บทที่ 1587 – พบกับประมุขพระราชวังสุริยัน

Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล

บทที่ 1587 – พบกับประมุขพระราชวังสุริยัน

 

โลกย่อมเป็นไปตามกฏของผู้ที่แข็งแกร่ง มันมีทั้งสิ่งที่อ่อนแอและแข็งแกร่ง มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถเอาชนะกฏนี้ได้

 

ชิงสุ่ยสังเกตเห็นสีหน้าที่เสียดายของผู้นำเผ่าคนหนึ่ง แต่เขาก็กลับมาเป็นปกติอย่างรวดเร็ว เขาไม่ได้พูดอะไรและกลับไปยังจุดที่เผ่าของตัวเองอยู่

 

แม้ว่าผู้นำเผ่าอีกคนจะไม่ได้สังหารศัตรูของเขา เขาก็ได้ขัดขวางศัตรูเอาไว้ ซึ่งมันเป็นจุดประสงค์หลักของเขา พลังของเขาทัดเทียมกับผู้นำเผ่าอีกคน

 

มู่หยุนชิงเฉิงต้องการให้ผู้อื่นเห็นว่ามีคนที่ภักดีต่อพระราชวังทะเลราชันย์มากมาย

 

ทุกสิ่งทุกอย่างที่ชิงสุ่ยทำคือการรักษาอำนาจของพระราชวังทะเลราชันย์และพยายามที่จะป้องกันไม่ให้ใครแยกตัวไป ตราบใดที่ชิงสุ่ยอยู่ที่นี่ เขาจะกำจัดทุกคนที่ต่อต้านพระราชวังทะเลราชันย์

 

มู่หยุนชิงเฉิงเป็นคนฉลาด โดยทั่วไปแล้วเธอมองมันออก เธอรู้สึกประทับใจเล็กน้อย แต่ความจริงที่ว่าผู้ชายคนนี้ได้เห็นและสัมผัสร่างกายของเธอทำให้เธอรู้สึกแปลกๆ

 

เหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นภายใต้สถานการณ์ที่จำเป็น ดังนั้นจึงไม่มีอะไรให้พูดมากนัก แม้ว่าเขาจะเป็นผู้ที่ช่วยเธอ เธอก็ไม่ได้รู้สึกสบายใจที่เขาเห็นร่างอันเปลือยเปล่าของเธอและสัมผัสมัน

 

เหตุผลเดียวที่เธอตกลงเป็นเพราะเธอรู้แล้วว่ากำลังจะตายในไม่ช้า ยิ่งกว่านั้นเธอไม่สามารถที่จะทำอะไรได้ สิ่งนี้ทำให้มู่หยุนชิงเฉิงหมดหนทางและรู้สึกไม่สบายใจบางอย่าง

 

อีเย่เจี้ยนเก้อดูเหมือนจะสังเกตเห็นบางสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างคนทั้งสอง แต่เธอก็เงียบเอาไว้ บางสิ่งจำเป็นต้องใช้เวลา การเข้าไปรบกวนจะทำให้เกิดความยุ่งยาก

 

 

อะไรจะเกิดขึ้นระหว่างชายและหญิง นอกเหนือจาก… อีเย่เจี้ยนเก้อส่ายหัวของเธอ สิ่งนี้ไม่ได้เกินความคาดคิดเมื่อมันเกี่ยวกับผู้ชายคนนี้ ไม่มีอะไรแปลกที่คนอื่นจะตกหลุมรักเขา ในเมื่อเธอเองก็ตกหลุมรัก

 

ทั่วทั้งพระราชวังทะเลราชันย์เต็มไปด้วยความยินดี ทุกคนต่างก็ได้เห็นพลังของกองกำลังร้อยมือสังหาร พระราชวังทะเลราชันย์มีผู้คนมารวมตัวกันอย่างหนาแน่น

 

พวกเขาเต็มเปี่ยมไปด้วยความเร่าร้อน ทุกคนอยากที่จะแข็งแกร่งขึ้น เพราะพลังเป็นทุกสิ่งทุกอย่าง การมีกองกำลังร้อยมือสังหารทำให้พวกเขาไม่ต้องกังวลในการต่อสู้ กลับกันพวกเขาสามารถเรียนรู้รูปแบบนั้นได้เช่นกัน

 

ชิงสุ่ยตัดสินใจที่จะไปเดินดูรอบๆ เขาต้องการหาค่ายของพระราชวังสุริยัน มันค่อนข้างเสี่ยงที่จะทำเช่นนั้น แต่เขาอยากรู้ว่าศัตรูแข็งแกร่งแค่ไหน

 

ที่พักซึ่งอยู่ห่างออกไปดูผิดธรรมดา มันทำมาจากวัสดุที่สามารถกันน้ำได้ ถึงวัสดุที่ใช้จะดูบาง แต่มันก็แข็งแกรงและทนต่อกระแสน้ำ

 

ขณะที่เขายังอยู่ค่อนข้างไกลจากที่พัก มีร่างของ 2 คนปรากฏขึ้น ตอนนี้ชิงสุ่ยคุ้นเคยกับชนเผ่าใต้น้ำมากมายและเขาสามาถบอกได้ว่าทั้งสองเป็นมนุษย์งูวารี คนเหล่านี้มีลักษณะคล้ายมนุษย์ แต่ก็ยังมีรูปลักษณ์บางส่วนที่เป็นงู

 

มนุษย์งูวารีทั้งสองแท้จริงแล้วเป็นเพศหญิง เสน่ห์ของพวกเธอดูจะมีมากกว่าหญิงสาวที่เป็นมนุษย์ แต่ชิงสุ่ยก็ยังคงชอบผู้หญิงที่เป็นมนุษย์

 

พวกเธอมีดวงตาที่เย็นชาแบบงู ดวงตาเหล่านั้นทำลายความงดงามของพวกเธอ มันให้ความรู้สึกราวกับจะถูกกัดกินด้วยพิษของงู

 

“ไม่ว่าเจ้าจะเป็นใคร จงกลับไปซะ” หนึ่งในพวกเธอกล่าวกับชิงสุ่ย

 

“บริเวณนี้น่าจะยังเป็นอาณาเขตของพระราชวังทะเลราชันย์ ใช่หรือไม่? เช่นนั้นใครบอกกันว่าข้าอยู่ที่นี่ไม่ได้?” ชิงสุ่ยกล่าวด้วยรอยยิ้ม

 

“มันไม่สำคัญว่าพื้นที่แถบนี้เป็นของใคร เจ้าไม่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาในบริเวณนี้” เธอจ้องมองชิงสุ่ย

 

ชิงสุ่ยมองเห็นหญิงสาวที่พูดกับเขาชัดขึ้น เธอดูจะยังอายุไม่มาก มันน่าจะประมาณ 30 ปี เธอยังเยาว์และมีรูปร่างที่ดึงดูดใจมากกว่าหญิงอื่น

 

“ข้าต้องการพูดกับประมุขพระราชวังสุริยัน ช่วยนำไปบอกนางที” ชิงสุ่ยกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง

 

“พูดกับประมุขของพวกเรา? นางไม่ใช่คนที่เจ้าจะสามารถพูดด้วยเมื่อใดก็ได้ที่ต้องการ’ หญิงสาวกล่าว เธอยังคงจ้องมองด้วยสายตาที่เย็นชา

 

“บอกข้ามาสิว่าเจ้าสองคนมีตำแหน่งอะไร? อย่าให้ข้าต้องลงมือกับพวกเจ้า ข้าคิดว่ามันจะดีกว่าหากรายงานเรื่องนี้ให้กับผู้ที่อยู่ระดับสูงทราบเมื่อพวกเจ้าไม่สามารถจัดการมันได้” ชิงสุ่ยกล่าว เขาไม่ได้โกรธ แต่ต้องการทำให้อีกฝ่ายคิดว่าเขาเป็นใคร

 

“ช่างอวดดี! เช่นนั้นพวกเราจะสั่งสอนบทเรียนให้เจ้า” หญิงอีกคนกล่าวในทันที เธอดูเหมือนจะอายุน้อยกว่าอีกคน

 

ชิงสุ่ยไม่ได้พูดอะไรและหัวเราะเบาๆ เพียงพริบตา เขาหายตัวไปและปรากฏต่อหน้าหญิงทั้งสอง เขาค่อยๆยกมือขึ้นและจับไปที่คอของทั้งสอง การเคลื่อนไหวของเขาเหมือนช้า แต่ทั้งสองก็ไม่สามารถหลบพ้น

 

เขากล่าวอย่างใจเย็น “ตอนนี้พวกเจ้าเชื่อข้าหรือยัง?”

 

มันเป็นสัญชาตญาณของอสูรที่จะก้มหัวให้ฝ่ายตรงข้ามที่แข็งแกร่งกว่า สำหรับพวกเธอ มันไม่ใช่การกระทำที่น่าอาย นี่เป็นสิ่งที่ทำเพื่อความอยู่รอด

 

“ตกลง ข้าเชื่อเจ้า ข้าจะไปรายงานเรื่องนี้หากเจ้าปล่อยข้าไป” หญิงที่อายุมากกว่ากล่าว

 

ชิงสุ่ยคลายมือของเขาออก เขาไม่ได้ตั้งใจที่เจ้าเอาชีวิต เขาแค่อยากรู้ว่ามันจะออกมาเป็นเช่นไร

 

อ๊อก… อ๊อก……

 

หญิงสาวพยายามฟื้นลมหายใจและจ้องมองชิงสุ่ยด้วยความขุ่นเคือง เธอบอกให้ชิงสุ่ยรอและหายตัวไปในน้ำ

 

ชิงสุ่ยไม่ได้คิดที่จะตามพวกเธอไป แต่เขารู้ว่าเขาจะไม่ได้พบกับประมุขของพระราชวังสุริยันง่ายๆอย่างแน่นอน

 

15 นาทีต่อมา หญิงทั้งสองปรากฏตัวอีกครั้งพร้อมกับทหารหลายสิบนายที่นำโดยมนุษย์วานรวารีวารี

 

“เจ้าเป็นใครกันที่บังอาจเหิมเกริม เจ้ารู้หรือไหมว่านี่เป็นที่ของพระราชวังสุริยัน?” เขาเริ่มข่มขู่ ดูเหมือนว่าพระราชวังสุริยันจะมีชื่อเสียงแถบนี้

 

ช่างน่าเสียดายที่พวกเขาต้องมาเจอชิงสุ่ย ถึงเวลาแล้วที่จะต้องจัดการทุกอย่างให้เสร็จสิ้น

 

ชิงสุ่ยมองดูมนุษย์วานรวารีวารี เขาสูงประมาณ 3 เมตรและใบหน้ามีลักษณะคล้ายลิง

 

พวกเขาเป็นชนเผ่าที่ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ บางส่วนของพวกเขายังคงมีความเป็นสัตว์ มันไม่เหมือนกับมู่หยุนชิงเฉิง เธอถือได้ว่าเป็นมนุษย์โดยสมบูรณ์ มีเพียงไม่กี่เผ่าที่สามารถวิวัฒนาการรูปร่างแบบนั้นได้

 

“สิ่งเดียวที่ข้ารู้คือที่นี่เป็นเขตแดนของพระราชวังทะเลราชันย์ ข้าอยากให้เจ้าไปพาประมุขของเจ้ามา แต่เจ้ากลับพาลิงมาให้ข้าแทนหรือ?” ชิงสุ่ยกล่าว

 

มนุษย์วานรวารีหงุดหงิดเมื่อได้ยินชิงสุ่ยกล่าว เขาต้องเกลียดการถูกเรียกว่าลิงอย่างแน่นอน แต่เขายังคงเก็บความโกรธเอาไว้ เขาจ้องมองชิงสุ่ยด้วยดวงตาที่แดงก่ำ “เจ้าต้องพิสูจน์ตัวเองว่าคู่ควรที่จะได้พบประมุขของพวกเราก่อน ตายซะ!”

 

มนุษย์วานรวารีวารีพุ่งเข้าหาชิงสุ่ย เขาใหญ่กว่าชิงสุ่ยหลายเท่า ด้วยการกระโดดเพียงครั้งเดียว เขาปรากฏตัวอยู่เหนือชิงสุ่ยทันที

 

เขาเหวี่ยงแขนอันใหญ่โตไปยังชิงสุ่ย

 

เพลงหมัดวานร!

 

ชิงสุ่ยไม่ได้หลบมัน เขากลับใช้เพลงหมัดวานรโต้ตอบ

 

ความเข้าใจในเพลงหมัดวานรชิงสุ่ยนั้นล้ำลึก แขนของสะบัดออกไปทางมนุษย์วานรวารี

 

มนุษย์วานรวารีถูกซัดกระเด็นลอยไปพร้อมกับกระอัดเลือด เขาจ้องมองชิงสุ่ยอย่างตกตะลึง

 

“เจ้าเรียนรู้เคล็ดวิชาวานรศักดิ์สิทธิ์มาได้อย่างไร… “

 

มนุษย์วานรวารีวารีมักอาศัยความแข็งแกร่งของแขน พวกมันฝึกฝนเพลงหมัดวานรเช่นกัน มันเป็นเพลงหมัดที่สืบต่อกันมาของเผ่าวานร แต่เพลงหมัดวานรของชิงสุ่ยนั้นแตกต่างออกไปและรุนแรงกว่า

 

ชิงสุ่ยเข้าใจในทันที สำหรับการเรียกชื่อว่าเคล็ดวิชาวานรศักดิ์สิทธิ์ นั่นย่อมหมายถึงมันเป็นเคล็ดวิชาที่มีค่า

 

ทหารคนอื่นๆรีบเข้าต่อสู้ แต่มนุษย์วานรวารีหยุดพวกเขาเอาไว้ เขาหันไปหาชิงสุ่ยและถาม “เจ้าต้องการพบท่านประมุขของพวกเขาจริงงั้นหรือ?”

 

“ถูกต้อง สงสัยว่าครั้งนี้ข้อความของข้าน่าจะถูกส่งไปถึงประมุขของพระราชวังสุริยัน” ตอนนี้ชิงสุ่ยมีความมั่นใจว่าเขาจะได้พบกับประมุขของพระราชวังสุริยัน

 

“ข้าจะไปรายงานท่านประมุข แต่ข้าไม่สามารถรับปากว่าเจ้าจะได้พบท่าน” มนุษย์วานรวารีตอบ

 

“บอกนางว่าผู้พิทักษ์แห่งพระราชวังทะเลราชันย์ต้องการเข้าพบ” ชิงสุ่ยกล่าว เมื่อเริ่มวุ่นวาย เขาควรที่จะเปิดเผยตัวตนในฐานะผู้พิทักษ์

 

มนุษย์วานรวารีกลับมาอย่างรวดเร็ว “ท่านประมุขบอกว่ายินดีที่จะพบเจ้า หากเจ้ากล้าพอ นางจะรอเจ้าอยู่ที่ที่พักด้านใน”

 

“ข้าตกลง เชิญนำทาง” ชิงสุ่ยตอบอย่างสุภาพ

 

มนุษย์วานรวารีพยักหน้าและเริ่มนำทาง