ตอนที่ 215 การแข่งขันวาดภาพระดับเมือง + ตอนที่ 216 เข้าร่วมการแข่งขัน

ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น

ตอนที่ 215 การแข่งขันวาดภาพระดับเมือง + ตอนที่ 216 เข้าร่วมการแข่งขัน โดย Ink Stone_Romance

ตอนที่ 215 การแข่งขันวาดภาพระดับเมือง

ตอนพักกลางวันเหยียนหมิงซุ่นกลับไปกินข้าวที่บ้าน ก็เห็นคุณย่าทำท่าทางมีลับลมคมในซุบซิบกับคุณปู่อยู่ เดิมทีแล้วเขาก็ไม่ได้ใส่ใจ แต่กลับได้ยินชื่อของอู่เหมย เลยหยุดอยู่กับที่โดยไม่รู้ตัวและตั้งใจฟัง

“ตาเฒ่าฉันจะบอกอะไรให้ เมื่อวานที่บ้านตระกูลอู่เสียงดังเอะอะกันใหญ่โต ได้ยินมาว่าลูกคนโตจะบีบคอเหมยเหมย ทำให้ลูกคนเล็กตกใจจนกระโดดออกมาเลย แถมยังไม่กล้าบอกอีกว่าเป็นพี่สาวทำ บอกแต่ว่าตัวเองทำเอง น่าสงสารจริง”

ภาพรอยแผลบนคอของอู่เหมยปรากฏขึ้นต่อหน้าเหยียนหมิงซุ่นอีกครั้ง เป็นอู่เยวี่ยเองหรือที่บีบ?

อู่เยวี่ยจะทำเรื่องโง่แบบนี้ได้อย่างไร?

คุณปู่เหยียนก็ถามคำถามอย่างไม่เชื่อเหมือนกัน คุณยายหยางเบะปากพูดว่า “ได้ยินมาว่ากดดันเรื่องเรียนจนเกินไป จิตใจก็เลยมีปัญหานิดหน่อย ตอนฝันก็เลยบีบคอเด็กน้อยเหมยเหมย ตาเฒ่าคุณว่าลูกสาวคนโตของตระกูลอู่คงไม่ได้เป็นโรคประสาทใช่ไหม? คนดีๆ ที่ไหนจะฝันแล้วฆ่าคนได้”

“เรื่องของบ้านอื่นเธอจะห่วงไปทำไม? รีบยกเอาอาหารออกมา ไม่เห็นเหรอหมิงซุ่นพักกลางวันแล้ว” ตาเฒ่าเอ่ยปากสั่งการด้วยอารมณ์ที่ไม่ค่อยดีนัก คุณย่าหยางจึงรีบเข้าไปเอาอาหารในครัว

ตาเฒ่าถอนหายใจออกมา พูดกับตัวเองว่า “เด็กผู้หญิงเรียนหนังสือไป สุดท้ายยังไงก็สู้ผู้ชายไม่ได้อยู่ดี พอถึงชั้นมัธยมก็เห็นได้ชัด เฮอะ! ปกติก็ยกยอจนแทบจะขึ้นสวรรค์ ดูสิว่าครั้งนี้สุดท้ายแล้วจะจบยังไง!”

ตอนบ่ายเลิกเรียนอู่เหมยไปห้องเรียนเยาวชนกับสยงมู่มู่ ส่วนอู่เชาก็โดนเธอทำให้เสียขวัญจนสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัวไปแล้ว ไหนเลยจะมีอารมณ์มากับเธอ พอเลิกเรียนก็สติแตกกระจายกลับบ้านไปแล้ว

คาดว่าน่าจะไปหาตี๋ชิวเยวี่ยอ้อนขออ้อมกอดแล้ว!

เด็กหนุ่มคนนี้เห็นว่ามีรูปร่างใหญ่แบบนี้ แต่ความกล้าหาญนั้นมีมากกว่าไก่ไม่มากเท่าไหร่เอง เจ็ดแปดขวบยังไร้ยางอายนอนเตียงเดียวกับพ่อแม่ ไม่กล้านอนคนเดียว!

เฮ่อเหวินจิ้งพอเห็นเธอสีหน้าท่าทางก็ไม่เป็นธรรมชาติ โชคดีที่ในห้องเรียนไม่ได้มีเธอคนเดียว ยังมีนักเรียนอีกสิบกว่าคน ต่างก็เป็นคนที่อู่เหมยไม่รู้จัก ส่วนมากเป็นผู้ชาย ผู้หญิงน้อยหน่อย อายุประมาณเธอ

เพราะมีพื้นฐานวาดภาพ คาบเรียนของเฮ่อเหวินจิ้ง อู่เหมยก็ฟังอย่างสบายๆ รู้สึกผ่อนคลายกว่าเรียนวิชาภาษาวิชาเลขเยอะ หนึ่งคาบแป๊บเดียวก็หมดเวลาแล้ว เฮ่อเหวินจิ้งสั่งการบ้านให้นักเรียนกลับบ้านไปวาดภาพและเอามาส่งในคาบต่อไป

“เดือนธันวาคม ในเมืองจะมีจัดการแข่งขันวาดภาพระดับเยาวชน หากได้อันดับสามแรกของเมือง ก็จะสามารถเข้าร่วมการแข่งขันกลุ่มเยาวชนระดับชาติในฤดูใบไม้ผลิปีหน้า สถานที่จัดการแข่งขันอยู่ที่เมืองหลวง นักเรียนกลับบ้านไปก็ไปพูดคุยกับผู้ปกครองนะ เวลารับสมัครมีถึงวันศุกร์หน้า” เฮ่อเหวินจิ้งหัวเราะพลางหันไปมองอู่เหมย

อู่เหมยใจกระตุกวูบหนึ่ง แข่งระดับประเทศนั้นเธอไม่คาดหวัง ระดับของตัวเธอเองไม่ได้ดีขนาดนั้นแน่นอน แต่แข่งระดับเมืองนี่น่าสนใจ ถ้าหากเธอสามารถเอาอันดับมาได้ ไม่แน่ว่าอู่เจิ้งซือคงจะผ่อนผันได้บ้าง

อย่างไรการแอบๆ ซ่อนๆ เรียนวาดรูปแบบนี้ไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาในระยะยาว บนโลกนี้หน้าตามีหูประตูมีช่อง ช้าหรือเร็วอู่เจิ้งซือก็ต้องรู้เข้า แต่ก่อนที่เขาจะค้นพบความจริง ใช้แรงนี้เพื่อช่วงชิงแต้มต่อให้ตัวเองได้ถึงจะดี

“นักเรียนอู่เหมยมาที่ห้องทำงานครูสักครู่หน่อยนะ” เฮ่อเหวินจิ้งยิ้มอย่างอ่อนโยนมองเธอ

อู่เหมยเดินตามหลังเธอเข้าไปในห้องทำงาน เฮ่อเหวินจิ้งหยิบกล่องขนมออกมาจากลิ้นชักแล้วย้ายมาไว้ตรงหน้าเธอ พูดเบาๆ ว่า “นี่คือคุกกี้ รสชาติดีนะ”

“ขอบคุณค่ะ อาจารย์เฮ่อ”

อู่เหมยหยิบคุ้กกี้ขึ้นมากินคำเล็กๆ เฮ่อเหวินจิ้งเดิมทีอยากจะคุยกับเธอเรื่องการแข่งขัน แต่พอเห็นรอยแผลเขียวช้ำบนคอของเธอ ก็ยื่นมือพรวดมาเปิดคอเสื้อของเธอ สีหน้าของเฮ่อเหวินจิ้งก็เปลี่ยนด้วย

“นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น? ใครทำ? อู่เหมยเธอยังบาดเจ็บตรงไหนอีกไหม?”

เฮ่อเหวินจิ้งเสียงแหลม แผลแบบนี้ทำให้เธออดไม่ได้ที่จะนึกถึงเรื่องอื่น มองดูใบหน้าที่สวยงามของอู่เหมย ถึงแม้ว่าจะยังไม่โตเต็มวัย แต่ก็เพียงพอที่จะดึงดูดพวกโรคจิตได้

อู่เหมยคาดไม่ถึงว่าปฏิกิริยาของเธอจะรุนแรงขนาดนี้ ใบหน้าซีดขาว เหมือนโดนทำให้ตกใจเสียขวัญอย่างแรง แม้แต่เสียงก็ยังเปลี่ยน

…………………………………………………………………………………………..

ตอนที่ 216 เข้าร่วมการแข่งขัน

อู่เหมยหยุดความสงสัยไว้แล้วพูดว่า “ไม่มีแล้วค่ะ แค่บาดแผลเล็กน้อย ไม่กี่วันก็หายดีแล้ว อาจารย์เฮ่อไม่ต้องกังวลนะคะ”

เฮ่อเหวินจิ้งดูเหมือนจะไม่ค่อยเชื่อ คอยถามซ้ำแล้วซ้ำอีก อู่เหมยเลยถอดเสื้อผ้าให้เธอดูถึงทำให้เธอสงบลงได้ และเริ่มพูดสอนอีกครั้งว่า “อยู่ข้างนอกเธอจะถอดเสื้อผ้าสุ่มสี่ห้าแบบนี้ไม่ได้ เป็นผู้หญิงควรจะรู้จักป้องกันตัวเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้หญิงสวยอย่างเธอต้องยิ่งระวัง…”

เป็นครั้งแรกที่มีคนให้ความรู้ด้านนี้กับเธอ อู่เหมยรู้สึกอบอุ่นในหัวใจ และยิ่งเสียดายเฮ่อเหวินจิ้ง เธอมีงานที่ดี หน้าตาที่ดี นิสัยที่ดี ทำไมถึงต้องการอยู่กับจี้เจี้ยนโปคนที่มีภรรยอยู่แล้วกันนะ!

ช่างดูถูกตัวเองจริงๆ!

“เป็นเพราะหนูอยู่กับอาจารย์เฮ่อเลยกล้าทำแบบนี้ ถ้าเป็นคนอื่นหนูคงไม่กล้า!” อู่เหมยอธิบายเสียงเบา น้ำเสียงออดอ้อน

เฮ่อเหวินจิ้งยิ้มและตบหน้าของอู่เหมยเบาๆ แต่เมื่อเห็นรอยแผลบนคอของเธอก็อดไม่ได้ที่จะถามอีกว่า “รอยแผลของเธอ มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? เธอไม่ต้องกลัว บอกความจริงกับอาจารย์มา อาจารย์จะไม่บอกคนอื่น”

อู่เหมยกัดริมฝีปากแล้วพูดว่า “พี่สาวของหนูบีบค่ะ เธอ…”

เธอเกือบจะพูดเรื่องเมื่อวานแล้ว เรื่องที่เธอทำให้อูเยวี่ยตกใจกลัว เรื่องที่ตนเองทำไม่ดีไว้ จะให้ใครรู้ไม่ได้เด็ดขาด เธอคืออู่เหมยผู้ใจดีและน่ารัก จะทำร้ายใครได้อย่างไร!

“พระเจ้า พี่สาวของเธอนี่จิตใจต้องมีปัญหาแน่นอน เหมยเหมย เธอกับพี่ของเธออยู่ห้องเดียวกันไม่ได้แล้ว อยู่ร่วมกับคนป่วยทางจิตนั้นอันตรายมาก” เฮ่อเหวินจิ้งตกใจเป็นอย่างมาก มองอู่เหมยด้วยความเห็นอกเห็นใจ เด็กน้อยหน้าสงสาร ทำไมถึงได้มีพี่สาวเป็นแบบนี้

อู่เหมยพยักหน้า “หนูก็คิดเช่นนั้นค่ะ อาจารย์ไม่ต้องเป็นห่วง หนูจะไม่ปล่อยให้ตัวเองเดือดร้อนแน่นอน”

อู่เยวี่ยไม่ได้ป่วยทางจิต เธอรู้ดีกว่าใคร แต่คำพูดของอาจารย์เฮ่อได้เตือนสติเธอ ทางที่ดีใช้โอกาสนี้คุยกับอู่เจิ้งซือเรื่องที่จะย้ายออก ห้องครัวในบ้านที่เหอปี้อวิ๋นใช้เป็นห้องเก็บของ ของก็วางไม่เยอะ เอามาทำเป็นห้องนอนเธอได้พอดี เธอไม่รังเกียจที่ห้องเล็ก แค่ได้ห้องเดี่ยวของตัวเองก็พอ แบบนี้ก็จะปลอดภัยแล้ว

เฮ่อเหวินจิ้งพูดเรื่องการแข่งขันอีกครั้ง “เหมยเหมย เธอมีพื้นฐานที่แน่นและรู้จักใช้วิธีการใหม่ๆ เธอควรเข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้ เธอกลับบ้านไปปรึกษาพ่อแม่สักหน่อยนะ”

“อาจารย์เฮ่อช่วยหนูสมัครได้ไหม พ่อแม่ไม่รู้ว่าหนูแอบเรียนวาดรูป” อู่เหมยพูดความจริงออกไป ไม่มีอะไรต้องปิดบังอีก

เฮ่อเหวินจิ้งขมวดคิ้ว เธอไม่ต้องถามก็รู้ว่าทำไมพ่อแม่ของอู่เหมยถึงไม่เห็นด้วย พวกเขาคงคิดว่าการวาดรูปไม่ใช่อาชีพ จึงต้องการให้ลูกจดจ่ออยู่กับการเรียนหนังสือเท่านั้น

ความคิดแบบนี้ปิดกั้นศิลปินผู้มีพรสวรรค์มากี่รายแล้ว เห็นได้ชัดว่าเด็กบางคนมีพรสวรรค์ด้านศิลปะที่ยอดเยี่ยม แต่ผู้ปกครองเหล่านั้นกลับไม่สนใจ ต้องการให้ลูกเป็นนักวิทยาศาสตร์ นักคณิตศาสตร์ นักการทูต…

พวกเขากลับไม่เคยคิดว่า ลูกของพวกเขามีหรือไม่มีพรสวรรค์ในด้านนั้น!

เฮ่อเหวินจิ้งมองดูอู่เหมยอย่างชื่นชม มีความมุ่งมั่นต่อความชอบของตนเอง เยี่ยมจริงๆ!

“ได้ อาจารย์จะสมัครให้ เหมยเหมย ต่อไปนี้เธอไม่ต้องจ่ายค่าเรียนแล้ว และที่นี่อาจารย์ก็มีกระดาษ เธอมาหยิบไปใช้ได้ ฉันใช้ไม่หมดหรอก” เฮ่อเหวินจิ้งพูดยิ้มๆ

“ขอบคุณค่ะอาจารย์ ตอนนี้หนูยังพอมีเงินอยู่บ้าง ในอนาคตถ้าหากไม่พอจริงๆ หนูค่อยขอความช่วยเหลือจากอาจารย์เฮ่อ!” อู่เหมยปฏิเสธอย่างนุ่มนวล ในใจรู้สึกขอบคุณเฮ่อเหวินจิ้งเป็นอย่างมาก เธอมองไปดวงตาที่สวยงามของเฮ่อเหวินจิ้งอย่างลังเลอีกครั้ง แต่แล้วก็ตัดสินใจเตือนเธอ

…………………………………………………………………………………………..