ภาค 4 กวาดล้างหมื่นลี้ บทที่ 362 ได้เปรียบโดยมิต้องรบ

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี

ไม่ใช่ว่าคนหนุ่มสาวทุกคนจะเป็นเหมือนเยี่ยนจ้าวเกอ ที่มีชื่อเสียงโด่งดังจนแทบทุกคนทั่วโลกแปดพิภพจนต้องรู้จักเขา

ต่อให้เป็นคนธรรมดาที่ไม่ได้ฝึกวรยุทธ์ ต่อให้ไม่เคยเห็นหน้าตาของเยี่ยนจ้าวเกอ ก็ต้องได้ยินชื่อของเขามาบ้าง

เยี่ยนจ้าวเกอเป็นบุคลที่โดดเด่นและโด่งดังที่สุดแห่งยุคในบรรดาคนหนุ่มสาว และบัดนี้ก็สามารถใช้คำว่ามีชื่อเสียงเลื่องระบือมาบรรยายได้แล้ว

จอมยุทธ์ในโลกแปดพิภพ นอกจากจอมยุทธ์ที่ละทางโลกแล้ว แม้จะเป็นคนที่อาศัยอยู่นอกทะเล ต่างก็รู้จักเยี่ยนจ้าวเกอเป็นอย่างดี คนส่วนใหญ่เคยเห็นภาพเหมือนของเยี่ยนจ้าวเกอที่เผยแพร่ไปทั่วมาก่อน

ส่วนซือคงจิง เมื่อเทียบกันแล้ว คนที่รู้จักนางมีน้อยยิ่ง

แต่ก็เพราะเทียบกับเยี่ยนจ้าวเกอเท่านั้น

ความจริงแล้วซือคงจิงเคยเข้าร่วมประชุมฝ่านภา ในฐานะอัจฉริยะศิษย์รุ่นหลังของเขากว่างเฉิง และมีจอมยุทธ์ระดับสูงจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ถูกใจนางเข้า

ขุมกำลังลำดับหนึ่งและลำดับสองล้วนไล่ตามฝีเท้าของแดนศักดิ์สิทธิ์อย่างกระชั้นชิด

ซือคงจิงมีพรสวรรค์ในด้านวรยุทธ์ล้ำเลิศ รูปลักษณ์ของนางก็โดดเด่น ทำให้คนยากลืมเลือน

หากเป็นเช่นนี้ คนที่มีรูปลักษณ์เหมือนนางแทบไม่ผิดเพี้ยน ไม่ฝึกวรยุทธ์ก็ช่างเถิด แต่ขอแค่เข้าตาของจอมยุทธ์ที่มีระดับค่อนข้างสูง ไม่ว่าจะบุรุษหรือสตรีล้วนได้รับความสนใจทั้งสิ้น

นอกจากเขากว่างเฉิงที่ครอบครองนภาพิภพ และวายุพิภพที่พวกเขาครอบครองไปแล้วครึ่งหนึ่ง สถานที่อื่นนอกเหนืออัคคีพิภพและอัสนีพิภพ ถ้าหากมีการค้นพบใดในภูผาพิภพ วารีพิภพ บึงพิภพ ล้วนต้องแจ้งเบาะแสให้เขากว่างเฉิงรับทราบ

สถานที่ห่างไกลอย่างทะเลชั้นนอก ดินแดนศักดิ์สิทธิ์อื่นขยายอิทธิพลไปไม่ถึง อีกทั้งยังมีผู้อาวุโสโม่อยู่ด้วย จึงทำให้สถานที่นั้นเท่ากับมีสภาพปิดตาย

พลังของซือคงจิงในปัจจุบันยังไม่อาจทำให้จอมยุทธ์ในทะเลชั้นนอกรู้ถึงการมีอยู่ของนางได้

ขณะเดียวกัน หากคนอย่างโอวหยางฉีกับฉางหนิงปรากฏตัวขึ้นที่นี่ บนแผ่นดินหรือกระทั่งเมืองทะเลมรกตแห่งวารีพิภพ ก็คงยากที่จะพบตัวพวกเขา

เยี่ยนจ้าวเกอมองซือคงจิง

ถ้าหากเป็นไปตามที่ตนคาดเดาไว้ ว่ามี ‘ซือคงจิง’ อยู่มากมายจนเหนือจินตนาการ คนเหล่านี้น่าจะเป็นคนที่มีอายุเท่ากัน และอยู่ในยุคเดียวกัน ทั้งยังอยู่ในโลกแปดพิภพเช่นเดียวกัน ตามเหตุผลแล้วเป็นไปไม่ได้เลยที่จะไม่มีข่าวอะไรเล็ดรอด

ชายหนุ่มรู้สึกว่าคนที่ใช้ชีวิตธรรมดาอย่างเงียบๆ ไม่ได้เข้าสู่ยุทธภพ ก็ไม่น่าจะมีเยอะเท่าไรนัก

ในเมื่อเป็นเช่นนี้ แล้ว ‘ซือคงจิง’ พวกนั้นไปอยู่ที่ใด

เขาลูบคาง ‘หลังจากวิกฤติการณ์ครั้งใหญ่ เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่

ยังไม่นับนพยมโลกที่รุกรานมาจากทั่วทุกสารทิศ โลกแปดพิภพไม่ชอบติดต่อกับใคร นอกจากโลกของปีศาจอัคคีแล้ว ก็ไม่ได้ไปมาหาสู่โลกอื่น ทำให้เยี่ยนจ้าวเกอไม่ทราบถึงสภาพแวดล้อมด้านนอกโลกแปดพิภพในปัจจุบันมากนัก

เยี่ยนจ้าวเกอส่ายศีรษะ เพื่อจดจ่ออยู่กับซือคงจิงกับโอวหยางฉีที่อยู่ตรงหน้า

เขามองโอวหยางฉี จากนั้นมองฉางหนิง สุดท้ายเขาก็เบะปากเล็กน้อย

ดูเหมือนตอนนี้พวกเขาศิษย์อาจารย์จะพบปัญหาโดยบังเอิญ กำลังคลำทางกันอยู่ ยังไม่เข้าใจอะไรมากนัก

เยี่ยนจ้าวส่ายหน้า ให้อาหู่คุมตัวโอวหยางฉีไว้ จากนั้นทุกคนก็ออกจากทะเลชั้นนอก เดินทางกลับวารีพิภพ

ครั้งนี้ซือคงจิงออกเดินทางเพื่อฝึกฝน ตามแผนในตอนแรกของนาง ยังห่างจากเวลากลับอีกไกลนัก

เมื่อเยี่ยนจ้าวเกอพาตัวนางกลับในตอนนี้ นางจึงรู้สึกไม่พอใจอยู่บ้าง

แต่หลังจากผ่านเรื่องสังหารฉางหนิง ทั้งยังได้พบโอวหยางฉี ทำให้นางรู้สึกสับสนอย่างยิ่ง ต้องการหาสถานที่สงบสติก่อน

ซือคงจิงไม่ใช่ไม่เคยฆ่าคน แต่ความรู้สึกที่ได้ฆ่าคู่ต่อสู้ที่มีใบหน้าละม้ายตนเอง แน่นอนว่าไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นได้บ่อยๆ

เยี่ยนจ้าวเกอมองซือคงจิงด้วยความสนอกสนใจ

ขณะที่นางยังคงไม่ได้สติกลับมาเต็มที่ นางไม่ออมมือแม้กระทั่งในวินาทีเป็นตายเช่นนั้น ความแน่วแน่นี้ควรค่าแก่การกล่าวถึงจริงๆ

ถึงอย่างไรฉางหนิงก็เติบโตขึ้นมาพร้อมกับโอวหยางฉี ทั้งยังเคยเห็นศพพองชาวประมงที่ตายเพราะอุบัติเหตุมาก่อน

แต่ซือคงจิงเจอคนแบบนี้เป็นครั้งแรก

ฉางหนิงมีการเตรียมใจที่ดีมากกว่าซือคงจิง นางสามารถลงมือได้โดยไม่ลังเลและแปลกใจ ทว่ากลับไม่ง่ายเลยสำหรับซือคงจิง

ซือคงจิงหันหน้าไปมองเยี่ยนจ้าวเกอ นางลังเลเงียบๆ ไปครู่หนึ่ง ก่อนจะถามว่า “ศิษย์พี่เยี่ยน ท่านมีความรู้กว้างขวาง เคยได้ยินสถานการณ์ที่เหมือนของข้ามาก่อนหรือไม่”

เยี่ยนจ้าวเกอยิ้มเล็กน้อย “ทำให้เจ้าผิดหวังแล้ว ข้าเองก็ไม่ใช่ว่ารู้ทุกสิ่งทุกอย่าง”

“เพียงแต่ยิ่งเจ้ารู้มาก เจ้าก็ยิ่งต้องคิดวิเคราะห์ให้มาก แต่เรื่องในตอนนี้ยังมีเงื่อนงำน้อยเกินไป”

ชายหนุ่มมองซือคงจิง ในสมองของเขามีการคาดเดาต่างๆ ผุดขึ้นมาก็จริง แต่ทว่าส่วนใหญ่แล้วถูกเขาปัดทิ้ง

“ศิษย์น้องซือคง ถึงแม้ว่าจะเป็นเรื่องส่วนตัวของเจ้า แต่เรื่องนี้น่าจะเกี่ยวพันถึงปราชญ์ภาพวาดด้วย ดังนั้นเรื่องนี้ข้าต้องรายงานกับสำนัก”

เมื่อได้ยินคำพูดของเยี่ยนจ้าวเกอแล้ว ซือคงจิงก็พยักหน้า “ข้าเข้าใจ”

ขณะที่ทุกคนเดินทางอยู่ ดวงตาข้างขวาของเยี่ยนจ้าวเกอพลันมีสายฟ้าสีม่วงสว่างวาบขึ้น

เขาหันหน้าไปมองทางสถานที่แสนไกล มีสีหน้าคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม ก่อนจะกล่าวเรียบๆ “อาหู่ เจ้าพาทุกคนไปก่อน ข้าจะรีบตามไป”

อาหู่ยิ้มซื่อ “ขอรับคุณชาย”

ทุกคนนั่งบนตัวพ่านพ่าน พริบตาเดียวก็พุ่งบนผิวทะเลไปไกล

เยี่ยนจ้าวเกอไพล่มือไว้ด้านหลัง ยืนอยู่เหนือทะเลอย่างสบายอารมณ์

ไม่ทันไร ทิศทางที่อยู่ไกลออกไปก็ปรากฏลมปราณอันยิ่งใหญ่ ประกายกระบี่วาดผ่านท้องฟ้าพุ่งมาตรงหน้าเฉกเช่นรุ้งกินน้ำ

“เป็นลูกศิษย์ของปราชญ์ภาพวาดแห่งเกาะภาพวาด ศิษย์ของ ‘รุ้งข้ามทะเล’ กระมัง” เยี่ยนจ้าวเกอเอ่ยถามในท่าทางเดิม

แม้เขาจะพูดด้วยเสียงที่ไม่ดังนัก แต่กลับดังสะท้อนพุ่งสูงขึ้นสู่ท้องนภา ลมปราณของเขาสูงส่งดั่งเซียนสวรรค์ นับเป็นการแสดงฝีมือของศิษย์สืบทอดสายตรงแห่งสำนักเขากว่างเฉิง ที่ฝึกฝนลมปราณบรรลุระดับลึกซึ้งแล้ว

ประกายกระบี่ที่เหมือนรุ้งกินน้ำหยุดลง ปรากฏมหาปรมาจารย์วัยกลางคนขั้นกำเนิดญาณคนหนึ่ง

บุรุษวัยกลางคนผู้นี้มองดูเยี่ยนจ้าวเกออย่างละเอียด จากนั้นก็กล่าวช้าๆ “เป็นคุณชายแห่งกว่างเฉิง เยี่ยนจ้าวเกอกระมัง ข้าชื่อเฉินฉี ‘รุ้งข้ามทะเล’ เป็นอาจารย์ข้า”

บัดนี้ทะเลชั้นนอกอยู่นอกเหนือการควบคุมของเขากว่างเฉิง ทว่าก็พอจะมีอำนาจบารมีอยู่บ้าง

โดยเฉพาะก่อนที่หยวนเจิ้งเฟิงจะบรรลุระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ สงครามกว่างเฉิงได้ทำลายและสะกดข่มสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์ ทำให้ชื่อเสียงของเขากว่างเฉิงโด่งดังกว่าเดิม

ส่วนสถานะและชื่อเสียงของเยี่ยนจ้าวเกอก็ทำให้เฉินฉีไม่อาจดูถูกเขาเพราะอายุได้

ยิ่งไปกว่านั้น มิต้องเอ่ยถึงสำนักที่อยู่เบื้องหลัง การเดินทางไปที่ราบหิมะแดนเหนือของเยี่ยนจ้าวเกอ เขาสังหารปรมาจารย์ขั้นรูปญาณไปหลายคน แม้ตำหนักอัสนีสวรรค์จะพยายามปิดบังไว้ แต่ก็ยังมีข่าวหลุดรอดออกมาอยู่ดี

เยี่ยนจ้าวเกอที่แข็งแกร่งอยู่แล้วเป็นทุนเดิม บัดนี้ไม่มีใครมองว่าเขาเป็นมหาปรมาจารย์ขั้นซ่อนจิตทั่วๆ ไปอีกแล้ว

บัดนี้เฉินฉีถึงแม้จะอายุมาก พลังฝึกปรือสูงส่ง อีกทั้งที่ตรงนี้ยังเป็นถิ่นของเขาอีก ทว่าเมื่อได้ประจัญหน้ากับเยี่ยนจ้าวเกอที่จู่ๆ ก็โผล่มา ในใจของเขาก็รู้สึกหวั่นไหวอยู่บ้าง

ชายหนุ่มไม่รีบไม่ร้อน กล่าวอย่างเรียบเฉย “ข้าไม่ขอเสียมารยาท บอกท่านตามตรง พอเห็นประกายกระบี่จากท่ากระบี่รุ้งเลือนของท่าน ข้าจึงเดาได้ว่าท่านเป็นศิษย์ของปราชญ์ภาพวาด ความจริงข้ามีเรื่องจะขอร้อง”

เฉินฉีกล่าว “หากต้องการจะขอร้องล่ะก็ คุณชายพูดได้เต็มที่”

เยี่ยนจ้าวเกอพยักหน้า “ศิษย์น้องคนหนึ่งของข้าเดินทางอยู่บนทะเลชั้นนอกเพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ หลายวันก่อนหน้าได้ยินว่ามีคนสร้างความลำบากให้นาง ดังนั้นข้าในฐานะศิษย์พี่จึงมาตรวจสอบดู”

“ข้าได้ไปดูสถานที่ที่ทั้งสองฝ่ายสู้กันมาแล้ว วรยุทธ์ที่อีกฝ่ายใช้ยอดเยี่ยมยิ่ง แทบจะไม่ด้อยกว่าลูกศิษย์จากแดนศักดิ์สิทธิ์เลย”

สีหน้าของเฉินฉียังคงไม่เปลี่ยนแปลง ทว่าแววตาของเขากลับวูบไหวคล้ายไม่สบายใจ เยี่ยนจ้าวเกอกล่าวถามด้วยรอยยิ้ม “ท่านปราชญ์ภาพวาดกับเหล่าศิษย์อยู่ที่ทะเลชั้นนอกคงคุ้นเคยกับเรื่องราวของที่นี่ดี ข้าอยากขอคำแนะนำสักเล็กน้อย นอกจากสำนักปราชญ์ภาพวาดแล้ว ที่ทะเลชั้นนอกยังมียอดฝีมือคนใดที่มีวรยุทธ์ที่ล้ำเลิศเช่นนี้บ้าง”

……………