ตอนที่ 420 ใช้ยศอ๋องผู้สำเร็จราชการมาบีบข้าอีกแล้ว / ตอนที่ 421 ท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการที่ทำอาหารเป็น

ชายาหยุดเย้าข้าเสียทีเถิด

ตอนที่ 420 ใช้ยศอ๋องผู้สำเร็จราชการมาบีบข้าอีกแล้ว

 

 

เห็นเซียวเหยี่ยนฆ่าคน เธอจึงมีปฏิกิริยาเช่นนั้น ไม่ใช่ไม่เชื่อใจเซียวเหยี่ยน แต่เซียวเหยี่ยนเป็นคนเช่นนั้นอยู่แล้ว สำหรับเขา ชีวิตคนคนหนึ่งไม่ได้สำคัญอะไร เธอไม่เชื่อว่าเซียวเหยี่ยนจะเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิงเพราะเธอ

 

 

นี่ถือว่าเป็นช่องว่างระหว่างพวกเขา อารยธรรมห่างไกลกันตั้งสองสามพันปี เธอไม่รู้ว่าความแตกต่างกันเช่นนี้จะมีผลต่อการดำเนินชีวิตของพวกเธอในภายภาคหน้าหรือไม่

 

 

“ข้า…”

 

 

หลิงอวี้จื้ออยากบอกมากว่าใช่ แต่ก็พูดไม่ออก อ้ำๆ อึ้งๆ อยู่เช่นนี้ เหมือนไม่ว่าจะพูดอะไรก็ไม่ถูกต้อง

 

 

“อวี้จื้อ ข้ารู้ว่าเจ้ามีจิตใจเมตตา ไม่อยากทำร้ายผู้บริสุทธิ์ แต่บางคนก็เก็บไว้ไม่ได้ นี่ก็เป็นครั้งแรกที่ข้าใส่ใจผู้อื่น มีบางเรื่องที่ทำได้ไม่ดี เจ้าต้องให้เวลาข้าสักหน่อย ข้าจะค่อยๆ แก้ไขนิสัยต่างๆ ที่เคยเป็นเมื่อก่อน”

 

 

“เหตุใดต้องเปลี่ยนเล่า”

 

 

หลิงอวี้จื้อเงยหน้าขวับ มองเซียวเหยี่ยนงงๆ

 

 

เซียวเหยี่ยนประคองใบหน้าของหลิงอวี้จื้อ พูดข้างหูเธอด้วยเสียงต่ำเบาว่า

 

 

“ความรู้สึกของเจ้าสำคัญต่อข้ามาก ข้าไม่อยากให้เจ้าอยู่กับข้าอย่างไม่มีความสุข”

 

 

ความอบอุ่นซาบซ่านผ่านกลางใจ หลิงอวี้จื้อรู้สึกอบอุ่นในใจ คิดไม่ถึงว่าเซียวเหยี่ยนจะพูดเช่นนี้ เขาทำเพื่อเธอมามากมายแล้ว เธอไม่เคยคิดจะให้เซียวเหยี่ยนเปลี่ยน แต่คิดว่าตนเองจะค่อยๆ ปรับตัวเข้ากับเซียวเหยี่ยน

 

 

“ถ้าเปลี่ยนอีกก็จะไม่เหมือนท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการแล้ว ท่านไม่ต้องเปลี่ยน ข้าไม่เป็นอะไร ไม่เป็นอะไรจริงๆ ”

 

 

“ต่อหน้าเจ้าข้าเป็นเพียงสามีของเจ้า ไม่ใช่อ๋องผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ข้าก็ไม่คิดจะให้เจ้ามองข้าเป็นอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์”

 

 

หลิงอวี้จื้อหน้าแดงทันที

 

 

“ท่านยังไม่ได้สู่ขอข้าอย่างเป็นทางการ ยังไม่ถือว่าเป็นสามีของข้า อย่ามาเอาเปรียบข้านะ”

 

 

“ข้าบอกว่าใช่ก็ใช่”

 

 

หลิงอวี้จื้อจิ้มหัวเซียวเหยี่ยน

 

 

“เมื่อครู่ยังพูดอยู่เลยว่าตนเองไม่ใช่อ๋องผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ใช้ยศของอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์มาบีบข้าอีกแล้ว”

 

 

“ใช่หรือ”

 

 

ใครบางคนตีหน้าซื่อย้อนถาม

 

 

หลิงอวี้จื้ออดหัวเราะมิได้ ความรู้สึกไม่สบายใจมลายหายไปโดยไม่รู้ตัว พวกเขาต่างพยายามเข้าหาซึ่งกันและกัน ถึงแม้จะมีอารยธรรมที่ห่างกันสองสามพันปี ต้องมีสักวันที่เข้าหากันได้ เธอรู้ว่าเซียวเหยี่ยนเอาใจใส่เธอมากเหลือเกิน ความรู้สึกเช่นนี้ทำให้เธอมีความสุขมาก

 

 

หลิงอวี้จื้อยื่นมือออกไปดึงให้เซียวเหยี่ยนมานั่งข้างตนเอง ครั้นนึกถึงชาวบ้านตำบลเถาหยวนขึ้นมา สีหน้าก็หมองลงทันที

 

 

“อาเหยี่ยน จะปลอบขวัญชาวบ้านที่เหลืออย่างไรดี”

 

 

“เรื่องนี้ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ตอนนี้พวกเขายังไม่รู้เรื่อง ข้าจะให้จางผิงจัดการเรื่องพิธีศพของพวกเขาอย่างดี และจะมอบเงินให้ชาวบ้านที่เหลือสักหน่อย ให้พวกเขายังพอใช้ชีวิตปกติได้”

 

 

หลิงอวี้จื้อพยักหน้า

 

 

“อืม ครั้งนี้สำนักอู๋จี๋ทำร้ายชาวบ้านไปตั้งมากมาย อาเหยี่ยน หากมีโอกาสจับเจียงสือได้ จะต้องไม่ปล่อยนางไปแน่”

 

 

“สำนักอู๋จี๋ถูกทำลายสิ้นแล้ว เจียงสือพาคนออกไปแล้ว นางหนีไปได้เพียงชั่วระยะหนึ่ง แต่ไม่สามารถหนีไปได้ตลอดชีวิต แค่เพียงนางปรากฏตัว ข้าจะสับนางให้แหลกเป็นหมื่นชิ้น”

 

 

แววตาเซียวเหยี่ยนมีรังสีสังหารเข้มข้น เมื่อก่อนเขาไม่เคยสัมผัสกับสำนักอู๋จี๋ตรงๆ และไม่เห็นสำนักอู๋จี๋อยู่ในสายตาสักเท่าไร

 

 

ครั้งนี้ไปสำนักอู๋จี๋ด้วยตนเอง ถึงได้พบว่าสำนักอู๋จี๋มีอำนาจยิ่งกว่าที่จินตนาการไว้มาก ทั้งยังมีความสัมพันธ์อันซับซ้อนซ่อนเงื่อนกับทางราชสำนักอย่างเงียบเชียบ เมื่อก่อนเขาไม่เคยรู้สึกสัมผัสได้เลย เห็นได้ว่าคนที่อยู่เบื้องหลังนั้นปฏิบัติการได้อย่างแยบยลมาก

 

 

สำนักอู๋จี๋ได้หินอาตมันไป นี่แสดงให้เห็นว่าคนที่ติดต่อกับพวกเขามีฐานะระดับหนึ่ง แม้แต่ลูกสาวคนเล็กของตระกูลมู่หรงยังเป็นผู้คุมกฎของสำนักอู๋จี๋

 

 

หากไม่กำจัดสำนักอู๋จี๋ ก็จะทำให้เกิดหายนะไม่จบไม่สิ้น เขาต้องรีบหาตัวคนที่แอบสมรู้ร่วมคิดกับสำนักอู๋จี๋ให้เร็วที่สุด ถึงตอนนั้นก็จะถอนรากถอนโคนพวกมันให้สิ้นซากอีกครั้ง

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 421 ท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการที่ทำอาหารเป็น

 

 

“ท่านก็ต้องระวัง เจียงสือน่ากลัวมากจริงๆ ไม่รู้ว่าไปเรียนรู้วิธีการวิปริตต่างๆ มาจากไหน”

 

 

“ข้าไม่เป็นอะไร”

 

 

หลิงอวี้จื้อพูดพลางก็ตบหน้าผากตัวเอง

 

 

“โอ๊ยตาย มัวแต่คุยจนลืมกินข้าว เย็นนี้ส่งท้ายปีเก่า อย่างไรทุกคนก็มารวมตัวกันทานข้าวสักมื้อเถิด!

 

 

ท่านดูสิข้างนอกฟ้ามืดแล้ว เดิมทีข้าอยากทำกับข้าวให้ท่านกิน ให้ท่านได้ชิมฝีมือของข้า

 

 

นึกไม่ถึงว่าการทำกับข้าวสักอย่างจะยากเช่นนี้ กับข้าวที่ข้าทำ เอาเข้าปากไม่ได้เลย พวกนี้เป็นกับข้าวที่ป้าโจวทำ ท่านยังมีเข็มเงินอีกหรือไม่ ทดสอบสักหน่อย ดูว่ากับข้าวพวกนี้มีพิษหรือไม่”

 

 

“เอากับข้าวเหล่านี้ไปเททิ้งให้หมด ในครัวมีผักอีกหรือไม่ ข้าจะไปทำเอง”

 

 

หลิงอวี้จื้อสงสัยว่าตัวเองฟังผิด เซียวเหยี่ยนบอกว่าเขาจะไปทำกับข้าว ตายแล้ว หรือว่าเธอหูฝาด ผ่านไปค่อนวันกว่าจะมีสติกลับมา น้ำเสียงเต็มไปด้วยความเคลือบแคลงใจ

 

 

“เมื่อครู่ท่านบอกว่าท่านจะทำกับข้าวหรือ”

 

 

เซียวเหยี่ยนตอบรับเสียงเรียบ

 

 

“อืม”

 

 

“หิวแล้วใช่หรือไม่ เวลาก็สายมากแล้ว อวี้จื้อ เจ้ามาช่วยข้าล้างผักหน่อย”

 

 

เซียวเหยี่ยนพูดจบก็เดินไปทางห้องครัว หลิงอวี้จื้ออึ้งไปสักครู่ ก็รีบไล่ตามไป

 

 

“อาเหยี่ยน ท่านเอาจริงหรือ”

 

 

“ข้าเคยหลอกเจ้าเสียเมื่อไหร่”

 

 

เซียวเหยี่ยนไม่หยุดเดิน เข้าไปในห้องครัวแล้ว หลิงอวี้จื้อตามเข้าห้องครัวไป สมองยังคงมึน นึกไม่ถึงว่าท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์จะทำอาหารเป็น เรื่องนี้ถ้าแพร่ออกไปจะต้องกลายเป็นข่าวสะเทือนเมืองหลวง ใครก็นึกไม่ถึงว่าท่านอ๋องจะเข้าครัว ท่าทางดูเป็นการเป็นงาน ไม่เหมือนมือใหม่เลยสักนิด

 

 

ยุคสมัยนี้ หากเป็นชาวบ้านทั่วไป ผู้หญิงจะเป็นฝ่ายทำกับข้าว หากเป็นชนชั้นสูง แม่ครัวจะเป็นคนทำกับข้าว ขอเพียงมีคฤหาสถ์บ้านหลังใหญ่ก็จะมีแม่ครัว แต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยมีคุณชายหรือคุณหนูลูกขุนนางคนไหนเข้าครัวทำกับข้าว เซียวเหยี่ยนเกิดในจวนซีหนานอ๋อง นับว่าชาติกำเนิดสูงมากแล้ว นึกไม่ถึงเลยจริงๆ ว่าเขาจะเรียนทำกับข้าวได้อย่างไร

 

 

เซียวเหยี่ยนหยิบแครอทขึ้นมาหั่น ท่าทางชำนาญมาก ไม่นานก็หั่นแครอทเป็นเส้น หลิงอวี้จื้อยืนมองจนตะลึงไปเลย ยิ่งดูก็ยิ่งรู้สึกว่าเซียวเหยี่ยนหล่อมาก มิน่าคนอื่นถึงบอกว่าผู้ชายทำอาหารเป็นจะหล่อเป็นพิเศษ ตอนนี้ในสายตาของเธอเซียวเหยี่ยนเป็นหนุ่มหล่อทุกมุม ทั้งสามร้อยหกสิบห้าองศา

 

 

“อวี้จื้อ ข้ารู้ว่าเจ้าสงสัย ว่าข้าเรียนทำกับข้าวเป็นตั้งแต่เมื่อไหร่ เมื่อก่อนแม่ข้าทำกับข้าวให้ท่านพ่อเป็นประจำ ฝีมือทำอาหารดีมาก แม่ข้าสอนสิ่งเหล่านี้แก่ข้าเอง

 

 

เมื่อท่านแม่ไปแล้ว ทุกครั้งที่ถึงวันเกิดของนางและวันเกิดของข้า ข้าก็จะเข้าครัวที่จวน ท่านแม่เคยบอกว่า อาจจะมีสักวันที่ข้าจะได้พบกับผู้หญิงที่ข้ายินดีเข้าครัวเองเพื่อนาง

 

 

เดิมทีคิดว่าทั้งชีวิตนี้จะไม่พบผู้หญิงเช่นนี้อีกแล้ว คิดไม่ถึงว่าจะเจอเจ้า อวี้จื้อ เพื่อเจ้าแล้ว ไม่ว่าเรื่องใดที่ต้องถอดยศออก ข้าก็ยินดีทำ”

 

 

เซียวเหยี่ยนก้มหน้าหั่นผัก หั่นไปพูดไป ใจของหลิงอวี้จื้อรู้สึกอบอุ่น เหมือนมีอะไรมาเติมใจของเธอจนเต็ม

 

 

ทำอย่างไรดี ยิ่งนานวันยิ่งรักเซียวเหยี่ยนมากขึ้นทุกที ยิ่งคลุกคลีกันนาน เซียวเหยี่ยนยิ่งทำให้เธอประหลาดใจมากยิ่งขึ้น เข้ามายึดพื้นที่ในใจเธอมากยิ่งขึ้น ทำให้เธอยิ่งไปจากเซียวเหยี่ยนไม่ได้

 

 

“ใครสอนท่านพูดสิ่งเหล่านี้ เดี๋ยวนี้แค่อ้าปากก็พรั่งพรูออกมาเองแล้ว”

 

 

หลิงอวี้จื้อก้มหน้าล้างมันฝรั่งในอ่างไม้ เส้นผมยาวตกลงมา ขนตาดกยาวสั่นไหว เซียวเหยี่ยนเงยหน้าขึ้นมาเป็นระยะๆ เห็นหน้าด้านข้างของหลิงอวี้จื้อ แอบหวั่นไหวในใจ รอยยิ้มมุมปากเป็นรอยลึกขึ้นเรื่อยๆ ไม่นานก็หั่นผักต่อ

 

 

มุมปากของเซียวเหยี่ยนแฝงรอยยิ้ม

 

 

“ข้าไม่ต้องมีใครสอน”

 

 

“ท่านอ๋องไม่เหมือนใครเลย พรสวรรค์มากล้น เรียนเองก็เก่งได้”

 

 

เซียวเหยี่ยนได้แต่หัวเราะ ไม่ได้พูดต่อ ไม่นานแครอทก็ลงกระทะได้แล้ว เซียวเหยี่ยนพลิกตะหลิวอย่างเชี่ยวชาญ เห็นเขาเคลื่อนไหวชำนาญอย่างนี้ คราวนี้หลิงอวี้จื้อเชื่อแล้วจริงๆ ว่าเซียวเหยี่ยนทำกับข้าวเป็น