ตอนที่ 650

Alchemy Emperor of the Divine Dao

“จะมีคนแห่กันมาที่นี่มากขึ้น ดังนั้นข้าจะต้องรีบทำทุกอย่างให้เสร็จเรียบร้อย” หลิงฮันเก็บดาบและมองไปที่กำแพงที่ขวางทางอยู่

แผ่นสี่เหลี่ยมแต่ละแผ่นมีภาพวาดใบหน้าคนวาดอยู่ ซึ่งแต่ละภาพนั้นมีทั้งใบหน้าของบุรุษ สตรี คนชราและหนุ่มสาว ซึ่งมีทั้งหมดมากมายถึงเก้าร้อยเก้าสิบเก้าแผ่น

“หรือว่ามันจะให้ข้าเลือก?” หลิงฮันพูดพึมพัม หลังจากที่จ้องมองภาพวาดไปได้ชั่วครู่ เขาจ้องไปที่ภาพภาพหนึ่งและยิ้มออกมา “ภาพวาดนั้นมันจื่อเสวี่ยนเซียนมิใช่หรือ?”

“ถ้าใครไม่ได้รับผลึกความทรงจำจากเกราะอัสนี แม้จะมาถึงที่นี่ก็ไร้ประโยชน์และอาจมีโอกาสถูกเพียงแค่หนึ่งในพัน ตามลักษณะนิสัยของจื่อเสวี่ยนเซียน นางคงไม่มีทางโอกาสครั้งที่สองให้”

หลิงฮันหักนิ้วและวางมือไปที่ภาพของจื่อเสวี่ยนเซียน ทันใดนั้น กำแพงหินเริ่มส่งเสียงแตกหักและเคลื่อนไหว แยกออกเป็นสองด้าน

ความเร็วของมันไม่ได้รวดเร็วมากนัก ในไม่ช้าเส้นทางก็ถูกเปิดออกอย่างสมบูรณ์ ด้านในเป็นห้องหิน มันไม่ได้มีขนาดใหญ่มากนัก แต่มีความกว้างประมาณสองเมตร และมีโต๊ะยาวเพียงโต๊ะเดียว ซึ่งมีหนังสือเล่มเล็กอยู่บนโต๊ะ

หลิงฮันเดินเข้าไป แน่นอนว่าฮูหนิวต้องตามเขาเข้าไปด้วย และหลังจากที่เจ้ากระต่ายละลังเสร็จ มันก็ตามเขาเข้าไป

กำแพงหินปิดอย่างรวดเร็วและพวกเขายังคงอยู่ภายในห้องหิน

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะอยู่ด้านใน ทว่ามันกลับไม่มืด กำแพงที่อยู่รอบด้านต่างส่องแสงสว่างที่งดงามราวกับหยก

หลิงฮันเดินมาที่โต๊ะยาว เขานั่งลงและเปิดหนังสือที่จื่อเสวี่ยนเซียนหลงเหลือเอาไว้

หลิงฮันอ่านไปได้สักพักแล้วจู่ๆคิ้วของเขาตั้งขึ้นและแสดงความโกรธพร้อมกับจิตสังหารออกมา หลังจากอ่านเสร็จ เขาทุบโต๊ะอย่างรุนแรงและเงยหน้ามองขึ้นไปด้านบน

“ให้ข้าดูบ้าง” กระต่ายคว้าหนังสือและเริ่มอ่านทันที ในไม่ช้ามันก็แสดงสีหน้าตกใจ

มันไม่น่าแปลกใจแต่อย่างใด ถ้าสิ่งที่จื่อเสวี่ยนเซียนพูดนั้นเป็นความจริง ทั้งผู้คนที่อาศัยอยู่ในทวีปฮงเทียนตกอยู่ในคำโกหกคำโต

หลิงฮันจัดความคิดของเขาซักพักหนึ่ง และจื่อเสวี่ยนเซียนพูดแบบนั้น

ประมาณหลายแสนปีก่อน ขุมพลังบางแห่งของดินแดนศักดิ์สิทธิ์เกิดความสนใจทวีปฮงเทียน สิ่งที่พวกเขาสนใจไม่ได้เป็นทรัพยากรในทวีปฮงเทียน แต่เป็นสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่บนทวีป

นี่เป็นเรื่องที่น่าสะพรึงกลัวมาก ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ได้รับวิธีโบราณในการปรุงและหลอมสิ่งมีชีวิตให้กลายเป็นโอสถศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งแม้แต่ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ยังเป็นโอสถที่ล้ำค่า

อย่างไรก็ตาม นี่เป็นข้อห้ามในดินแดนศักดิ์สิทธิ์และไม่ได้รับอนุญาตให้ทำเช่นนั้นอย่างแน่นอน

แต่ทวีปเทียนฮงนั้นแตกต่าง ดินแดนศักดิ์สิทธิ์สามารถควบคุมทวีปแห่งนี้ได้อย่างง่ายดาย และตัวแทนของพวกมันคือนิกายโบราณทั้งห้าแห่ง!

ทำไมทุกครั้งที่เกิดภัยพิบัติ นิกายใหญ่ทั้งห้าแห่งถึงรวมมือกันเพื่อรับมือ นั่นเป็นเพราะพวกเขาเป็นคนของพวกมันตั้งแต่แรก!

ขุมพลังพวกนั้นในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ใช้เวลาเป็นหมื่นปีเพื่อเลี้ยงปศุสัตว์ในกรงอย่างทวีปฮงเทียน พวกเขาใช้เวลาหมื่นปีในการฟื้นฟูพลังของสวรรค์และปฐพีในทวีปฮงเทียน พวกเขายังทำให้สภาพแวดล้อมเหมาะสมแก่การฝึกฝนของจอมยุทธ์ และหลอมทุกคนให้กลายเป็นโอสถ

จื่อเสวี่ยนเซียนนั้นเป็นลูกศิษย์ที่โดดเด่นของนิกายอัสนีศักดิ์สิทธิ์ นอกจากนี้นางยังเป็นลูกหลานของเผ่าพันธุ์ที่ทรงพลังของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ หลังจากที่นางเข้าในความจริง มันทำให้นางรู้สึกโกรธมาก ในอีกด้านหนึ่งนางทิ้งความจริงทั้งหมดไว้เบื้องหลัง ในทางกลับกัน นางเริ่มต่อสู้กับบรรดาชนชั้นสูงในดินแดนศักดิ์สิทธิ์

ผลลัพธ์ที่หลิงฮันเห็นคือดินแดนศักดิ์สิทธิ์นั้นมีจอมยุทธที่แข็งแกร่งมากเกินไป เพียงแค่คนสามคนก็เพียงพอที่จะสยบนางได้แล้ว

การก่อตั้งสำนักสวรรค์เองก็เป็นแผนการร่วมด้วยช่วยกัน เป้าหมายที่แท้จริงคือคัดเลือกอัจฉริยะบนโลก และพากลับดินแดนศักดิ์สิทธิ์ หลังจากล้างสมองอิจฉริยะพวกนั้นแล้ว พวกเขาก็จะกลายเป็นสุนัขรับใช้ที่ซื่อสัตย์ให้กับขุมพลังพวกนั้น

จากอัจฉริยะกลายเป็นสุนัขรับใช้ที่ซื่อสัตย์

นอกจากนี้ นักปรุงยาระดับสูงหรือปรมาจารย์นักปรุงยาจะถูกพากลับไปที่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์เพื่อสอนการปรุงยาของพวกเขา แต่แน่นอนว่าไม่ได้ฝึกฝนพวกเขา แต่ใช้เป็นเครื่องมือสำหรับนักปรุงยา

ในเวลานั้น สิ่งมีชีวิตจะต้องสูญพันธ์อย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หรือสัตว์หรือต้นไม้หรือแม้กระทั่งจิตวิญญาณศิลา จิตวิญญาณเปลวเพลิง จิตวิญญาณน้ำ

หลังจากที่โลกถูกกลั่นเป็นเม็ดยา ทั้งทวีปฮงเทียนจะกลายเป็นดินแดนที่แห้งแล้งเกือบจะเป็นดินแดนแห่งความตาย

ขุมพลังเหล่านั้นบนดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเป็นบ้านเกิดที่แท้จริงของนิกายดาบสวรรค์และนิกายกระบี่ไร้เทียนทานจะเรียกว่าพระราชวังดาบสวรรค์และพระราชวังกระบี่ไร้เทียนทาน ซึ่งทั้งสองเป็นขุมพลังที่แข็งแกร่งมากในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ การกระทำของพวกเขาทุกคนไม่เคยได้ยินมาก่อน แต่พวกเขาหวาดกลัวความแข็งแกร่งของทั้งสองนิกาย ดังนั้นทุกคนจึงทำได้แค่แกล้งเป็นตาบอดมองไม่เห็น

นอกจากนี้ ภูมิหลังของเจ้ากระต่ายนี่ดูเหมือนจะไม่ใช่เรื่องเกินจริง

โดยรวมแล้วขุมพลังทั้งห้า อย่างพระราชวังดาบสวรรค์ดำเนินแผนการนี้อย่างราบรื่น พวกเขาจะใช้สิ่งมีชีวิตบนโลกหลอมกลั่นเป็นเม็ดยาทุกหนึ่งหมื่นปี และหลังจากนั้นจะสร้างสิ่งมีชีวิตขึ้นมาใหม่ซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ถ้าหลิงฮันไม่ถูกหอคอยทมิฬทำลายกายหยาบในชีวิตที่แล้ว เขาคงมีทางเลือกแค่ทางเดียว เขาจะถูกพาไปที่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ และพรสวรรค์ในการปรุงยาของเขาอาจทำให้ได้รับการฝึกฝนต่อ และบางทีอาจได้แต่งงานกับหญิงสาวบนแดนศักดิ์สิทธิ์ในฐานะลูกเขย

แต่เรื่องเดียวที่เขาหนีไม่พ้นคือชีวิตการเป็นทาส

และด้วยเหตุนี้เอง ห้านิกายใหญ่จึงเกลียดชังนิกายพันศพมากเพราะนิกายพันศพต้องการให้สิ่งมีชีวิตเป็นซากศพ แล้วพวกเขาจะหลอมโลกให้เป็นเม็ดยาได้อย่างไรถ้าไม่มีวัตถุดิบ

หลิงฮันสงสัยอยู่ตลอดว่าทำไมดินแดนศักดิ์สิทธิ์ถึงต้องการบุกรุกทวีปฮงเทียน การต่อสู้ระหว่างนิกายใหญ่ทั้งห้าและผู้บุกรุกจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์นั้นพวกเขาสามารถผลักดันให้อีกฝ่ายต้องกลับไปได้อย่างไร? อย่างไรก็ตาม ความจริงแล้วพวกมันเป็นพวกเดียวกัน หลังจากที่หลอมโลกให้เป็นเม็ดยาแล้ว พระราชวังดาบสวรรค์และขุมพลังที่เหลือจะปล่อยเม็ดพันธ์ุทิ้งไว้ แล้วหล่อเลี้ยงทวีปฮงเทียนเป็นเวลาหนึ่งหมื่นปีเพื่อรอการเก็บเกี่ยวครั้งต่อไป…

ห้านิกายใหญ่อย่างนิกายดาบสวรรค์รับผิดชอบการเป็นผู้นำและเป็นผู้นำของศาสตร์วรยุทธ์ มิฉะนั้น จอมยุทธในทวีปฮงเทียนคงมีแค่จอมยุทธระดับห้วงจิตวิญญาณและระดับแก่นแท้จิตวิญญาณเต็มไปหมด ซึ่งส่งผลต่อการหลอมเม็ดยาของพวกมัน

ในอีกหนึ่งหมื่นปีที่กำลังจะมาถึง ผู้คนจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์จะมาที่ทวีปฮงเทียนเพื่อร่วมมือกับนิกายดาบสวรรค์และอีกสี่นิกายในฐานะผู้นำและใช้โลกหลอมเป็นโอสถ