บทที่ 901 หลานของฉันไม่มีทางทางน่ารักขนาดนี้ / บทที่ 902 คนที่ไม่ควรหาเรื่อง

แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี

บทที่ 901 หลานของฉันไม่มีทางทางน่ารักขนาดนี้

“ผมไร้ความสามารถ! ผม…ทำพลาด…”

“นายว่าไงนะ!!!” พอได้ยินรายงานจากลูกน้องคนสนิท ซือหมิงหลี่ตบโต๊ะแล้วลุกขึ้นยืน “ไหนว่าบอกว่าทำสำเร็จแน่นอนไง? ที่นั่นมีคนรับใช้แค่ห้าคน พวกนายส่งทหารรับจ้างเกรด C ไปสามคน จะพลาดได้ยังไงกัน!”

ลูกน้องคนสนิทพูดอย่างกล้าๆ กลัวๆ “ในตึกเล็กตึกนั้นมีคนรับใช้อยู่ห้าคนก็จริง…แต่ห้าคนนั้นเป็นยอดฝีมือหมดเลย…อีกอย่าง…เป็นไปได้มากว่าจะเป็นทหารรับจ้าง…แถมยังระดับสูงกว่าสามคนนั้นด้วยครับ…”

“ไม่ได้เรื่อง! นายมัวทำอะไรอยู่! ถึงเพิ่งมาบอกตอนนี้ว่าห้าคนนั้นเป็นทหารรับจ้าง?!” ซือหมิงหลี่โกรธแทบตาย

นึกไม่ถึงว่าข้อมูลสำคัญอย่างนี้กลับสืบไม่ได้ ตอนนี้ไม่เพียงทำไม่สำเร็จ แต่ยังเป็นการแหวกหญ้าให้งูตื่นอีกด้วย หากมีใครรู้เข้า เขาคงขายหน้าแย่

ซืออี้เชียนที่นั่งอยู่ด้านหนึ่งทำหน้าขรึม “ครั้งนี้พวกเราประมาทเกินไปจริงๆ ดูท่าแล้วห้าคนนั้นฝีมือไม่ธรรมดา ด้วยกำลังคนที่เราสามารถระดมได้ในตอนนี้ เกรงว่าจะทำอะไรผู้หญิงคนนั้นไม่ได้…”

ซือหมิงหลี่ตะโกนด้วยความแค้น “แล้วจะให้มันจบลงอย่างนี้เหรอ?”

ซืออี้เชียนครุ่นคิดแล้วกล่าวว่า “ไม่มีทางอยู่แล้ว! ในเมื่อทำไปแล้ว ก็ไม่มีเหตุผลให้หยุดกลางคัน! พ่อครับ ในเมื่อฉีกหน้ากากแล้ว พวกเราก็ไม่จำเป็นต้องพะวงอะไรอีก ยังไงพ่อไปขอให้คุณอีริคช่วยก่อนดีมั๊ยครับ ดูว่าเขาจะส่งคนมาให้ได้กี่คน ผมว่าอีริคจะต้องเต็มใจช่วยเราแน่นอน!”

สายตาของซือหมิงหลี่เย็นชาลง “แกพูดถูก! ตอนนี้ไม่มีอะไรให้ปิดบังอีกแล้ว! ถ้าหากคุณอีริคยอมออกหน้า จะต้องไม่มีทางผิดพลาดแน่! เพราะยังไงด้วยกำลังของเราในตอนนี้ ก็ทำได้แค่ว่าจ้างทหารรับจ้างเกรด C ลงไปเท่านั้น…”

ทหารรับจ้างเกรด C ขึ้นไปไม่ใช่ว่ามีเงินอย่างเดียวแล้วจะจ้างได้ เพราะต้องมีการตรวจสอบคุณสมบัติผู้ว่าจ้างอย่างเข้มงวด

นางแพศยานั่น คงคิดว่าเขามีปัญญาแค่นี้สินะ? คงคิดว่าทหารรับจ้างระดับสูงไม่กี่คนนั่นจะปกป้องหล่อนได้?

รู้น้อยไปซะแล้ว…

……

ณ โรงแรมข่ายตี๋

“ให้ตายเถอะ……

เนี่ยอู๋หมิงมองเด็กน้อยที่ยืนอยู่หน้ากระจก เกือบต้องมนต์สะกดรูปร่างหน้าตาของเขาเสียแล้ว

นี่มัน…จะน่ารักเกินไปแล้ว…

ต้องยอมรับว่าถึงแม้นิสัยของเจ้าบรรพบุรุษน้อยตัวนี้จะไม่ต่างอะไรกับปีศาจร้ายเลย แต่รูปร่างหน้าตาที่งดงามประณีตเหมือนหยกสลักนี่จะหลอกตาเกินไปแล้ว อยากจะยื่นกรงเล็บออกไปข่วนดวงหน้าน้อยๆ นั่นสักครั้งจริงๆ อ๊ากก!

เนี่ยอู่หมิงท่องคาถาแผ่เมตตาในใจหลายรอบกว่าจะสงบสติอารมณ์ตัวเอง ไม่ให้ทำเรื่องรนหาที่ตายอย่างนั้น

เจ้าปีศาจน้อยเรียก “คุณลุง”

เนี่ยอู๋หมิงตอบ “จ้า มีอะไรเหรอ?”

เนี่ยอู๋หมิงที่ถูกเรียกชื่อรีบรับคำ วินาทีที่เปิดปาก น้ำเสียงก็อ่อนลงอัตโนมัติ

ช่างเป็นความอัปยศของคนหลงในรูปลักษณ์จริงๆ!

ปีศาจน้อยพูดว่า “ส่งผมเสร็จ คุณลุงก็ไปได้เลย”

เนี่ยอู๋หมิงไม่เข้าใจ “ทำไมล่ะ?”

ปีศาจน้อยบอกว่า “ด้วยไอคิวของคุณลุง เกิดพูดอะไรผิดขึ้นมา จะส่งผลต่อความประทับใจครั้งแรกที่แม่มีต่อผมได้”

หรือพูดอีกอย่างก็คือ “อย่ามาเป็นตัวถ่วงผม” นั่นเอง

คุณลุงเนี่ยที่โดนตราหน้าว่าเป็นตัวถ่วงถึงกับพูดไม่ออก

น่า รัก กับ ผี น่ะ สิ!!!

ว่าแล้วเชียว หลานชายของเขาไม่มีทางน่ารักขนาดนี้แน่!

ปีศาจน้อยชะงักเล็กน้อย แล้วพูดเสริมว่า “คุณลุงแน่ใจนะว่าผู้หญิงที่ผมเห็นในคลิปวันนั้น คือแม่ของผม?”

“ใช่แล้วๆ เธอนั่นแหละ ทะ…ทำไมงั้นเหรอ?” เนี่ยอู๋หมิงถามอย่างระมัดระวัง

เจ้าปีศาจน้อยจับพิรุธอะไรได้แล้วงั้นเหรอ หรือไม่พอใจ ไม่ชอบคนอื่นเขา?

ปีศาจน้อยพูดด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง “เปล่า ไปถันเถอะ”

เนี่ยอู๋หมิงเองก็ไม่รู้ว่าตัวเองตาฝาดไปหรือเปล่า หลังจากได้ยินคำยืนยันของเขา ดวงหน้าเย็นชาเหมือนภูเขาน้ำแข็งของเจ้าปีศาจน้อย คล้ายจะดูอ่อนโยนขึ้นมาก?

……………………………….

บทที่ 902 คนที่ไม่ควรหาเรื่อง

กลางดึก บ้านพักตากอากาศในชานเมือง

สีหน้าของซือหมิงหลี่ตึงเครียดสุดขีด เขาหันไปพูดกับซืออี้เชียนที่นั่งอยู่ด้านหนึ่งว่า “ภารกิจครั้งนี้ มีทหารรับจ้างรับหน้าที่แล้ว”

ได้ยินอย่างนั้น ซืออี้เชียนก็แสยะยิ้ม แล้วพูดว่า “คุณพ่อ คุณพ่อไม่ต้องโกรธขนาดนี้ก็ได้ เรื่องครั้งที่แล้ว เป็นแค่เรื่องไม่คาดฝันเท่านั้น”

“เหอะ!”

ซือหมิงหลี่แค่นเสียงขึ้นจมูก จากนั้นก็หันไปพูดกับลูกน้องคนสนิทที่อยู่ข้างกาย “ตรวจสอบแน่ชัดมาหมดแล้วหรือยัง อย่าให้เกิดเรื่องเหมือนครั้งที่แล้วอีกล่ะ ที่ไม่รู้กระทั่งว่ามีทหารรับจ้างคอยคุ้มกันผู้หญิงคนนั้นอยู่!”

“ตรวจสอบแน่ชัดแล้วครับ!” ลูกน้องคนสนิทเหงื่อซึม เขาพูดอย่างระมัดระวังว่า “พวกลูกน้องของเยี่ยหวันหวั่น เป็นคนที่เธอพากลับมาจากต่างประเทศ แต่ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าจ้างมาเป็นบอร์ดี้การ์ดหรืออะไรครับ”

ซือหมิงหลี่หันไปพูดกับซืออี้เชียน “แกว่าทหารรับจ้างพวกนั้น จะมีความเกี่ยวข้องอะไรกับเจ้าซือเยี่ยหานหรือเปล่า?”

“คุณพ่อหมายความว่า…ซือเยี่ยหานเป็นคนจ้างพวกนั้นมาคุ้มกันผู้หญิงคนนั้น?” ซืออี้เชียนครุ่นคิดครู่หนึ่ง แล้วพูดขึ้น

“ใช่!” ซือหมิงหลี่ขมวดคิ้ว “ถ้าหากเป็นอย่างนั้นจริง ก็แสดงว่าซือเยี่ยหานระวังพวกเรามานานแล้ว แกว่าเจ้านั่นจะรู้เรื่องแผนการของเรากับคุณอีริคแล้วหรือยัง?”

พอได้ยินเรื่องที่ซือหมิงหลี่กังวล ซืออี้เชียนก็ยิ้มเล็กน้อย เขาส่ายหน้าแล้วบอกว่า “คุณพ่อ เป็นไปไม่ได้หรอกครับ ด้วยความสามารถของคุณอีริค ไม่มีทางปล่อยให้ซือเยี่ยหานรู้ตัวแน่ หรือถึงแม้ซือเยี่ยหานจะรู้ตัว เขาก็คงไม่จ้างทหารรับจ้างจากต่างประเทศมาคุ้มกันเยี่ยหวันหวั่นหรอกครับ น่าจะเก็บเธอไว้ข้างกายตลอดเวลามากกว่า”

ถึงแม้จะพูดอย่างนั้น แต่ซือหมิงหลี่กลับรู้สึกไม่สบายใจ แม้ว่าความสามารถและวิธีการของคุณอีริคจะไม่เป็นที่กังขา แต่เจ้าเด็กซือเยี่ยหานนั่นก็น่ากลัวไม่แพ้กัน

“คุณพ่อ ไม่จำเป็นต้องกังวลมากไปหรอกครับ ถึงแม้ซือเยี่ยหานจะรู้ อย่างมากพวกเราก็ฉีกหน้ากากออกแล้วสู้สุดตัวไปเลย การต่อสู้ครั้งนี้ มีคุณอีริคคอยช่วยด้วย ใครจะเป็นผู้แพ้หรือผู้ชนะ อาจยังไม่มีใครรู้ แต่ผมรู้สึกได้ว่าชัยชนะจะต้องตกเป็นของเราแน่” ซืออี้เชียนพูดพร้อมรอยยิ้ม

เมื่อพูดถึงอีริค ซือหมิงหลี่ก็วางใจ เขากลับสงสัยความสามารถและวิธีการของคนคนนั้น…ช่างไม่มีเหตุผลเสียเลย

อีกอย่าง ซือเยี่ยหานไม่มีทางรู้แน่นอน ว่าคุณอีริคมีตัวตนอยู่บนโลกใบนี้ด้วย

“เหอะ ซือเยี่ยหาน แกหาเรื่องคนที่ไม่ควรหาเรื่องซะแล้ว เกมเพิ่งจะเริ่ม พวกเราค่อยๆ สนุกกันดีกว่า…” สายตาของซือหมิงหลี่ไหวระริก พร้อมหัวเราะเย็นชา

ขณะคุยกัน ลูกน้องคนสนิทหันไปมองข้างนอก แล้วบอกว่า “พวกเขามาแล้วครับ”

ไม่นาน ชายชุดดำกลุ่มหนึ่งก็เดินเข้ามาในห้องโถงใหญ่

ชายที่ยืนอยู่ข้างหน้าสุด เส้นผมขาวหงอก แต่ดูแล้วอายุน่าจะเพียงยี่สิบเจ็ดถึงยี่สิบแปดเท่านั้น ลักษณะท่าทางกลับดูสง่างาม หัวคิ้วมีราศีชั่วร้าย แต่กลับดูไม่เหมือนทหารรับจ้าง

“สวัสดีครับ ผมซือหมิงหลี่”

ซือหมิงหลี่รีบก้าวไปหาชายคนนั้น แล้วกล่าวแนะนำตัว

“คุณซือ ภารกิจในครั้งนี้ คุณอีริคเป็นคนออกคำสั่ง ผมพอจะเข้าใจคร่าวๆ แล้ว ขอแนะนำตัวสักหน่อย ผมชื่อถังหลง เป็นหัวหน้าทีมทหารรับจ้างมังกรคำรามครับ”

ถังหลงยื่นมือขวาออกมาทักทายซือหมิงหลี่

“ฮ่าๆ ที่แท้ก็หัวหน้าทีมถังหลงนี่เอง ได้ยินชื่อมานาน วันนี้เป็นเกียรติที่ได้พบ หัวหน้าทีมถังหลงยังหนุ่มยังแน่น ก็ขึ้นมาอยู่ระดับนี้ได้แล้ว ช่างน่าทึ่งจริงๆ…เชิญ เชิญเข้าข้างใน พอรู้ว่าทุกท่านจะมาถึงค่ำนี้ ผมก็ถือวิสาสะเตรียมงานเลี้ยงต้อนรับเล็กน้อย หวังว่าหัวหน้าทีมถังหลงกับทุกท่านจะให้เกียรติด้วย!” ซือหมิงหลี่พูดด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม