บทที่ 590 บทเพลงแห่งสงคราม

บัญชามังกรเดือด

บัญชามังกรเดือด บทที่ 590 บทเพลงแห่งสงคราม

ต่อมาจากนี้ บรรยากาศก็ค่อยๆกลมกลืนกัน

ฉินเทียนนั้นได้นั่งดื่มและกินกับเถ้าแก่ใหญ่ ก่อนที่จะคิดถึงเรื่องเมื่อก่อนก็ยิ่งสนุก เมื่อเอ่ยถึงเขาและเฉินเอ้อร์กั่วนั้นฝึกฝนอย่างไม่ตั้งใจ โดนเถ้าแก่ใหญ่นั้นลงโทษให้ยืนค้างสามวันสามคืน เฉินเอ้อร์กั่วนั้นสะบัดหัว ก่อนที่จะท่อนไม้นั้นมาค้ำยันตัวเองเพื่อช่วยยืนค้ำไว้

แต่สุดท้ายแล้วเผลอนอนหลบจนทั้งคนและท่อนไม้ต่างก็ล้มมาตามๆกัน

หลังจากนั้น โดยเถ้าแก่ใหญ่ออกคำสั่ง ให้แบกท่อนไม้นอนไว้สามเดือน

เถ้าแก่ใหญ่นั้นหัวเราะยกใหญ่

“เอ้อร์กั่วนั้นก็เป็นคนมีความสามารถนะ”

“แต่ว่า ยังต่ำกว่าเจ้าหน่อยนึง ดังนั้นข้าเลยสอนไปที แต่ไม่ได้รับเขาเป็นศิษย์”

เมื่อเมาจนได้ที่แล้ว ในที่สุดสีหน้าของเถ้าแก่ใหญ่นั้นก็ได้เปลี่ยนสีหน้าไป มองไปที่ฉินเทียนด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความพอใจ

ขาดแค่เอ่ยว่า ฉินเทียนในชีวิตนี้นั้นเป็นผลงานที่น่าพอใจที่สุดในชีวิตนี้ของเขาเลย

ใจของฉินเทียนเต้นแรง เขานั้นอยากจะเอ่ยถึงเรื่องที่ผิดปกติของสายเลือดของตนเอง แต่ว่าเมื่อคิดไปคิดมา เลยทำให้ได้อดเอาไว้ก่อน

เขานั้นยอมรับ ว่าตนเองนั้นมีพรสวรรค์มากกว่าคนอื่นนิดหน่อย และก็ยอมที่จะเชื่อ เพราะว่าความสำเร็จในวันนี้ เป็นเพราะใช้เลือดเหงื่อกำลังของตนเองนั้นแลกมา

ไม่มีใครรู้มากกว่าเขา ว่าเขานั้นพยายามมากเพียงใด

เพราะว่าในตอนนี้ เขานั้นสาบานเอาไว้ว่าจะออกจากที่นี่ เพื่อไปหาภรรยาของตนเอง

  ……

เวลาได้พอประมาณแล้ว

ถึงเวลาที่ต้องจากไปแล้ว

ฉินเทียนนั้นอยากที่จะอยู่ต่อที่นี่ ผ่านเวลาที่เต็มไปด้วยความสบายใจไม่ต้องคิดอะไร แต่ว่า ในสุดท้ายแล้ว ยังมีเรื่องภายนอกที่รอให้ตนเองไปจัดการ

“เจ้าแน่ใจ ว่าไม่มีเรื่องอื่นที่อยากจะถามข้าใช่ไหม?”สุดท้ายแล้ว เถ้าแก่ใหญ่นั้นเอ่ยถามด้วยรอยยิ้มที่เย็นชา

ฉินเทียนคิดอยู่ครู่หนึ่ง“ยังมีเรื่องอะไรอีกหรอ?”

เถ้าแก่ใหญ่ยิ้มเยือกเย็นไม่เอ่ยพูด

ฉินเทียนตบที่หน้าผากเบาๆ ก่อนจะเอ่ย“มองดูความจำของข้าสิ สุดท้ายแล้วลืมถึงเรื่องสำคัญไปแล้วนะ”

“ส่วนพวกลูกศิษย์หญิงคนอื่นๆ พวกเธอนั้นก็วิ่งมาหาเจ้ากะทันหัน มีเรื่องอะไรหรือเปล่า?”

“เธอ……ยังดีอยู่ใช่ไหม?”

เถ้าแก่ใหญ่เอ่ยถามกัดฟัน “ อย่างน้อยเจ้านั้นก็ยังมีจิตใจที่ดี!”

“หากเจ้านั้นยังคิดไม่ออก งั้นก็ทำร้ายจิตใจข้าจริงๆ!”

“ข้านั้นเอาเจ้าใยหัวเป็ดให้เจ้าดูแล เจ้าดูแลเป็นเช่นนี้หรอ?”

“เจ้าได้ใส่ใจเธอบ้างหรือเปล่า?”

ฉินเทียนเอ่ยในใจ เจ้ายัยหัวเป็ดนั่นยังจะต้องให้เขากังวลใจอีกหรอ?เธอนั้นเก่งดุดันกว่าเขาสะอีก

แต่ว่าภายในใจของเถ้าแก่ใหญ่แล้ว เหลิ่งหยุนนั้นเป็นสาวน้อยที่อ่อนแอบอบบาง ต้องการที่ไม่เพียงจะต้องให้รุ่นพี่ใหญ่คอยปกป้อง

ดังนั้น เขานั้นเลยไม่กล้าตอบ ก่อนที่จะยิ้มกริ่มเอ่ย “นี่ก็เพราะคุยกันมานาน ลืมเวลาแล้ว”

“อาจารย์จริงๆนะ น้องสาวศิษย์น้องนั้นแค่มาเยี่ยมเยือนปกติใช่ไหม?”

สีหน้าของเถ้าแก่ใหญ่นั้น ได้มืดมนลงไปอีกรอบหนึ่ง

“แน่นอนว่าไม่ใช่”

“ไม่แน่ใจว่าเธอนั้นได้ยินอะไรเกี่ยวกับจุยเฟิง แล้วก็มาเล่าให้ฟังว่า ในปีนั้นพ่อของเธอนั้นได้พบเจอกับเหตุการณ์ที่สลดขนาดไหน

“เมื่อก่อน เธอนั้นได้ฆ่าคนไปไม่กี่คน แต่ว่ารอบนี้กลับมาบอกข้าว่า เธอนั้นเหมือนจะค้นพบอะไรที่แอบซ่อนอยู่เบื้องหลัง ……”

“สถานการณ์ในต่างชาตินั้นซับซ้อนมาก กองกำลังนั้นมีอำนาจพัวพันกัน มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน ไม่ต่างอะไรไปจากพวกเราอาณาจักรมังกรเลย”

“ไม่เอ่ยเรื่องอื่น วิชานินจานั่น ถึงแม้ในตอนแรกเดิมทีที่อาณาจักรมังกรนั้นได้ส่งต่อศิลปะการต่อสู้มา และได้ถูกพวกเขานั้นศึกษาจนถึงขีดสุด”

“ดังนั้นข้าได้มาว่าเกี่ยวกับเจ้าเหลิ่งหัวเป็ดนั้น ว่าอย่ากระทำลงมือด้วยตนเองเด็ดขาด”

“แต่ว่านิสัยของเธอนั้นข้าทรายดี เกรงว่าจะฟังไม่เข้าหูเอานะสิ”

“หลังจากที่เจ้ากลับไปแล้ว รีบติดต่อเธอให้ที รับประกันความปลอดภัยของเธอ เข้าใจไหม?”

“รับทราบรับทราบ หลังจากที่ข้ากลับไป ข้าจะรีบจัดการให้!”

“ท่านวางใจเถอะ ข้าจะไม่ให้เอต้องเกิดเจอเรื่องอะไรแน่นอน!”ฉินเทียนรีบเอ่ยออกมา

เถ้าแก่ใหญ่พยักหัวก่อนที่จะเอ่ย“ไสหัวออกไปเถอะ ข้าก็ง่วงแล้ว”

“หลังจากนี้หากไม่มีอะไรก็ไม่ต้องมารบกวนเวลาอันสงบสุขของข้าได้แล้ว”

เมื่อเอ่ยแล้ว เขาก็พลิกตัว ก่อนที่จะรีบหลับไปในทันใด

ฉินเทียนนั้นรีบยืนขึ้น ก่อนที่จะเอ่ยด้วยเสียงที่ต่ำลง “ข้าน้าได้สร้างองค์กรคำสาปสวรรค์ ตอนนี้อยู่ที่เจ็ดเมืองทางใต้ก็นับว่ามั่นคงแล้วแหละ”

“องค์กรคำสาปสวรรค์นั้นเป็นของท่าน หากวันใด ข้าหวังว่าท่านจะสามารถเดินออกจากภูเขานี้ได้ ข้านั้นจะเอา องค์กรคำสาปสวรรค์ยกคืนหลับให้ท่าน

ถึงแม้ที่นี่จะไม่ขาดอาหารหรืออะไร มีชีวิตอย่างไร้ความกังวล แต่ว่า เขานั้นจะอดใจได้อย่างไร ที่จะให้ช่วงเวลาของชีวิตนั้นหายไปกับที่นี่

ฉินเทียนนั้นหวังว่า วันใดวันหนึ่ง เถ้าแก่นั้นจะสามารถจัดการปัญหาหัวใจ แล้วกลับมามีชีวิตใต้แสงแดดอีกครั้ง

เถ้าแก่ใหญ่เหมือนกับไม่ได้ยินเสียง และเหมือนเสียงกรนนั้นจะดังขึ้น

ฉินเทียนนั้นยิ้มหัวเราะ ก่อนที่จะหันหลัง แล้วเดินจากไป

  ……

เมื่อมาถึงด้านบน เซียวโผหู่และเนี่ยชิงหลง ได้คุยกันจบนานแล้ว และอยู่ในช่วงที่รอคอย

เมื่อมองเห็นฉินเทียน เซียวโผหู่นั้นก็ได้มาต้อนรับอย่างตื่นเต้น

“พี่ใหญ่ คุยจบแล้วหรอ?”

“ไม่เป็นไรล่ะก็ พวกเราไปดื่มเหล้ากันเถอะ!”

“พี่ไม่ง่ายเลยนะที่จะมาที่นี่ วันนี้ไม่เมาไม่กลับ!”

ฉินเทียนส่ายหัวแล้วเอ่ย“เจ้าไม่ได้กลิ่นเหล้าบนตัวของข้างั้นหรอ?ข้าดื่มกับเถ้าแก่มาขวดหนึ่ง”

“มีเรื่องอีกมากมายที่ต้องจัดการ มีเวลาว่างค่อยไปกันเถอะ”

เมื่อเอ่ยแล้ว เขานั้นก็เดินมุ่งออกไปยังทางด้านนอก

สีหน้าของเซียวโผหู่นั้นหดหู่ลง

เนี่ยชิงหลงนั้นได้รีบเข้ามาตบไหล่เขาแล้วเอ่ย “เหล่าเซียว อย่าเสียใจไปเลย เจ้านั้นสามารถที่จะเอาเพลงที่มีเกี่ยวกับแดนเหนือของพวกเข้านั้นโหลดลงไปที่เครื่องบินรบ พอให้พี่ใหญ่ว่างแล้วค่อยไปดื่มกัน”

“จำเอาไว้ โหลดลงไปเยอะๆล่ะ!”

เซียวโผหู่นั้นทราบดี ว่าเนี่ยชิงหลงนั้นมาคุยกับฉินเทียนเพราะอยากดื่มเหล้า ไม่ว่าเขาก็ไม่มีวิธีเหมือนกัน

เขานั้นได้ขับรถอีกรอบ ก่อนที่จะพาฉินเทียนและเนี่ยชิงหลงนั้น พาไปยังที่สนามบิน

ก่อนที่จะมาจอดหยุดยังด้านหน้าของ F35 และทั้งหมดสิบเหยือกนี้ ตอนนี้ก็เต็มไปด้วยเหล้าทำสงครามกว่าห้าสิบโล

เหล้าทำสงคราม ของทางแดนเหนือนั้น ไม่เพียงแต่เป็นเหล้าชนิดหนึ่ง แต่ยังแขวนไปด้วยประวัติศาสตร์อันรุ่งโรจน์ ที่บอกถึงตอนที่กำลังสร้างกองกำลังทหารของแดนเหนือตอนต้น แต่เพราะไม่อาจทนได้ต่อสภาพอากาศที่เลวร้าย นักรบหลายคนนั้นต่างก็ทนกันไม่ได้ 

ไม่ต้องเอ่ยว่าแค่การฝึกฝนเท่านั้น แต่ละคนนั้นต่างก็เท้าแข็งมือชากัน แม้แต่เตียงก็ลงมาไม่ได้

ตอนแรกได้มีหมอทหารคนหนึ่ง ตามสูตรโบราณ เขานั้นได้ใช้เอาน้ำจากทาง ตอนเหนือของน้ำแข็งแดนใต้ ใช้อาหารที่มีพลังงานมากในท้องที่นั้น นำมาหมักจนเป็นเหล้าสุราชนิดหนึ่ง

หลังจากที่นักรบได้ดื่มกันไป อากาศหนาวที่เต็มไปด้วยหิมะ ก็ไม่หนาวอีกต่อไป

หลังจากนั้น นี่เองก็ได้กลายเป็นอาหารของชายแดนเหนือที่ไม่สามารถขาดได้

หลังจากที่สู้รบและชนะ พวกเขานั้นยังร้องดื่มเหล้าทำสงคราม และพี่น้องที่แยกกันนั้น พวกเขานั้นต่างก็ดื่มเหล้าทำสงครามเหมือนกัน

เหล้าทำสงคราม ก็เหมือนเลือด ที่มีโครงสร้างที่ซับซ้อนจนมองไม่เห็นของสัญลักษณ์ของแดนเหนือ

แต่ว่าก็สามารถที่จะเห็นได้ เนี่ยชิงหลงนั้นเป็นวีรบุรุษของกองทัพ เขานั้นเคารพและกระหายในบทเพลงสงครามเป็นอย่างมาก

ไม่มีเพียงแค่เขา ชายหนุ่มเลือดร้อยของอาณาจักรมังกร พวกนั้นเขาไม่กระหายในบทเพลงของสงครามหรอ ?

เมื่อดื่มเข้าไป นั่นไม่ใช่เป็นเพียงแค่สุรา แต่นั่นคือเลือกเหล็กพลังวิญญาณของนักรบ!

ที่ได้ร้อนรุ่มในลำไส้ ไม่ใช่เพราะแอลกอฮอล์ แต่นี่เป็นเพราะจิตวิญญาณของการปกป้องประเทศ ที่ไม่เคยยอมแพ้ต่อการสู้รบ!

นักรบบินสูงขึ้น ด้านล่างนั้นคือทุ่งน้ำแข็ง ที่กำลังค่อยๆหายไปในระยะจากไกลๆ ระยะห่างของหลงเจียงกับแดนเหนือนั้น แค่ไม่กี่พันกิโล 

เครื่องบินรบเมื่อกลับมาแล้ว เมื่อมาถึงด้านนอกของเมืองหลงเจียง พอดีกลับในช่วงตอนที่พระอาทิตย์กำลังตก เหลยเป้านั้นก็ได้ขับรถจี๊ปมารอรับแล้ว และมารออยู่สักพักแล้ว

นอกจากเขาแล้ว หลินเซวี่ยนั้นก็ได้ขับรถลาดตระเวนของฉินเทียน มารออยู่ทางด้านข้าง

“พี่ใหญ่ งั้นข้าไม่รบกวนพี่แล้ว”

“ยังมีเรื่องอื่นอีก ข้ากับเหลยเป้าจะไปจัดการก่อน”

“งั้นอะไรล่ะ จะแข่งมาให้ข้าอย่างไหม?”

เนี่ยชิงหลงที่มองเครื่องบินรถที่มี เหล้าทำสงคราม เดินลงมา สายตาของพวกเขาไม่ไหวแล้ว

ฉินเทียนหัวเราะ “เจ้าแบกไปสามหม้อเถอะ ที่เหลือสามหม้อข้าจะเอาไปให้องค์กรคำสาปสวรรค์”

“ยังเหลืออีกสี่หม้อ ข้าจะเก็บไว้ให้ตนเองสองหม้อ ส่วนอีกสองหม้อให้ จี้ซิง”

“พอดีที่เขานั้นแต่งงาน ไม่รู้ว่าจะให้อะไร งั้นก็เอาเหล้าไวน์ไปให้เขาสักสองหม้อ น่าจะไปได้ความอยู่นะ”