ตอนที่ 841 : โลกบาดาล

Nine Sun God King เทพราชันเก้าตะวัน

ตอนที่ 841 : โลกบาดาล

 

หลายวันที่ผ่านมา เซียนหมูจิ้งเอาแต่เก็บตัวในห้อง เป็นผลให้หลงฉวนอู่เกิดความกังวล ยามที่หลงฉวนอู่ บอกต่อนางว่าคิดเข้าไปยังถ้ํามังกรโลหิตมาร นางจึงตัดสินใจออกมาในฉับพลัน

 

หลงฉวนอู่สงสัย ว่าที่ในห้องขังต้องเกิดเรื่องอันใดต่อเซียนหมูจิ้ง เพราะนางเย็นชากับเขานับตั้งแต่ครั้งนั้น

 

“ตัวบัดซบ เจ้ารังแกอะไรหลจึงในห้องขัง?” หลงฉวนอู่เอ่ยถามเสียงเย็น

 

“ด้วยกําลังข้าหรือรังแกนางได้? ผู้ที่นางรังแกจึงเป็นข้า!” ฉินหยุนเบ้ปากตอบคํากลับ

 

เซียนหลจึงก่อนหน้านี้ได้กล่าวว่านางจะไปจากคฤหาสน์ราชันมังกร ทว่าตอนนี้ นางไม่เพียงแต่ไม่ไปไหน แต่ยังมาร่วมรับชมเรื่องสนุก ฉินหยุนอดไม่ได้ที่จะต้องลอบหยามเหยียดต่อนาง

 

“ตัวบัดซบ อย่าได้อวดดีไป อย่าได้คิดว่าหลงอคงจะช่วยเจ้าเอาไว้ได้!” หลงฉวนอู่กล่าวคําเสียงเย็นเยียบ “อย่าได้เผยโอกาสใดให้ข้าเห็น ไม่เช่นนั้นจุดจบเจ้าคือความตายอย่างน่าสังเวช!”

 

ฉินหยุนจึงหัวเราะตอบ “ไม่ใช่ข้าตบหน้าเจ้าไปแล้วหรือไร? คู่หมั้นเจ้าก็กระทําชําเราข้าไปแล้ว พวกเราถือว่าเสมอกัน!”

 

ทันทีเมื่อยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูดกล่าว ทั้งเซียนหมูจิ้งและหลงฉวนอู่ต่างมีโทสะ

 

“หุบปาก!” เซียนหลจึงตะโกนเสียงดัง

 

“ตัวบัดซบ ให้ข้าทุบตีเจ้าจนตายตก!” หลงฉวนอู่เพราะโกรธจัด เขาจึงคิดพุ่งตัวเข้าหาฉินหยุนเพื่อลงมือ

 

“หยุดมือเจ้า!” ครึ่งเซียนสํานักมังกรฟ้าพลันมาถึงข้างกายฉินหยุน เขาคว้ามือของหลงฉวนอู่เอาไว้พร้อมเผยเสียงเย็น “ฉวนอู่ ชายคนนี้สําคัญต่อพวกเรา! อย่าได้สร้างปัญหา!”

 

ฉินหยุนมองที่หลงฉวนอู่พร้อมเผยยิ้ม “ท่านผู้ยิ่งใหญ่ฉวนคู่ ใบหน้าตอนนี้คงไม่เจ็บแล้วกระมัง? อย่างไรแล้ว ใบหน้านั้นก็หนายิ่ง ไม่คล้ายจะมีอาการบาดเจ็บใดตกค้าง ทั้งยังเป็นถึงผู้ยิ่งใหญ่ สมควรต้องปล่อยผู้น้อยคนนี้ไปตามเรื่องราวแล้ว!”

 

ปากทางเข้าถ้ําแห่งนี้มีคนยืนกันอยู่หลายคน พวกเขาต่างเป็นยอดฝีมือจากแคว้นอื่น ย้อนกลับไปครั้งลานประลองยุทธ์ พวกเขาได้เห็นชัดเจนว่าหลงฉวนอู่ถูกตบจนร่างกระเด็น นอกจากนี้แล้ว ครึ่งใบหน้าที่ถูกตบนั้นยังบวมปูดและสลบหมดสติ

 

ยามนึกถึงเรื่องนี้ หลงฉวนอียิ่งโกรธแค้น สีหน้ากลับกลายเป็นเขียวคล่า หมัดต้องกําแน่นจนราวกับกระดูกมือจะแตกเสียให้ได้

 

“ตัวบัดซบ เจ้าอย่าได้คิดว่าจะตายดี!” หลงฉวนคู่กัดฟันกล่าว

 

ถึงตอนนี้เอง ชายชราสํานักมังกรฟ้าจึงตะโกน “ทุกคน ถ้ํามังกรโลหิตมารแห่งนี้มีแต่อันตราย คิดไม่เข้าไป จงบอกกล่าวหากเลือกติดตามไป เช่นนั้นก็ต้องรับฟังคําสั่งอย่างเคร่งครัด!”

 

หลังจากที่คนของสํานักมังกรฟ้ามาเยือนจากแดนเซียนอ้างว้าง คฤหาสน์ราชันมังกรจึงเชื้อเชิญผู้คนจากหลายแคว้น นี่เป็นการเผยให้คนเหล่านี้ได้ทราบถึงอานาจของตระกูลหลง

 

ถ้ํามังกรโลหิตมารที่เบื้องล่างอัดแน่นด้วยพลังมาร มันถือกําเนิดขึ้นจากอสูรกายและสิ่งมีชีวิตอันชั่วร้ายนานาชนิด หากผู้ซึ่งครอบครองวิญญาณยุทธ์แห่งความเที่ยงธรรมเข้าไป เช่นนั้นพวกเขาจะปลอดภัย พวกเขาสามารถชาระล้างวิญญาณร้ายที่เบื้องล่างนั้นได้

 

ด้วยเหตุนี้ ยามเมื่อได้ทราบว่าฉินหยุนครอบครองวิญญาณยุทธ์แห่งความเที่ยงธรรม พวกเขาจึงตัดสินใจส่งอีกฝ่ายนําหน้าเบิกทางสู่ถ้ํา

 

ครึ่งเซียนสานักมังกรฟ้านําเอาเชือกทองค่าออกมาพร้อมกล่าว “นี่เป็นอุปกรณ์ราชัน สามารถยืดยาวหรือหดสั้นได้ตามใจนึก ทั้งยังเหนียวทนทาน แม้เป็นครึ่งเซียน แต่หากถูกมันพันธนาการไว้ก็ยากที่จะตัดออกได้”

 

กล่าวคําจบ เขาจึงพันธนาการมันรอบเอวฉินหยุน

 

“เจ้าเข้าไปก่อน หากเจ้าตาย พวกเราจะทราบ หรือหากเจ้าไม่ตาย ออร่าจะส่งผ่านมาทางเชือกนี้!” ครึ่งเซียนผลักฉินหยุนให้เข้าสู่ด้านในถ่า

 

ฉินหยุนเมื่อเข้ามาแล้ว เขาจึงลงผ่านทางลาดชันที่ด้านล่าง มันปรากฏเป็นหลุมใหญ่ลึกยิ่ง

 

“หวังว่าโชคของเราคงยังไม่หมด!” ฉินหยุนกระโดดลงไปในหลุมใหญ่ เขาค่อย ๆ ลอยตัวลงสู่เบื้องล่าง เวลาเดียวกันนี้จึงปลดปล่อยพลังแห่งความเที่ยงธรรม

 

หลุมแห่งนี้ลึกมหาศาล ด้วยการลงไปอย่างเชื่องช้า ฉินหยุนสัมผัสได้ถึงสายลมชั่วร้ายที่พุ่งขึ้นมา

 

“ผู้อาวุโส ท่านคิดว่าตัวบัดซบนั้นจะตายที่ภายในนั้นหรือไม่? หากข้าไม่อาจสังหารมันด้วยมือตนเอง ข้าก็ไม่มีทางขจัดความเกลียดชังในใจออกไปได้!” หลงฉวนอู่กําหมัดแน่นกล่าวคําเผยเสียงเย็นเยือก

 

“หากมันตาย พวกเราก็ไม่อาจได้รับเคล็ดเต่จากภายในถ้ํา นอกจากนี้แล้ว ผู้อาวุโสทั้งหลายยังเข้าไปในนั้นเป็นเวลายาวนาน พวกเขาต่างนําอุปกรณ์วิเศษเลิศล้ําติดตัวไปด้วย เป็นไปได้ว่าพวกเขายังคงอยู่ที่ภายในนั้น! ข้าได้ตรวจสอบแน่ชัดแล้ว เจ้าหนูนั่นไม่มีอุปกรณ์มิติเก็บของใดอยู่กับตัว ดังนั้นมันจึงไม่มีทางฉกชิงแม้พบเจอ!” ชายชรากล่าวพลางหัวเราะ

 

ได้ยินคําชายชรา หลายผู้คนต่างเผยความยินดี

 

“นี่น่าจะลึกสักประมาณหนึ่งหมื่นเมตรได้” ฉินหยุนมาถึงกันบึงที่พบเห็น มันเป็นห้วงความมืดอันไร้สิ้นสุด แม้มีสายลมเย็นเยือกพลังมารปรากฏ ทว่าหาได้มีวิญญาณร้ายเผยตัวจนกระทั่งถึงตอนนี้

 

ฉินหยุนมองที่เชื่อกทองค่าอย่างนึกรังเกียจ หากเขาต้องการ ย่อมสามารถใช้กระบี่ศักดิ์สิทธิ์วิญญาณปรโลกตัดมันได้ทุกเมื่อ

 

“อืม… พวกมันคิดเล่นงานเรา เช่นนั้นก็ต้องเล่นงานพวกมันกลับคืน!” หากเขาตัดเชือก เช่นนั้นผู้คนที่เบื้องบนจะไม่กล้าลงมา

 

ถ้ํามังกรโลหิตมารเป็นสถานที่อันตรายสุดกู่ และฉินหยุนรู้สึกได้ว่าตนเองสามารถต้านรับเรื่องราวที่ภายในนี้ หากเขานําผู้คนเหล่านั้นลงมา บางทีอาจได้กระทั่งลงมือสังหารหมู่

 

“หยุนเอ่อ คฤหาสน์ราชันมังกรไม่ใช่มีมังกรเซียนหรอกหรือ? เหตุใดจึงไม่ให้ตัวตนเซียนลงมาด้วยตนเองกันเล่า?” ฉินหยุนเอ่ยถามอย่างนึกสงสัย

 

“ข้าจะทราบได้อย่างไร? เมื่อใดออกไปแล้วเจ้าค่อยถามหลงอวดังเอาเอง!” หลิงหยุนเอ๋อตอบกลับ

 

ฉินหยุนพบเส้นทางจึงก้าวเดินไป พลังมารเวลานี้พุ่งเข้าปะทะจากทั่วทิศไม่หยุดหย่อน เขาจึงปลดปล่อยพลังแห่งความเที่ยงธรรม แสงสว่างสีขาวเป็นประกายเผยออกจากทั่วทั้งร่างสาดส่องรอบตัว เมื่อเดินไปพักหนึ่ง เขาจึงพบเจอโครงกระดูกที่บนพื้น

 

“ดูจากกระดูกเหล่านี้ สมควรเป็นจักรพรรดิ์ยุทธ์!” ฉินหยุนตรวจสอบโครงกระดูก

 

“สภาพนอนกับพื้น กระดูกหลายท่อนในร่างแตกหัก ต้องเป็นการถูกโจมตีขณะคิดหลบหนีด้วยความหวาดกลัว! และในมือนั่น ก็เป็นอุปกณณ์ราชัน!” หลิงหยุนเอ๋อกล่าว

 

ฉินหยุนหยิบขึ้นมา มันเป็นกระบอง เขาหัวเราะ “เป็นอุปกรณ์ราชันจริง ทว่าได้รับความเสียหาย แต่อย่างน้อยก็เป็นเหยื่อชั้นดีได้!”

 

“เสี่ยวหยุน ส่งเสียงสื่อสารหาพวกมันที่ด้านบน พวกมันจะได้เร่งรีบมา!” หลิงหยุนเอ๋อหัวเราะ “บอกต่อพวกมัน ว่าพบอุปกรณ์ราชันที่เสียหาย เช่นนั้นพวกมันจะรีบแจ้นเข้ามาในถ้ํานี่!”

 

เฉินหยุนส่งเสียงสื่อสารผ่านเปลือกหอยไปยังผู้คนเบื้องบน “ดึงขาขึ้นไป ข้าพบเจอของดี น่าจะเป็นอุปกรณ์เต่ํา!”

 

ชายชราที่พันธนาการเช็อกนี้ไว้ ยามได้รับฟังจึงควบคุมเชือกให้หดขนาด เป็นการเร่งรีบดึงฉินหยุนกลับอย่างเร็ว

 

ฉินหยุนกลับถึงด้านบน เขาจึงถูกกลุ่มคนปิดล้อม โดยเฉพาะชายชราตระกูลหลง หลังได้พบเห็นกระบองในมือฉินหยุน พวกเขาต่างยินดีกันราวคลุ้มคลั่ง!

 

“นี่เป็นหนึ่งในอาวุธของบรรพบุรุษพวกเรา! เป็นอุปกรณ์ราชัน!”

 

“เจ้าพบสิ่งนี้ รอบข้างมีอื่นใดหรือไม่?”

“ไม่มี มันเพียงปักไว้กับพื้น” ฉินหยุนบอกเล่าถึงเรื่องราวเบื้องล่างโดยคร่าว

 

เมื่อทุกคนได้พบเห็นว่าเขาไร้บาดแผลใด ดังนั้นจึงยิ่งกล่าวางใจ เหล่านี้คิดอยากสํารวจมาเนิ่นนานแล้ว ตอนนี้ฉินหยุนจึงส่งเสียงสื่อสารบอกต่อหลงอวี่ดังกล่าวเตือนว่าอย่าได้ร่วมทางไปด้วย

 

กลุ่มผู้เฒ่าของสํานักมังกรฟ้าและตระกูลหลงเมื่อหารือกันเรียบร้อย พวกเขาจึงแบ่งส่วนกันลงไปสํารวจ โดยจะทิ้งคนไว้ที่นี่จํานวนหนึ่งเพื่อเกิดเรื่องไม่คาดฝัน

 

หลงฉวนอู่และเซียนหลจึงกล้าได้กล้าเสียเลือกที่จะลงไป สุดท้ายแล้วจึงมีทั้งสิ้นสองร้อยคนร่วมทาง ประกอบด้วยราชันยุทธ์ จักรพรรดิยุทธ์ และครึ่งเซียน ทว่ายังไม่ใช่การเดินทางไปทันที พวกเขาต้องการให้ฉินหยุนเบิกทางสักสิบล่วงหน้าไปก่อน

 

ฉินหยุนเข้าสู่ด้านในถ้ํามังกรโลหิตมารอีกครั้งหนึ่ง พร้อมเร่งรีบไปยังสถานที่ล่าสุดซึ่งพบเจอสิ่งของ

 

ผู้คนเหล่านั้นที่ลงมาแล้ว เวลานี้ภายในใจต่างเกิดความหวาดกลัวเกาะกุม เพราะพลังมารที่นี้หนักอึ้งอย่างแท้จริง

 

ถ้ํามังกรโลหิตมารอยู่ลึกใต้พื้นดินนับหมื่นเมตร เส้นทางในถ้ําแห่งนี้กว้างใหญ่ ชัดเจนว่าต้องมีมังกรขนาด ใหญ่คงอยู่ที่นี่

 

ฉินหยุนเก็บโครงกระดูกซึ่งเคยอยู่ไปเรียบร้อยแล้ว เขาไม่คิดให้ผู้อื่นพบเห็นโครงกระดูก ไม่เช่นนั้นผู้คนเหล่านี้อาจหวาดกลัวเผ่นหนีหาย

 

ตัวเขากําลังยืนนิ่งอึ้ง สายตามองไปที่เบื้องหน้าซึ่งเป็นเทือกเขา ที่แห่งนี้มีภูเขาจํานวนมาก ทั้งยังมีแม่น้ําภาพฉากที่เห็นร่องเขามีแม่น้ําแหวกผ่าน ทั้งหมดนี้มันเกิดขึ้นในใต้ดิน!

 

“หรือนี่จะเป็นโลกบาดาล?” ฉินหยุนเกิดความหวาดกลัว เขาเร่งรีบบอกต่อกลุ่มคนที่ตามหลังมา

 

สายตาเงยมองขึ้นฟ้า มันยังคงเป็นสีดําสนิท หาได้มีแสงดาวหรือแสงจันทร์ใดไม่ ดังนั้นเขาจึงทราบกระจ่างชัด ว่าที่แห่งนี้ไม่ใช่เขตแดนอ้างว้าง ทว่าเป็นโลกบาดาลอย่างแท้จริง ฉินหยุนเคยพบเจอเรื่องราวของโลกบาดาลในตําราโบราณ พวกมันมีแต่เรื่องราวลึกลับอัศจรรย์

 

“ถ้ํามังกรโลหิตมารนี้มันอย่างไรกันแน่?” ฉินหยุนคิดอยากปลดปล่อยแมงมุมพิษมังกรหลงเทียนออกมา ทว่ากลุ่มคนเบื้องหลังยังคงอยู่ เขาอาจถูกพบเห็นได้

 

ไม่นานนัก กลุ่มคนจึงตามมาถึง ยามได้รับชมเทือกเขาซึ่งมีแม่น้ําแหวกผ่าน พวกเขาต่างอุทานร้องชื่นชม

 

“ตํานานกล่าวขานไว้เป็นความจริง! ถ้ํามังกรโลหิตมารสามารถนําไปสู่โลกบาดาลได้!” ชายชราผู้หนึ่งกล่าวคําขึ้น

 

“พื้นที่เบื้องหน้ากว้างใหญ่ ยังต้องการให้ข้าไปต่อหรือไม่?” ฉินหยุนกล่าวถาม

 

“เรื่องนี้… สักหลายวัน เจ้าสมควรสํารวจเทือกเขาเหล่านั้นได้ หากพบเจออันใด เร่งรีบรายงานกลับหาพวกเรา!” ครึ่งเซียนผู้หนึ่งเอ่ยคําขึ้น พวกเขาเหล่านี้ต่างสงสัย เพราะผู้ใดซึ่งเข้ามาสํารวจยังที่แห่งนี้ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา ล้วนไม่เคยได้กลับมาแม้สักคน ดังนั้นพวกเขาจึงไม่กล้ารุกคืบด้วยตนเอง เพราะหวาดเกรงต่อความตาย

 

“ย่อมได้” ฉินหยุนรับค่า พร้อมเร่งรีบพุ่งไปยังทิศทางหนึ่งด้วยสีหน้ากล้ํากลืน

 

ผู้คนต่างนับถือความหาญกล้าที่เขาเผยออก เพราะถึงขั้นกล้าสํารวจสถานที่ซึ่งมีแต่อันตรายคงอยู่ทั่วแห่งหน เซียนหมูจิ้งทราบดี ว่าฉินหยุนมีความสามารถซ่อนเร้นไว้เพียงใด ดังนั้นนางจึงหาได้แปลกใจใดไม่

 

นางกระทั่งสงสัยด้วยซ้ํา ว่าฉินหยุนจงใจล่อลวงให้คฤหาสน์ราชันมังกรส่งคนเข้ามาสํารวจถ้ําแห่งนี้

 

ฉินหยุนโดยลําพังเข้าสํารวจเทือกเขา โลกบาดาลแห่งนี้ให้กําเนิดต้นไม่ใหญ่มากมาย เหล่านี้เป็นต้นไม้ประหลาด เปลือกไม้เป็นสีดําราวกับโลหิต ใบไม้กระทบกันส่งเสียงราวโลหะ กิ่งไม้ก็คล้ายกับเหล็กอ่อน คิดงอได้ทว่าไม่อาจหัก รับชมใบไม่โดยละเอียด พบว่ามันเป็นแผ่นเหล็กบาง! ทั้งต้นไม้มันเป็นสีดําสนิท!

 

“เป็นไม้ที่ต้านทานอัคคีได้สูงล่า!” ฉินหยุนคิดอยากเผาทั้งต้นด้วยอัคคี ทว่าเขาไม่อาจจุดไฟให้ติด

 

ตัวเขาตอนนี้อยู่ค่อนข้างห่างไกลจากกลุ่มคนแล้ว แม้ร่างกายมีเชือกพันธนาการไว้ ทว่าการเคลื่อนไหวใดของเขาล้วนไม่มีทางถูกตรวจพบ ดังนั้นจึงปล่อยให้หลงเทียนออกมา ตระเตรียมให้นางเริ่มส่งแมงมุมน้อยออกสํารวจโลกบาดาลอันลึกลับแห่งนี้