ตอนที่ 1635 การจากที่เจ็บปวดที่สุด (3)
“เจ้ายังจําที่ข้าถามเจ้าตอนแรกที่มาที่นี่และเอากระเป๋ามิติออกมาได้รึเปล่า?” ซูหย่ามองไกลออกไปและเอ่ยปากถาม
“จําได้” จวินอู๋เสียตอบ นางไม่ลืมว่าซูหย่าตกใจและร้อนรนมากแค่ไหนตอนที่เห็นกระเป๋ามิติของนางเป็นครั้งแรก
“กระเป๋ามิติของเจ้ากับข้าเดิมที่เป็นของคู่กัน ดอกไห่ถังบนกระเป๋าศิษย์ของข้าปักขึ้นเองกับมือ ก่อนที่เจ้าจะเข้ามา ข้าเคยสอนลูกศิษย์มาหลายคนแล้ว แต่คนที่เข้าตาข้าและกลายมาเป็นศิษย์ของข้ามีแค่สองคนเท่านั้น คนหนึ่งคือเจ้า อีกคนคือศิษย์พี่ของเจ้าที่เป็นคนปักกระเป๋ามิตินี้” ซูหย่าดูเหมือนจะใจลอยกลับไปในอดีตอันเนิ่นนาน
“ศิษย์พี่ของเจ้าเป็นศิษย์คนแรกของข้า ตอนนั้นข้าโกรธอาจารย์ปู่ของเจ้า ก็เลยสุ่มเลือกศิษย์จากพวกเด็กใหม่มาคนหนึ่ง และรับเขาเข้ามา คิดจะสั่งสอนเขาให้กลายเป็นคนที่มีพลังเหนือใครเพื่อทําให้ข้าภูมิใจ แต่ข้าไม่เคยคิดเลยว่าก่อนที่จะถึงเวลานั้น ข้าก็หมดโอกาสไปแล้ว” ซูหย่ายิ้มอย่างขมขึ้น นางกระดกเหล้าลงคออีกใหญ่ราวกับต้องการให้เหล้าขับไล่ความหดหูในใจนางออกไป
“ศิษย์พี่ของเจ้าไม่ได้ฉลาดเหมือนเจ้า และไม่ได้เป็นคนยังไงก็ได้เหมือนเจ้าเขาสร้างปัญหาให้ข้าทุกๆสองสามวัน และทําให้คนจํานวนมากไม่พอใจเขาในตอนที่เขาอยู่ในสํานักธาราเมฆ เขาใช้ทุกโอกาสที่มีไปต่อสู้กับพวกอันธพาลในสํานักทําให้ข้าโกรธมากจนอยากกระทืบเขาให้จมดิน แต่…”
“เขาก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้น แม้ว่าจะไม่คอยใส่ใจเหมือนเจ้า แต่เขาก็รู้จักเคารพและกตัญญูต่ออาจารย์” ซูหย่าเอามือเท้าคางพลางจิบเหล้าขณะเล่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นให้จวินอู๋เสียฟัง ความทรงจําที่ไม่มีใครรู้
ตอนนั้นอารมณ์ของซูหย่ารุนแรงกว่าตอนนี้ นางคุยกับศิษย์ของนางผ่านหมัดอยู่เสมอ จวินอู๋เสียรู้ถึงพลังของซูหย่า แค่หมัดเดียวของนางก็ทําให้ผู้ชายร่างกํายําแข็งแรงกระอักเลือดได้
ในตอนแรก ศิษย์พี่ของจวินอู๋เสียมักจะไปเป็นแขกประจําของสาขาผู้เชี่ยวชาญยาของสํานักธาราเมฆ เขาจะถูกส่งไปรักษาตัวที่นั้นทุกๆสองสามวันตอนที่เขาถูกทําร้ายจนกระอักเลือด
ถ้านั่นเป็นคนอื่นก็คงไม่สามารถทนต่อความโหดร้ายเช่นนี้ได้และหลบหนีไปแล้ว
แต่ทุกครั้งหลังจากที่คนผู้นั้นรักษาหายแล้ว เขาก็จะวิ่งกลับไปอยู่ข้างกายของซูหย่าพร้อมเสียงหัวเราะ และไม่ว่าซูหย่าจะกดขี่ข่มเหงเขาแค่ไหน เขาก็ยังคงยิ้มอยู่เสมอ ไม่เคยบ่นเลยสักครั้ง คอยติดตามซูหย่าไปในทุกที่ไม่ว่านางจะไปที่ไหนก็ตาม
แต่ซูหย่าก็ยังเป็นเหมือนเดิม ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้ และความแข็งแกร่งที่นางมีก็ทําให้ชีวิตของคนคนนั้นน่าสงสารมาก
มีคนเคยพูดกับซูหย่าเกี่ยวกับเรื่องนั้นว่ามันไม่ดี แต่ซูหย่าก็ไม่ได้คิดอะไรเลย
คนหนึ่งมีความสุขที่ได้เฆี่ยนตี ส่วนอีกคนก็มีความสุขที่ถูกเฆี่ยนตี แล้วมันผิดตรงไหน? ยิ่งกว่านั้น นี่เป็นเรื่องระหว่างพวกเขาที่เป็นศิษย์อาจารย์ ศิษย์ของนางยังไม่พูดอะไรสักคํา แล้วทําไมพวกนี้ต้องสาระแนด้วย?
สิ่งต่างๆยังคงดําเนินไปเช่นนี้ แม้ว่าซูหย่าจะไม่ได้แสดงความเมตตา แต่นางก็ทําทุกอย่างที่ทําได้ในการสั่งสอนศิษย์ของตน พลังของศิษย์คนนั้นเพิ่มขึ้นอย่างทวีคูณ จนกระทั่งถึงปีที่สามที่ คนนั้นยอมรับซูหย่าเป็นอาจารย์ของเขา เขาได้นํากระเป๋ามิติปักดอกไห่ถังที่ทําขึ้นเองคู่หนึ่งมาในวันเกิดของซูหย่า ให้เป็นของขวัญซูหย่าหนึ่งอัน และเก็บไว้เองหนึ่งอัน
หลังจากนั้น
บางอย่างก็เริ่มเปลี่ยนไป
การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นทีละเล็กทีละน้อย และบรรยากาศระหว่างศิษย์อาจารย์ก็เปลี่ยนไปเช่นกัน
ซูหย่าเคยคิดว่านางอาจจะยอมพ่ายแพ้ให้กับเจ้าเด็กนั้น และไม่เคยคิดเลยว่าสุดท้ายแล้วมันจะกลายเป็นแบบนี้