บทที่ 1359 การแทรกแซงของวังสวรรค์

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน

ฟางหยวนพบสิ่งที่น่าสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ

 

อายุขัยของกายาแห่งความฝันมีความสัมพันธ์กับระดับการบ่มเพาะของพวกมัน ยิ่งระดับการบ่มเพาะสูง อายุขัยของพวกมันก็ยิ่งสั้น ในทางตรงข้าม กายาแห่งความฝันระดับมนุษย์มีชีวิตได้ถึงสองหรือสามปี นี่เป็นการวิจัยของฟางหยวนในระยะเวลาสั้นๆนี้

 

‘ก่อนหน้านี้ข้าสงสัยว่าเหตุใดนิกายเงาถึงไม่ใช่วิธีนี้สร้างกายาแห่งความฝันจำนวนมากระหว่างการต่อสู้บนภูเขาอี้เทียน’

 

‘แต่ดูเหมือนการสร้างกายาแห่งความฝันเช่นอิงอู๋เซี่ยจะไม่ใช่เรื่องง่าย’

 

‘เพื่อช่วยเทพปีศาจจิตวิญญาณ พวกเขาต้องสร้างกายาแห่งความฝันจำนวนมากเพื่อลดปริมาณอาณาจักรแห่งความฝัน พวกเขามีความมุ่งมั่นอย่างมาก!’

 

ฟางหยวนถอนหายใจและตระหนักถึงทัศนคติที่แน่วแน่ของนิกายเงา

 

ไม่เพียงฟางหยวนที่จับกายาแห่งความฝัน แต่ผู้อมตะฝ่ายธรรมะคนอื่นๆก็ไม่โง่ พวกเขาเริ่มจับเชลยบางคนเช่นกัน

 

กายาแห่งความฝันคือผลลัพธ์จากงานวิจัยของนิกายเงา ผู้ใดก็ตามที่สามารถค้นคว้าเกี่ยวกับพวกมัน พวกเขาจะมีความก้าวหน้าอย่างมากในการสำรวจอาณาจักรแห่งความฝัน

 

อย่างไรก็ตามนิกายเงายังทำสิ่งนี้โดยไม่ลังเล

 

นี่เป็นฉากที่วุ่นวายมาก

 

ราชันภูเขาม่วงยังไม่ปรากฏตัว เขายังสร้างกายาแห่งความฝันต่อไป

 

รังไหมแสงปรากฏขึ้นอย่างต่อเนื่อง

 

อาณาจักรแห่งความฝันกลายเป็นยุ่งเหยิงและทำให้ภูมิประเทศซับซ้อนมากขึ้น

 

ฝ่ายธรรมะและฝ่ายปีศาจต่อสู้กันอย่างดุเดือด

 

แม้ฝ่ายธรรมะจะพยายามอย่างเต็มที่ แต่สนามรบวุ่นวายมากเกินไป ดังนั้นกายาแห่งความฝันจึงสามารถออกจากสนามรบท่ามกลางความสับสน

 

‘บัดซบ! เทพปีศาจจิตวิญญาณอาจซ่อนตัวอยู่ในร่างเหล่านี้!’ ฟางหยวนสังเกตและกำลังจะโจมตีจากระยะไกล แต่ทันใดนั้น!

 

แสงที่แหลมคมเหมือนเข็มกลับพุ่งลงมาจากท้องฟ้า

 

กายาแห่งความฝันถูกโจมตีโดยตรงและเสียชีวิตลงทันที

 

‘หือ? ผู้ใด!?’ รูม่านตาของฟางหยวนหดเล็กลง

 

เขาเป็นคนควบคุมสถานการณ์ ดังนั้นเขาจึงเป็นคนแรกที่สังเกตเห็นสิ่งนี้

 

ราชันภูเขาม่วงขมวดคิ้ว ‘ในที่สุดวังสวรรค์ก็ลงมือ!’

 

เขาคาดเดาสิ่งนี้ไว้แล้ว ด้วยการเตรียมการบางอย่างในสวรรค์สีขาว หอคอยดวงตาสวรรค์จึงถูกขัดขวางอยู่ชั่วระยะเวลาหนึ่ง

 

แต่น่าเสียดายที่ฟางหยวนกอบกู้สถานการณ์ไว้ได้ แผนการของราชันภูเขาม่วงจึงหยุดชะงัก

 

ค่ายกลวิญญาณของฝ่ายธรรมะขัดขวางแผนการของราชันภูเขาม่วงเป็นอย่างมาก

 

เขาสูญเสียช่วงเวลาที่ดีที่สุดไปแล้ว หอคอยดวงตาสวรรค์เข้าสู่การต่อสู้ในที่สุด

 

“ครืน…”

 

แสงสีขาวพุ่งลงมาจากท้องฟ้าและกำจัดกายาแห่งความฝันที่พยายามหลบหนีออกจากสนามรบอย่างง่ายดาย

 

ต่อมาคฤหาสน์วิญาณอมตะที่ยิ่งใหญ่ก็ลอยลงมาจากท้องฟ้า

 

ภาพที่น่าตื่นตานี้ดึงดูดความสนใจของผู้อมตะทั้งหมด

 

พวกเขาเงยหน้าขึ้นสู่ท้องฟ้า บางคนงุนงง แต่ผู้อมตะส่วนใหญ่จำหอคอยดวงตาสวรรค์ได้ในทันที

 

หลังจากทั้งหมดหอคอยดวงตาสวรรค์มีชื่อเสียงมากเกินไป

 

วังสวรรค์!

 

กลุ่มผู้อมตะตกใจมาก

 

การแทรกแซงของวังสวรรค์ทำให้การต่อสู้นี้ยิ่งสับสนวุ่นวายมากขึ้นไปอีก

 

ชั้นบนสุดของหอคอยดวงตาสวรรค์ ราชันมังกรกำลังเฝ้ามองสนามรบ

 

“ปีศาจจิตวิญญาณเจ้าเล่ห์เกินไป เราไม่สามารถปล่อยให้กายาแห่งความฝันหลบหนีไป พวกมันต้องตายทั้งหมด! แน่นอนว่ากายาแห่งความฝันเหล่านี้อาจเป็นเหยื่อล่อ เทพปีศาจจิตวิญญาณอาจแฝงตัวอยู่ในผู้อมตะคนอื่นๆ ดังนั้นผู้อมตะทั้งหมดจะต้องถูกกำจัด!”

 

“รับทราบ” ด้านหลังราชันมังกร เทพธิดาจื่อเว่ยและผู้อมตะอีกจำนวนหนึ่งตอบรับคำสั่ง

 

ราชันมังกรคิดก่อนกล่าว “เราจะกำจัดสมาชิกนิกายเงาก่อน แต่ผู้ใดที่พยายามออกจากสนามรบจะถูกกำจัดทั้งหมด!”

 

หอคอยดวงตาสวรรค์บินลงมาราวกับภูเขาสูงตระหง่านที่ทรงพลังอำนาจ

 

สนามรบที่วุ่นวายกลายเป็นหยุดนิ่ง

 

หอคอยดวงตาสวรรค์ทรงพลังเกินไป การเคลื่อนไหวของมันจะตัดสินทิศทางของการต่อสู้

 

หัวใจของผู้อมตะฝ่ายธรรมะเต้นแรง

 

วังสวรรค์มาจากภาคกลาง พวกเขาจะเป็นกำลังเสริมให้ฝ่ายใด?

 

ฝ่ายนิกายเงาตกตะลึง

 

เห็นได้ชัดว่าวังสวรรค์และนิกายเงาเป็นศัตรู

 

การแสดงออกของฟางหยวนกลายเป็นเคร่งขรึม โดยเฉพาะเมื่อเขามองไปที่หอคอยดวงตาสวรรค์ คิ้วของเขาก็ขมวดแน่นแม้เขาจะคาดคิดไว้แล้วว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้นก็ตาม

 

‘วังสวรรค์ปรากฏตัวอีกครั้ง สถานการณ์เลวร้ายมาก พวกเขาสามารถสร้างหอคอยดวงตาสวรรค์ขึ้นมาใหม่ได้ในเวลาอันสั้น ข้าสงสัยว่าคราวนี้มีผู้อมตะระดับแปดมาที่นี่กี่คน!?’

 

การปรากฏขึ้นของหอคอยดวงตาสวรรค์ส่งผลกระทบอย่างมากต่อแผนการของฟางหยวน

 

แต่โชคดีที่ฟางหยวนอยู่ในค่ายกลวิญญาณ มันสามารถป้องกันการโจมตีจากหอคอยดวงตาสวรรค์

 

ฟางหยวนมีประสบการณ์ในการต่อสู้กับหอคอยดวงตาสวรรค์มาก่อน

 

แม้มันจะใช้การโจมตีที่รุนแรงที่สุด แต่ฟางหยวนคาดเดาว่าค่ายกลวิญญาณนี้ยังสามารถรับการโจมตีได้อย่างน้อยหนึ่งครั้ง

 

ฟางหยวนตัดสินใจสังเกตสถานการณ์ต่อไป

 

ราชันภูเขาม่วงเป็นผู้อมตะระดับแปดบนเส้นทางแห่งปัญญา แล้วเขาจะไม่มีแผนสำรองได้อย่างไร?

 

ราชันภูเขาม่วงถ่ายทอดคำสั่ง “จ้าวเย่ฮุ้ย ตามข้อตกลงของเรา ศัตรูของเจ้าอยู่ที่นี่ เจ้ารอสิ่งใดอยู่ พวกเขามาจากวังสวรรค์!”

 

“วังสวรรค์!?” จ้าวเย่ฮุ้ยคำรามและระเบิดคลื่นเสียงออกไปรอบๆ

 

“บึม!”

 

พลังงานความมืดระเบิดออกมาจากร่างของจ้าวเย่ฮุ้ยและทำให้ร่างกายของมันขยายใหญ่ขึ้นท่ามกลางหมอกสีดำ

 

หลังจากนั้นมันก็พุ่งเข้าไปหาหอคอยดวงตาสวรรค์ราวกับกระสุนปืนใหญ่

 

หอคอยดวงตาสวรรค์ระเบิดพลังออกมา แต่หมอกดำที่ปกคลุมร่างของจ้าวเย่ฮุ้ยช่วยปกป้องและอนุญาตให้มันทะลวงผ่านอุปสรรคทั้งหมด

 

จ้าวเย่ฮุ้ยเคลื่อนที่ราวกับอุกกาบาตและเดินทางผ่านระยะทางหลายร้อยลี้ไปยังหอคอยดวงตาสวรรค์ในเสี้ยวพริบตา

 

“ฮืม! อวดดี!” ราชันมังกรก่นเสียงเย็นและกระตุ้นใช้พลังอำนาจของหอคอยดวงตาสวรรค์ทันที

 

ทันใดนั้นโลกทั้งหมดพลันถูกอาบย้อมไปด้วยแสงสีขาว

 

นี่คือการโจมตีที่รุนแรงที่สุดของหอคอยดวงตาสวรรค์ พ่ายแพ้ต่อโชคชะตา!

 

มันพึ่งพาพลังอำนาจของวิญญาณชะตากรรมระดับเก้า

 

การโจมตีนี้ไม่สามารถหลบเลี่ยง ตราบเท่าที่ยังไม่บรรลุระดับเก้า ไม่ว่าพวกเขาจะแข็งแกร่งเพียงใด พวกเขาก็ต้องพ่ายแพ้ต่อการโจมตีนี้

 

แสงสีขาวระเบิดออกไปทุกทิศทุกทาง

 

ไม่ว่าจะเป็นผู้อมตะฝ่ายธรรมะหรือฝ่ายปีศาจ ทุกคนต่างกระอักเลือดออกมาและได้รับบาดเจ็บสาหัส ผู้คนส่วนใหญ่หมดสติ ณ จุดเกิดเหตุ

 

ครึ่งหนึ่งของสนามรบถูกเก็บกวาดทันที

 

มีผู้อมตะบางคนที่ได้รับการปกป้องโดยอาณาจักรแห่งความฝัน พวกเขาไม่ถูกแสงและรอดชีวิตมาอย่างฉิวเฉียด

 

กระทั่งจ้าวเย่ฮุ้ยยังไม่สามารถต่อต้าน มันตกลงบนพื้นและกระอักเลือดออกมา แต่ไม่นานมันก็คลานขึ้นมาและอ้าปากคำรามไปยังหอคอยดวงตาสวรรค์

 

ในหอคอยดวงตาสวรรค์ ผู้อมตะภาคกลางแสดงออกด้วยความตกใจ

 

แม้แต่ราชันมังกรยังประหลาดใจ

 

จ้าวเย่ฮุ้ยไม่ตายเพราะการโจมตีพ่ายแพ้ต่อโชคชะตา นั่นเป็นเรื่องปกติ มันแข็งแกร่งกว่าคฤหาสน์วิญญาณอมตะทั่วไปและมีความสามารถในการฟื้นตัวที่ไม่น่าเชื่อ

 

จ้าวเย่ฮุ้ยเป็นปัญหาของโลกผู้อมตะภาคใต้มาอย่างยาวนาน ผู้อมตะภาคใต้เคยระดมคฤหาสน์วิญญาณอมตะเพื่อฆ่ามันแต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ พวกเขาเพียงได้รับชัยชนะเท่านั้น

 

แต่อาการบาดเจ็บของจ้าวเย่ฮุ้ยก็น้อยกว่าการคาดเดาของราชันมังกรไปมาก

 

จ้าวเย่ฮุ้ยสามารถบ่มเพาะ หลังจากหลายปี มันจึงแข็งแกร่งขึ้น นอกจากนั้นมันยังได้รับความช่วยเหลือจากนิกายเงา ราชันภูเขาม่วงจงใจมอบวิญญาณอมตะให้มันเพื่อสร้างท่าไม้ตายมากมาย

 

เมื่อจ้าวเย่ฮุ้ยยืนขึ้นอีกครั้ง อาการบาดเจ็บของมันก็หายดีแล้ว

 

ความเร็วในการฟื้นตัวของมันน่ากลัวมาก

 

มันพุ่งเข้าไปหาหอคอยดวงตาสวรรค์อย่างไม่เกรงกลัว

 

ดวงตาของราชันมังกรส่องประกายเย็นเยียบ เขาใช้การโจมตีพ่ายแพ้ต่อโชคชะตาอีกครั้ง

 

จ้าวเย่ฮุ้ยล้มลงบนพื้น แต่ในไม่ช้ามันก็ลุกขึ้น แม้มันจะได้รับบาดเจ็บอีกครั้ง แต่มันยังเต็มไปด้วยพลังงาน

 

ผู้อมตะภาคกลางตกตะลึงเป็นอย่างมาก

 

“นี่คือความแข็งแกร่งของสัตว์อสูรแรกกำเนิดในตำนานงั้นหรือ? น่าอัศจรรย์นัก!”

 

“มีเรื่องยุ่งยากเล็กน้อย” เทพธิดาจื่อเว่ยแสดงออกด้วยใบหน้าที่น่ากลัว ความแข็งแกร่งของจ้าวเย่ฮุ้ยเกินกว่าจินตนาการของนาง แม้หอคอยดวงตาสวรรค์จะสามารถปลดปล่อยการโจมตีที่ทรงพลังเช่นพ่ายแพ้ต่อโชคชะตา แต่มันก็ไม่สามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง

 

ท้ายที่สุดวิญญาณชะตากรรมระดับเก้าก็ยังไม่ฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บอย่างสมบูรณ์