ตอนที่ 608 ยากที่จะรับไหว
“ท่านอ๋อง ช่วงนี้ท่านว่างมากหรือเจ้าคะ ? ” อันหลิงเกอไม่ชอบแต่ก็ไม่กังวล น้ำเสียงเรียบง่ายแต่ก็สามารถฟังออกว่านางรู้สึกเช่นไร
มู่จวินฮานเข้าไปใกล้นาง “หากได้พบเจ้า ข้าก็ว่างเสมอ”
เห็นอยู่ชัด ๆ ว่าเป็นคำพูดทะเล้น แต่พอออกจากปากมู่จวินฮานกลับดูเป็นการเป็นงานขึ้นมาเสียอย่างนั้น ทำให้อันหลิงเกอยิ้มได้ทันที
เมื่ออันหลิงเกอยิ้มออก มู่จวินฮานก็เริ่มเข้าประเด็นทันที
“ผลตรวจออกมาแล้วว่าทัวป๋าถิงฟางมิได้ตั้งครรภ์จริง ตอนนี้นางยังมิรู้และข้าเองก็ไม่รู้ว่าจะบอกนางเช่นไร”
ฟู่ว !
อันหลิงเกอสำลักชาที่เพิ่งดื่มเข้าไปทันที ดวงตาของนางเบิกกว้างและเห็นได้ชัดว่ามันน่าเหลือเชื่อมากเพียงใด
“ท่านพูดเรื่องจริงหรือไม่ ? มิได้หลอกข้าใช่หรือไม่เจ้าคะ ? ” อันหลิงเกอถามด้วยความสงสัย
ใช่ว่านางมิเชื่อ แต่ช่วงหลายวันมานี้ทัวป๋าถิงฟางโอ้อวดจนทำให้อันหลิงเกอมั่นใจว่าอีกฝ่ายตั้งครรภ์แน่นอน แต่หลังจากได้ยินมู่จวินฮานกล่าวเช่นนี้นางก็เริ่มสงสัย
มู่จวินฮานพยักหน้าจริงจัง ทันใดนั้นอันหลิงเกอก็มีความสุขขึ้นมา
“เกอเอ๋อ ข้าควรบอกนางเช่นไรดี ? ” มู่จวินฮานมาเพื่อถามวิธีแก้ปัญหา
อันหลิงเกอมิได้ใส่ใจมากนัก “เรื่องเช่นนี้บอกนางไปตามตรงก็ได้แล้ว ยังต้องคิดเพื่อสิ่งใดอีกเจ้าคะ ? ”
มันอาจทำให้นางสูญเสียการควบคุมอารมณ์และทำให้จิตตกอย่างหนัก แต่มิได้เป็นสาเหตุที่ว่ามิควรบอกนาง
อันหลิงเกอไม่ได้ยอมรับว่าตนเป็นคนดีเพราะการโอ้อวดของทัวป๋าถิงฟางในช่วงหลายวันนั้นยังปรากฎอยู่ตรงหน้า ตอนนี้นางก็ได้รับรู้สถานการณ์ทั้งหมดแล้วจึงมิต้องกล่าวถึงว่ากำลังมีความสุขมากเพียงใด
มู่จวินฮานเองก็เริ่มคิด เด็กคนนั้นมิได้มีอยู่จริงด้วยซ้ำ หากไม่รีบบอกทัวป๋าถิงฟางแล้วเขาก็มิรู้ว่านางจะทำตัวอวดดีต่อหน้าอันหลิงเกออีกนานเพียงใด เขาได้รู้เรื่องราวในช่วงหลายวันมานี้ เพียงแต่เพราะเด็กในครรภ์ ทำให้เขามิลงโทษทัวป๋าถิงฟางเท่านั้นเอง
“ตอนนี้เจ้าให้อภัยข้าแล้วใช่หรือไม่ ? ”
อันหลิงเกอยังอยู่ที่เดิม นางมิจำเป็นต้องอภัยอันใด เนื่องจากนางก็แค่ไม่อยากเจอเขาเพราะเรื่องบุตรเท่านั้น
แม้นางเจ็บปวด ผิดหวัง โมโหแต่เขาก็มิได้ผิดอันใด !
“ท่านมิต้องกล่าวเรื่องให้อภัยหรอก คิดเสียว่าข้าเอาแต่ใจสักสองสามวันเจ้าค่ะ”
“เอาแต่ใจหรือ ? นี่ยังเรียกว่าแค่เอาแต่ใจหรือ ข้ามิรู้จริง ๆ ว่าหากเจ้าโมโหขึ้นมาแล้วมันจะเป็นเช่นไร”
มู่จวินฮานแกล้งหยอกอันหลิงเกอ นางจึงชี้ไปที่เขาแล้วขู่ทันที “หากท่านยังพูดอีก ข้าจักหนีออกจากเรือนแล้วมิกลับมาอีก”
ดูเหมือนความคิดนี้มิเลว อืม การออกจากจวนอ๋องแล้วท่องไปสุดขอบฟ้าโดยไม่มีคนมาควบคุม อยากไปไหนก็ไปช่างน่าสนใจนัก
มู่จวินฮานเผยสีหน้าดำมืดทันทีและขู่นางเช่นเดียวกัน “แค่เจ้ากล้าทำ ข้าก็จะพลิกดินพลิกฟ้าเพื่อจับเจ้ากลับมาสั่งสอนให้ได้ เมื่อถึงตอนนั้นเจ้าก็อย่าคิดได้ออกจากจวนแม้แต่ก้าวเดียว”
อันหลิงเกอบ่นในใจและทำปากมุ่ยทันที
ในเมื่อทัวป๋าถิงฟางมิได้ตั้งครรภ์ อันหลิงเกอจึงอารมณ์ดีขึ้นมาก แต่สำหรับช่วงที่มู่จวินฮานไปหาทัวป๋าถิงฟางก่อนหน้านี้ยังอัดแน่นอยู่ในใจของนาง หรือแม้แต่นางยังรู้ว่าทัวป๋าถิงฟางสะกดรอยตามเพื่อจะรั้งเขาไว้
มู่จวินฮานพยายามเติมเต็มความสัมพันธ์ หวังว่ามันจะกลับมาดีเหมือนเก่าและเพื่อบอกความจริงกับทัวป๋าถิงฟาง เขาจึงจำเป็นต้องไปที่เรือนของนาง
มู่จวินฮานอธิบายสาเหตุที่จะออกมา “เจ้าเองก็รู้ว่าข้าต้องไปบอกนาง เจ้าจะโมโหมิได้ ตกลงหรือไม่ ? ”
อันหลิงเกอรู้ดีว่าพอออกจากปากมู่จวินฮานแล้วก็สามารถวางใจได้ นางพยักหน้าเพื่อส่งสัญญาณให้มู่จวินฮานออกไปโดยมิต้องห่วงอันใด เพราะนางไม่โมโหแน่นอน
“พระชายา บ่าวบอกแล้วใช่หรือไม่ว่าท่านอ๋องดีกับท่านมากเจ้าค่ะ” ปี้จูก็ได้ยินและดีใจกับเรื่องที่ทัวป๋าถิงฟางมิได้ตั้งครรภ์มาก ขณะเดียวกันก็ยังเอ่ยชมมู่จวินฮานด้วย
อันหลิงเกอจึงอดมิได้ที่จะคิดว่าบางทีปี้จูอาจเป็นสายลับที่มู่จวินฮานส่งมาอยู่ข้างกายตนเพื่อให้พูดแทนเขาก็ได้
“เจ้านี่นะ เลิกพูดแทนเขาเสียที เขาให้ผลประโยชน์อันใดกับเจ้า ? ”
“ปี้จูมิได้สิ่งใดสิ่งเจ้าค่ะ ก็แค่ท่านอ๋องดีมากจริง ๆ นี่เจ้าคะ” ปี้จูบ่นพึมพำจากนั้นก็รีบวิ่งออกไปทันที ส่วนอันหลิงเกอก็ฉีกยิ้มอย่างจนปัญญา
ปี้จูคนนี้ สงสัยว่าโดนนางตามใจจนเสียนิสัยแล้ว
เวลานี้ทัวป๋าถิงฟางกำลังนอนอยู่บนเก้าอี้นวมตัวยาว สาวใช้คอยถือร่มกันแดดให้อยู่ด้านข้าง ทันใดนั้นมู่จวินฮานก็เดินเข้ามาและส่งสัญญาณมิให้นางคารวะ จากนั้นก็นั่งลงแล้วกล่าวว่า “มิว่าข้ากล่าวอันใด เจ้าก็ต้องใจเย็นเข้าไว้”
ทัวป๋าถิงฟางมักอาศัยที่เขาดีกับนางเพื่อทำตัวหยิ่งยโส ดังนั้นหากรู้ความจริงแล้วนางต้องอาละวาดแน่นอน มู่จวินฮานรู้ดี
ทัวป๋าถิงฟางเริ่มรู้สึกประหม่าทันทีแล้วก็รอให้มู่จวินฮานกล่าวต่อ
“ข้ารู้มาจากหมอหลวงว่าเจ้ามิได้ตั้งครรภ์” มู่จวินฮานมิได้สนใจอีกต่อไปจึงกล่าวออกมาอย่างตรงไปตรงมา
ทัวป๋าถิงฟางตกใจจนลุกขึ้นยืนและกล่าวว่า “ท่านอ๋อง ท่านเข้าใจผิดหรือไม่เจ้าคะ เป็นไปมิได้หรอก เป็นไปมิได้แน่นอน ข้าจักเรียกหมอหลวงมาที่นี่ เขาต้องมิพูดเช่นนี้แน่นอนเจ้าค่ะ”
เมื่อเห็นว่าทัวป๋าถิงฟางตกใจเช่นนั้น มู่จวินฮานก็ไร้ทางเลือกอื่นจึงได้แต่ส่งคนไปตามหมอหลวงมาที่นี่ ดูเหมือนว่านางใส่ใจกับเด็กในจินตนาการนั้นมากเกินไป
เมื่อท่านหมอมาถึง ทัวป๋าถิงฟางก็มองเขาจับชีพจรด้วยใจจดจ่อ “จำไว้ ห้ามโกหกข้าเด็ดขาด”
“เรียนถิงฟางเช่อเฟย ท่านมิได้ตั้งครรภ์จริง ๆ ขอรับ” หมอหลวงสะดุ้งแล้วถอยหลังไปสองสามก้าวโดยมิรู้ตัว ส่วนทัวป๋าถิงฟางในเวลานี้ก็ดูดุร้ายอย่างมาก
เมื่อความหวังของคนผู้หนึ่งพังทลายลง นางก็มิสนใจอีกต่อไปจึงอาละวาดขึ้นมาทันที นางไม่มีทางเชื่อว่าเรื่องนี้เป็นจริงอย่างแน่นอนและมิกล้าที่จักเชื่อด้วย
“ไม่ เจ้าโกหก โกหก เจ้าร่วมมือกับพระชายามาหลอกข้าใช่หรือไม่ ใช่หรือไม่ ? ” ทัวป๋าถิงฟางเข้าไปเขย่าตัวหมอหลวง ทันใดนั้นก็ตามมาด้วยเสียงตบที่ดังขึ้นอย่างแรง ขณะตบและเตะเขา นางก็ด่าออกมาโดยมิได้สนใจสิ่งใดทั้งสิ้น หรือเรียกได้ว่าลืมฐานะของตนไปจนหมดสิ้นเลยก็ว่าได้
ท่านหมอได้แต่โมโห แม้โดนทัวป๋าถิงฟางตบตีแต่ก็มิกล้าโต้ตอบ
มู่จวินฮานจึงรีบเข้าไปดึงตัวทัวป๋าถิงฟางออกและรีบสั่งให้ชิงเฟิงเรียกองครักษ์สองคนไปส่งหมอหลวง
ทัวป๋าถิงฟางทรุดตัวนั่งบนพื้นอย่างสิ้นหวัง นางหดหู่ไปพักหนึ่งแต่สุดท้ายก็ยังมิยอมรับความจริงอยู่ดี “ท่านอ๋อง ท่านหลอกข้าใช่หรือไม่ ท่านเองก็หลอกข้าเพื่ออันหลิงเกอ เพื่อผู้หญิงคนนั้นใช่หรือไม่”
แม้มู่จวินฮานมิพอใจคำพูดของทัวป๋าถิงฟางแต่ก็ยังอดทนต่อไป
ทัวป๋าถิงฟางกลับมิสนใจการปลอบประโลมของมู่จวินฮาน ซ้ำยังอาละวาดโดยมิสนเหตุผลใด “ข้ามีลูก พวกเจ้าหลอกข้าทั้งนั้น พวกเจ้าหลอกข้าทุกคน”
นางสะบัดมือมู่จวินฮานออก อีกด้านหนึ่งชิงเฟิงก็คิดเข้ามาจับตัวทัวป๋าถิงฟาง แต่มู่จวินฮานห้ามไว้ก่อน “มิต้อง ตอนนี้จิตใจนางไม่มั่นคง เจ้ามิต้องเข้ามายุ่ง”
หลังจากที่ชิงเฟิงได้ยินมู่จวินฮานออกคำสั่งก็ถอยไปอยู่ด้านข้าง เผื่อมีเรื่องอันใดเกิดขึ้นจักได้รับมือทัน
“ทัวป๋าถิงฟาง เจ้าใจเย็นหน่อยได้หรือไม่ ดูสภาพของเจ้าตอนนี้เหมือนสนมของข้าเสียที่ไหน ? ” ความอดทนของมู่จวินฮานค่อย ๆ หายไป
เมื่อครู่ข้าวของในห้องยังถูกจัดเรียงอย่างเรียบร้อย แต่หลังจากทัวป๋าถิงฟางอาละวาดแล้ว บนพื้นก็เต็มไปด้วยเศษถ้วยชา ข้าวของบนโต๊ะก็กระจัดกระจาย ผมของทัวป๋าถิงฟางก็กระเซอะกระเซิงและกำลังทำลายทุกสิ่งที่อยู่รอบตัว
“ท่านอ๋อง ท่านร่วมมือกับนางชั้นต่ำอันหลิงเกอมาหลอกข้าใช่หรือไม่ ท่านมิชอบข้าใช่หรือไม่ แม้แต่ท่านก็มิอยากมีลูกกับข้า ! ”
“ไสหัวออกไป ไสหัวไป ! ” ทันใดนั้นทัวป๋าถิงฟางก็หยิบถ้วยสองสามใบแล้วโยนมาทางมู่จวินฮาน เขาเพียงเบี่ยงตัวหลบ แต่ชิงเฟิงตกตะลึงไปครู่หนึ่ง