิดบัญชีกับไป๋จิ่ง ใครจะรู้ว่าเจ้าหมอนั่นจะไปบอกคนอื่นอีกหรือเปล่า ถึงตอนนั้นถ้าเรื่องแพร่ออกไป เขาก็เสียหน้าสิ

 

 

           “ไปไหน” มั่วไป๋มองเขาพุ่งตัวไปข้างนอกด้วยท่าทีเอื่อยเฉื่อย

 

 

           เจียงมู่เฉินขบกราม “วันนี้ในปีหน้าจะเป็นวันครบรอบวันตายของไป๋จิ่ง นายในฐานะแฟนช่วงทดลองใช้ของเขาจำไว้ว่าต้องปัดกวาดหลุมศพด้วย”

 

 

           หลังจากมั่วไป๋ได้ยินก็เอ่ยอย่างอารมณ์ดีมากทีเดียว “งั้นนายก็พูดกับเขาด้วย ว่าฉันจะตั้งป้ายหลุมศพให้เขา พร้อมส่งดอกกุหลาบให้เขาด้วย”

 

 

           เจียงมู่เฉินฟังจบก็สะบัดประตูออกไปทันที

 

 

           มั่วไป๋กุมขมับค่อนข้างปวดหัว ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับไป๋จิ่งนับวันยิ่งเกินกว่าแผนที่เขาวางไว้ บางทีไม่ต้องใช้เวลานาน เขาก็จะสะสางบัญชีกับไป๋จิ่งให้ถึงที่สุดได้

 

 

           ในที่สุดก็ใกล้จะถึงวันนี้จนได้ วันที่ความจริงทั้งหมดเปิดเผย ตอนที่เขาได้เหยียบย่ำซ้ำเติมหัวใจของไป๋จิ่งจนแหลกอยู่ใต้เท้าเขา เมื่อให้ไป๋จิ่งได้รู้ว่าเขาคือหลินฝานในตอนนั้น คนที่ไม่เคยสนใจอะไรอย่างไป๋จิ่งจะแสดงสีหน้าอารมณ์อะไรออกมาได้บ้าง

 

 

           มั่วไป๋หลับตาลง เขาควรจะดีใจถึงจะถูกต้องอยู่ชัดๆ แต่ไม่รู้ว่าทำไม พอคิดถึงขึ้นมากลับไม่ได้ดีใจขนาดนั้นอย่างที่คิดไว้เลย