ตอนที่ 418 เข้าใจเซียวเหยี่ยนผิด / ตอนที่ 419 ไม่นึกว่าเซียวเหยี่ยนจะขอโทษ

ชายาหยุดเย้าข้าเสียทีเถิด

ตอนที่ 418 เข้าใจเซียวเหยี่ยนผิด

 

 

เซียวเหยี่ยนพาหลิงอวี้จื้อมาหน้าโต๊ะกินข้าว เห็นว่าบนนั้นมีชามและตะเกียบจัดวางอยู่ เขาปล่อยมือหลิงอวี้จื้อ

 

 

เมื่อครู่หลิงอวี้จื้อพูดว่าป้าโจวเอาเนื้อไก่มาหนึ่งชาม เขาหยิบเข็มเงินเล่มหนึ่งออกมาจากอกเสื้อ เข็มเงินแหลมเล็กปักเข้าไปในเนื้อไก่ที่ไม่ร้อนแล้ว ทิ้งไว้ประมาณสองสามวินาที ก็ดึงเข็มเงินออกอย่างไว

 

 

หลิงอวี้จื้อเข้าใจว่าเซียวเหยี่ยนต้องการทำอะไร นี่ไม่ใช่เข็มเงินทดสอบพิษหรอกหรือ หรือว่าเนื้อไก่จานนี้มีพิษ เป็นไปไม่ได้ อยู่ดีๆ ป้าโจวจะมาวางยาพวกเขาทำไม

 

 

เธอมองเข็มเงินในมือเซียวเหยี่ยนตาไม่กะพริบ เห็นเข็มเงินเปลี่ยนเป็นสีดำอย่างรวดเร็ว เธอก็เข้าใจหมดแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น เธอเข้าใจเซียวเหยี่ยนผิด

 

 

นึกไม่ถึงว่าบทละครจะหักมุมรวดเร็วปานนี้ ป้าโจวให้เนื้อไก่มีพิษแก่พวกเขาหนึ่งจาน ไม่มีความจำเป็นอะไรเลย

 

 

เธอกับป้าโจวไม่มีความแค้นอะไรต่อกัน แล้วทำไมป้าโจวถึงทำเช่นนี้

 

 

แล้วเซียวเหยี่ยนรู้เรื่องนี้ได้อย่างไร เห็นอยู่ชัดๆ ว่าเขาไม่เคยพบปะพูดคุยกับป้าโจว ข้อสงสัยในหัวมากเกินไปแล้ว ตอนนี้เธอได้แต่มองเซียวเหยี่ยนอย่างงุนงง รอเซียวเหยี่ยนอธิบายให้เธอฟัง

 

 

เซียวเหยี่ยนดึงหลิงอวี้จื้อนั่งลง แล้วเอาเนื้อไก่บนโต๊ะส่งให้มั่วชิงที่อยู่ข้างๆ ให้มั่วชิงเทเนื้อไก่ทิ้ง เห็นหลิงอวี้จื้อนิ่งอึ้งไปโดยสิ้นเชิง มู่หรงนี่อวิ๋นก็ทนไม่ไหวถามว่า

 

 

“ท่านอ๋อง เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ขอรับ”

 

 

“อวี้จื้อ นางไม่ใช่ป้าข้างบ้านอะไรเลย นางเป็นคนของสำนักอู๋จี๋”

 

 

“หา…”

 

 

หลิงอวี้จื้อตกใจจนอ้าปากค้างตาเบิกโต

 

 

“แล้วหลานชายของนางล่ะ เด็กน้อยขนาดนี้ไม่น่าจะแสดงละครได้ เจ้าเสือโดนพิษนักรบไร้ชีพจริงๆ”

 

 

“ตอนที่ข้าอยู่สำนักอู๋จี๋เคยเจอนางครั้งหนึ่ง จึงจำนางได้”

 

 

นึกไม่ถึงว่าความจำของเซียวเหยี่ยนจะดีกว่านักแสดงมืออาชีพอย่างเธอ เห็นเพียงครั้งก็ไม่ลืมจริงๆ

 

 

หากเปลี่ยนเป็นเธออาจจะจำไม่ได้ หากเทียบกับคนทั่วไป ความจำของเธอก็ถือว่าเก่งกาจมากแล้ว สามารถท่องบทยาวๆ ได้อย่างรวดเร็ว แต่ยังไม่ถึงระดับเซียวเหยี่ยน

 

 

คิดถึงตรงนี้ ภาพลักษณ์ของเซียวเหยี่ยนในใจเธอก็ยกระดับขึ้นไปอีกไม่น้อย ยังดีที่เซียวเหยี่ยนกลับมาทันเวลา มิเช่นนั้นพวกเขากินเนื้อไก่จานนี้เข้าไป ก็คงตายกันไปยกกลุ่ม

 

 

ความเสี่ยงมีอยู่ทุกหนแห่งจริงๆ เป็นคนระดับสูงนี่ก็ไม่ง่าย เธอเพิ่งค้นพบว่าการระมัดระวังตัวของตนเองนั้นยังไม่ดีนัก เมื่อเทียบกับเซียวเหยี่ยนไม่รู้ว่าห่างชั้นกันสักเท่าไร เธอต้องเรียนรู้จากเซียวเหยี่ยนไว้ถึงจะดี

 

 

คิดถึงที่ตนเองชิมอาหารก่อนหน้านี้ หลิงอวี้จื้อก็รู้สึกกลัวอยู่ในใจ

 

 

ป้าโจวทำกับข้าวเสร็จแล้ว เธอชิมไปหนึ่งรอบ มีเพียงเนื้อไก่จานนี้ที่ไม่ได้แตะ ตอนนั้นเธอรู้สึกว่านี่เป็นอาหารจานที่มีเนื้อสัตว์จานเดียวสำหรับคืนนี้ จึงอยากเก็บไว้กินตอนเย็นด้วยกัน น้ำใจนี้ช่วยชีวิตเธอเอาไว้แทน เสี่ยงจริงๆ

 

 

หลิงอวี้จื้อแอบตบหน้าอกตัวเองเบาๆ

 

 

“ข้าเพิ่งกลับมาก็จำป้าโจวได้ นางมาหาเจ้าย่อมไม่มาด้วยเจตนาดีแน่ มีปัญหาตามมาเช่นนี้ เก็บเอาไว้ไม่ได้ นางคิดไม่ซื่อตามคาด ยังวางยาในเนื้อไก่ คนที่สำนักอู๋จี๋สั่งสอนมา แทบจะไม่กล้าทรยศ”

 

 

ความร้อนรนที่ป้าโจวแสดงออกมาไม่เหมือนแสร้งทำเลย หลานของนางคงจะเป็นหลานแท้ๆ

 

 

เด็กเล็กขนาดนี้ยังแสดงละครไม่ได้ ที่สำนักอู๋จี๋นางก็ไม่ได้มีตำแหน่งอะไร เพียงแต่ไม่รู้ว่าทำไมถึงเข้าออกสำนักอู๋จี๋ได้ดั่งใจต้องการ

 

 

ในเมื่อเป็นคนสำนักอู๋จี๋ เช่นนั้นก็คงคุ้นเรื่องพิษนักรบไร้ชีพ ป้าโจวขอร้องเธอเช่นนั้นเพราะอยากตายไปพร้อมกับพวกนางหรือ หากคิดเช่นนั้น นางก็จงรักภักดีต่อสำนักอู๋จี๋จริงๆ

 

 

ถึงแม้ยังมีข้อสงสัย แต่ตอนนี้คนก็ตายไปแล้ว จะสอบสวนเรื่องเหล่านี้อีกก็ไม่มีความหมายแล้ว

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 419 ไม่นึกว่าเซียวเหยี่ยนจะขอโทษ

 

 

ก็ไม่รู้ว่าเจียงสือใช้วิธีอะไรควบคุมลูกน้อง ลูกน้องต่างไม่กล้าหักหลังนาง พอพูดถึงนางก็จะตัวสั่นสะท้าน แม้แต่มั่วชิงก็ไม่เว้น

 

 

ถึงแม้วิธีการของเซียวเหยี่ยนจะไม่ได้ใกล้เคียงคำว่ามีมนุษยธรรม แต่ก็เพื่อช่วยพวกเขา หลิงอวี้จื้อก้มหน้า ไม่รู้ว่าควรพูดอะไร เซียวเหยี่ยนทำสัญญาณให้คนอื่นออกไปให้หมด

 

 

รอจนทุกคนไป ก็กึ่งนั่งกึ่งคุกเข่าลงตรงหน้าหลิงอวี้จื้อ ยื่นมือออกไปกุมมือทั้งสองข้างของหลิงอวี้จื้อ พูดเบาๆ ว่า

 

 

“อวี้จื้อ ตั้งแต่เล็กจนโต ข้าเผชิญกับอันตรายมานับไม่ถ้วน บางอย่างอาจเป็นสัญชาตญาณ

 

 

ข้าเห็นป้าโจวก็นึกถึงความปลอดภัยของเจ้า เจ้าเสือก็ติดเชื้อพิษแล้ว จำเป็นต้องส่งเขาไป ป้าโจวเป็นคนของสำนักอู๋จี๋ ก็ไม่อาจไว้ชีวิตได้ ข้าเองก็ไม่ชอบฆ่าผู้บริสุทธิ์ แต่คนที่สมควรตายก็เก็บไว้ไม่ได้เด็ดขาด”

 

 

“ข้าเข้าใจความหมายของท่าน แต่เมื่อครู่ข้าตกใจเพราะท่านจริงๆ ไม่พูดอะไรสักคำ มาถึงก็ฆ่าคน คนผู้นี้เพิ่งจะทำกับข้าวให้ข้ากิน ข้า…วันนี้ก็เป็นวันสิ้นปีด้วย ท่านไม่กลัวข้าจะฝันร้ายหรือ”

 

 

หลิงอวี้จื้อไม่รู้ว่าเซียวเหยี่ยนเข้าใจความหมายของเธอหรือไม่ เธอใช้ชีวิตอยู่ในสังคมที่มีกฎหมาย เคารพยำเกรงเรื่องชีวิตมาก ถึงแม้ว่าจะพยายามเข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตามอย่างที่สุดแล้ว กับคนเลวก็ลงมืออย่างไม่เหลือความปรานี แต่ไม่มีทางเหมือนเซียวเหยี่ยนที่เด็ดขาดขนาดนั้น ฆ่าคนทันทีโดยไม่ถามไถ่

 

 

ชั่วพริบตานั้น เธอรู้สึกว่าน่ากลัวเหลือเกิน การที่คนจำนวนไม่น้อยในแคว้นเว่ยตะวันตกต่างกลัวเซียวเหยี่ยนก็เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงยาก เพียงแต่เวลาเซียวเหยี่ยนอยู่ต่อหน้าเธอเขาช่างอ่อนโยนเหลือเกิน ทำให้เธอเริ่มลืมฐานะของเขาไปแล้ว ลืมไปว่าเขาเป็นท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการที่มือกุมอำนาจแห่งชีวิตและความตาย

 

 

เซียวเหยี่ยนที่เป็นเช่นนี้ทำให้เธอรู้สึกไม่คุ้นเคย ความรู้สึกเช่นนี้ไม่ดีเอามากๆ

 

 

เซียวเหยี่ยนเห็นความสับสนในแววตาของหลิงอวี้จื้อ ใจเขาเต้นตุบ กุมมือหลิงอวี้จื้อแน่นโดยไม่รู้ตัว เห็นได้ชัดว่านึกไม่ถึงว่าเรื่องนี้จะมีผลกระทบต่อหลิงอวี้จื้อ

 

 

เรื่องทำนองนี้เมื่อก่อนเขาทำเป็นประจำ เขาเป็นอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ จะฆ่าใครสักคนนั้นง่ายดายมาก พูดเพียงประโยคเดียวก็พอ

 

 

เขาเคยชินกับการจัดการคนเช่นนี้ ไม่ต้องอธิบายอะไรทั้งสิ้น เขาแค่รู้สึกว่าคนผู้นี้สมควรตายก็พอ

 

 

แต่สำหรับหลิงอวี้จื้อเป็นข้อยกเว้น ทุกเรื่องต้องอธิบายให้ชัดเจน กลัวว่าหลิงอวี้จื้อจะเข้าใจเขาผิด ครั้งนี้ เขาไม่รู้ว่าหลิงอวี้จื้อกลัวเขาแล้วหรือไม่ ในโลกนี้ ใครก็กลัวเขาได้ มีนางเท่านั้นที่กลัวไม่ได้

 

 

“อวี้จื้อ ขอโทษ ข้าเพียงอยากจะปกป้องเจ้า เมื่อครู่จึงไม่ได้สนใจความรู้สึกของเจ้า เจ้าตกใจแล้วใช่หรือไม่”

 

 

น้ำเสียงของเซียวเหยี่ยนอ่อนโยนมาก ลูบมือหลิงอวี้จื้อไปมาเบาๆ

 

 

หลิงอวี้จื้อมองเซียวเหยี่ยนอึ้งๆ มองตาเขา เธอไม่ได้ฟังผิดใช่ไหม! นึกไม่ถึงว่าเซียวเหยี่ยนจะขอโทษ ตั้งแต่เธออยู่กับเซียวเหยี่ยนมา ยังไม่เคยได้ยินเซียวเหยี่ยนพูดขอโทษมาก่อน เรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของเซียวเหยี่ยนด้วยซ้ำ ก็ยังพูดให้ตัวเองผิดได้ เธอต่างหากที่ผิด

 

 

“ท่านไม่ต้องขอโทษข้า คนที่ควรพูดขอโทษคือข้าต่างหาก ดีที่ท่านมากลับมาทันเวลา มิเช่นนั้นพวกเราคงต้องไปพบยมบาลกันหมดแล้ว”

 

 

หลิงอวี้จื้อก้มหน้าเหมือนเด็กน้อยที่ทำความผิด เธอหน้าตาเยาว์วัยอยู่แล้ว พอทำสีหน้าเช่นนี้ออกมาก็ทำให้คนตำหนิไม่ลง เซียวเหยี่ยนไม่อาจต้านทานสีหน้าเช่นนี้ของหลิงอวี้จื้อได้เลย ใจแข็งแค่ไหนก็อ่อนลงได้

 

 

“ทำให้เจ้าตกใจเป็นความผิดของข้า ข้าขอโทษเจ้าเรื่องนี้”

 

 

หลิงอวี้จื้อยื่นมือออกไปโอบรอบคอเซียวเหยี่ยน

 

 

“ข้าไม่เป็นอะไร ข้าไม่ดีเอง”

 

 

“เหตุใดปฏิกิริยาแรกของเจ้าถึงไม่เชื่อข้า อวี้จื้อ ในใจเจ้าข้าเป็นคนเลือดเย็นไร้ความรู้สึกใช่หรือไม่”

 

 

หลิงอวี้จื้อซุกศีรษะเข้าไปในซอกคอของเซียวเหยี่ยน ในสายตาเธอเซียวเหยี่ยนกุมอำนาจความเป็นความตายเอาไว้ คงจะไม่เห็นชีวิตคนสำคัญอะไร ถึงแม้จะรักใคร่ทะนุถนอมเธอมาก แต่ก็ปฏิบัติเช่นนี้กับเธอเพียงผู้เดียวเท่านั้น