ฉินซินหยิ่งขอบคุณเซียวจิ่งและออกไปกับเขา ระหว่างทางผู้คนต่างอุทานและมองเธออย่างอิจฉา ฉินซินหยิ่งยิ้มกริ่มขณะเดินตามเซียวจิ่งเข้าลิฟต์ เซียวจิ่งมองฉินซินหยิ่งในกระจกภายในลิฟต์ “คุณบาดเจ็บได้ยังไง คุณฉิน”
ฉินซินหยิ่งยิ้ม กล่าวด้วยท่าทางเขินอาย “ตอนฉันก้าวออกจากอ่างอาบน้ำ ฉันลื่นล้มค่ะ เพราะว่าเท้าฉันเปียก น่าอายจัง”
เซียวจิ่งเลิกคิ้ว “โอ ไม่น่าเลยนะ นี่่เป็นครั้งแรกที่บริษัทเราจะเข้าร่วมงานแฟชั่นวีก เราต้องรักษาโอกาสนี้ไว้ คุณเป็นหนึ่งในนักออกแบบที่ดีที่สุดของจีน ผมจึงคิดว่างานแฟชั่นวีกครั้งนี้จะเป็นเวทีที่ดีสำหรับคุณ น่าเสียดายที่อยู่ๆ คุณก็ได้รับบาดเจ็บ”
ฉินซินหยิ่งยิ้มแล้วถอนหายใจ “ใช่ค่ะ แต่จะโทษใครได้ล่ะคะ ฉันโชคร้ายเอง” จากนั้นเธอก็เงยหน้าขึ้นมองเซียวจิ่ง กล่าวว่า “แต่ไม่เป็นไรค่ะ ฉันยังสามารถเข้าร่วมงานซัมเมอร์แฟชั่นวีกได้ ถึงแม้จะไม่ได้เข้าร่วมในงานวินเทอร์ครั้งนี้ ฉันจะยืนอยู่บนเวทีระดับอินเตอร์ให้ได้สักวันหนึ่งค่ะ”
เซียวจิ่งยิ้ม เมื่อประตูลิฟต์เปิดเซียวจิ่งก็เดินนำออกจากลิฟต์ “รถผมรออยู่พร้อมแล้ว เราจะไปที่โรงพยาบาลหลินอัน ซึ่งเป็นโรงพยาบาลของครอบครัวผม เดี๋ยวผมจะพาคุณเข้าห้องเอกซเรย์เอง จะได้รู้ผลเร็วๆ โรงพยาบาลนี้ให้การรักษาพยาบาลผู้ป่วยได้ดีมาก คุณวางใจได้”
ฉินซินหยิ่งขมวดคิ้วมองเซียวจิ่ง และฝืนยิ้ม “คุณจะเข้าไปในห้องเอกซ์เรย์กับฉันด้วยเหรอคะ ท่านประธานเซียว”
“แน่นอนสิครับ คุณเป็นพนักงานคนสำคัญของเรา เราควรดูแลคุณอย่างจริงจัง ไปกันเถอะ” เซียวจิ่งพยักหน้าเรียกฉินซินหยิ่งให้เดินต่อไปด้วยรอยยิ้ม
ฉินซินหยิ่งหยุดชะงัก เม้มริมฝีปากแล้วกล่าวว่า “ฉันขอไปเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ กรุณารอฉันสักครู่หนึ่งได้ไหมคะ ท่านประธานเซียว”
เซียวจิ่งมองฉินซินหยิ่ง ดวงตาเขาเปล่งประกายถากถาง แต่ก็หายไปในทันที เขาพยักหน้า “ได้สิ ไปเถอะ ผมจะไปรอคุณในรถ” จากนั้นเขาก็หันหลังเดินออกไปข้างนอก
ฉินซินหยิ่งวิ่งไปที่ห้องน้ำ ยกมือที่อยู่ในผ้าพันแผลขึ้นดู เธอลังเล แต่ในนาทีต่อมาเธอก็หรี่ตาลง แล้วกระแทกมือตัวเองกับอ่างล้างหน้าอย่างแรง เธอเจ็บจนน้ำตาไหลพราก เหมือนจะได้ยินเสียงกระดูกแตกเลยด้วยซ้ำ เธอกัดฟันแน่นจ้องมองตัวเองในกระจก เหงื่อแตกพลั่ก บอกตัวเองเสียงต่ำว่า “ฉินซินหยิ่ง เธอจะปล่อยให้เขารู้ไม่ได้เลยนะ! ทำต่อไปไม่ว่าจะเจ็บแค่ไหนก็ตาม” จากนั้นเธอก็ใช้มืออีกข้างจับมือที่อ่อนแรงกระแทกกับอ่างล้างหน้าอีกครั้ง ความเจ็บปวดนั้นแสนสาหัส เธอแทบหมดสติ ทันใดนั้นก็มีคนเข้ามา ฉินซินหยิ่งรีบเข้าไปในห้องส้วมและนั่งลงบนโถส้วม
เวลาผ่านไปห้านาที กว่าฉินซินหยิ่งจะเช็ดเหงื่อบนใบหน้าเสร็จ แล้วลุกขึ้น
เซียวจิ่งซึ่งนั่งรออยู่ในรถเฝ้ามองฉินซินหยิ่งเดินออกมาอย่างระโหยโรยแรง ดวงตาเขาหรี่ลงและยิ้มอย่างเยือกเย็น “ผู้หญิงคนนี้โหดเ**้ยมเหลือเกิน แม้แต่กับตัวเธอเอง! ไม่น่าแปลกใจเลยที่เธอทำเรื่องทั้งหมดนั้นกับซีซีได้”
เขารู้ว่าผู้หญิงคนนี้ไม่มีอาการบาดเจ็บแม้แต่น้อยเมื่อเจอกับเขาทีแรก นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงพูดอย่างนั้นกับเธอ อันที่จริงไม่มีใครได้รับอนุญาตให้อยู่ในห้องเอกซ์เรย์หรอก นอกจากแพทย์และผู้ป่วยเอง เขาคิดไม่ถึงว่าผู้หญิงคนนี้จะเชื่อคำพูดเขา วิ่งเข้าห้องน้ำไปทำให้มือตัวเองบาดเจ็บ! เขาประหลาดใจจริงๆ ว่าเธอทำแบบนี้กับตัวเองได้อย่างไร! เธอทำให้มือเธอเองบาดเจ็บร้ายแรงได้อย่างไร!
ฉินซินหยิ่งเปิดประตูรถขึ้นไปนั่ง ยิ้มอย่างอ่อนหวานให้เซียวจิ่ง “ขอโทษนะคะที่ทำให้รอ ท่านประธานเซียว”
เซียวจิ่งส่ายศีรษะและสตาร์ตเครื่องยนต์ “ไม่เป็นไร” จากนั้นเขาก็แสดงความห่วงใยฉินซินหยิ่ง “คุณฉิน คุณดูแย่มาก มีอะไรผิดปกติหรือเปล่า”
ฉินซินหยิ่งจ้องมองเซียวจิ่ง อยากจะถลกหนังหัวเขา แต่เธอรู้ว่าเธอทำไม่ได้ จึงได้แต่เม้มริมฝีปากแล้วฝืนยิ้ม “ฉันไม่ได้เป็นอะไรค่ะ บังเอิญเมื่อกี้มือฉันไปโดนมือข้างที่เจ็บ ก็เลยรู้สึกเจ็บขึ้นมานิดหน่อย ขอบคุณนะคะที่เป็นห่วง ท่านประธานเซียว”
เซียวจิ่งยิ้มมองตรงไปข้างหน้าและขับรถอย่างระมัดระวัง “เป็นสิ่งที่ผมควรทำ ถ้าคุณรู้สึกไม่ค่อยสบายก็งีบหลับก่อนได้นะ ผมจะปลุกคุณเองเมื่อเราไปถึงโรงพยาบาล”
“ไม่เป็นไรค่ะ” ฉินซินหยิ่งฝืนยิ้ม มือเธอบาดเจ็บสาหัสขนาดนี้ เธอจะหลับลงได้อย่างไร! ตอนนี้เธอแค่อยากได้ยาแก้ปวด ไม่ได้อยากนอนเลย!
เซียวจิ่งขับรถอ้อมไปรอบเมือง ทั้งสองติดอยู่บนสะพานลอยที่รถหนาแน่นที่สุดในเมืองเป็นเวลาเกือบหนึ่งชั่วโมง หากเขาไม่คอยดูนาฬิกาและสบถตลอดเวลา ฉินซินหยิ่งก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาจงใจทรมานเธออย่างแน่นอน เซียวจิ่งหันไปมองฉินซินหยิ่งซึ่งเหงื่อแตกพลั่กแล้วกล่าวขอโทษ “ผมต้องขอโทษด้วยนะ ไม่คิดเลยว่ารถจะติดขนาดนี้”
ฉินซินหยิ่งส่ายศีรษะ พยายามควบคุมตัวเองอย่างเต็มที่ “ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวอีกสักพักถนนก็คงจะโล่ง”
เป็นเวลาเที่ยงพอดีตอนที่พวกเขามาถึงโรงพยาบาล เซียวจิ่งโทรมาบอกที่โรงพยาบาลไว้แล้ว จึงมีแพทย์มารออยู่ที่ประตูโรงพยาบาล เซียวจิ่งลงจากรถแล้วบอกว่า “มือเธอได้รับบาดเจ็บ ช่วยตรวจดูอาการและรีบรักษาด้วย อย่ารอช้า”
ฉินซินหยิ่งเจ็บมือมาก จนเธอไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะขอบคุณเซียวจิ่ง เธอเดินตามแพทย์เข้าไปในโรงพยาบาล เซียวจิ่งพยักหน้าให้หัวหน้าแพทย์แผนกศัลยกรรมกระดูกและข้อต่อ ที่ตามพวกเขาไป ครึ่งชั่วโมงต่อมานายแพทย์หัวหน้าแผนกก็มารายงานต่อเซียวจิ่งถึงอาการบาดเจ็บของฉินซินหยิ่ง
เซียวจิ่งเลิกคิ้วบ่นพึมพำ “ช่างเป็นผู้หญิงที่โหดเ**้ยมจริงๆ”
นายแพทย์หัวหน้าแผนกกล่าวว่า “ถ้าคุณมาส่งเธอช้าอีกนิดเดียว มือเธออาจจะพิการได้”
เซียวจิ่งเลิกคิ้ว อยากจะเห็นสิ่งนั้นเกิดขึ้นจริงๆ แต่เขาไม่อาจทำลายชีวิตคนคนหนึ่งแบบนั้นได้ เขาจึงมาส่งเธอที่โรงพยาบาลให้ทันเวลา
เขาถามว่า “นี่คุณหมอกำลังจะผ่าตัดให้เธอใช่ไหมครับ”
นายแพทย์หัวหน้าแผนกพยักหน้า “ใช่ครับ เธอต้องอยู่โรงพยาบาลสักหนึ่งสัปดาห์ ไม่อย่างนั้นมือเธอจะไม่สามารถกลับมาหายได้เหมือนเดิม”
เซียวจิ่งยักไหล่ “ก็แล้วแต่ครับ ไม่มีปัญหา เธอจะจ่ายค่ารักษาพยาบาลเอง ผมต้องไปแล้ว ลาก่อน!”
“อ้าว คุณเซียว!” นายแพทย์หัวหน้าแผนกเอ่ยเรียกเขาด้วยความตกใจ เซียวจิ่งหันกลับมามอง “มีอะไรอีกหรือครับ”
“คุณจะไปเฉยๆ แบบนี้หรือ” นายแพทย์หัวหน้าแผนกถามด้วยความประหลาดใจ
เซียวจิ่งยักไหล่ “ใช่สิครับ อย่าบอกนะว่าคุณคิดว่าผมจะจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้เธอ! ผมพาเธอมาที่นี่เพียงแค่จะดูให้แน่ใจว่าเธอได้รับบาดเจ็บจริงๆ หรือเปล่าเท่านั้น ตอนนี้ผมแน่ใจแล้วว่าเธอได้รับบาดเจ็บจริง เพราะฉะนั้นผมก็จะไปแล้ว คุณมีปัญหาอะไรหรือเปล่า”
“อ๋อ ไม่มีแน่นอนครับ ผมจะไปตรวจคนไข้ในตึกก่อน แล้วเจอกันครับ คุณเซียว” นายแพทย์หัวหน้าแผนกลุกขึ้น แล้วเดินจากไป