บทที่ 702 : เริ่มสังหารยอดฝีมือ!

Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร

บทที่ 702 : เริ่มสังหารยอดฝีมือ!

 

  หลิงหยุนรู้ดีว่าด้วยความเร็วของตนเองในเวลานี้หากต้องการจะพาหลิงเย่วหนีออกไปนั้น ย่อมไม่มีใครสามารถไล่ตามเขาได้ทันอย่างแน่นอน

 

  แต่ในเมื่อเวลานี้ยอดฝีมือทั้งยี่สิบคนก็ได้รับบาดเจ็บเพราะฝีมือของเขาไปแล้วเหตุใดจึงไม่ฉวยโอกาสนี้จัดการกับตระกูลเฉินไปเลยเล่า!

 

  เมื่อคิดได้เช่นนี้..สายตาคมกริบของหลิงหยุนก็จับจ้องอยู่ที่ยอดฝีมือหลายคนที่อยู่ตรงหน้าทันที พร้อมกับพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ

 

  “ข้าไม่ได้อยากจะลงมือสังหารพวกเจ้าแต่เป็นพวกเจ้าที่บีบบังคบให้ข้าต้องทำเช่นนั้น! ข้าขอเตือนพวกเจ้าอีกครั้งก่อนที่ข้าจะเริ่มลงมือ.. หากใครต้องการหนีไปตอนนี้ก็เชิญได้เลย.. ข้าจะไม่ขัดขวาง! แต่หากข้าลงมือเมื่อใด ก็อย่าหาว่าข้าไม่ปราณีก็แล้วกัน!”

 

  ทันทีที่หลิงหยุนพูดจบ..ยอดฝีมือหลายคนก็หันไปมองหน้ากันด้วยความตื่นตระหนก แต่ละคนล้วนตัดสินใจไม่ได้ว่าจะหนี หรือว่าจะอยู่สู้ต่อดี..

 

  นับว่าหลิงหยุนประสบความสำเร็จอย่างมากความอหังการของเขาเมื่อครู่ได้สร้างความหวาดกลัวให้กับยอดฝีมืออีกหลายคน หลิงหยุนไม่รีบร้อน เขาปล่อยให้ยอดฝีมือเหล่านั้นได้ปรึกษาหารือกัน แล้วจึงค่อยจัดการกับคนที่เหลือในคราวเดียว

 

  เฉินไห่คุนถึงกับสีหน้าเปลี่ยนไปทันทีเขาเดินตรงเข้าไปหาหลิงหยุนพร้อมกับยกมือขึ้นชี้หน้าและร้องตะโกนใส่หลิงหยุน

 

  “ทุกท่าน..อย่าไปฟังคำพูดของมัน! มันอาจจะแข็งแกร่งก็จริง แต่หากพวกเราบุกเข้าไปพร้อมกัน มันก็ไม่มีทางสู้ได้แน่ มันแค่ต้องการพูดให้ทุกท่านหวาดกลัวและสับสน แล้วล่าถอยกลับไปต่างหาก!”

 

  “ทุกท่านบุกเข้าไปพร้อมกับข้า!พวกเราจะจัดการกับมันพร้อมๆกัน!”

 

  เฉินไห่คุนนั้นอยู่ในระดับสูงสุดของขั้นเซียงเทียน-5และเมื่อเห็นว่าเหล่ายอดฝีมือทั้งหลายกำลังจะเริ่มถอดใจ จึงรีบสวมหัวใจเสือปลุกระดมทุกคนให้ลุกขึ้นสู้กับหลิงหยุนอีกครั้ง

 

  หลิงหยุนไม่ใส่ใจกับเฉินไห่คุนเขายังคงยืนนิ่งอยู่หน้าประตู และรอจนเฉินไห่คุนพูดจบ จากนั้นจึงพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา

 

  “เจ้าคนแซ่เฉิน..เจ้ามั่นใจงั้นรึว่าจะมีชีวิตรอดถึงวันพรุ่งนี้!”

 

  “ถ้าเจ้ามั่นใจเช่นนั้นก็เข้ามาได้เลย!”

 

  พูดจบ..หลิงหยุนก็ยกกระบี่โลหิตแดนใต้ในมือขึ้น และรอดูว่าใครจะเป็นรายต่อไป!

 

  หลิงเย่วยืนอยู่ด้านหลังประตูกระท่อมด้วยความวิตกกังวลเขากำหมัดแน่นด้วยความตื่นเต้นและได้แต่นึกแปลกใจว่ายอดฝีมือผู้นี้เป็นใครมาจากใหนกันแน่ และเหตุใดจึงต้องมาช่วยตระกูลหลิงของเขาด้วย?

 

  “หรือว่าท่านพ่อจะคาดเดาการกระทำของตระกูลเฉินออกจึงได้ไปเชิญยอดฝีมือมาช่วยข้าด้วยตัวเอง! แต่ไม่น่าจะเป็นไปได้ ในเมื่อยอดฝีมือผู้นี้มีกระบี่โลหิตแดนใต้อยู่ในมือ ก็ย่อมหมายความว่า…”

 

  “หรือจะเป็นพี่น้องที่ร่วมต่อสู้กับตระกูลหลิงมาเมื่อได้ข่าวว่าตระกูลหลิงกำลังมีภัย จึงได้แอบส่งคนมาช่วย!”

 

  หลิงเย่วนั้นเปรียบได้กับขงเบ้งของตระกูลหลิงแม้ว่าวรยุทธของเขาจะด้อยที่สุด แต่ก็เป็นผู้ที่มีปัญญาล้ำเลิศนัก แต่ถึงกระนั้น.. ไม่ว่าจะเขาพยายามครุ่นคิดอย่างไร ก็ไม่สามารถคาดเดาได้ว่าหลิงหยุนคือผู้ใดกันแน่

 

  จากนั้นหลิงหยุนจึงพูดกับหลิงเย่วด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน“คุณชายหลิง.. ท่านรออยู่ในกระท่อมอีกสักพัก อย่าได้รีบออกมา! ไม่เช่นนั้นท่านอาจจะได้รับอันตรายจากกระบี่ของข้า..”

 

  หลังจากที่พูดประโยคนี้ออกไปแล้ว..ย่อมเท่ากับว่าหลิงหยุนได้ตัดสินใจที่จะสังหารทุกคนในที่นี้แล้ว!

 

  อีกฝ่ายยังมียอดฝีมือเหลืออยู่อีกราวแปดสิบคนแม้ว่าบางคนจะลังเล แต่ดูเหมือนจะไม่มีใครยอมหนี และนั่นทำให้หลิงหยุนรู้สึกผิดหวังขึ้นมาเล็กน้อย เพราะนั่นหมายความว่าตระกูลเฉินมีอิทธิพลกับยอดฝีมือเหล่านี้มาก..

 

  ‘ในเมื่อพวกเจ้าต้องการเป็นหน่วยกล้าตายให้กับตระกูลเฉินข้าก็ไม่มีทางเลี่ยงนอกจากต้องสังหารพวกเจ้าให้หมดทุกคน!’

 

  เฉินไห่คุนนำยอดฝีมือที่เหลือเข้ามาล้อมหลิงหยุนไว้ในมือของมันกำกระบี่ไว้แน่น..

 

  “เจ้าคนแซ่เฉิน..นี่เจ้าจะไม่ให้ข้ามีเวลาได้พักสักครู่เลยหรือยังไง”

 

  หลิงหยุนหัวเราะพร้อมกับร้องบอกไปจากนั้นจึงแกว่งกระบี่ยาวในมือเข้าใส่ขาของเฉินไห่คุน และยอดฝีมือที่อยู่ด้านหลังของมัน!

 

  ในเวลาเดียวกันนั้นเอง..กระบี่คมกริบของเฉินไห่คุนก็พุ่งเข้าใส่ลำคอของหลิงหยุน แต่หลิงหยุนกลับยิ้ม และสะบัดศรีษะเพียงเล็กน้อย กระบี่ของเฉินไห่คุนก็แทงเข้ากับความว่างเปล่า!

 

  เฉินไห่คุนพลาด!แต่หลิงหยุนไม่พลาด! กระบี่ของหลิงหยุนฟันเข้าใส่ขาของเฉินไห่คุน มันจึงรีบกระโดดถอยหลังหนีทันที!

 

  แต่ถึงกระนั้นกระบี่ของหลิงหยุนก็ฟันเข้าที่ขาใต้หัวเข่าของเฉินไห่คุนจนเป็นแผลลึกไปถึงกระดูก!

 

  หากไม่ใช่เพราะเฉินไห่คุนเดินลมปราณระดับสูงสุดขั้นเซียงเทียน-5ป้องกันไว้แล้วล่ะก็ หลิงหยุนคงจะตัดขาของมันขาดทั้งสองข้างแล้วอย่างแน่นอน!

 

  เฉินไห่คุนได้รับบาดเจ็บไม่มากแต่ยอดฝีมือทั้งเจ็ดหรือแปดคนที่อยู่ด้านหลังของมันนั้น กำลังภายในของพวกเขาล้วนแล้วแต่อยู่ในขั้นที่ต่ำกว่าเฉินไห่คุนทั้งสิ้น จึงถูกพลังของกระบี่ที่รุนแรงเข้าอย่างจังจนได้รับบาดเจ็บไปตามๆกัน

 

  พลังจากกระบี่มันคืออะไรกัน

 

  พลังที่กระจายออกจากกระบี่ของหลิงหยุนนั้นก็คือพลังหยิน-หยางที่ถูกส่งออกมาจากร่างกายของเขาผ่านกระบี่โลหิตแดนใต้นั่นเอง มันมีลักษณะคล้ายๆกับกระแสน้ำที่เชี่ยวกรากและรุนแรง กระแสพลังของหลิงหยุนจึงมีความคมไม่ต่างจากกระบี่ และสามารถทำให้ผู้ที่อยู่ห่างออกไปได้รับบาดเจ็บราวกับถูกกระบี่ฟันได้เลยทีเดียว!

 

  เวลานี้หลิงหยุนสามารถถ่ายทอดพลังจากกร่างกายผ่านทางกระบี่ได้และเมื่อถึงขั้นพลังชี่ ต่อให้ไม่มีกระบี่ กระแสลมปราณที่พุ่งออกมาจากร่างกายของหลิงหยุนนั้น ก็จะมีความคมเช่นเดียวกับกระบี่ และสามารถทำร้ายคนได้ไม่ต่างกันเลย

 

  ยิ่งไปกว่านั้น..เมื่อถึงเวลานั้นจิตหยั่งรู้ของหลิงหยุนก็มีพลังมากพอที่จะสามารถใช้ควบคุมกระบี่ให้เคลื่อนที่ไปยังทิศทางที่ต้องการได้ และสามารถใช้โจมตีศัตรูที่อยู่ไกลออกไปได้ถึงหนึ่งร้อยก้าวทีเดียว!

 

  ในขั้นพลังชี่นั้นเป็นการกลั่นพละกำลังมาจากจิตวิญญาณ ยิ่งฝึกถึงขั้นสูงขึ้นมากเท่าไหร่ จิตหยั่งรู้ของหลิงหยุนก็จะยิ่งแข็งแกร่งและทรงพลังมากยิ่งขึ้นเท่านั้น และจะสามารถใช้โจมตีคู่ต่อสู้ในระยะไกลได้เป็นอย่างดี!

 

  หลิงหยุนบีบให้เฉินไห่คุนต้องยอมแพ้และหลบหนีการสังหารของเขาและในที่สุดก็ใช้มังกรพรางร่างพุ่งเข้าหากลุ่มยอดฝีมือราวกับเสือร้ายที่กระโจนเข้าใส่ฝูงหมาป่า!

 

  หลิงหยุนไม่สนใจคนอื่นแต่พุ่งเป้าไปที่ยอดฝีมือสองคนซึ่งเขามองไม่เห็นขั้นกำลังภายใน เขาเดาว่ายอดฝีมือทั้งคู่นั้นอย่างน้อยก็น่าจะอยู่ในขั้นเซียงเทียน-6 และดูเหมือนจะมีฝีมือเก่งกาจมากอีด้วย หลิงหยุนจึงจำเป็นต้องจัดการกับทั้งคู่ก่อน!

 

  พลังปราณที่พุ่งออกจากกระบี่ของหลิงหยุนนั้นฟาดฟันเข้าใส่ร่างของยอดฝีมือทั้งสองคนคนจนแขนขาถูกตัดร่วงลงไปกองกับพื้นในทันที มีเพียงเสียงกรีดร้องที่ดังขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า!

 

  แน่นอนว่าหลิงหยุนต้องฟาดฟันเข้าใส่ยอดฝีมือทั้งสองคนอยู่หลายดาบและเขาได้โคจรดาราคุ้มกายเพื่อปกป้องตัวเองไว้ ประกอบกับชุดที่ตัดเย็บจากผ้าแพรไหมดำนั้นก็เปรียบเหมือนโล่ป้องกันที่ดีอีกชั้นหนึ่ง จึงยากที่ใครจะเข้าช่วยยอดฝีมือขั้นเซียงเทียน-6 ไว้ได้

 

  นอกเหนือจากมีเกราะป้องกันที่ดีอย่างชุดผ้าแพรไหมดำและดาราคุ้มกายหลิงหยุนก็ยังมีมังกรพรางร่างที่เคลื่อนไหวได้รวดเร็วจนสามารถสร้างเงาของตนเองไว้ได้มากมายอย่างน่าอัศจรรย์ และยากที่จะรู้ได้ว่าร่างใดคือร่างจริงเขา เช่นนี้แล้วจะสามารถรับมือหลิงหยุนได้อย่างไรกัน!

 

  ทุกคนจึงต้องพ่ายแพ้ให้แก่หลิงหยุนไปอย่างช่วยไม่ได้!

 

  “แย่แล้ว..ข้าถูกมันตัดแขนขาด!”

 

  ยังไม่ทันสิ้นเสียงกรีดร้องดีหลิงหยุนก็เตะร่างของยอดฝีมือลอยออกไปหลายสิบเมตรก่อนที่จะตกลงกระแทกกับพื้น!

 

  “ระวังตัวด้วยอย่าเข้าใก้ลมัน..”

 

  เสียงร้องตะโกนดังขึ้นจากด้านหลังของหลิงหยุนเขาจึงหันหลังกลับไป และให้รางวัลยอดฝีมือผู้นั้นไปหนึ่งดาบ ตามมาด้วยเสียงกรีดร้องก่อนจะขาดใจตายในที่สุด

 

  และนี่นับเป็นครั้งทีสองที่หลิงหยุนสังหารผู้คนจำนวนมากมายเมื่อครั้งที่บุกเข้าไปช่วยเฉิงเม่ยเฟิงที่บ้านตระกูลเฉิงในคืนนั้นมียอดฝีมือต้องสังเวยชีวิตให้กับเขาอย่างมากมาย..

 

  ในที่สุด..ยอดฝีมือบางคนก็ต้องการที่จะหลบหนี แต่น่าเสียดายที่สายเกินไปเสียแล้ว หลิงหยุนไม่ปล่อยให้พวกมันหนีไปได้ง่ายๆอย่างแน่นอน เขาใช้วิชาสายฝนโปรยปรายซัดตะปูเล่มใหญ่เข้าใส่จุดฝังเข็มของเหล่ายอดฝีมือพร้อมกันในคราวเดียว และทุกคนก็ร่วงไปกองกับพื้นทันที

 

  “ว้าวลูกพี่!ทำไมท่านไม่บอกข้าเลยว่าจะมีการต่อสู้กันเกิดขึ้น ทำไมท่านถึงไม่เรียกให้ข้ามาร่วมสนุกด้วยล่ะ!?”

 

  เจสเตอร์ได้ยินเสียงต่อสู้กันจึงได้ตามมาดูแต่กลับพบว่าหลิงหยุนกำลังสังหารคนในคฤหาสน์ตระกูลเฉินตายเกลื่อนกลาดเต็มไปหมด มันจึงรีบยกมือขึ้นชกหน้าอกพร้อมกับร้องออกมาอย่างตื่นเต้น

 

  -เจสเตอร์..เจ้าจัดการฆ่าพวกมันได้เลย! ไม่ต้องสนใจว่าพวกมันจะเป็นใคร หากเจ้าต้องการจะดื่มเลือด ก็จัดการดื่มให้พอใจเลยในคืนนี้!-

 

  หลิงหยุนที่กำลังจัดการกับยอดฝีมือขั้นเซียงเทียน-6อีกห้าคน รีบส่งกระแสจิตบอกเจสเตอร์ที่เพิ่งเข้ามาทันที

 

  “หากท่านประสงค์เช่นนั้นเจสเตอร์ก็จะทำตามความต้องการของท่าน.. ลูกพี่ที่เคารพ!”

 

  เจสเตอร์ตรงเข้าหายอดฝีมือขั้นโฮ่วเทียน-9ที่อยู่ตรงหน้าอย่างมีความสุข เขาคว้าแขนทั้งสองข้างของยอดฝีมือผู้นั้น แล้วออกแรงดึงมาไปด้านข้างพร้อมๆกัน

 

  เสียงร้องโหยหวนดังขึ้นเมื่อแขนของยอดฝีมือผู้นั้นถูกเจสเตตอร์กระตุกขาดทั้งสองข้างอย่างน่าสยดสยอง

 

  “คนผู้นี้มีกลิ่นอายปีศาจรุนแรงต้องรีบจัดการสังหารมันให้ได้โดยเร็ว!”

 

  ยอดฝีมือขั้นเซียงเทียน-6ทั้งห้าคนที่ไม่คิดว่าหลิงหยุนจะเก่งกาจถึงเพียงนี้ ต่างคนต่างก็จู่โจมเข้าใส่หลิงหยุนอย่างที่หมายเอาชีวิตเท่านั้น!

 

  “หากข้าไม่สังหารพวกเจ้าพวกเจ้าก็ต้องสังหารข้าสินะ!”

 

  หลิงหยุนยักไหล่พร้อมกับพูดต่อว่า“ข้ามีกลิ่นอายปีศาจรุนแรงงั้นรึ ใครกันแน่ที่เป็นปีศาจ? เจ้าดูเด็กสาวสิบกว่าคนที่อยู่ด้านหน้าสวนสิ พวกเจ้ายังเป็นคนอยู่หรือไม่? อย่าบอกนะว่าพวกเจ้าไม่รู้ว่าพวกนางมาทำอะไรที่นี่..ข้าไม่เชื่อ?!”

 

  เด็กสาวเหล่านี้มาทำอะไรที่นี่เช่นนั้นหรือ

 

  หลิงหยุนเพิ่งจะพบว่ายอดฝีมือบางคนก่อนที่จะมายืนอยู่ต่อหน้าหลิงหยุนนั้นก็เพิ่งจะอยู่บนเตียงนอนกับเด็กสาวเหล่านี้ เด็กสาวที่น่าสงสารเหล่านี้ไม่เพียงต้องปรนเปรอเลือดของตนเองให้กับเฉินเจี้ยนกุ่ย แต่ยังต้องมอบร่างกายเป็นเครื่องเล่นให้กับยอดฝีมือเหล่านี้อีกด้วย นี่เท่ากับคนตระกูลเฉินมีแต่ได้กับได้!

 

  ในเมื่อยอดฝีมือเหล่านี้ล้วนเป็นหนึ่งในเหตุแห่งความหายนะครั้งนี้หลิงหยุนจะสังหารพวกมันทิ้งให้หมด!

 

  และด้วยความช่วยเหลือของปีศาจอย่างเจสเตอร์การต่อสู้จึงสิ้นสุดลงในเวลาอันรวดเร็ว ในเวลานั้นยอดฝีมือหลายคนต่างก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสเพราะหลิงหยุนเช่นกัน ภายในคฤหาสน์ตระกูลเฉินจึงเหลือเพียงแค่ยอดฝีมือขั้นเซียงเทียน-6 อีกห้าคนกับเฉินไห่คุนซึ่งอยู่ในระดับสูงสุดของขั้นเซียงเทียน-5 อีกหนึ่งคนเท่านั้น

 

  “มันจบแล้ว..มันจบแล้ว..”

 

  เฉินไห่คุนถูกกระบี่ของหลิงหยุนแทงเข้าที่หน้าอกจนเกิดแผลยาวเกือบหนึ่งฟุตและลึกเกือบหกเซนติเมตร พลังปราณจากกระบี่ของหลิงหยุนได้ทำลายอวัยวะภายในที่สำคัญของมันจนตอนนี้ไม่สามารถขยับเขยื้อนได้ มันทำได้เพียงแค่มองดูสวนภายในคฤหาสน์ตระกูลเฉินกลับกลายเป็นขุมนรกด้วยใบหน้าที่ซีดขาวพร้อมกับพึมพำออกมา

 

  ท้ายที่สุด..แม้แต่ตระกูลหลิงที่ตกต่ำ ก็สังหารยอดฝีมือตระกูลเฉินไปกว่าร้อยชีวิต!

 

  เมื่อหลิงหยุนเห็นว่าเหลือยอดฝีมือขั้นเซียงเทียน-6อีกเพียงแค่ห้าคนเท่านั้น เขาจึงบอกกับเจสเตอร์ว่า

 

  “เอาล่ะ..ใกล้หมดเวลาแล้ว! เจ้ารีบเข้าไปช่วยผู้ชายที่อยู่ในกระท่อมก่อน!”

 

  หลิงหยุนใช้เวลาในการต่อสู้ครั้งไปถึงครึ่งชั่วโมงแล้วจึงสั่งให้เจสเตอร์เข้าไปช่วยลุงสองของเขาก่อน!