ตอนที่ 436 คิดเสียว่าไม่มีน้องสาวคนนี้
“พ่อยังมีภาระต้องสะสาง อวี้จื้อ เรื่องนี้ยกให้เจ้าจัดการ”
พูดจบหลิงจ้ายเทียนก็ออกไปก่อน เขามาแค่จะดูหลาน ในเมื่อเด็กไม่อยู่แล้ว เขาก็ไม่จำเป็นต้องอยู่ต่อ ความเป็นความตายของสาวใช้คนหนึ่ง เขาไม่สนใจ อีกอย่างสาวใช้คนนี้เดิมทีก็เป็นคนของหลิงอวี้จื้ออยู่แล้ว
หลิงจ้ายเทียนเพิ่งไป หรูเยียนก็ตามหมอมาแล้ว หลิงจื่อเฉิงไม่พูดอะไร ประคองชิวจวี๋ไปนอนบนเตียง หมอจับชีพจรนาง รายงานอย่างเคารพนอบน้อมว่า
“เรียนคุณชาย คุณหนู เด็กแท้งแล้วขอรับ อาการบาดเจ็บของแม่นางไม่ร้ายแรง เพียงแต่ต้องรักษาให้ดีๆ ชั่วระยะหนึ่ง ไม่นานก็ฟื้นกลับสู่ปกติ”
ผลลัพธ์เช่นนี้อยู่ในความคาดหมายของทุกคน ก่อนนี้ล้มลงเลือดออก แถมโดนปิ่นแทงท้องอย่างแรง รักษาเด็กเอาไว้ไม่ได้อย่างแน่นอน ขณะนั้นชิวจวี๋แทงลงไปแรงมาก เห็นได้ชัดว่าลงมืออย่างโหดเ**้ยม
“คุณชาย บ่าวยอมรับผิดแล้ว ต่อไปบ่าวไม่กล้าอีกแล้ว ตอนที่บ่าวมา คุณหนูให้บ่าวไปคุกเข่าข้างนอกสามชั่วยาม
บ่าวจึงบอกว่าตนเองรู้สึกไม่ค่อยสบาย เริ่มมาถึงคุณหนูก็ทำให้บ่าวลำบากแล้ว ดังนั้นบ่าวจึงได้พูดผิดๆ ถูกๆ ไปเช่นนั้น คุณชาย ท่านอย่าตำหนิบ่าวเลยนะเจ้าคะ บ่าวแค่เป็นห่วงลูก…”
ชิวจวี๋พูดพลางก็ร้องไห้คร่ำครวญ หมอที่อยู่อีกด้านเริ่มทำตัวไม่ถูก ชิวจวี๋เป็นเช่นนี้ เขาไม่สามารถทำแผลได้เลย ได้เพียงแต่ยืนอยู่ข้างๆ รอคำสั่งเท่านั้น
เห็นได้ชัดว่าหลิงจื่อเฉิงเริ่มเห็นอกเห็นใจ พูดปลอบใจชิวจวี๋ว่า
“ชิวจวี๋ เจ้าทำใจให้สบายรักษาแผล เรื่องมันผ่านไปแล้ว ต่อไปใครก็ห้ามพูดถึงอีก”
“ลูก ลูก…”
อารมณ์ของชิวจวี๋ยิ่งถูกกระตุ้น ปากก็ตะโกนเรียกลูกไม่หยุด
หลิงจื่อเฉิงยื่นมือออกไปเช็ดน้ำตาให้ชิวจวี๋
“เจ้าอายุยังน้อย ต่อไปยังมีลูกได้อีก ตอนนี้ให้ท่านหมอทำแผลให้เจ้าก่อนเถิด”
หลิงจื่อเฉิงปลอบอยู่นาน ชิวจวี๋ถึงค่อยๆ สงบลง ยอมให้หมอทำแผลให้
หลิงอวี้จื้อพาหรูเยียนกลับห้องนานแล้ว หรูเยียนยืนอยู่ตรงหน้าหลิงอวี้จื้อ อย่างไรชิวจวี๋ก็เป็นน้องสาวของหรูเยียน เธอไม่อยากให้หรูเยียนต้องแตกแยกกับเธอเช่นนี้ หรูเยียนกับหนานเยียนต่างก็อยู่เคียงข้างเธอมาตั้งแต่แรก ตอนนี้หนานเยียนไม่อยู่แล้ว เธอจึงให้ความสำคัญกับหรูเยียนมาก
“หรูเยียน หากข้าบอกเจ้าว่า ปิ่นปักผมนั้นนางเป็นคนแทงตัวเอง เจ้าจะเชื่อหรือไม่”
จู่ๆ หรูเยียนก็คุกเข่าลง
“บ่าวขอพูดความจริง หากเป็นเมื่อก่อน บ่าวไม่เชื่อแน่นอนเจ้าค่ะ ตอนนี้บ่าวเชื่อคำพูดของคุณหนู ชิวจวี๋ในตอนนี้ไม่ใช่ชิวจวี๋คนก่อนแล้ว แม้แต่บ่าวเองยังรู้สึกแปลกหน้า ไม่รู้ว่าเหตุใดนางถึงกลายเป็นเช่นนี้ไปได้
ขอโทษนะเจ้าคะ คุณหนู บ่าวผิดเอง บ่าวไม่ควรไปรับชิวจวี๋เขามาในจวนท่านมหาเสนาบดีเลย”
พูดจบหรูเยียนก็โขกหัวหนึ่งครั้ง นางรู้สึกผิดจริงๆ หากรู้ก่อนว่าชิวจวี๋เป็นคนที่หลงใหลที่ลาภยศจอมปลอม นางจะไม่พาชิวจวี๋เข้ามาในจวนมหาเสนาบดีแล้วสร้างปัญหาให้หลิงอวี้จื้อเด็ดขาด หากเกิดเรื่องมากมายเช่นนี้ นางก็รู้สึกละอายใจ
“เจ้าลุกขึ้นเถิด ความผิดของนาง เจ้าไม่ต้องขอโทษ”
หลิงอวี้จื้อประคองหรูเยียนจากพื้นด้วยตนเอง แล้วพูดต่อว่า
“หรูเยียน นางอยู่ในจวนมหาเสนาบดีอีกไม่ได้แล้ว”
“บ่าวเข้าใจเจ้าค่ะ จากวันนี้เป็นต้นไปข้าจะไม่ไปมาหาสู่กับนางอีกแล้ว คิดเสียว่าไม่มีน้องสาวคนนี้”
หรูเยียนตัดสินใจตัดขาดความสัมพันธ์กับชิวจวี๋แล้ว ต่อไปเรื่องของชิวจวี๋ นางจะไม่ยุ่งอีกแล้ว
“ที่นางกลายเป็นเช่นนี้ ไม่ใช่ความผิดของเจ้า นี่เป็นทางที่นางเลือกเอง บนโลกนี้คนที่เดือดร้อนลำบากมีมากมาย สุดท้ายจะกลายเป็นคนแบบใด ทางเลือกก็อยู่ในกำมือของตนเอง เจ้าไม่ต้องโทษตัวเอง ข้าก็ไม่ได้มีเจตนาจะโทษเจ้า เพียงแต่สงสารเจ้า ในใจเจ้าคงจะเป็นห่วงนางมาก แต่นางทำให้เจ้าผิดหวัง”
หรูเยียนถอนหายใจหนึ่งครั้ง แต่ไม่พูดอะไร กับชิวจวี๋ นางไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไร แม้พูดไป นางก็คงไม่ฟัง
ตอนที่ 437 เพียงแค่โง่เขลาเท่านั้น
หลิงอวี้จื้อนึกได้ว่าตนเองไม่ได้ดื่มชาน้ำผึ้งส้มโอนานแล้ว ตั้งแต่ออกจากเมืองหลวงไปก็ยังไม่ได้ดื่มอีกเลยสักครั้ง เธอจึงให้มั่วชิงไปเอาชาน้ำผึ้งส้มโอมาที่โต๊ะ
เพิ่งชงเสร็จ หลิงจื่อเฉิงก็ผลักประตูเข้ามา เธอรู้ว่าหลิงจื่อเฉิงจะมาหาเธอ จึงทักทายตามสบายว่า
“พี่ ดื่มชาน้ำผึ้งส้มโอหรือไม่”
“ข้าไม่ชอบดื่มของเล่นเช่นนี้หรอก”
หลิงจื่อเฉิงมาถึงก็ปฏิเสธ พูดต่อว่า
“ข้ารู้ว่าเจ้าให้อภัยชิวจวี๋ไม่ได้ เจ้าให้ข้าจัดการนางเถิด เจ้าวางใจได้ ข้าจะส่งนางออกไปจากจวน ต่อไปเจ้าจะไม่เห็นนางในจวนอีก”
หลิงอวี้จื้อกลอกตามองบน
“โห พี่ ท่านตัดสินใจจะแอบเลี้ยงเมียนอกจวนหรือ”
“นางเพิ่งจะเสียลูก น่าสงสารนะ”
“ท่านช่างเป็นคนเห็นอกเห็นใจผู้อื่นอย่างท่วมท้นเสียจริง ท่านทำให้ผู้หญิงที่รักโดนทำร้ายจนกระโดดทะเลสาบ เกือบตาย ต่อมายังใส่ความน้องสาวตนเอง นึกไม่ถึงว่าท่านยังคิดว่าคนเช่นนี้น่าสงสารอีก ซ้ำยังคิดจะหาที่ทางให้นางลงหลักปักฐานข้างนอกด้วย สมองท่านพังแล้วหรืออย่างไร ท่านทำเช่นนี้เคยนึกถึงความรู้สึกของชิงชิงบ้างหรือไม่”
ตอนแรกหลิงอวี้จื้อก็ไม่อยากปากมาก สุดท้ายก็ทนไม่ไหว จึงปากมากไปหลายประโยค
“เด็กในท้องนางอย่างไรก็เป็นของข้า เรื่องนี้ข้าก็ผิด ข้าไม่มีเจตนาอื่น และไม่เคยคิดจะทำเรื่องผิดต่อชิงชิง ข้าเพียงแค่อยากให้ตัวเองรู้สึกสบายใจบ้าง”
“จิตใจเมตตาของท่านช่างอ่อนแอเสียจริง เห็นอยู่ตำตาว่านางเป็นคนไม่ดี หลอกใช้ความใจอ่อนของท่านกัดกินท่านจนอยู่หมัด ท่านยังกระโดดลงไปในหลุมของนางอีก
ข้าจะบอกให้ ท่านจะจับปลาสองมือไม่ได้ หากท่านนึกถึงชิงชิงจริงๆ เช่นนั้นก็อย่าทำเรื่องไร้สาระอีก มิเช่นนั้นท่านกับชิงชิงก็ถือว่าหมดวาสนากันเพียงเท่านี้ ท่านไปคิดเอาเองให้กระจ่าง อย่ามาหาว่าข้าไม่เตือนก็แล้วกัน”
หลิงจื่อเฉิงยังกวนหลิงอวี้จื้อ
“เจ้าไม่ต้องมายุ่งเรื่องของข้า ชิวจวี๋ไม่ได้เลวร้ายถึงขั้นที่เจ้าพูด อวี้จื้อ ตั้งแต่เจ้ากลายเป็นว่าที่พระชายา นับวันเจ้าจะยิ่งเหลิง ไม่พูดคุยกันด้วยเหตุผลเสียแล้ว
เป็นไปตามสำนวน ‘คนใกล้ชาดติดสีแดง คนใกล้หมึกติดสีดำ’ จริงๆ เจ้าอยู่ใกล้ท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ เรียนรู้เอาความเลือดเย็นไร้หัวใจของเขามาเสียแล้ว”
คราวนี้หลิงอวี้จื้อถูกหลิงจื่อเฉิงจี้จุดโกรธจริงๆ แล้ว วางถ้วยชาในมือลงอย่างแรง
“ข้าเลือดเย็นไร้หัวใจหรือ ท่านนี่มันสมองหมูจริงๆ สมน้ำหน้าที่ถูกคนปั่นหัวเล่นจนหมุนติ้ว ถ้าท่านชอบให้คนปั่นหัวเล่นขนาดนี้ ข้าก็จะไม่ห้ามท่านแล้ว
ท่านอย่ามาสร้างความเดือดร้อนให้ชิงชิงกับคนในจวนก็พอ ชิงชิงตาบอดจริงๆ นึกไม่ถึงว่าจะชอบคนที่เห็นอกเห็นใจผู้อื่นเป็นล้นพ้นคนนี้ได้ ท่านหลงคิดว่าตัวเองเป็นเครื่องปรับอากาศส่วนกลาง แล้วยังอยากให้ความอบอุ่นกับทุกคนอีกด้วย รีบพาชิวจวี๋ของท่านออกจากที่นี่ไปเถิด ข้าไม่ต้อนรับท่าน”
หลิงจื่อเฉิงหน้าบึ้งทันที ออกไปจากห้องหลิงอวี้จื้อไปโดยไม่พูดอะไร
หลิงอวี้จื้อไม่มีใจจะดื่มชาแล้ว ตบโต๊ะอย่างโกรธจัด
“ข้ามีพี่ชายอย่างนี้ได้อย่างไร โกรธเป็นบ้า ต่อไปเรื่องของเขาข้าจะไม่ยุ่งอีก สมน้ำหน้าทั้งเพ”
“คุณหนู ใจเย็นๆ นะเจ้าคะ คุณชายมิได้มีเจตนาร้าย อย่าโมโหจนเสียสุขภาพเลยเจ้าค่ะ”
หรูเยียนพูดปลอบอยู่ข้างๆ
“คุณชายมิได้มีเจตนาร้ายจริงๆ เพียงแค่โง่เขลาเท่านั้น”
มั่วชิงวิจารณ์เรียบๆ
“มั่วชิงพูดถูก หากเขาไม่หกล้มก็แปลกแล้ว หากไปพบคนที่มีเจตนาแอบแฝง เขาก็คงพาจวนมหาเสนาบดีไปสู่ความย่อยยับ มิน่าท่านพ่อถึงเกลียดคนไม่ได้ความ ตอนนี้ข้าเข้าใจแล้ว หากเปลี่ยนเป็นข้า ข้าก็คงโกรธเขาแทบตาย”
หลิงอวี้จื้อผ่อนลมหายใจ
“เอาเถิด ไม่ว่าเขาแล้ว หรูเยียน ไปในครัวหยิบอะไรมาให้ข้ากินสักหน่อย อารมณ์ไม่ดีต้องกินมากๆ หน่อย”
“บ่าวจะไปดูว่าที่ครัวมีอะไรกินบ้างนะเจ้าคะ”