ตอนที่ 223 ไม่ใช่ว่าสอบไม่ได้ที่ 1 หรอกหรือ + ตอนที่ 224 คุณไม่ใช่แม่ของฉัน

ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น

ตอนที่ 223 ไม่ใช่ว่าสอบไม่ได้ที่ 1 หรอกหรือ + ตอนที่ 224 คุณไม่ใช่แม่ของฉัน โดย Ink Stone_Romance

ตอนที่ 223 ไม่ใช่ว่าสอบไม่ได้ที่ 1 หรอกหรือ

เสียงของอู่เหมยเสียงดังก้องกังวาลฮึกเหิมอย่างชัดเจน อู่เจิ้งซือและคนที่เหลือต่างเงยหน้าโดยไม่รู้ตัว ดวงตาของอู่เยวี่ยแดงบวมอย่างยิ่ง หน้าซีดขาว ไม่ว่าใครเห็นก็รู้สึกสงสาร

สีหน้าของเหอปี้อวิ๋นดูไม่ได้ยิ่งกว่า เธอปวดใจแทนลูกสาวคนโต แต่ที่มากกว่าก็คือรู้สึกผิดหวัง เมื่อครึ่งเดือนก่อน เธอเริ่มไปคุยโม้กับหน่วยงานและเพื่อนสนิทมิตรสหายแล้ว แต่ตอนนี้อันดับของอู่เยวี่ย ทำให้ต่อไปภายหลังเธอจะมีหน้าไปที่หน่วยงานได้อย่างไร?

 เหอปี้อวิ๋นที่อารมณ์กำลังกลัดกลุ้มสุดขีดพอเห็นอู่เหมยที่ยิ้มแย้มแจ่มใส ความโกรธที่อยู่ในใจก็เหมือนพุ่งขึ้นมาบนหัว ตำหนิว่า “กลับมาแล้วก็กลับมาแล้วสิ จะส่งเสียงเรียกดังขนาดนี้ทำไม?”

อู่เหมยอารมณ์ดีก็เลยขี้เกียจโต้เถียงกับเธอ เธอแกล้งทำเป็นแปลกใจมองอู่เยวี่ย ส่งเสียงดังไม่น้อยว่า “พี่สาว ทำไมพี่ร้องไห้อีกแล้วล่ะ? ไม่ใช่ว่าเพราะสอบไม่ได้ที่หนึ่งใช่ไหม ไม่เป็นไรนะ เดี๋ยวพี่ก็ค่อยๆ เคยชินไปเอง”

 อารมณ์ที่ไม่สบายใจก็พุ่งขึ้นมาที่ลำคอ ดวงตาของอู่เยวี่ยก็ยิ่งแดงก่ำ กัดฟันอย่างเงียบๆ แทบอยากจะฉีกปากของอู่เหมย แน่นอนว่านังโง่นี่ตั้งใจ ไม่อย่างนั้นคงไม่ยืนตะโกนเรียกที่หน้าประตูเสียงดังขนาดนั้น!

“เธอเอะอะโวยวายอะไร? ยังไม่เข้ามาพูดในห้องอีก จะยืนอยู่ตรงประตูให้เหมือนตัวอะไร?” เหอปี้อวิ๋นกัดฟันพูด ใจรู้สึกเหมือนโดนมีดแทง

อู่เหมยหันหน้าไปมองเพื่อนบ้านด้านข้างที่ฟังกันหูผึ่งก็แอบขำ คำพูดเธอเมื่อกี้คนพวกนี้คงได้ยินกันหมดแล้ว ไม่เกินหนึ่งวัน เรื่องที่อู่เยวี่ยสอบไม่ได้ที่หนึ่งก็คงกระจายไปทั่วโรงเรียนอย่างรวดเร็ว ฮ่าๆ ดูซิว่าหลังจากนี้เหอปี้อวิ๋นกับอู่เยวี่ยจะอวดเก่งอย่างไรได้อีก!

อาจารย์แม่จางถูกความฉลาดหลักแหลมของอู่เหมยทำให้ขำ โบกไม้โบกมือไปทางเธอให้เธอรีบเข้าไปในห้อง อย่ายั่วให้เหอปี้อวิ๋นโมโหอีก เพียงแค่ว่าเธอรู้สึกแปลกใจ ทำไมพอได้ยินว่าอู่เยวี่ยสอบไม่ได้ที่หนึ่ง ในใจของเธอกลับรู้สึกสบายใจมากล่ะ?

นี่มันไม่ใช่อากัปกิริยาที่ผู้อาวุโสควรมีสิ!

ผิดพลาด ผิดพลาด!

เพื่อนบ้านคนอื่นๆ ที่กำลังผัดกับข้าวอยู่ถอนหายใจด้วยความโล่งอก ทุกคนต่างก็แลกเปลี่ยนรอยยิ้มกันเหมือนกับว่าเธอรู้ฉันก็รู้ เพียงแค่ไม่ได้ที่หนึ่ง  แต่ให้ตายเถอะ วันทั้งวันที่ผ่านมาได้แต่ฟังเหอปี้อวิ๋นแม่ผู้หญิงคนนี้ขี้โม้ขี้อวด ฟังจนหูจะมีรังไหมขึ้นอยู่แล้ว!

อู่เหมยยกขาเตรียมก้าวเข้าห้อง แต่ว่าอู่เยวี่ยที่อยู่ตรงนั้นเหยียบแค่ทีเดียวคงยังไม่พอ เธอยังต้องยกยอตัวเองหน่อย!

“พ่อคะ ผลสอบภาษาครั้งนี้หนูได้ 74 คะแนน อาจารย์อู๋ชมเชยหนูหนักเลย บอกว่าให้หนูพยายามอีกหน่อย อาจจะสามารถสอบได้ดีกว่านี้อีก!”

อู่เหมยพูดด้วยเสียงภูมิใจ เสียงดังตรงระเบียงทางเดิน ดังไปสามบ้านแปดบ้าน ก้องกังวานจนทำให้ทุกต่างวางเครื่องครัวโดยพร้อมเพียง เบิกตากว้างอย่างไม่กล้าเชื่อ

ลูกสาวคนเล็กที่โง่เง่าของตระกูลอู่สอบได้ 74 คะแนน?

โอ้โห! เธอได้รับพลังด้านสติปัญญามาแล้วหรือนี่?

อาจารย์แม่จางดีใจมากกว่าใคร ยกนิ้วโป้งขึ้นมาให้อู่เหมยเพื่อชมเชย “ฉันรู้อยู่แล้วว่าเหมยเหมยเป็นคนฉลาด เพียงแค่ความคิดความอ่านกับสติปัญญาช้าไปหน่อย วันหลังแค่พยายามสู้เพิ่มอีก ไม่แน่ว่าสักวันหนูอาจจะเอาที่หนึ่งมาได้ก็ได้นะ!”

อู่เหมยพยักหน้าอย่างแรง “ค่ะ หนูจะพยายามอย่างเแน่นอน”

อาจารย์แม่จางมองเด็กน้อยอย่างปลื้มอกปลื้มใจ นี่ก็นับได้ว่าคือต้นร้ายปลายดี ตอนนี้เหอปี้อวิ๋นก็ไม่สามารถเอาเรื่องคะแนนมาพูดได้อีกแล้วมั้ง?

ก็ยังไม่รู้ว่าต่อไปลูกสาวสองคนนี้ คนไหนจะมีอนาคตมากกว่ากัน!

อย่างไรก็แล้วแต่เธออยู่ข้างลูกสาวคนเล็ก อู่เหมยดูดีแถมยังขยัน แน่นอนว่าย่อมมีอนาคตกว่าคนปลอมเปลือกแบบอู่เยวี่ย

ในขณะที่อาจารย์แม่จางกำลังดีใจก็มีคนที่อารมณ์ตรงกันข้ามกันโดยสิ้นเชิง ความกลัดกลุ้มอึดอัดใจของอู่เยวี่ยยิ่งอัดแน่นในหน้าอกขึ้นไปอีก เล็บมือจิกลึกเข้าไปในเนื้อ สอบครั้งนี้เธอแพ้ย่อยยับล้มเหลว แต่อู่เหมยกลับได้คะแนนดีอย่างที่ไม่เคยได้รับมาก่อน

อู่เหมยมันจะต้องเจตนาแน่นอน ยังสารเลวคนนี้อยากจะหัวเราะเยาะเธอมานานแล้ว!

เธอจะไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ง่ายๆ หรอก ยังไงก็ต้องมีการสอบอีก เธอจะต้องสามารถแย่งเอาที่หนึ่งมาจากมือของสยงมู่มู่กลับมาเป็นของเธอให้ได้อย่างแน่นอน!

…………………………………………………………..

ตอนที่ 224 คุณไม่ใช่แม่ของฉัน

ใบหน้าที่อึมครึมของอู่เจิ้งซือเปลี่ยนเป็นรอยยิ้ม หัวเราะพูดต่อว่า “นี่เป็นข่าวดีจริงๆ เหมยเหมยเอากระดาษข้อสอบมาให้พ่อดูสิ”

เขามีความสุขจริงๆ จากที่คะแนนไม่เคยผ่านเกณฑ์ แต่กระโดดมาได้ถึง 74คะแนน การพัฒนานี้พัฒนาได้รวดเร็วน่าทึ่งมาก หากนักเรียนของเขาทำได้แบบนี้ เขาคงจะมีความสุขมากแล้วยิ่งไม่ต้องพูดถึงลูกสาวของเขาเลย

ปฏิกิริยาโต้ตอบของอู่เจิ้งซือทำให้ใจของอู่เหมยสงบลง เธอหยิบกระดาษข้อสอบออกมาจากกระเป๋าเรียนส่งให้อู่เจิ้งซือ หัวกระดาษตัวเลข 74 สีแดงทิ่มแทงตาของอู่เยวี่ย สิ่งที่เธออยากจะเห็นคือตัวเลขที่น้อยกว่าหก

“เหมยเหมยเก่งจริงๆ สอบได้ตั้ง 74 คะแนนแหนะ” อู่เยวี่ยฝืนยิ้ม พูดอย่างไม่จริงใจ เพราะในใจกลับหวังว่าคะแนนนี่จะสามารถกลับกันได้ ถ้าเป็นแบบนั้นใจเธอคงสงบได้

ในใจของเหอปี้อวิ๋นก็ไม่พอใจ เด็กโง่ที่วันๆ โดนเธอทุบตีดุด่าอยู่ดีๆ ก็เก่งขึ้นมา เธอรู้สึกสับสนมาก แต่ไม่มีอารมณ์ที่ดีใจเท่านั้น ความจริงแล้วความรู้สึกของเธอนั้นเหมือนกับอู่เยวี่ย อยากเห็นคะแนนนั้นกลับตัวเลขกัน แบบนั้นเธอก็จะมีเหตุผลให้ด่าอู่เหมยได้แล้ว

ตอนนี้ลมโมโหของเธออัดแน่นอยู่ในใจ ขึ้นไม่ได้ลงไม่ได้ อึดอัดเป็นอย่างมาก

“74 คะแนนแค่นี้ก็ยกหางซะแล้วเหรอ? ฉันมองแล้วมองอีกยังไงแกมันก็แค่กระดูกอ่อน ได้คะแนนแค่นี้ก็ภูมิอกภูมิใจ พี่สาวแกแต่ก่อนสอบได้ร้อยคะแนนยังไม่มีท่าทางแบบแกเลย” เหอปี้อวิ๋นก็ยังคงหาเหตุผลมาด่าคนจนได้ เธอก็แค่เก็บความรู้สึกไว้ภายในใจต่อไปไม่ไหว หากไม่ด่าออกมาในใจคงเป็นทุกข์

หัวใจของอู่เหมยเหมือนโดนแทงอย่างแรง ไม่ว่าเหอปี้อวิ๋นจะมองเธออย่างไรก็คงไม่เจริญตา ถึงแม้ว่าเธอจะสอบได้ร้อยคะแนน แม้กระทั่งรอยยิ้มเหอปี้อวิ๋นก็คงไม่สามารถมอบให้เธอได้

ช่างมัน หลังจากนี้ก็คิดซะว่าตัวเองโดนเก็บมาจากถังขยะก็แล้วกัน!

ไม่มีความปรารถนา ใจย่อมแข็งแกร่ง ตัดขาดความอาลัยกับครอบครัว แบบนี้แล้วเธอก็จะไม่เจ็บปวดใจอีก!

อู่เหมยมองเหอปี้อวิ๋นอย่างนิ่งๆ ดวงตาโตสีดำขลับมีแต่ความเย็นชา ไฝสีแดงชาดบนผิวที่ขาวราวหิมะนั้นเหมือนจะตัดกัน แต่กลับขับเสริมซึ่งกันและกันให้เด่นขึ้น เหอปี้อวิ๋นโดนเธอมองจนรู้สึกหวาดกลัว ข้างหูคล้ายกับได้ยินเสียงนังสารเลวคนนั้นเมื่อตอนนั้นว่า

“คนที่อิงหัวรักก็คือฉัน ไม่ใช่เธอ เหอปี้อวิ๋น ยิ่งเธอดิ้นรนเท่าไรก็ยิ่งเพิ่มความอับอายให้ตัวเองเท่านั้น!”

“ท่าทางของแกนี่มันอะไร? ฉันพูดว่าให้ไม่ได้แล้ว? ฉันลำบากลำบนคลอดแกเลี้ยงแกออกมาแล้ว แต่กลับได้เลี้ยงเด็กเนรคุณอย่างแกแทนจนได้นะ!”

เหอปี้อวิ๋นรู้สึกเหมือนเธอเห็นภาพหลอน หน้าของอู่เหมยกับหน้านังสารเลวนั้นทับซ้อนกัน ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นหน้าเดียวกัน มองเธออย่างเยือกเย็นเหมือนกัน กัดเซาะใจเธอจนเจ็บไปหมด เธอยกมืออย่างลืมตัว ตบลงบนหน้าของอู่เหมยอย่างแรง

ทั้งความอัดอั้นตันใจในเวลานั้นที่เธอได้รับตอนอยู่กับนังสารเลวนั้น ทั้งความไม่เป็นธรรมในหลายปีที่ผ่านมา ทั้งหมดเอามาลงที่ตัวอู่เหมยเพียงคนเดียว

ในเวลานี้เธอค่อนข้างรู้สึกขอบคุณพระเจ้าเล็กๆ ที่ให้เธอกำเนิดลูกสาวที่มีหน้าตาคล้ายกับนังสารเลวนั้น แต่ก่อนนั้นนังนั่นมักจะเหยียบหัวเธอ แต่ตอนนี้เธอเป็นผู้ใหญ่กว่า คิดอยากจะสั่งสอนอู่เหมย ใครก็พูดคำว่า ‘ไม่’ ออกมาไม่ได้!

เวลานี้เหอปี้อวิ๋นเหมือนกับปีศาจ ดวงตาเป็นสีแดงฉาน หน้าตาดุร้าย ทำให้อู่เจิ้งซือตกใจเป็นอย่างมาก จึงลุกขึ้นเพื่อจะหยุดเธอ

แต่ปฏิกิริยาตอบสนองของเขาช้าไป เหอปี้อวิ๋นตบหน้าอู่เหมยไปแล้ว จนมีเสียงดังกังวาลอยู่ข้างหู อู่เหมยเดิมนั้นคิดจะหลบเลี่ยง แต่เธอมัวแต่ครุ่นคิด แรงตบจึงเฉียดผ่านหู ลงที่แก้มเต็มๆ เจ็บปวดแสบร้อนไปหมดทำให้อู่เหมยโมโหจนเกือบจะลงมือกลับ

แรงตบครั้งนี้เธอจะต้องไม่เสียเปล่าแน่นอน!

ในเมื่อเหอปี้อวิ๋นไม่คำนึงถึงครอบครัวเลยสักนิด ถ้าอย่างนั้นก็อย่าโทษว่าเธอไม่ยุติธรรมเลย!

“เหอปี้อวิ๋นคุณเป็นบ้าอะไร?” อู่เจิ้งซือรีบพุ่งเข้ามา ใบหน้าเต็มไปด้วยความโกรธ

ใบหน้าของอู่เหมยนั้นบวมเหมือนหมั่นโถวก็ไม่ปาน มุมปากแตก โชคดีที่เธอเอียงหูหลบ ไม่น่าจะมีอะไรร้ายแรง แต่ก็ยังเจ็บอยู่มาก อู่เหมยกลั้นน้ำตาและตะโกนว่า “ฉันเกลียดคุณ คุณไม่ใช่แม่ของฉัน!”

หลังจากพูดเสร็จแล้วเธอก็วิ่งออกไป เธอจะต้องใช้รอยฝ่ามือนี้ฉีกคราบนักบุญใจบาปของเหอปี้อวิ๋นอย่างโหดเหี้ยม!

…………………………………………………………..