ตอนที่ 254 เปิดโหมดหึงหวง / ตอนที่ 255 โดนจับได้แล้ว

(Yaoi) เดิมพันอันตรายคุณชายจอมเจ้าเล่ห์

ตอนที่ 254 เปิดโหมดหึงหวง 

 

 

           “ทำไม คุณชายอย่างฉันรวยซะอย่าง อยากจะเปลี่ยนรถสักคัน ยังต้องให้นายอนุมัติด้วยเหรอ” เจียงมู่เฉินยกยิ้มมุมปากเอ่ยหยอกล้อ 

 

 

           ท่าทางทะนงตัวของเขาทำเอาซือเหยี่ยนตลกไม่เบา 

 

 

           ในโลกนี้คงจะมีแค่เจียงมู่เฉินพูดคำพูดแสนเย่อหยิ่งทะนงตัวขนาดนี้ออกมาได้เต็มปากเต็มคำ 

 

 

           เขากุมมือเจียงมู่เฉินเอาไว้ “งั้นถ้าผมอยากจูงมือคุณก็ควรจะไม่ต้องผ่านการอนุมัติจากคุณหรอกใช่ไหม” 

 

 

           ‘ว้าว นี่ไร้ยางอายแล้ว’ 

 

 

           เจียงมู่เฉินอีกนิดจะกระอักเลือดออกมาแล้ว ใกล้จะโดนซือเหยี่ยนเจ้าหมอนี่ตีป้อมจนจะแพ้แล้วจริงๆ 

 

 

           เขายืนพิงรถ ถลึงตาใส่อีกฝ่าย “นายยังหน้าไม่อายกว่านี้ได้อีกไหม” 

 

 

           ซือเหยี่ยนลากอีกคนเข้าไปข้างใน “กับคุณแล้ว ผมหน้าไม่อายหรือเปล่า คุณเองก็ไม่ใช่ว่าจะไม่รู้” เขาเลิกคิ้วเล็กน้อย “อะไรกัน เริ่มหุนหันพลันแล่นเร็วขนาดนี้เลยเหรอ” 

 

 

           เจียงมู่เฉินขบกราม “หุนหันพลันแล่นกับน้องสาวนายสิ” 

 

 

           ซือเหยี่ยนถอนหายใจ “คุณชายน้อยอย่างคุณพูดจาสุภาพหน่อยไม่ได้เหรอ” 

 

 

           “เหอะเหอะ” เจียงมู่เฉินหัวเราะเสียงเย็นไปสองที “ทำไม ตอนนี้รังเกียจที่คุณชายพูดจาไม่สุภาพแล้วเหรอ ยังไง มีคนใหม่แล้วรังเกียจคนใหม่แล้วใช่ไหม” 

 

 

           คนบางคนเปิดโหมดหึงหวงอีกแล้ว ซือเหยี่ยนอดจะใคร่ครวญไม่ได้ ถ้าเจียงมู่เฉินรู้เข้าว่าตัวเองกลับอเมริกาไปเป็นเพื่อนซูเตอร์ เกรงว่าเขาคงจะถือปืนมาตามฆ่าตัวเองแล้วจริงๆ 

 

 

           เขากุมขมับ รู้สึกว่าเรื่องนี้ค่อนข้างจะจัดการได้ยากจริงๆ 

 

 

           ท่าทางลำบากใจของซือเหยี่ยนอยู่ในสายตาของเจียงมู่เฉิน เขาคิดว่าซือเหยี่ยนรู้สึกว่าคำพูดที่เขาเพิ่งถามไปทำให้เจ้าตัวลำบากใจ ทันใดนั้นก็โมโหจนทนไม่ได้ พลิกมือมากดคนติดผนังเอาไว้ 

 

 

           “นี่ นายยังจะกล้าคิดจริงๆ เหรอ” เจียงมู่เฉินยิ้มเยาะ “อะไรกัน ตอนนี้ฉันควรจะรู้งานรีบจบกับนายเคลียร์ทางทุกอย่าง จะได้ให้นายไปหาคนอื่นใช่หรือเปล่า” 

 

 

           เขาซือเหยี่ยนไม่พูดจาเอาแต่จ้องมองเขา ก็อดจะกระทืบเท้าใส่อีกฝ่ายไม่ได้ “ถามนายอยู่นะ นายแม่งทำมาเป็นถือตัวอะไร” 

 

 

           ซือเหยี่ยนทำหน้าเสพสุขแม้โดนกดอัดติดกับผนัง เจียงมู่เฉินขบกรามรู้สึกว่า เจ้าหมอนี่คงจะไม่ใช่พวกชอบโดนกระทำหรอกใช่ไหม 

 

 

           “ซือเหยี่ยน ถ้านายยังไม่พูดอีก คุณชายจะฆ่านาย” 

 

 

           เขาเห็นเจียงมู่เฉินถูกเขายั่วจนโมโหจริงๆ ก็อดจะหัวเราะเบาๆ ไม่ได้ “เฉินเฉิน นี่คุณหึงแล้วเหรอ” 

 

 

           เจียงมู่เฉินกำลังหึงอยู่ดีๆ จู่ๆ โดนซือเหยี่ยนพูดมาขนาดนี้ทำเอาใบหน้าเรียวเล็กแดงจัดในทันใด มือที่กดไหล่ซือเหยี่ยนไว้สั่นเทาขึ้นมา “ฉันหึง ฉันวุ่นวายขนาดนี้หรือไง” 

 

 

           ซือเหยี่ยนฉวยโอกาสตอนที่เขาคลายมือลง พลิกมือมากดเขาอัดติดกับรถ เจียงมู่เฉินตกใจกว่าจะมีปฏิกิริยาตอบกลับ ร่างของตัวเองก็แนบชิดกับหน้าต่างรถแล้ว ขยับเขยื้อนไม่ได้สักนิด 

 

 

           “นายปล่อยฉันนะ” เจียงมู่เฉินร้อนใจจนเหยียดคิ้วขมวด 

 

 

           “คุณยังไม่ได้ตอบคำถามผมเลย” ซือเหยี่ยนบอกเป็นนัยว่า ‘คุณไม่พูด ผมก็จะไม่ปล่อยมือเด็ดขาด’ 

 

 

           “พูดอะไร คุณชายมีอะไรน่าพูดเหรอ” เจียงมู่เฉินจะไม่ยอมรับเรื่องที่ตัวเองหึงเรื่องนี้เด็ดขาด ยอมยืนเป็นกระต่ายขาเดียวอยากเป็นอิสระโดยเร็ว 

 

 

           ตัวเองโดนซือเหยี่ยนปราบให้พ่ายอยู่หลายครั้งหลายคราแบบนี้ เขาก็ไม่เชื่อแล้ว ตัวเองจะสู้ซือเหยี่ยนไม่ชนะจริงๆ เหรอ 

 

 

           เขาฉวยโอกาสตอนซือเหยี่ยนเผลอ พลิกมือไปจับมือของซือเหยี่ยน กลับโดนซือเหยี่ยนจับมือทั้งสองข้างแยกจากกันกดแนบติดกับหน้าต่างรถ 

 

 

           เขาถูกบีบบังคับจนชิดกับประตูรถ กระดุกกระดิกไม่ได้ 

 

 

           เจียงมู่เฉินขมวดคิ้วยกเท้าถีบใส่ซือเหยี่ยน ครั้งนี้ไม่เหมือนวันก่อนที่แค่ถีบเล่นๆ ครั้งนี้เจียงมู่เฉินออกแรงอยู่ไม่น้อย 

 

 

            ซือเหยี่ยนหัวเราะเบาๆ เล็กน้อย หนีบขาเจียงมู่เฉินไว้อยู่กลางขาของตัวเอง 

 

 

           เขามองเจียงมู่เฉินอย่างขำๆ “เฉินเฉิน ในที่สุดผมก็พบแล้ว ว่าตอนนี้คุณไม่ว่าง่ายเลยสักนิด” 

 

 

           เจียงมู่เฉินโกรธจนทนร้องตะโกนออกมาไม่ไหว “นายปล่อยมือฉันก่อน คุณชายเจ็บมือ” 

 

 

           ซือเหยี่ยนได้ยินเขาร้องว่าเจ็บก็รีบออมแรงทันที กลัวว่าจะกดเจียงมู่เฉินไว้จนเจ็บขึ้นมาจริงๆ เจียงมู่เฉินดูสถานการณ์แล้ว นาทีที่เห็นเขาปล่อยมือ ทันใดนั้นก็พลิกมือกลับมาพยายามออกแรงจับอีกคนอัดชนกับรถคันข้างๆ 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 255 โดนจับได้แล้ว 

 

 

           “ซือเหยี่ยน เวลาปกตินายแอบกินอะไรมั่วซั่วลับหลังฉันใช่ไหม” แรงเยอะเหมือนวัวไม่มีผิด 

 

 

           ซือเหยี่ยนขำจนกะพริบตาปริบๆ “อะไรกัน จู่ๆ ก็รู้สึกว่าผมเก่งมากเหรอ” 

 

 

           เจียงมู่เฉินถลึงตาใส่เขา “เก่งกับผีน่ะสิ” 

 

 

           แววตาซือเหยี่ยนมืดลงเล็กน้อย ดูท่าว่านี่คือถามเพราะข้องใจในสมรรถภาพของเขาสินะ โดนแฟนข้องใจแบบนี้ ต้องพิสูจน์ให้เห็นสักหน่อยน่าจะเหมาะสมใช่ไหม 

 

 

           เจียงมู่เฉินไม่รู้ว่าซือเหยี่ยนกำลังคิดอะไรอยู่ เขาถลึงตามองซือเหยี่ยนอย่างไม่กลัวตาย “ฉันจะบอกนายให้นะ วันนี้คุณชายยังจะไม่พูดกับนายแล้ว มีความคิดเห็นไม่พอใจก็อดทนรอไปนะ” 

 

 

           “คุณชายหึงนาย? รอชาติหน้าเถอะ” 

 

 

           ซือเหยี่ยนเห็นเขาเป็นแบบนี้ก็เอนพิงรถไปเลย “เอาเถอะ ในเมื่อคุณไม่อยากหึงผม งั้นผมหึงคุณก็ได้” 

 

 

           เจียงมู่เฉินทำหน้างุนงง “นายหึงอะไรฉัน” 

 

 

           “เรื่องที่คุณคร่อมทับไป๋จิ่งเล่นลีลากับเขาที่บริษัทผม ผมยังไม่ลืมนะ” 

 

 

           “!” เจียงมู่เฉินตาลุก “ใครเล่นลีลากับเขา คุณชายอยากจะเล่นงานเขาจนตายต่างหาก โอเคไหม” 

 

 

           ซือเหยี่ยนเลิกคิ้วเล็กน้อย “อ่อ งั้นเรื่องที่คุณคร่อมทับอยู่บนตัวไป๋จิ่ง เป็นผมที่มองผิดไปแล้วใช่ไหม” 

 

 

           เจียงมู่เฉินขุ่นเคืองใจ เขาไปแก้แค้นไป๋จิ่ง คิดไม่ถึงว่าจะถูกมองว่าไปลวนลามไป๋จิ่งแทน 

 

 

           ‘นี่ก็โรคจิตเกินไปจริงๆ แล้วไหม’ 

 

 

           “ถึงยังไงฉันก็ไม่คิดอยากจะอะไรกับเขาอยู่แล้ว เขาส่งให้ฉัน ฉันก็รังเกียจไม่แยแสทั้งนั้น แล้วยังจะเล่นลีลากับเขาอีกเหรอ” 

 

 

           “ที่พูดอยู่ห้องทำงานผม คุณยังไม่ลืมใช่ไหม” ซือเหยี่ยนตัดสินใจเอ่ยเตือนเขา 

 

 

           ในสมองเจียงมู่เฉินฉายภาพเรื่องที่ตัวเองรับปากซือเหยี่ยนว่าจะขยับเอง ใบหน้าเรียวเล็กแดงปรี๊ด รีบโต้แย้ง “ฉันไม่เห็นจำได้เลยว่าตัวเองรับปากอะไรนายไป” 

 

 

           ‘ล้อเล่นอะไรกัน’ ตอนนี้คนอยู่ใต้มือเขาแล้ว เขาไม่พูด ซือเหยี่ยนจะทำอะไรเขาได้ 

 

 

            ‘ไม่ยอมรับ ไม่ยอมรับเด็ดขาด’ 

 

 

           รอยยิ้มฉายสะท้อนในแววตาซือเหยี่ยนขึ้นมาวาบหนึ่ง เขายกมุมปากขึ้น พยายามกดเสียงต่ำให้ถึงที่สุด “เฉินเฉิน เรื่องที่รับปากคนอื่นไว้ จะพูดแล้วกลับคำได้ยังไง” 

 

 

           “นั่นมันเป็นนายต่างหากที่บังคับให้ฉันรับปาก ฉันเป็นฝ่ายรับปากเองหรือไง” 

 

 

           “แต่ไม่ว่าจะยังไง ก็เป็นคุณเองที่เอ่ยรับปาก ถ้าผมพูดออกไปว่าคุณชายน้อยเจียงเป็นคนพูดแล้วคืนคำ ไม่รู้ว่า…” เขาจงใจพูดไม่จบประโยค เป็นการแสดงท่าทีข่มขู่เจียงมู่เฉิน 

 

 

           เจียงมู่เฉินโกรธจนขบกราม เขาเตรียมจะกัดซือเหยี่ยนหนักๆ แรงๆ สักคำ ก็ได้ยินเสียงกรีดร้องขึ้นมา 

 

 

           “ลูก พวกลูก…พวกลูกกำลังทำอะไรกัน” 

 

 

           เจียงมู่เฉินคลายมือเอียงหน้ามองเข้าไป คุณแม่เจียงยืนอยู่ไม่ไกลนัก มองพวกเขาสองคนด้วยความหวาดกลัว เจียงมู่เฉินใจกระวูบ รีบปล่อยมือแล้วถอยหลังไปก้าวหนึ่ง 

 

 

           “แม่…แม่มาได้ยังไงครับ” 

 

 

           คุณแม่เจียงนิ้วมือสั่นเทา เธอมองเจียงมู่เฉิน แล้วก็มองซือเหยี่ยนแวบหนึ่ง สายตาวนเวียนมองไปมาทั้งสองคน สุดท้ายก็มาหยุดลงที่เจียงมู่เฉิน 

 

 

           “เฉินเฉิน ลูกบอกกับแม่ที พวกลูกสองคนไม่ได้เป็นแบบที่แม่คิดแบบนั้น” ราวกับคุณแม่เจียงโดนโจมตีอย่างแรง ในเสียงมีความสั่นเครือเล็กๆ 

 

 

           ซือเหยี่ยนสีหน้าดำดิ่ง “น้าเจียงครับ…” 

 

 

            “เฉินเฉิน!” คุณแม่เจียงแผดเสียงเอ่ยตัดบทคำพูดของซือเหยี่ยน “ลูกพูดสิ ระหว่างพวกลูกสองคนมีความสัมพันธ์เป็นอะไรกันแน่” 

 

 

           ซือเหยี่ยนทำอะไรไม่ได้ ทำได้เพียงปล่อยเลยตามเลย ตอนนี้อารมณ์คุณแม่เจียงกำลังเดือดดาล อย่างไรก็ไม่ฟังคำพูดเขาอยู่แล้ว 

 

 

           เจียงมู่เฉินมองดูคุณแม่เจียงที่ไม่กล้ายอมรับ แล้วมองดูซือเหยี่ยนที่อยู่ข้างกาย ในใจจมดิ่งในห้วงความคิด ฉากนี้ไม่ช้าก็เร็วต้องเผชิญหน้ากับมัน เพียงแต่ว่าตอนนี้ที่คุณแม่เจียงมาเห็นก่อน ไม่ได้อยู่ในแผนของเขา 

 

 

           แต่ว่าขอเพียงแต่ได้อยู่ด้วยกันกับซือเหยี่ยน การสารภาพกับคุณแม่เจียงเป็นเรื่องที่ 

 

 

           เขากุมมือของซือเหยี่ยนไว้อย่างเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ มองมาทางคุณแม่เจียง “แม่ครับ ผมกับซือเหยี่ยนมีความสัมพันธ์เป็นคนรักกันครับ” 

 

 

           เพล้ง! ปิ่นโตเก็บความร้อนในมือของคุณแม่เจียงร่วงหล่นลงพื้น น้ำแกงไก่ที่ตุ๋นมาอย่างดีหกกระจายบนพื้น 

 

 

           เธอหน้าเปลี่ยนสี มองทั้งสองคน “แม่ไม่เห็นด้วย ไม่เห็นด้วยเด็ดขาด!”