ตอนที่ 288 รู้สึกชอบมากขึ้น / ตอนที่ 289 เจ้าก็เขินเป็นหรือนี่

หวนแค้นชะตารัก

ตอนที่ 288 รู้สึกชอบมากขึ้น 

 

 

 

 

 

เผยปิงปิงถลึงตาใส่กู้หลียวน “ฝึกวรยุทธ์ไม่แบ่งชายหญิง เจ้าต่างหากที่ไม่ได้ใส่ใจ ไม่อย่างนั้นทำไมวรยุทธ์ของเจ้าจึงห่างชั้นกับกู้เฉินหรงมากอย่างนี้ 

 

 

กู้หลียวน เมื่อก่อนเจ้าคงเป็นคนที่เอาแต่หาความสุขไม่อดทนต่อความลำบาก เหมือนคุณชายในเมืองหลวงที่ไม่ทำการทำงาน ไม่รู้ว่าข้าชอบเจ้าได้อย่างไร 

 

 

ทั้งๆที่รู้ว่าเจ้าไม่คู่ควรกับข้า ข้าเป็นคนมีความรู้พอจะดูคนออก มีวรยุทธ์พอจะต่อสู้ศัตรู เลี้ยงแมงป่องได้ วางยาได้” 

 

 

กู้เฉินหรงหัวเราะขึ้นมาทันที “พูดอย่างนี้มีเหตุผล หลียวน แสดงว่าเจ้าไม่คู่ควรกับแม่นาง” 

 

 

พอเห็นกู้เฉินหรงถือโอกาสทับถม กู้หลียวนก็ถลึงตาใส่กู้เฉินหรง “ข้าถึงได้ไม่รั้งนางไว้” 

 

 

เวลานี้กู้หลียวนยิ่งรู้สึกว่าเผยปิงปิงต่างจากที่เขาคิดมาก ครั้งแรกที่พบเผยปิงปิง เขายังนึกว่าเผยปิงปิงเป็นคุณหนูใหญ่ที่เอาแต่ใจตัวเอง ถึงได้แต่งตัวเป็นผีหลอกคนในเขากุยอวิ๋นซาน 

 

 

เวลานี้เขาจึงรู้ว่าเผยปิงปิงเป็นผู้หญิงที่มีลักษณะหลากหลาย ยึดมั่นในคุณธรรม กล้ารักกล้าแค้น และรักอิสระเป็นพิเศษ  

 

 

น่าประหลาดจริงๆ พอใกล้ชิดนาง ยิ่งรู้สึกชอบนาง  

 

 

“กู้หลียวน เจ้าหลงตัวเองเกินไป เจ้ารั้งข้าไม่ได้หรอก” 

 

 

กู้เฉินหรงไม่พูดอะไรอีก ซูจิ่วซือเอามือแตะหลังมือกู้เฉินหรง “อย่าพูดมากเลย” 

 

 

“ได้ ข้าเชื่อเจ้า” 

 

 

พอซูจิ่วซือปราม กู้เฉินหรงก็รีบปิดปากอย่างว่าง่าย กู้หลียวนมองดูอยู่ข้างๆ อย่างดูแคลน ถ้าไม่เห็นกับตา เขาก็ไม่อยากจะเชื่อว่ากู้เฉินหรงเชื่อฟังซูจิ่วซือขนาดนี้ 

 

 

ปิงอวิ๋นกับชิงซานก็ได้รับบาดเจ็บ แต่บาดแผลไม่รุนแรง ปิงอวิ๋นมองไปรอบๆ พูดเตือน “คุณชาย ประเดี๋ยวฟ้าก็จะมืดแล้ว ที่นี่ไม่ปลอดภัย เรารีบเดินทาง ให้ถึงอำเภอผีเซี่ยนก่อนฟ้ามืด” 

 

 

กู้เฉินหรงพยักหน้า ที่นี่ไม่ปลอดภัยจริงๆ อีกทั้งบาดแผลของเผยปิงปิงจำเป็นต้องรีบไปหาหมอ เขาตะกายลุกขึ้น ซูจิ่วซือประคองไว้ 

 

 

“ข้าอุ้มเจ้า” 

 

 

กู้หลียวนอุ้มเผยปิงปิงจากพื้น รถม้าของพวกเขาอยู่ห่างออกไปไม่ไกลนัก ถ้านั่งรถม้า คงจะไปถึงอำเภอผีเซี่ยนก่อนฟ้ามืด 

 

 

เผยปิงปิงพิงอกกู้หลียวน กลิ่นแปลกใหม่ของผู้ชายปะทะใบหน้า นี่เป็นครั้งแรกที่นางใกล้ชิดกู้หลียวนขนาดนี้ ใกล้จนได้ยินเสียงหัวใจของเขาเต้น  

 

 

นางไม่ได้รู้สึกล้ำลึกกับกู้หลียวนมากนัก เพียงแต่ชอบอยู่บ้าง กู้หลียวนเป็นคนที่รูปลักษณ์ภายนอกดูดี ทำให้ผู้หญิงชอบได้ง่าย นางเองก็ไม่เว้น นางชอบผู้ชายหน้าตาดีอยู่แล้ว 

 

 

“กู้หลียวน หัวใจเจ้าเต้นเร็วมาก” 

 

 

“ถ้าเต้นช้า จะไหวหรือ” กู้หลียวนคงอุ้มผู้หญิงบ่อยๆ ท่าทางคล่องแคล่ว สีหน้าไม่เปลี่ยน ไม่รู้สึกขัดเขินแม้แต่น้อย 

 

 

“ข้านึกว่าหัวใจเจ้าเต้นเร็วเพราะข้า” 

 

 

เผยปิงปิงเอามือวางบนอกของกู้หลียวน นับว่ากู้หลียวนเป็นคนมีน้ำใจ เสนอตัวอุ้มนาง 

 

 

“ทำไมเจ้าถึงชอบข้า” 

 

 

“เจ้าหล่อดี” 

 

 

กู้หลียวนหน้าบึ้ง “ง่ายๆ แค่นี้เองหรือ” 

 

 

“ใช่ ผู้ชายชอบผู้หญิงสวยได้ ทำไมผู้หญิงจะชอบผู้ชายหล่อไม่ได้? ข้าชอบคนหน้าตาดี” 

 

 

“ฉาบฉวยเหมือนข้า” กู้หลียวนหัวเราะร่า เวลานี้เขารู้สึกว่าเผยปิงปิงน่ารักมาก “และมีอีกคำถามหนึ่งอยากถามเจ้ามาตลอด ทำไมถึงเลี้ยงอสรพิษพวกนั้น” 

 

 

“สนุกดี” 

 

 

“ง่ายๆ อย่างนี้หรือ” 

 

 

“ชีวิตควรจะง่ายๆ อย่างนี้แหละ คิดซับซ้อนทำไม วันหลังข้าต้องได้สามีที่รักข้า แล้วมีลูกเต็มบ้าน อยู่กันอย่างรักใคร่กลมเกลียว ไม่ทำให้ตัวเองลำบากอย่างแม่ข้า  

 

 

แม่ข้าแต่งงานกับคนที่ชอบ แต่กลับลำบากตลอดชีวิต พ่อข้าไม่ได้ดูแลเอาใจใส่นาง มีแต่เรียกร้อง บางครั้งข้าเห็นก็รู้สึกว่าแม่ข้าทำไปไม่มีความหมาย ข้าไม่มีวันเล่นละครบทเดียวกับท่านแม่เด็ดขาด เจ้าวางใจเถอะ ข้าไม่กวนใจเจ้าแน่” 

 

 

 

 

 

—— 

 

 

ตอนที่ 289 เจ้าก็เขินเป็นหรือนี่ 

 

 

 

 

 

กู้หลียวนฟังอย่างเงียบๆ ไม่ได้พูดแทรก จู่ๆ เขานึกถึงแม่แท้ๆ กับกู้เหยี่ยน ได้ยินมาว่าทั้งสองเคยรักใคร่กันดี แต่สุดท้ายกู้เหยี่ยนกลับแต่งงานกับซูเหมย จากนั้นก็ค่อยๆ เย็นชาต่อกัน ต่อมา กู้เหยี่ยนไม่ได้เข้าไปในห้องของซูเหมยอีก 

 

 

กู้หลียวนเห็นคู่ผัวเมียมากมายที่ความรักก้าวสู่ความเย็นชา ตอนเด็กเขาเคยคิดว่าจะไม่แต่งงาน ความรักชั่วขณะมีความหมายอะไร ไม่รักใครเลยยังจะดีกว่า 

 

 

พอเห็นกู้เฉินหรงกับซูจิ่วซือ เขาก็รู้สึกอยากเป็นอย่างนั้นบ้าง  

 

 

เวลานี้พอได้ยินคำพูดของเผยปิงปิง เขารู้สึกประทับใจ นางไม่อยากเล่นบทโศกตามอย่างมารดานาง ที่เขาทำอยู่นี้ก็เป็นความคิดอย่างเดียวกันไม่ใช่หรือ เพียงแต่เขากับเผยปิงปิงใช้วิธีต่างกัน  

 

 

กู้หลียวนไม่พูดอะไรอีก พอเห็นเผยปิงปิงท่าทางไม่ค่อยสบายใจ ก็เตือนอย่างอ่อนโยน “อย่าพูดเลย เราจะไปหาหมอแล้ว” 

 

 

พอฟ้ามืด ทั้งหมดก็ไปถึงอำเภอผีเซี่ยน ปิงอวิ๋นรีบไปตามหาหมอในตัวอำเภอ สภาพของเผยปิงปิงไม่ค่อยดีแล้ว ตัวร้อน สลบไป  

 

 

ซูจิ่วซือให้จื่อหลานดูแลเผยปิงปิง กู้หลียวนก็ดูแลอยู่ข้างๆ ตลอดเวลา พอเห็นเผยปิงปิงสลบไป เขาก็ร้อนใจ เขาเป็นห่วงเผยปิงปิงจริงๆ กลัวว่านางจะเป็นอันตรายถึงชีวิต 

 

 

….. 

 

 

อีกด้านหนึ่ง เผยไป๋ชวนรู้สภาพของกู้เฉินหรงแล้ว เขาฟังจูเฉิงซึ่งบาดเจ็บสาหัสกลับมารายงาน เอ็นบนมือที่ปูดเต้นขึ้น “ปิงปิงบาดเจ็บหรือ” 

 

 

“ผู้น้อยไร้ความสามารถ ไม่ได้เจตนาทำร้ายคุณหนู แต่คุณหนูดึงดันจะช่วยกู้เฉินหรง จึงพลั้งมือไปโดนคุณหนู ขอให้จ้าวหุบโปรดลดโทษ” จูเฉิงคุกเข่าลงกับพื้น เขาไม่รู้ว่าเวลานี้เผยปิงปิงเป็นอย่างไร รู้แต่ว่าเผยปิงปิงบาดเจ็บหนัก ต้องรีบกลับมารายงานเผยไป๋ชวน  

 

 

เผยปิงปิงได้รับบาดเจ็บ เป็นความผิดของเขาเอง การออกไปคราวนี้ ไม่เพียงแต่เอาชีวิตของกู้เฉินหรงไม่ได้ แต่กลับทำให้ลูกสาวของตนเองบาดเจ็บ ในบรรดาลูกทั้งสาม เขาฝากความหวังไว้กับลูกสาว ถึงกับวางแผนไว้ว่าต่อไปจะมอบหมู่บ้านเขากุยอวิ๋นซานให้เผยปิงปิงดูแล 

 

 

พ่อบ้านหลูซึ่งอยู่ข้างๆ เห็นใบหน้าเคร่งเครียดของเผยไป๋ชวน ก็ถามอย่างระแวดระวัง “จ้าวหุบ เอ่อ…เรื่องนี้ควรทำอย่างไรดี” 

 

 

“ซิ่นอ๋องเขียนจดหมายมาอีก ภายในห้าวันถ้าไม่เห็นหัวของกู้เฉินหรง ก็จะเปิดเผยเรื่องนี้ออกไป เวลานี้ข้าจำเป็นต้องไปเอง พ่อบ้านหลู เจ้าไปเตรียมม้า ข้าจะออกไป” 

 

 

พ่อบ้านหลูพยักหน้า รีบออกจากห้องหนังสือ ไปเตรียมม้าให้เผยไป๋ชวน 

 

 

….. 

 

 

เวลานี้ซูจิ่วซือกำลังอยู่ในห้องของกู้เฉินหรง รับยาที่จื่อหลานเคี่ยวมาให้ ใช้ช้อนคนน้ำยาสีดำอย่างเบามือ  

 

 

“เจ้าป้อนข้าหน่อย” 

 

 

กู้เฉินหรงนอนบนเตียง ยิ้มร่ารอให้ซูจิ่วซือป้อนยา หลายวันมานี้สำหรับเขาแล้วเป็นเหมือนฝัน เวลานี้เขามีอันตรายรอบด้าน ต้องรีบกลับแคว้นเจียง ไม่อาจให้ซูจิ่วซือตามไปด้วย เพราะจะทำให้ซูจิ่วซือพลอยลำบาก 

 

 

ซูจิ่วซือไม่ได้ปฏิเสธ ตักยาช้อนหนึ่ง มาวางใกล้ริมฝีปากเป่าให้เย็นอย่างระมัดระวัง แล้วจึงเอาเข้าปากกู้เฉินหรง 

 

 

กู้เฉินหรงมองซูจิ่วซือด้วยแววตาเป็นประกาย ไม่ปล่อยให้ความรู้สึกใดๆ บนใบหน้าของนางพ้นสายตา ซูจิ่วซือถูกสายตาของเขาจ้องก็หน้าแดง ถลึงตาใส่กู้เฉินหรง “ยังจะดูอีก” 

 

 

กู้เฉินหรงหัวเราะร่า “จิ่วซือ เจ้าก็เขินเป็นหรือนี่” 

 

 

“เวลาอย่างนี้แล้วยังไม่จริงจัง ขืนพูดอีก จะให้กินเอง” 

 

 

“ก็ได้ ก็ได้ ข้าไม่พูดแล้ว ดูอย่างเดียว”