ตอนที่ 607 ความสุขอันว่างเปล่า

พลิกชะตาชายาสยบแค้น

ตอนที่ 607 ความสุขอันว่างเปล่า

หลังจากสาวใช้เฝ้าเรือนได้ยินเช่นนั้นก็รีบลากตัวนางออกไปทันที อึดใจต่อมาเสียงกรีดร้องโหยหวนและเสียงอ้อนวอนก็ดังขึ้นและท้ายที่สุดก็ไร้เสียงใดดังขึ้นอีก…

“ข้าจักบอกพวกเจ้าไว้ว่าให้คอยระวังตลอดเวลา หากพวกเจ้าคนใดคนหนึ่งกล้าทำร้ายลูกในครรภ์ ข้าจักทำให้พวกเจ้าทุกคนต้องตาย ได้ยินหรือไม่ ? ” ทัวป๋าถิงฟางกวาดตามองสาวใช้เบื้องล่างด้วยแววตาดุร้าย หากมีผู้ใดมิทำตาม มันผู้นั้นจะได้รับผลที่ตามมาแน่นอน

หลายวันต่อจากนั้น ทัวป๋าถิงฟางก็เริ่มหวาดระแวงอันหลิงเกอ อาหารทุกมื้อต้องถูกตรวจสอบอย่างละเอียด นางหวาดระแวงตลอดเวลาและระมัดระวังทุกฝีเท้า แต่แล้วด้วยพฤติกรรมที่เป็นดั่งเชือกขึงตึงก็ทำให้นางหมดสติล้มในลานของเรือนอย่างกะทันหัน

“นายหญิง นายหญิง ท่านมิเป็นอันใดใช่หรือไม่ เร็ว ! รีบไปตามท่านหมอมาเร็ว ! ” สาวใช้ที่มาพบคนแรกร้องตะโกน นางตกใจต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับทัวป๋าถิงฟางมาก

เมื่อทัวป๋าถิงฟางหมดสติ ทั้งจวนก็วุ่นวายทันที ยังคงเป็นสาวใช้ในวันนั้นที่รีบออกไปตามท่านหมอของจวนมาดูอาการและยังเป็นท่านหมอคนเดิมด้วยเพราะเขาค่อนข้างมีชื่อเสียงพอสมควร

“ท่านหมอ นายหญิงของข้าหมดสติ ท่านรีบตามข้ามาเร็วเจ้าค่ะ”

ทัวป๋าถิงฟางนอนนิ่งอยู่บนเตียงพร้อมใบหน้าซีดเซียวเพราะในช่วงหลายวันมานี้นางวิตกกังวลจนเกินไป

เมื่อท่านหมอเข้าไปจับชีพจรของทัวป๋าถิงฟางแล้วเหงื่อเย็นก็ไหลออกมา

นี่…

นางไม่มีชีพจรของการตั้งครรภ์ !

ท่านหมอเหงื่อตกกว่าเดิมเพราะก่อนหน้านี้เขาวินิจฉัยผิดไป

“ท่านหมอ ถิงฟางเช่อเฟยเป็นเช่นไรบ้างเจ้าคะ ? ”

ทัวป๋าถิงฟางยังมิฟื้น สาวใช้กลัวมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นจึงเริ่มกังวลหนัก

ท่านหมอจึงแสร้งทำมึนไปพักหนึ่ง “นายหญิงของเจ้ามิได้เป็นอันใด แค่ช่วงหลายวันมานี้นางกังวลมากไปและนอนหลับไม่เพียงพอจึงทำให้อ่อนล้า ข้าสั่งยาให้สองสามชุดก็จักดีขึ้นแล้ว”

สาวใช้ถอนหายใจด้วยความโล่งอกและกล่าวขอบคุณ “เช่นนั้นต้องขอบคุณท่านหมอมาก ข้าจักพาท่านไปรับรางวัลเจ้าค่ะ”

ท่านหมอรีบปฏิเสธทันที “ข้าไปเองก็ได้ เช่อเฟยยังต้องการคนดูแล นางสำคัญกว่ามาก”

สาวใช้ครุ่นคิดครู่หนึ่งแต่แล้วก็คิดว่ามีเหตุผลจึงให้ความสนใจกับถิงฟางเช่อเฟยมากกว่าและอยู่รอให้ทัวป๋าถิงฟางฟื้นขึ้นมา

ท่านหมอออกจากเรือนของทัวป๋าถิงฟางแล้ว ในเวลาต่อมาเขาก็หยุดเดินเสียดื้อ ๆ เพื่อสอบถามบ่าวระหว่างทาง จากนั้นก็รีบตรงไปหามู่จวินฮานโดยมิลังเล

ชิงเฟิงเห็นคนนอกเดินเข้ามาจึงรีบเข้าไปขวางทางท่านหมอทันที

“ผู้ใด ? ”

ท่านหมอเห็นชิงเฟิงมีดาบอยู่ในมือจึงกล่าวด้วยเสียงสั่นเครือ “ข้าเป็นแค่หมอคนหนึ่งเท่านั้น ข้ามีเรื่องสำคัญมาเรียนท่านอ๋อง ได้โปรดรายงานให้ด้วยเถิด”

ชิงเฟิงเห็นเขาเป็นแค่หมอจึงให้เขารออยู่ตรงนั้น ส่วนตนก็เข้าไปเรียนท่านอ๋องที่กำลังทำงานอยู่

“ท่านอ๋อง มีหมอคนหนึ่งมาขอพบขอรับ”

“ให้เข้ามา” ในเมื่อมู่จวินฮานมีคำสั่งเช่นนี้ ชิงเฟิงจึงพาเขาเข้ามาในเรือน

“ข้าน้อยคารวะท่านอ๋องขอรับ” ท่านหมอคุกเข่าคารวะ

มู่จวินฮานวางพู่กันแล้วเงยหน้ามองท่านหมอคนนั้น จากนั้นก็กล่าวด้วยเสียงที่มิเย็นชาหรืออบอุ่นจนเกินไป “มีเรื่องอันใดก็กล่าวมา มิต้องมากพิธี”

ท่านหมอสังเกตเห็นท่าทีของมู่จวินฮานพลางคิดว่ามิใช่คนที่จักทำร้ายผู้ใดโดยง่าย ดังนั้นคงมิเอาโทษตนจึงเล่าต้นสายปลายเหตุของเรื่องนี้ให้ฟัง

“เรื่องที่ถิงฟางเช่อเฟยตั้งครรภ์ ข้าน้อยเป็นคนตรวจเองขอรับ แต่ในเวลานั้นข้าน้อยก็มิค่อยแน่ใจ เพียงบอกว่ามีชีพจรของคนตั้งครรภ์แต่มิได้ชัดเจนมากนัก ในตอนนั้นถิงฟางเช่อเฟยดีใจมากขอรับ”

จู่ ๆ มู่จวินฮานก็เกิดความรู้สึกสนใจขึ้นมา เขาเริ่มอยากรู้เรื่องต่อจากนั้น “เจ้าพูดต่อเถิด”

“ในวันนี้เอง จู่ ๆ ถิงฟางเช่อเฟยก็หมดสติขอรับ” หลังกล่าวประโยคนี้แล้วท่านหมอก็หยุดพูดอีกครั้ง

มู่จวินฮานถามด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง “นางเป็นอันใดหรือไม่ ? ”

ด้านภาพลักษณ์ภายนอกแล้วฐานะของนางเป็นเช่อเฟย ดังนั้นมู่จวินฮานจึงต้องแสร้งเป็นห่วงอยู่บ้าง

เดิมทีท่านหมอยังลังเลที่จะกล่าวต่อ ทว่าพอเห็นสีหน้าของมู่จวินฮานแล้วเขาก็เบาใจขึ้นมากจึงกล่าวอีกครั้ง “เช่อเฟยมิเป็นอันใดขอรับ เพียงแต่นางกังวลมากเกินไปเท่านั้น ส่วนข้าน้อยตรวจแล้วพบว่าถิงฟางเช่อเฟยมิได้ตั้งครรภ์จริงขอรับ”

ชิงเฟิงที่รับใช้อยู่ในเวลานั้นรู้สึกตกใจทันที ยิ่งมิต้องเอ่ยถึงมู่จวินฮานที่โดนอันหลิงเกอโกรธเพราะเรื่องนี้จนมิยอมพบหน้าเป็นเวลาหลายวัน

มู่จวินฮานตกใจจนลุกขึ้นยืน แต่ก็ยังแสดงท่าทางผิดหวังและแข็งกร้าวออกมาเล็กน้อย “สิ่งที่เจ้าพูดมาเป็นจริงหรือไม่ ? ”

ท่านหมอจึงรีบคุกเข่าลงทันใด “เรื่องเช่นนี้ข้าน้อยจักกล้าโกหกท่านอ๋องได้เช่นไรขอรับ ? เพียงแค่ถิงฟางเช่อเฟยยังมิรู้เรื่องนี้ ข้าน้อยเองก็มิกล้าบอกนางเพราะกลัวรักษาชีวิตไว้มิได้ขอรับ”

ที่แท้เขาก็มาบอกท่านอ๋องเพราะกลัวทัวป๋าถิงฟางสังหาร ทันใดนั้นมู่จวินฮานก็เข้าใจเรื่องราวทั้งหมดทันที

“วางใจได้ ชีวิตของเจ้านี้ข้าต้องปกป้องแน่นอน เจ้าออกไปเถิด”

หลังได้รับคำยืนยันจากมู่จวินฮานแล้ว ท่านหมอก็สบายใจ

ต่อไปอันหลิงเกอก็มิต้องรู้สึกแย่เพราะเรื่องนี้แล้ว ทว่ามู่จวินฮานยังมิวางใจ เขาจึงให้ชิงเฟิงไปตามท่านหมออีกคนหนึ่งมา

“ไปตามหมอหลวงที่ไว้ใจได้มาอีกคนหนึ่ง” หลังได้รับคำสั่งแล้วชิงเฟิงก็รีบออกไปทันที

“เรียนท่านอ๋อง บ่าวตามหมอหลวงมาแล้วขอรับ” ชิงเฟิงพาชายวัยกลางคนเข้ามาหนึ่งคน

มู่จวินฮานปรามมิให้ท่านหมอคนนั้นทำความเคารพ ต่อจากนั้นก็พาเขาตรงมาที่เรือนของทัวป๋าถิงฟาง แต่ในระหว่างทางก็ยังมิลืมกำชับว่า “มิว่าเจ้าตรวจพบอันใดก็คิดเสียว่านางตั้งครรภ์อยู่ แต่ถ้ามิได้ตั้งครรภ์ก็ค่อยกลับมาบอกข้าทีหลัง”

“ขอรับ ขอรับ ข้าน้อยเข้าใจแล้วขอรับ” ท่านหมอลื่นไหลไปตามน้ำได้อย่างง่ายดายและฉลาดมากด้วย มู่จวินฮานจึงคลี่ยิ้มด้วยความพอใจ

หลังท่านหมอคนแรกจากไปมินาน ทัวป๋าถิงฟางก็ฟื้นขึ้นมาแล้วรีบคว้าตัวสาวใช้มาสอบถามทันที “เมื่อครู่ข้าเป็นอันใด ? แล้วลูกข้าเป็นอันใดหรือไม่ ? ”

สิ่งที่นางกังวลที่สุดยังคงเป็นบุตรในครรภ์

เมื่อเห็นว่าทัวป๋าถิงฟางตื่นตระหนกเพียงนี้ สาวใช้จึงรีบตอบทันที “เรียนนายหญิง ท่านหมอมาตรวจแล้วเจ้าค่ะ เขาบอกเพียงว่าท่านกังวลและอ่อนล้าเกินไปจึงหมดสติ หลังเขียนใบสั่งยาเสร็จเขาก็ออกไป ตอนนี้ยากำลังต้มอยู่ในห้องครัวเจ้าค่ะ”

ทัวป๋าถิงฟางปล่อยเชือกที่ขึงตึงทันทีและปล่อยมือด้วยเช่นกัน หลังกลับไปนอนพักผ่อนได้มินานมู่จวินฮานก็มาถึงเรือน ทัวป๋าถิงฟางเห็นมู่จวินฮานมาหาจึงดีใจและมีความสุขขึ้นมาทันที

เมื่ออยู่ต่อหน้ามู่จวินฮานแล้ว ทัวป๋าถิงฟางก็เหมือนมิใช่คนเดิมอีกต่อไป เพราะนางอ่อนโยนจนบุรุษต้องหลงใหล “ท่านอ๋อง ท่านมาแล้วหรือเจ้าคะ ! ”

“ได้ยินว่าเจ้าหมดสติ ข้าจึงพาหมอหลวงมาตรวจอาการ” มู่จวินฮานประคองทัวป๋าถิงฟางให้ลุกขึ้นนั่งแล้วให้หมอหลวงจับชีพจรของนางที่ยิ้มแล้วมองมู่จวินฮาน นอกจากความอ่อนโยนและความรักแล้วในแววตาก็ไร้ความรู้สึกใดแอบแฝงอีก

“เรียนท่านอ๋อง เช่อเฟยมิได้เป็นอันใดมาก เพียงแต่ช่วงนี้ต้องพักผ่อนให้มากหน่อยและดูแลสุขภาพให้ดีก็พอแล้วขอรับ” หมอหลวงคนนี้กล่าวเหมือนท่านหมอคนก่อนไม่มีผิด ทัวป๋าถิงฟางจึงวางใจได้ในที่สุด

มู่จวินฮานนำมือของทัวป๋าถิงฟางมาวางบนมือของตนแล้วกำชับให้นางดูแลสุขภาพให้มาก จากนั้นเขาก็บอกว่ายังมีงานที่ต้องทำอีกและก็เดินออกไปทันที

แม้เขาอยู่เพียงครู่เดียว แต่ก็ยิ่งทำให้ทัวป๋าถิงฟางเชื่อว่าในใจของมู่จวินฮานมีนางอยู่ มิเช่นนั้นเขาจักพาหมอหลวงมาตรวจร่างกายของนางได้เช่นไร หลังฉีกยิ้มหน้าบานแล้วนางก็ผล็อยหลับไป

เมื่อมาถึงห้องหนังสือแล้วมู่จวินฮานก็เริ่มสอบถามทันที “เอาล่ะ จงบอกมาว่าสถานการณ์เป็นเช่นไร ? ”

หมอหลวงมิกล้าปิดบัง “เรียนท่านอ๋อง ถิงฟางเช่อเฟยมิได้ตั้งครรภ์ขอรับ”

เป็นอย่างที่คิดไว้ ยานั้นได้ผลจริงและนางยังไม่มีโชคจนถึงขั้นมีบุตร แต่ควรพูดกับนางเช่นไร ? เขาเกรงว่านางจะรับเรื่องนี้มิไหว

“เจ้าออกไปได้และจำไว้ว่าอย่าเปิดเผยเรื่องนี้เด็ดขาด”

หลังจากท่านหลวงออกไปแล้วมู่จวินฮานก็เริ่มคิดว่าควรกล่าวเช่นไรดี ทว่าสุดท้ายก็คิดมิออก เขาจึงไปหาอันหลิงเกอ เพราะหากนางรู้เรื่องนี้ก็คงไม่เสียใจอีกต่อไป