191 คุณไม่มีปัญญาซื้อสักคัน(1)

ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

บทที่ 191 คุณไม่มีปัญญาซื้อสักคัน(1)

คำพูดของพิธีกร ทำให้ทุกคนต่างก็อึ้งจนตาค้าง

คนสองคันนี้ เป็นรถที่หรูที่สุดในระดับโลก ปกติก็ยากที่จะได้เห็น ภายในประเทศมีเพียงไม่กี่คัน กลับถูกซื้อไปโดยคนคนเดียวหรือ?

ต้องรู้ว่า รถที่แพงและหรูระดับนี้ ไม่เพียงมีเงินเท่านั้นที่จะสามารถซื้อได้

แอสตันมาร์ตินONE77 จะขายให้กับสมาชิกแบรนด์แอสตันเท่านั้น และคนซื้อจะต้องมีรถสปอร์ตแอสตันมาร์ตินราคามากกว่าสิบล้านไม่ต่ำกว่าสามคัน ถึงจะมีสิทธิ์ซื้อ

นี่เป็นเพียงสิทธิ์เท่านั้น รถคันนี้มีจำนวนจำกัด ทั่วโลกทั้งสองร้อยกว่าประเทศ ทั้งหมดมีเพียง77คันเท่านั้น ภายในประเทศไม่มีสักคันเลย

ส่วนรถสปอร์ตของBugatti Veyron Hermes รุ่นพิเศษยิ่งซื้อยาก เพราะเดิมBugattiก็มีไว้บริการพวกคนรวยอันดับต้นๆของโลก บวกกับการปรับแต่งร่วมของHermes ถือว่าแพงอย่างมาก

รถสองคันนี้กลับถูกคนคนเดียวซื้อไป แสดงว่าสถานะคนคนนี้ จะต้องร่ำรวยมีอำนาจอย่างไม่คาดคิด

แต่ในสายตาเย่เฉิน กลับไม่ใช่รถสองคันนี้

เขามองหาเซียวชูหรันท่ามกลางผู้คนมากมาย

ในขณะที่เขากำลังมองหาอยู่ ตอนที่หาเซียวชูหรันไม่เจอ ก็ได้ยินเสียงผู้ชายด้านข้างคนหนึ่งพูดขึ้นว่า “ชูหรัน มาดูรถคันนี้สิ รถสองคันนี้เป็นดีที่สุดในโลก แม้แต่ผมก็ยังไม่เคยเห็น”

เย่เฉินได้ยินแล้วจึงหันมา แล้วก็เห็นเซียวชูหรัน ข้างกายมีชายคนหนึ่งหญิงคนหนึ่ง

ผู้ชายสวมชุดสูท แลดูสะอาดสะอ้าน ผู้หญิงสวมชุดสวย หุ่นเพรียว แต่เทียบกับเซียวชูหรันไม่ได้

เซียวชูหรันในตอนนี้ กำลังยืนอยู่ด้านข้างคนนั้น พูดอยู่อย่างยิ้มแย้มว่า “ประธานเกา ฉันไม่ค่อยรู้เรื่องรถ”

คนที่ถูกเรียกว่าประธานเกาคนนั้น หัวเราะเสียงดังพร้อมพูดว่า “ผมรู้เรื่องรถเป็นอย่างดี ยังไงศูนย์นิทรรศการของเราก็รับจัดงานมอเตอร์โชว์อยู่บ่อยๆ”

เย่เฉินเห็นเซียวชูหรันรักษาระยะระหว่างกันอย่างคนปกติ และยังเรียกอีกฝ่ายว่าประธานเกา จึงคาดเดาว่าเธอน่าจะออกมาเพื่อคุยเรื่องความร่วมมือ ในใจค่อยโล่งอก

ในเมื่อภรรยามาเพราะเรื่องงาน งั้นตอนนี้หากเธอเห็นตน ไม่แน่เธออาจจะเข้าใจผิด เย่เฉินจึงกำลังเตรียมที่จะกลับไป

คิดไม่ถึงว่า เซียวชูหรันกลับเงยหน้าขึ้นมา เมื่อเห็นเขา ก็ถามขึ้นอย่างตกตะลึงว่า “เย่เฉิน คุณมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?”

เย่เฉินคิดไม่ถึงว่าจะถูกเซียวชูหรันเห็น รีบพูดขึ้นว่า “ผมมาดูเฉยๆ เปิดหูเปิดตา ที่รัก คุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?”

เซียวชูหรันพยักหัว และก็ไม่ได้คิดอะไรมาก อธิบายให้เย่เฉินฟังด้านข้างกายคือประธานเกาว่า “เย่เฉิน ฉันแนะนำให้คุณรู้จัก คนนี้คือคุณเกาจวิ้นเว่ยของตระกูลเกา ศูนย์นิทรรศการจินหลิงเป็นกิจการของครอบครัวเขา เมื่อก่อนพวกเขาเป็นหนึ่งในความร่วมมือของบริษัทเซียวซื่อ ตอนนี้พวกเขาได้ยุติความร่วมมือกับบริษัทเซียวซื่อแล้ว พอดีอีกสองวันศูนย์นิทรรศการจะทำการต่อเติมใหม่ ดังนั้นจึงเรียกฉันมาคุยทำความร่วมมือ”

พูดเสร็จ เซียวชูหรันก็หันไปแนะนำผู้หญิงที่อยู่ด้านข้างเกาจวิ้นเว่ยให้กับเย่เฉินว่า “ใช่ คนนี้คือจางเจวียน เป็นเพื่อนฉันสมัยเรียนมัธยมปลาย ตอนนี้เป็นเลขาประธานเกา”

เวลานี้ จางเจวียนมองดูเย่เฉิน พร้อมพูดขึ้นอย่างแปลกใจว่า “ชูหรัน ก่อนหน้านี้ฉันได้ยินเพื่อนๆพูดกันว่า เธอได้มาเป็นเขยสวะแต่งเข้า ที่แท้ก็เขานี่หรือ ดูแล้วก็ไม่มีอะไรเลยจริงๆ”

เกาจวิ้นเว่ยอมยิ้ม สายตาที่มองดูเย่เฉินแฝงไปด้วยความอคติ แต่แล้วต่อมาก็เก็บซ่อนไว้อย่างดี