บทที่ 259 ท้องแล้วบริจาคไขกระดูกได้ไหม

ครูเจ้าเสน่ห์คนนี้ประธานจอง

“ค่ะ” เธอตอบรับในขณะที่เอามือกุมท้องตัวเอง ดวงตาสว่างจ้าด้วยความดีใจ เธออารมณ์ดีที่สุด

ออกัสอุ้มเธอนั่งบนโซฟา ริมฝีปากบางไม่เคยมีรอยยิ้มจางหายเลย สีหน้าก็อ่อนโยนกว่าปกติ

ซารางอ้อนอยากนั่งบนท้องของเชอร์รีน เขารู้เขาก็ตกใจรีบเข้าไปอุ้มลูกสาวออกและเริ่มทำการพร่ำสอนขึ้นมา “วันหลังนั่งบนท้องของหม่ามี๊ไม่ได้แล้วนะครับลูก เข้าใจไหม?”

“ทำไมนั่งไม่ได้ล่ะคะ เมื่อก่อนก็นั่งได้นี่คะ” ซารางย่นจมูก กำลังกินไอศกรีมอยู่ ซึ่งรอบปากของเธอเลอะเทอะไปหมด

“ในท้องหม่ามี๊มีเบบี้ตัวน้อย หนูนั่งแล้วจะกดเบบี้จนแบนเรียบเลย เข้าใจไหมครับ?”

“โอ้โห” ดวงตาซารางลุกโชน ก่อนจะกระโดดขึ้นร้องเสียงดีใจ เธอเหมือนนึกอะไรขึ้นมา หันไปมองเชอร์รีนพลันถามอย่างอยากรู้ว่า “หม่ามี๊แล้วเบบี้เป็นน้องชายหรือว่าน้องสาวคะ?”

เธอยิ้มตอบ“ตอนนี้ยังไม่รู้ค่ะ ต้องรอสักพักหนึ่งก่อนถึงจะดูออกนะคะ”

ลิ้มอมชมพูเลียริมฝีปาก ซารางหัวเราะชอบใจ“หนูชอบทั้งน้องชายและน้องสาวค่ะ หม่ามี๊รีบคลอดออกมาค่ะ หนูจะพาน้องไปซื้อขนมกิน หนูมีตังค์เยอะ จะซื้อของเล่นให้น้องด้วยค่ะ”

“ดูตัวหนูสิ สกปรกหมดแล้ว รีบไปอาบน้ำแล้วเข้านอนเลยค่ะ” เชอร์รีนอุ้มลูกสาวไปที่ห้องอาบน้ำ

หลังอาบน้ำเสร็จ ซารางก็หลับเองที่เตียง เธอนอนชี้ก้นสูงเชียว มุมปากยังมีน้ำลายไหลย้อยออกมาด้วย

ออกัสกำลังอ่านเอกสารอยู่ ยังไม่รู้สึกง่วงนอน ส่วนเชอร์รีนก็หยิบโน๊ตบุ๊คของเธอมาพกติดตัวมาด้วย หลังจากเปิดบราวเซอร์ออกแล้วเธอก็พิมพ์ข้อความหนึ่งบรรทัด——ท้องแล้วบริจาคไขกระดูกได้หรือเปล่า

ทุกผลการค้นหาที่โผล่ขึ้นมา เธอตั้งใจอ่านโดยละเอียดอย่างไม่ให้พลาดแม้แต่บรรทัดเดียว ด้วยกลัวจะอ่านตกหล่น

ทว่าผลการค้นหาล้วนบ่งชี้ว่าบริจาคไขกระดูกไม่ได้ นอกเสียจากเอาเด็กในท้องออกแล้วจึงจะบริจาคไขกระดูกได้ ไม่เช่นนั้นก็ไม่อาจบริจาคได้

ซึ่งทุกผลการค้นหาล้วนเหมือนกัน ต่างบอกว่าบริจาคไม่ได้

เธอนั่งเหม่อลอย ซึ่งหน้าจอยังคงมีแสงอยู่ เธอนั่งอึ้งอยู่ตรงนั้น

ตัวหนังสือที่เห็นในโน๊ตบุ๊ควนเวียนอยู่ในสมองไม่หยุด ทำไมทุกอย่างจึงบังเอิญขณะนี้นะ ……

ตั้งครรภ์ ปลูกถ่ายไขกระดูก ทำไมถึงวุ่นวายอย่างนี้?

เธอนั่งใจลอยอยู่ตรงนั้นตลอด ซึ่งไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่

เธอนั่งครึ่งชั่วโมงเต็มๆ กระทั่งมีเสียงฝีเท้าเดินเข้ามา ทว่าเธอก็ยังคงไม่ได้ยิน

“คิดอะไรอยู่?” ออกัสจ้องมองเธอพลันถามอย่างประหลาดใจ

ได้ยินดังนั้น เชอร์รีนก็รีบดึงความคิดที่ไปไกลของตัวเองกลับมา เธอกวาดสายตามองเนื้อหาหน้าเว็บ ก่อนจะรีบปิดฝาโน๊ตบุ๊คเป็นเวลาต่อมา และต่อด้วยบดบังความรู้สึกทางสายตา ลุกขึ้นพูดว่า“งานคุณเสร็จแล้วเหรอ?”

“อืม” ออกัสกวาดสายตามองสีหน้าและการกระทำของเธอเงียบๆ ก่อนจะจับไหล่ของเธอ“ตอนท้องพยายามอย่าเข้าใกล้คอมนะ……”

“ฉันรู้แล้วค่ะ แค่หาข้อมูลในเน็ตเองค่ะ จะนอนแล้วเหรอ?”

ออกัสเลิกคิ้ว มุมปากยกขึ้น“ใช่จะนอนแล้ว ตอนนี้พวกเราทำกิจกรรมที่น่าสนใจไม่ได้แล้ว ก็ต้องนอนอย่างเดียวแล้วแหละ”

เธอบีบไหล่เขาแล้วเดินเข้าห้องนอน แต่ไม่เห็นซาราง พลางเลิกคิ้วด้วยความสงสัย เขาตอบว่า“ผมอุ้มไปนอนห้องเล็กด้านข้างแล้ว”

“โตมาขนาดนี้ลูกยังไม่เคยนอนคนเดียวเลยนะ” เชอร์รีนรู้สึกเป็นห่วง วางใจไม่ลง

“ลูกใกล้จะถึงสี่ขวบแล้ว ถึงอายุที่ควรนอนเองได้แล้ว ถ้าเวลานอนถีบหรือเอาหัวชนท้องคุณขึ้นมาจะทำยังไง?”

ระหว่างที่พูด เขาก็กดตัวเธอให้นั่งลงที่เตียง“คุณก็รู้ว่าลูกสาวนอนดิ้นขนาดไหน ผมตื่นง่ายมาก หากลูกตื่นขึ้นมากลางดึกผมต้องรู้แน่ อีกอย่างลูกก็นอนห้องข้างๆนี่เอง ถ้าลูกกลัวจริงๆก็จะวิ่งมาหาพวกเราเอง นอนเถอะ ……”

เธอพยักหน้า จากนั้นก็ถอดรองเท้าแตะ เปลี่ยนชุดนอน ก่อนจะซุกเข้าในอ้อมอกอันอบอุ่นของเขา ด้วยความขี้ง่วงของสตรีตั้งครรภ์ ไม่นานเธอก็หลับแล้ว

เมื่อเธอหายใจมั่นใจแล้ว ออกัสก็ลืมตาขึ้น ดึงแขนออกจากหัวของเธอด้วยความระมัดระวัง ก่อนจะลงจากเตียง

เขาเดินเข้าไปที่ห้องหนังสือ ก่อนจะหยุดเดินแล้วนั่งลงที่เก้าอี้ ต่อด้วยเปิดโน๊ตบุ๊ค มือขวาใช้เม้าท์กดดูประวัติการค้นหา ทั้งยังกู้คืนหน้าเดิมที่พึ่งใช้งานด้วย

——ท้องแล้วบริจาคไขกระดูกได้หรือเปล่า

ที่แท้เมื่อครู่เธอกำลังค้นหาข้อมูลด้านนี้อยู่นี่เอง เมื่อเธอเห็นเขามา จึงรีบปิดโน๊ตบุ๊คอย่างเร็ว

เธอยังคิดจะปิดบังเขา แล้วเธอคิดจะบอกเขาเมื่อไหร่กัน?

หลังกินข้าวเช้าเสร็จ ทั้งสามคนก็จูงมือกันไปที่โรงพยาบาล จากนั้นก็ทำการตรวจครรภ์

รอไปสักพัก ผลตรวจก็ออกมา คุณหมอยิ้มกล่าวว่า“ท้องหนึ่งเดือนกว่าแล้วค่ะ ขอแสดงความยินดีด้วยนะคะ คุณได้เป็นแม่แล้ว”

ท้องหนึ่งเดือน เชอร์รีนยิ้ม“ขอบคุณค่ะคุณหมอ แต่เมื่อก่อนตอนฉันตรวจร่างกาย คุณหมอเคยบอกว่า มดลูกฉันกลับหลังค่ะ มีโอกาสตั้งครรภ์น้อยมาก”

“ถ้าเทียบมดลูกของคุณกับคนอื่นจะไปอยู่ด้านหลังมากกว่าจริงๆค่ะ ทำให้โอกาสตั้งครรภ์น้อยมาก แต่เวลาร่วมหลับนอนมีการใช้ท่าที่เหมาะสม บวกกับร่างกายฝ่ายชายแข็งแรง และปล่อยอสุจิเข้าไปลึกๆก็จะทำให้มีโอกาสท้องได้ค่ะ ซึ่งมีโอกาสท้องแค่ยี่สิบเปอร์เซ็นต์เท่านั้นนะคะ ถือว่าคุณโชคดีมากเลยค่ะ”

เลิกคิ้ว ออกัสโอบไหล่เธอ ใบหน้าหล่อเผยความลำพองใจเลือนราง แม้แต่คุณหมอยังพูดแบบนี้ แสดงว่าเขาแข็งแรงจริงๆ

เมื่อรับรู้ว่าเขากำลังลำพองใจ เชอร์รีนก็จ้องเขม็งใส่เขา คำพูดของคุณหมอทำให้เธอหน้าร้อนวูบขึ้นมาเลย

คล้ายกับเธอคิดอะไรขึ้นมาได้ จึงพูดกับออกัสว่า“คุณพาซารางออกไปก่อน ฉันยังมีข้อสงสัยจะถามคุณหมออีก”

ออกัสชายตามองเธอ ทว่าไม่ได้ถามอะไร แค่ขานรับแล้วพาซารางออกไป

เชอร์รีนนั่งบนเก้าอี้ พลางมองหน้าคุณหมอ“คุณหมอค่ะ อาการของฉันตอนนี้บริจาคไขกระดูกได้ไหมคะ?”

“เพราะสิ่งที่เรียกว่าการปลูกถ่ายไขกระดูก ไม่ใช่การเอาไขกระดูก แต่เป็นการเอาเลือด ปกติก่อนเอาเลือดจะต้องฉีดยาเพื่อปรับเลือดให้เหมาะแก่การใช้งาน ซึ่งขั้นตอนการทำจะเจ็บปวดมาก จะรู้สึกไม่สบายตัว ยิ่งตอนนี้คุณกำลังท้องอยู่ ขึ้นชื่อว่ายาแล้ว ย่อมส่งผลต่อลูกในครรภ์แน่นอนค่ะ”คุณหมอยิ้มอธิบาย

“ออค่ะ ฉันรู้แล้ว ขอบคุณค่ะคุณหมอ” เธอลุกออกไป

พรุ่งนี้ก็วันจันทร์แล้ว ซารางต้องไปเรียน ส่วนเธอก็ต้องทำงาน และเขาก็ต้องเข้าบริษัท ดังนั้นพวกเธอจึงนั่งเครื่องบินกลับเมืองSช่วงบ่าย

ซึ่งตอนกลางวันเดินช้อปซื้อของที่ซานไบล์อยู่นาน ก่อนจะขึ้นเครื่องบิน เพราะตอนกลางคืนอยากนอนดีๆ จึงเลือกรอบบินช่วงบ่าย

ตอนกลับถึงเมืองSก็สามทุ่มกว่าแล้ว พึ่งลงจากเครื่องบิน เชอร์รีนก็อดหนาวสั่นไม่ได้

อากาศที่ซานไบล์อุ่นเหมือนฤดูใบไม้ผลิ ทว่าเมืองSเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วงแล้ว ลมตอนกลางคืนเมื่อพัดมาสัมผัสแล้วจะรู้สึกหนาวมาก

พวกเธอยังคงไม่กลับบ้าน ไปที่คอนโดของเขาต่อ ซารางใจกล้ามาก นอนคนเดียวก็ไม่กลัวเลยสักนิด คล้ายกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นเสียอย่างนั้น เชอร์รีนเห็นแล้วก็วางใจ

อีกทางหนึ่ง สิงหาร้อนอกร้อนใจราวกับมดในหม้อเดือด เขาสืบตั้งนานก็สืบไม่เจอว่าเชอร์รีนไปไหน ช่างประหลาดใจยิ่งนัก

เขาหยิบมือถือขึ้นมาแล้วลองโทรดู ผ่านไปสักพักก็รับสาย ใบหน้าจึงเก็บความดีใจไม่อยู่

เธอได้ยินเสียงเรียกเข้าก็ก้มหน้ารับสาย

“เชอร์รีน หนูอยู่ไหน? ตอนนี้พวกเราเจอหน้ากันหน่อยนะ”

ระหว่างที่คุยกันอยู่ ออกัสก็คาดผ้าเช็ดตัวไว้ที่เอวแล้วเดินเข้ามา เมื่อแหวกผ้านวมออกแล้วก็นั่งลงด้านขวาของเธอ