บทที่ 1578 – สังหาร การมาถึงของมนุษย์เงือกมังกรสมุทรทองคำ

Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล

บทที่ 1578 – สังหาร การมาถึงของมนุษย์เงือกมังกรสมุทรทองคำ

 

วัตถุประสงค์ของเขาสำเร็จแต่อสูรสยบมังกรนั้นยังคงไม่สามารถทำให้ราชันย์ฉลามได้รับบาดเจ็บไปมากกว่านี้ได้ เดิมทีแผนการของเขาคือใช้อัสนีจู่โจมของอสูรอัสนีคลั่งและวังหารศัตรูแต่เขาประเมินพลังของราชันย์ฉลามผลึกม่วงต่ำเกินไป

 

สำหรับอสูรสยบมังกรนั้นยังคงปะทะกับราชันย์ฉลามผลึกม่วงอย่างต่อเนื่อง นี่ไม่ใช่แค่เพราะพลังของอสูรอัสนีคลั่งแต่เป็นเพราะชิงสุ่ยลดความเร็วของมันลงไปมากกว่าครึ่งแล้ว

 

ร่างกายสีม่วงขนาดใหญ๋ของราชันย์ฉลามผลึกม่วงเปล่งแสงสีม่วงออกมา มันงดงามมากทีเดียว

 

โฮก…

 

ชิงสุ่ยไม่รู้ว่าฉลามในชีวิตก่อนหน้านี้ของเขานั้นคำรามได้หรือไม่ แต่ฉลามยักษ์ตรงหน้าเขานั้นสามารถคำรามได้อย่างน่าสะพรึงกลัว…

 

พวกมันสามารถอยู่ได้โดยไม่ต้องมองและรับรู้ถึงศัตรูจากการรับรู้ทางจิตวิญญาณ การสัมผัส และการดมกลิ่น แต่สัตว์อสูรส่วนใหญ่นั้นมีตาพิเศษอยู่ พวกมันสามารถมองเห็นสิ่งต่างๆได้ด้วยการรับรู้ทางจิตวิญญาณอย่างชัดเจน

 

อสูรสยบมังกรคำรามออกมาเบาๆขณะที่มันพุ่งเข้าไปหาราชันย์ฉลามผลึกม่วงราวกับดาวตกขนาดย่อมๆ

 

กฏแห่งพระราชวังเก้าเทวา กฎแรงโน้มถ่วง!

 

ผนึกคลื่นเมฆาผกผัน น้ำวน!

 

ชิงสุ่ยลดความเร็วของราชันย์ฉลามผลึกม่วงไปถึงครึ่งหนึ่ง เขาโจมตีไปอย่างต่อเนื่องด้วยง้าวทองทะลวงศัตรูขณะที่อสูรอัสนีคลั่งก็โจมตีด้วยอัสนีกัมปนาท

 

แม้ว่าสิ่งเหล่านี้ดูเหมือนจะใช้เวลานานแต่ก็เกิดขึ้นเพียงอึดใจเดียว บางทีอาจเป็นเพราะราชันย์ฉลามผลึกม่วงนั้นประเมินพลังของชิงสุ่ยต่ำเกินไปมันจึงได้รับบาดเจ็บหนัก

 

เป้าหมายของชิงสุ่ยในตอนนี้ไม่ใช่ทำให้ศัตรูบาดเจ็บแต่เพื่อการรบกวนศัตรูให้มากที่สุด ราชันย์ฉลามผลึกม่วงลดความเร็วของตนเองลงไปอีกเพื่อที่จะเพิ่มพลังของมันให้มากที่สุด ดูเหมือนว่าความต่างด้านความเร็วในตอนนี้จะมากยิ่งนัก

 

ปัง!

 

อสูรสยบมังกรใช้กรงเล็บโจมตีไปที่ร่างกายของราชันย์ฉลามผลึกม่วงแต่มันก็กระเด็นออกมาทันที นี่เป็นหนึ่งในจุดเด่นของราชันย์ฉลามผลึกม่วง สิ่งที่โจมตีเข้ามาจะได้รับพลังโจมตีที่รุนแรงสวนกับไป

 

ปกติแล้วเขาจะไม่ใช้ความสามารถนี้จนกว่าจะถึงเวลาที่ได้รับพลังโจมตีที่อาจทำให้บาดเจ็บหนักได้นี่เป็นเพียงความสามารถในการรักษาชีวิตเท่านั้น ก่อนหน้านี้ที่เขาไม่ใช้ก็เพราะว่าการโจมตีมาที่ดวงตาของชิงสุ่ยและอสูรสยบมังกรนั้นไม่ได้รุนแรงถึงตาย ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ใช้ความสามารถนี้ออกมา

 

เมื่อได้รับบาดเจ็บเพิ่มขึ้นความสามารถทางด้านร่างกายของเขาก็ลดลงไปอย่างต่อเนื่อง

 

การโจมตีของชิงสุ่ยส่งผลเฉพาะส่วนที่อ่อนแอเช่นดวงตาของเขาเท่านั้น หากโจมตีไปที่อื่นย่อมไม่สามารถทำอะไรได้

 

หุบเขา 9 เทวาก็โจมตีอย่างต่อเนื่องและคอยป้องกันอสูรสยบมังกร หุบเขา 9 เทวาในตอนนี้ถือเป็นภัยคุกคามต่อราชันย์ฉลามผลึกม่วง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมันโจมตีเข้ามายัง “ส่วนที่สำคัญ” ระหว่างขาทั้งสองข้างของเขา

 

แม้ว่าราชันย์ฉลามผลึกม่วงจะไม่สามารถรับรู้ได้ว่าหุบเขา 9 เทวาจะโจมตีมาเมื่อไร เขาไม่กล้าที่จะทำอะไรและทำได้เพียงป้องกันการโจมตีที่เข้ามาของชิงสุ่ยในขณะเดียวกันก็ต้องหวาดระแวงกับการโจมตีของอสูรสยบมังกรที่ไม่รู้จะมาเมื่อไหร่

 

หุบเขา 9 เทวาและอสูรอัสนีคลั่งประสานงานกันได้อย่างยอดเยี่ยม ชิงสุ่ยและอสูรสยบมังกรก็โจมตีไฟอย่างบ้าคลั่ง เขาใช้เคล็ดพลังศักดิ์สิทธิ์กลั่นหลอมเบญจธาตุและง้าวทองทะลวงศัตรูในการโจมตีศัตรูอย่างต่อเนื่อง

 

ฝ่ามือราชันย์ราชสีห์!

 

ตราประทับซวนเทียน!

 

เครื่องรางแห่งสวรรค์!

 

……

 

เมื่อเวลาผ่านไปอาการบาดเจ็บบนร่างของราชันย์ฉลามผลึกม่วงก็เพิ่มมากขึ้นส่วนใหญ่นั้นเกิดขึ้นเพราะอสูรสยบมังกร หุบเขา 9 เทวานั้นก็มีส่วนเช่นกันเพราะมันทำให้อสูรสยบมังกรนั้นสามารถแสดงพลังออกมาได้อย่างเต็มที่

 

โฮก!

 

ร่างของราชันย์ฉลามผลึกม่วงมีขนาดเล็กลงจนกระทั่งมันมีขนาดใหญ่เป็น 2 เท่าของมนุษย์เท่านั้น เพียงแต่กล้ามเนื้อของมันนั้นดูแข็งแกร่งดุจเหล็กกล้าและพลังภายในร่างกายของมันนั้นพร้อมระเบิดออกมาได้ตลอด

 

ดวงตาทั้งสองข้างของเขาเปลี่ยนเป็นสีม่วง เขาไม่สามารถมองเห็นได้ในตอนนี้แต่ใช้หูขนาดใหญ่และการรับรู้ทางจิตวิญญาณรับรู้ได้ถึงอันตรายที่เข้ามา

 

ในแดนทะเลน้ำเเข็งนั้นเขาถือเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดคนหนึ่ง แดนทะเลน้ำเเข็งนั้นกว้างใหญ่ยิ่งนักแต่ไม่เคยมีผู้ใดที่สามารถต่อกรกับเขาได้ ดังนั้นเขาจึงทำตัวยโสโอหังมาโดยตลอด…

 

ชิงสุ่ยมองไปยังดวงตาทั้ง 2 ข้างของเขาที่เป็นหลุมไปในตอนนี้ อสูรสยบมังกรได้พยายามโจมตีไปที่ดวงตาอีกครั้งแต่ก็ไม่สำเร็จ เมื่อได้ใกล้ศัตรูอีกครั้งชิงสุ่ยสั่งให้หนอนไหมมังกรทองทะลวงเข้าไปยังร่างกายของศัตรูผ่านทางดวงตาของเขา

 

ชิงสุ่ยไม่รู้ว่าจะสำเร็จหรือไม่แต่หนอนไหมมังกรทองนั้นมีความสามารถที่น่ากลัวยิ่งนัก แม้ว่ามันจะไม่ได้ผลเขาก็อยากที่จะลองใช้วิธีนี้ดู

 

ชิงสุ่ยต้องการที่จะจบการต่อสู้นี้ให้เร็วที่สุด เขาไม่ได้ใช้หนอนไหมมังกรทองมาเป็นเวลานานแล้ว เพราะตอนนี้การโจมตีของอสูรสยบมังกรนั้นไม่ได้ผล  หนอนไหมมังกรทองยังคงมีรูปรักเหมือนดังเดิม

 

มันเข้าไปข้างในแล้ว!

 

ชิงสุ่ยตกตะลึงไปในตอนนี้และราชันย์ฉลามผลึกม่วงก็ชกมาที่เขาทำให้เขากระเด็นลอยไปและกระอักเลือดออกมา การบาดเจ็บครั้งนี้ไม่ได้แรงมากนัก พลังของชิงสุ่ยในตอนนี้โดยเฉพาะพลังป้องกันของเขานั้นน่ากลัวยิ่งนักและราชันย์ฉลามผลึกม่วงก็โดนลดลงไปมากมายเช่นกัน นี่จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เขาได้รับบาดเจ็บหนัก

 

โฮก!

 

ต่อจากนั้นราชันย์ฉลามผลึกม่วงก็คำรามออกมาพร้อมกับเอามือกุมไปที่ศีรษะของตนเอง เสียงกรีดร้องด้วยความทรมานของเขาทำให้ผู้คนที่อยู่โดยรอบสั่นด้วยความกลัว ทุกๆคนของพระราชวังมังกรสมุทรและพระราชวังฉลามอสูรที่ต่อสู้อยู่ใกล้ๆเริ่มรู้สึกหวาดกลัว พวกเขาทั้งหมดรับรู้ได้ว่าอาการบาดเจ็บครั้งนี้ต้องรุนแรงอย่างแน่นอน

 

เสียงกรีดร้องยังคงดังไปอย่างต่อเนื่องทันใดนั้นมนุษย์เงือกมังกรสมุทรทองคำก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าของชิง กลิ่นอายที่ปลดปล่อยออกมาของเขานั้นไม่ได้ด้อยไปกว่าราชันย์ฉลามผลึกม่วงเลย

 

นี่คือผู้ที่ทรงพลังที่สุดคนหนึ่งของพระราชวังมังกรสมุทร

 

This มนุษย์เงือกมังกรสมุทรทองคำ seemed the same as others, but golden armor-like dragon scales flickered on his body, which made him the odd one out in the crowd of มังกรสมุทร.

 

รูปลักษณ์ของมนุษย์เงือกมังกรสมุทรทองคำนั้นดูชาญฉลาดและหล่อเหลา เขาปลดปล่อยกลิ่นอายที่ทรงพลังออกมาในขณะที่ร่างกายของเขานั้นคล้ายคลึงกับมนุษย์อย่างยิ่ง เขาไม่ได้ดูแข็งแรงกำยำแต่รับรู้ได้ถึงพลังที่อยู่ภายในร่างกาย

 

เขาได้เห็นราชันย์ฉลามผลึกม่วงที่ได้ตายไปทันทีที่เขามาถึง

 

เปลวเพลิงแห่งความแค้นปรากฏขึ้นในดวงตาของเขา ไม่ว่าความสัมพันธ์ระหว่างพระราชวังมังกรสมุทรและพระราชวังฉลามอสูรจะเป็นเช่นไรแต่พวกเขาก็ถือว่าสนิทสนมกัน หลังจากที่ได้ร่วมงานกันมานานหลายปีพวกเขาก็ได้เข้าใจซึ่งกันและกัน พวกเขาถือเป็นมิตรสหายที่ใกล้ชิดกันและไม่ได้สนใจเรื่องของพระราชวังมังกรสมุทรและพระราชวังฉลามอสูรมานานหลายปี ที่พวกเขาปรากฏขึ้นในครั้งนี้ก็เพราะไม่อยากให้เผ่าพันธุ์ของตนเองนั้นโดนทำลายจนหมดสิ้น ณ ที่แห่งนี้

 

แต่ผลที่ออกมานั้นกลับเกินกว่าที่เขาคาดคิดไว้มากนัก

 

มันทำให้สหายสนิทเพียงคนเดียวในชีวิตของเขาต้องจากไป ตราบใดที่พวกเขายังอยู่ด้วยกันแดนทะเลน้ำเเข็งย่อมปลอดภัย หากมีใครสักคนกล้าที่จะโจมตีที่อย่างนี้พวกเขาทั้งสองคนก็สามารถร่วมมือกันเพื่อปกป้องดินแดนแห่งนี้ได้

 

เดิมทีผู้อาวุโสของพระราชวังทะเลราชันย์นั้นก็อยู่ในระดับเดียวกันกับทั้งสองคนนี้ แต่ด้วยตัวตนของเผ่านาคาเร้นลับมันจึงเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะสามารถอยู่ด้วยกันได้อย่างสงบสุข ความเกลียดชังในวันนี้ต่างก็เริ่มขึ้นเพราะพ่อของมู่หยุน ชิงเฉิง

 

มนุษย์เงือกมังกรสมุทรทองคำและราชันย์ฉลามผลึกม่วงไม่ได้โจมตีเหล่ารุ่นเยาว์ หลังจากที่พ่อแม่ของมู่หยุน ชิงเฉิงได้ตายไป พวกเขาจะไม่ข้องเกี่ยวกับการต่อสู้ใดๆของรุ่นเยาว์

 

หนอนไหมมังกรทองกลับมาหาชิงสุ่ยและดูเหมือนมันจะเปลี่ยนไปหลังจากที่ได้กลืนกินพลังอันมหาศาลเข้าไป

 

หลังจากที่มันกลับไปยามสระโลหิตแก่นแท้ มันก็สื่อสารกับชิงสุ่ยทางจิตวิญญาณว่าอย่าเรียกมันออกมาในตอนนี้

 

“คาดไม่ถึงเลยว่าเจ้าจะฆ่าเขาได้” มนุษย์เงือกมังกรสมุทรทองคำมองไปยังชิงสุ่ยด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความแค้น

 

“หากมีคนต้องการที่จะฆ่าเจ้า แล้วเจ้าจะทำเช่นไร?” ชิงสุ่ยกล่าวขึ้น

 

หากเป็นคนอื่นเขาก็คงจะไม่มีปฏิกิริยาเช่นนี้แต่นี่เป็นสหายที่สนิทของเขา มนุษย์เงือกกล่าวขึ้นมาช้าๆว่า “ข้าจะไม่ปล่อยเจ้าไปในวันนี้”

 

เขารู้สึกเหงาในหัวใจเป็นอย่างยิ่ง มนุษย์เงือกมังกรสมุทรทองคำนั้นมีชีวิตอยู่มาเป็นเวลานาน ผู้ที่เหมือนกับเขาและอยู่ในระดับเดียวกันกับเขานั้นมีเพียงราชันย์ฉลามผลึกม่วง แม้แต่ในโลก 9 มหาทวีปก็ยากยิ่งนักที่จะหาคนที่อยู่ในระดับเดียวกับเขาได้

 

“เจ้าต้องการฆ่าข้างั้นหรือ? ผู้ใดแข็งแกร่งกว่ากันระหว่างเจ้ากับเขา?” ชิงสุ่ยหัวเราะออกมา ในตอนนี้อีเย่ เจี้ยนเก้อและมู่หยุน ชิงเฉิงต่างก็กลับมาที่นี่พร้อมกับยอดฝีมือของพระราชวังทะเลราชันย์จำนวน 1

 

ชิงสุ่ยยังคงจ้องไปที่มนุษย์เงือกมังกรสมุทรทองคำในตอนนี้

 

คำพูดของเขานั้นทำให้มนุษย์เงือกมังกรสมุทรทองคำอยู่ในความตกตะลึง พลังของเขานั้นไม่ได้ด้อยไปกว่าราชันย์ฉลามผลึกม่วงแต่เขาเองก็ไม่เชื่อว่าตนเองจะทรงพลังยิ่งกว่า

 

“อย่าพูดอะไรไร้สาระอยู่เลย มาเริ่มกันเถอะ”

 

กรงเล็บของมังกรปรากฏขึ้นบนมือทั้งสองข้างของมนุษย์เงือกมังกรสมุทรทองคำ

 

การฝึกยุทธของมนุษย์อสูรนั้นไม่จำเป็นต้องใช้อาวุธเช่นเดียวกันกับแขนขนาดใหญ่ของราชันย์ฉลามผลึกม่วงสำหรับพวกเขาแล้วสิ่งที่พวกเขามั่นใจมีเพียงร่างกายของตนเองเท่านั้น

 

มังกรท่องสมุทร!

 

แขนทั้งสองข้างของมนุษย์เงือกมังกรสมุทรทองคำหมุนเป็นเกลียวราวกับสว่านทันทีเมื่อมันโจมตีมายังชิงสุ่ย ร่างกายท่อนล่างของมนุษย์เงือกมังกรสมุทรทองคำนั้นเป็นมังกรในขณะที่ท่อนบนเป็นมนุษย์และมีเขามังกรสีทองสองข้างบนศีรษะของเขา