บทที่ 592 ก็ต้องนอนกับเมียสิ

บัญชามังกรเดือด

บัญชามังกรเดือด บทที่ 592 ก็ต้องนอนกับเมียสิ

“ขอบคุณพี่สะใภ้” หลิวชิงเหยานั้นค่อยรับสร้อยข้อมืออย่าทะนุถนอม ก่อนที่จะอดไม่ได้ขอบตาแดง

เธอนั้นขาดความรักของแม่มาตั้งแต่เด็ก อยู่กับพ่อของเธอหลิวเช่อมาตลอด

ถึงแม้หลิวเช่อนั้นจะคอยให้ความรักและเอาใจใส่เธอ แต่ว่า เขานั้นก็คือผู้ชายอายุเยอะคนหนึ่ง อีกทั้งในเมืองเจียงเป่ยนั้นชอบมีเรื่องมากมายที่รอให้เขานั้นไปจัดการ

ดังนั้น ไม่สามารถที่จะทำได้ทุกอย่าง

นั่นก็เพราะเหตุนี้ เลยทำให้หลิวชิงเหยานั้นชอบเสียงดังเอะอะ รวมถึงมีนิสัยที่ดื้อรั้นหยิ่งผยองอีกด้วย

เมื่อเอ่ยแล้ว นี่ก็คือการขาดความรักจากผู้หญิง

ไม่ต้องเอ่ยถึงอย่างอื่น หลายปีมานี้ แม้แต่เพื่อนสาวที่รู้ใจนั้นก็ไม่มี

ในตอนนี้ เธอนั้นได้รับรู้ความรู้สึกระหว่างพี่สาวและน้องสาวที่อบอุ่นนั้นจากซูซู มันช่างเป็นความรู้สึกที่ดีจนอยากจะร้องไห้จริงๆ  

“พี่สะใภ้ ขอโทษด้วยนะ”

“เมื่อก่อนที่น้องสาวคนนี้ไม่รู้เรื่อง ทำเรื่องไม่ดีไว้มากมาย ขอให้พี่ให้อภัยน้องด้วย”

 ซูซูรีบเอ่ยตอบ“ดูเจ้าพูดสิ!”

“เรื่องมันผ่าไปแล้วนะ อย่าเอ่ยขึ้นมาอีกเลยน่า!”

“เพียงแค่เจ้ายังไม่เห็นรู้อะไรเกี่ยวกับด้านนอก มีเรื่องอะไร ให้มาหาพี่สะใภ้นะ”

หลิวชิงเหยานั้นพยักหัวก่อนจะเอ่ย “ได้สิ น้องจะจำเอาไว้นะ”

หญิงสาวทั้งสองคนนั้นได้เป็นกันเองเป็นอย่างมาก ฉินเทียนนั้นประหลาดใจมาก ตอนนี้ เขานั้นเหมือนเป็นส่วนเกินจริงๆ

“งั้นอะไรล่ะ พวกคุณคุยกันไปก่อนเถอะ ผมจะไปดูจี้ชิง”

เขาหันหลัง ก่อนที่จะเดินไปหาเถี่ยหนิงซวงแล้วเอ่ยเบาๆ  “ข้านั้นอยากจะให้เจ้านั่นช่วยปกป้องคุณหญิงทุกย่างก้าวเลยนะ”

“ตอนนี้เธอนั้นกำลังท้อง เจ้าเข้าใจไหม?”

เถี่ยหนิงซวงนั้นเอ่ยกลับหนักแน่น“วางใจเถอะน่าพี่ชาย!”

“ฝากไว้กับข้าเถอะ!”

เมื่อมองเห็นเธอดังนี้ เธอนั้นตื่นเต้นราวกับว่าจะไปสู้รบ ยังไงสะ ลูกในท้องของซูซูนั้น ก็เป็นฉินเทียนน้อยนะ!

ตอนนี้ท้องยังไม่ค่อยแสดงออกจนเห็นชัด ซูซูแน่นอนก็คงไม่กล้าที่จะประกาศออกไป ดังนั้นคนทั่วไปก็ยังจะมองเธอเป็นเหมือนคนปกติ

หากโดนกระแทกชนเข้าจะทำยังไงกัน?

นี่เองเลยต้องการให้เถี่ยหนิวซวงคอยปกป้องทุกฝีก้าว

ฉิ่นเทียนนั้นได้พาหม่าหงเทาเดินมายังด้านล่าง ก่อนที่จะเรียกอานกั๋วด้วยเสียงเบาๆ “นายท่าน จุยเฟิงล่ะ?”

“เขามาด้วยไหม?”

อานกั๋วเอ่ยยิ้มๆ “เขานั้นมาก่อนข้าอีก เป็นเพราะอาของจี้ชิงเรียกเขามานะ ให้เขามาช่วย”

“ตอนนี้เขาน่าจะอยู่ที่ ตระกูลจี้ น่าจะอยู่กับคุณชายจี้นะ”

“ฉินเทียน ได้ยินแล้วอย่าโกรธนะ ในเวลานี้ เจ้าอาเอาตนเองเป็นผู้นำใหญ่เลย ทุกคนนั้นมีแต่คนหนุ่มสาว อย่าถือสากันเลยน่า ปาปาร์ตี้กับพวกเขาเถอะ”

ฉินเทียนหัวเราะ“นายท่าน เดิมทีแล้วข้านั้นไม่เคยมองว่าตนเองเป็นผู้นำใหญ่นะ”

“ใช่หรอ ในเมื่อเจ้าเอ่ยเช่นนี้ ยังข้าจะไปเล่นกับพวกเขาแล้วนะ”

“ที่นี่ขอร้องล่ะขอให้ท่านช่วยจัดการเป็นกังวลหน่อยนะ”

พูดตามตรงนะ ได้ยินคำพูดของอานกั๋วแล้ว ฉินเทียนก็กระตือรือร้นขึ้นมาเล็กน้อย

เมื่อคิดแล้ว เขานั้นยังไม่เคยเข้าร่วมงานแต่งงานของพรรคพวกเพื่อนของเขาเลย

ไม่ต้องพูดถึงเรื่องพรรคพวกเพื่อน เขาตอนนี้ถึงแม้จะเป็นพ่อคนแล้ว แต่ตอนแรกที่เจอกับซูซู เขาร้อนจนมาก แล้วก็ไม่ได้จัดงานแต่งกับเธอ

การแต่งงานสำหรับผู้ชายนั้น เป็นเหมือนเส้นทางแห่งความเป็นผู้ใหญ่ของผู้ชาย นับว่าเป็นเส้นทางที่สำคัญ

เป็นถึงพี่ชาย เขานั้นได้มองน้องขายเจ้าสู้ห้องโถงนี้ เขานั้นแน่นอนว่าจะต้องตื่นเต้นดีใจมาก

เขานั้นได้พาหม่าหงเทามาถึงยังตระกูลจี้ จะเห็นเพียงแค่ประตูหินที่ใหญ่และกว่า ที่ถูกขัดจนเงาวับ

มีกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งกำลังล้อมอยู่ที่หน้าประตู ที่กำลังยุ่งกันอย่างขะมักเขม้นกับบางอย่าง

ฉินเทียนเดินไปดู อดไม่ได้ที่จะไปสอดส่อง พบว่าเป็นกลุ่มช่าง ที่กำลังซ่อนเกี้ยวที่ดูเก่าไปหน่อยอยู่

 ตามความหมายของนายท่านแห่งตระกูลจี้ ตามงานแต่งงานตามประเพณีโบราณ เจ้าสาวจะต้องไม่ใส่ชุดเจ้าสาว แต่จะต้องสวมมงกุฎนกฟีนิกซ์เอาไว้

ไม่นั่งรถ แต่ใช้เกี้ยวแปดคัน จากโรมแรง เป่าพ่นขับเข้ามา แล้วเข้ามายังเส้นทางหน้าประตูของบ้านตระกูลจี้

นายช่างที่รับผิดชอบช่วยกันโบกทาง ให้มาทำเป็นเหมือนดวงจันทร์ และพระอาทิตย์สลับกับคือจ้าวจิ่วรี่

แต่น่าเสียดายที่หวังเยว่ เสียชีวิตเมื่อสู้กับลิเหลียงที่เวทีเซวียนหยวน

ส่วนคนฉลาดเช่นนั้น กลับต้องมามีจุดจบเช่นนี้ อดไม่ได้ที่จะทำให้ผู้คนนั้นต่างก็ถอนหายใจ  

เมื่อมองเห็นฉินเทียน จ้าวจิ่วรี่ นั้นตกใจมาก

“ผู้นำใหญ่ ท่านมาที่นี่ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?”

“ในที่สุดเจ้าก็มา!”

“นายน้อยของพวกเรานั้นรีบจนแทบจะบ้า เขาเอ่ยว่า หากเจ้าไม่มา งานแต่งจะเลื่อนออกไป จะรอจนกว่าเจ้าจะมาะ!”

“ข้าจะรีบไปรายงานเขาทันที!”

เมื่อเอ่ยแล้ว ฉินเทียนก็ได้เดินตรงดิ่งไปยังข้างใน

ฉินเทียนรีบเอ่ยขานเรียกเขา “นายท่านจ้าว ไม่จำเป็นแล้วล่ะ”

“เกี้ยวนี้มองไปแล้วน่าสนใจจริงๆ นี่มันอะไรกันหรอ?”

จ้าวจิ่วรี่เอ่ยยิ้ม “นายท่านบอกว่าต้องใช้เกี้ยวหามนายหญิงเข้าบ้าน”

“จนมาถึงปีนี้แล้ว จะไปหาเกี้ยวมาจากที่ไหกกัน?”

“เลยทำได้แค่เอาเกี้ยวที่บ้านเอามาซ่อมใช้ก่อนน่ะ”

“พูดไปแล้วเกี้ยวนี้มีความหมายดีจริงๆนะ ตอนนั้นตอนที่นายท่านแต่งงาน เลยสั่งทำขึ้นมา”

“แต่ว่าตอนนี้ได้กลับมาใช้แบกนายหญิงเข้าบ้าน นี่มันเป็นมรดกอย่างหนึ่งเลยนะ”

ฉินเทียนพยักหน้าและแอบถอนหายใจ “ความคิดนี้ดีจริงๆ!”

“หากใช้รถที่หรูหรามากกว่านี้ ก็คงสู้อันนี้ไม่ได้”

“คุณยุ่งต่อไปเถอะ ว่าแต่นายน้อยของคุณอยู่ที่ไหนกัน?ผมจะไปหาเขาเอง”

จ้าวจิ่วรี่เดินจากไปไม่ได้ก่อนจะเอ่ย และไม่ได้มองฉินเทียนเป็นคนอื่น ก่อนที่คนใช้จะพาฉินเทียนเข้าไปหา

คนใช้พาฉินเทียน มายังมุมห้องที่เงียบสงบแล้วเอ่ยยิ้มๆ “ทั้งตระกูลจี้ตอนนี้ก็ได้ยุ่งวุ่นวายกันทั้งคืน เป็นถึงเจ้าบ่าวจุดเด่นของงาน เขานั้นว่างจนไม่มีอะไรทำ”

“ในตอนนี้ นายท่านควรจะไปดื่มเหล้ากับพวกของเขานะ”

“คุณเชิญเข้าไปเถอะครับ”

ฉินเทียนเดินมายังลานกว้างเล็กๆ ภายในหัวใจของเขานั้นพอใจมาก ก่อนที่จะให้คนใช้ไปยุ่งก่อน ส่วนเขาได้พาหม่าหวงเทาเดินเข้าไป 

ในอุ้มมือของหม่าหงเทานั้นมีไวน์อยู่สองขวด  

เพราะว่าสัญลักษณ์นั้นถูกปกคลุมไปด้วยมิดชุด มองไปแล้วก็เหมือนขวดที่ใส่เหล้าขาวธรรมดาทั่วไป  

“จี้ชิง ข้านั้นมายินดีกับเจ้าแล้ว”

“ยังไม่รีบออกมารับคำยินดีอีก!”ฉินเทียนตะโกนเรียกออกไป แต่ก็ไม่มีการตอบรับ

ก่อนที่จะหันไปมองเห็นรูปประตู เหมือนถ้ำพระจันทร์ ทันใดนั้นก็ได้เห็นร่างหนึ่งยืนอยู่ไกลๆ บนศาลาทะเลสาบ

เขานั้นใส่เสื้ออย่างว่างเปล่า สีหน้านั้นไม่เสียใจไม่ดีใจมองไปทางด้านนั้น  

ฉินเทียนขมวดคิ้ว ก่อนที่จะค่อยๆเดินเข้าไป

“ได้ยินอานกั๋วท่านเอาย คุณมาตั้งนานแล้วหรอ?”เขาเอ่ยถามด้วยรอยยิ้ม

จุยเฟิงพยักหน้า “แน่นอนว่ามาเร็วกว่าคุณ”

ฉินเทียนนั้นเกรงใจเล็กน้อย  “เดิมทีแล้วข้านั้นก็เตรียมตัวที่จะมาช่วยตั้งแต่เช้า แต่ว่ามีเรื่องขัดจังหวะนิดหน่อย

“งั้นท่านเร็วแต่เข้าทำไมกัน?”

จุยเฟิงลังเลก่อนที่จะเอ่ยตอบ“มานอนเป็นเพื่อนกับจี้ชิง”

ฉินเทียนนั้นได้ถามอย่างสบาย เขานั้นได้นั่งอยู่บนเก้าอี้โต๊ะหินพร้อมทั้งหยิบแก้วน้ำชาขึ้นมาดื่ม  

เมื่อได้ยินคำพูดของจุยเฟิงแล้ว“พรวด”เสียงนี้ แม้แต่น้ำชา ใบชาต่างก็พุ่งไปอยู่บนตัวของจุยเฟิง

จุยเฟิงขมวดคิ้ว เขานั้นเอ่ยด้วยความลำบากใจ “เขาบอกว่า หลังจากแต่งงาน ก็จะต้องนอนกับเมียแล้ว ……ดังนั้น สองวันมานี้ ข้ามานอนเป็นเพื่อนนะ”

“มีปัญหาเหรอ?”

ฉินเทียนนั้นได้เช็ดคราบน้ำชาที่ปากก่อนจะเอ่ย “ไม่มีปัญหา ไม่มีปัญหา”

“เจ้าบ้านั่นวิ่งไปที่ไหนแล้ว ทำไมตอนนี้ถึงยังไม่มาต้อนรับข้าล่ะ”

จุยเฟงเอ่ยเรียบๆ“ไม่รู้สิ อาจจะเป็นเพราะอาจี้เรียกเขาไปอธิบายเรื่องต่างๆนะ”

“น่าจะใกล้กลับมาแล้ว”

“เจ้ามาก็ดี วันนี้ ในที่สุดข้านั้นก็ไม่ต้องนอนเป็นเพื่อนเขาแล้วแค่คนเดียว”

ฉินเทียน“?”

“คิดอะไรอยู่นะ!”

“ข้านั้นก็ต้องนอนกับเมียข้านะสิ!”

เมื่อเอ่ยแล้ว เขานั้นก็ได้หยิบกระดาษม้วนสีเหลืองส่งให้จุยเฟิง อย่างไม่ค่อยพอใจ “อะ ให้เจ้า”

“ของที่ไม่มีค่า ชอบนักก็เก็บไป หากไม่ชอบทิ้งไปสะนะ”