บทที่ 701 : ลุยเดี่ยว!

 

  -อาวุโส..ท่านได้โปรดระวังตัวด้วย! ที่นี่มียอดฝีมืออยู่มากมาย ทางที่ดีท่านหนีไปก่อนจะดีกว่า และช่วยไปบอกพ่อของข้าด้วยว่า ข้า-หลิงเย่วสบายดี!-

 

  หลิงเย่วใช้กระแสจิตบอกหลิงหยุนขณะที่เดินกลับเข้าไปในกระท่อมสีดำหลังเล็กเขารู้ว่าตัวดีว่าตนเองนั้นไม่อาจช่วยอะไรหลิงหยุนได้

 

  หลิงหยุนยิ้มอย่างขมขื่นและได้แต่คิดในใจว่า ‘ลุงสอง.. ท่านเรียกข้าว่าอาวุโส ความจริงข้าไม่อาจยอมรับได้ แต่เพราะสถานการณ์บีบบังคับ ข้าคงไม่มีเวลาอธิบายอะไรมาก..’

 

  หลิงหยุนไม่สนใจยอดฝีมือเจ็ดแปดคนที่ล้อมอยู่เขายังคงยืนนิ่งอยู่ที่หน้าประตูกระท่อมสีดำหลังเล็กนั่น

 

  แต่เพียงไม่นานก็มีเสียงของยอดฝีมืออีกมากมายกระโดดออกมาจากบ้าน และพากันวิ่งตรงมาที่กระท่อมสีดำล้อมหลิงหยุนไว้

 

  “สหายเจ้ามาจากใหนกันแน่ถึงได้กล้าบุกเข้าบ้านตระกูลเฉินเช่นนี้ นี่เจ้าคงเบื่อชีวิตมากแล้วสินะ!” หนึ่งในนั้นพูดเย้ยหยันหลิงหยุน

 

  ยอดฝีมือที่เข้ามารายล้อมหลิงหยุนอยู่นั้นต่างก็คิดว่าหลิงหยุนไม่มีทางที่จะหลบหนีไปได้อย่างแน่นอน และเมื่อมั่นใจว่าหลิงหยุนไม่มีทางหนีรอดไปได้แน่ ทุกคนจึงเริ่มรู้สึกวางใจ

 

  “หยุดพล่ามไร้สาระได้แล้ว!ตระกูลเฉินชั่วช้าเลวทรามนัก! ถึงกับกล้าจับตัวคุณชายสองแห่งตระกูลหลิงมาขังไว้ วันนี้ข้ามาที่นี่เพื่อช่วยเขา หากพวกเจ้าไม่อยากตายก็หลีกไปซะ! ข้ายังไม่ต้องการสังหารผู้ใดในคืนนี้!”

 

  หลิงหยุนร้องบอกด้วยสีหน้าท่าทางสงบนิ่งสายตาของเขาเย็นชาแต่ก็คมกริบเมื่อจ้องมองเหล่าชายชุดดำที่อยู่ตรงหน้า..

 

  “ฮ่า..ฮ่า..”

 

  ใครบางคนหัวเราะออกมาเสียงดังและจู่ๆ ชายชราร่างสูงอายุราวหกสิบปีก็แทรกตัวออกมาจากกลุ่ม แววตาอันตรายคู่นั้นจ้องมองหลิงหยุนด้วยความรู้สึกประทับใจพร้อมกับพูดขึ้นว่า

 

  แทบไม่ต้องไตร่ตรองด้วยซ้ำไป..ดูจากดวงตาแล้วเป็นคนตระกูลเฉินอย่างแน่นอน!

 

  “สหาย..ท่านโอหังเกินแล้ว! ในเมื่อท่านรู้ว่าตระกูลเฉินเป็นผู้จับตัวหลิงเย่วมาขังไว้ ท่านยังคิดว่าจะมีโอกาสกลับออกไปได้อีกงั้นรึ”

 

  หลิงหยุนเพียงแค่ยิ้มเล็กน้อย“เจ้าคนตระกูลเฉิน.. เจ้าชื่ออะไร”

 

  “ข้าคือเฉินไห่คุนในเมื่อท่านค้นพบสถานที่แห่งนี้แล้ว ท่านยังคิดว่าข้าจะปล่อยท่านกลับไปงั้นรึ”

 

  เฉินไห่คุนไม่เปิดโอกาสให้หลิงหยุนได้พูดก็สั่งการให้สังหารหลิงหยุนเสียแล้ว..

 

  “เฉินไห่คุน..”

 

  หลิงหยุนทวนชื่อเบาๆและในใจก็เกิดความคิดบางอย่างขึ้นมา..

 

  แทบไม่ต้องคิด..เฉินไห่คุนจะต้องเป็นผู้ที่ดูแลคฤหาสน์หลังนี้ และมีหน้าที่ดูแลสั่งการเหล่ายอดฝีมือทั้งหลายที่อยู่ในบ้าน

 

  แต่ระหว่างที่หลิงหยุนกำลังครุ่นคิดอยู่นั้นเฉินไห่คุนก็โบกมือไล่คนอื่นๆให้ถอยห่างไป พร้อมกับร้องตะโกนออกมาว่า

 

  “ทุกท่านหลบไป..คืนนี้ข้าจะเป็นคนสังหารมันเอง!”

 

  ยอดฝีมือขั้นเซียงเทียน-4กระโดดมายืนตรงหน้าหลิงหยุน พร้อมกับพุ่งหมัดเข้าใส่หน้าอกหลิงหยุนทันทีหวังให้เขาต้องกระอักเลือด..

 

  “ในเมื่อเจ้าต้องการ..”

 

  หลิงหยุนทำเสียงเย้ยหยันพร้อมกับยื่นหมัดของตนเองออกไปรับหมัดของเฉินไห่คุนในขณะที่ร่างของตนเองยังคงยืนนิ่งอยู่กับที่..

 

  เปรี้ยง!

 

  “โอ๊ย..”

 

  ทันทีที่สองหมัดปะทะกัน..แขนข้างขวาของยอดฝีมือขั้นเซียงเทียน-4 ก็ถึงกับแตกหัก..

 

  “อ๊าก..”

 

  ร่างของยอดฝีมือขั้นเซียงเทียน-4กระโดดถอยออกไปพร้อมกับกรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด เสียงของเขาโหยหวนราวกับไม่ใช่เสียงของมนุษย์

 

  ร่างของเฉินไห่คุนลอยละลิ่วออกไปหนึ่งในยอดฝีมือที่รายล้อมอยู่ยื่นมือออกไปรับร่างของเฉินไห่คุนที่ได้รับบาดเจ็บไว้ แต่ร่างของยอดฝีมือผู้นั้นก็ถึงกับถูกแรงกระแทกจนลื่นไถลออกไปราวเจ็ดแปดก้าวจึงหยุด สีหน้าของเขาถึงกับซีดเผือดในทันที!

 

  เมื่อได้เห็นเช่นนั้น..ทั้งเฉินไห่คุนและยอดฝีมือที่รายล้อมอยู่ต่างก็พากันตกใจ ทุกคนต่างก็หันไปมองหน้ากัน พร้อมกับคิดในใจว่าคนผู้นี้ถึงกับสามารถชกยอดฝีมือขั้นเซียงเทียน-4 ได้ในหมัดเดียว นี่เขาต้องแข็งแกร่งเพียงใดกันจึงจะทำเช่นนั้นได้!

 

  ส่วนหลิงหยุนที่ทำให้ทุกคนในที่นั้นต่างพากันตกตะลึงก็ยังคงยืนนิ่งไม่เคลื่อนไหวเช่นเดิม!

 

  เฉินไห่คุนเหลือบมองพร้อมกับกัดฟันเดินไปหาชายชราผู้หนึ่งแล้วพูดขึ้นว่า“อาวุโสตู้.. ได้โปรดจัดการกับคนผู้นี้ด้วย! ตระกูลเฉินจะไม่ลืมบุญคุณท่านเลย!”

 

  ดังคำพูดว่า..ทหารรับใช้กองทัพ! ยอดฝีมือเหล่านี้ต่างก็กินดื่มอยู่บ้านตระกูลเฉิน อีกทั้งแต่ละสำนักต่างก็ได้รับข้าวของเงินทองที่ตระกูลเฉินเป็นผู้จัดหาให้ แน่นอนว่าคงไม่สามารถยอมล่าถอยในนาทีวิกฤติเช่นนี้ได้ ไม่เช่นนั้นหากกลับไปที่สำนัก ก็คงไม่พ้นต้องถูกลงโทษอย่างหนัก

 

  ชายชราที่ไม่สามารถคาดเดาอายุได้ผู้นี้เมื่อได้ฟังคำพูดของเฉินไห่คุน เพียงแค่พยักหน้าไม่พูดไม่จา และก้าวเดินออกมาด้านหน้าทันที

 

  “ข้า..ตู้เฉิงแห่งสำนักฉิงอี้ ต้องขอคำชี้แนะจากท่านแล้ว!”

 

  ตู้เฉิงไม่พูดพล่ามทำเพลงให้เสียเวลาอีกร่างของเขาพุ่งตรงเข้าไปหาหลิงหยุนทันที

 

  หลิงหยุนมองขั้นกำลังภายในของยอดฝีมือที่ชื่อตู้เฉิงไม่ออกจึงไม่กล้าที่จะประมาทหรือบุ่มบ่าม และเมื่อตู้เฉิงเข้ามาใกล้ หลิงหยุนจึงซัดออกไปอีกหนึ่งหมัด!

 

  หมัดปีศาจเถียนกัง!

 

  หมัดแข็งแกร่งทรงพลังทั้งสองหมัดปะทะกันอย่างรุนแรงร่างของหลิงหยุนยังคงยืนนิ่งไม่เคลื่อนไหว แต่ร่างของตู้เฉิงนั้นถูกแรงกระแทกจากหมัดของหลิงหยุนลอยละลิ่วออกไปอีกคน!

 

  “โอ้ว!”

 

  “นี่..ยอดฝีมือจากที่ใหนกัน!”

 

  ยอดฝีมือหลายคนต่างก็ร้องอุทานออกมาพร้อมกันทุกคนต่างก็รู้ดีว่าตู้เฉิงแห่งสำนักฉิงอี้นั้นเป็นปรมาจารย์คนหนึ่งเลยก็ว่าได้ วรยุทธและกำลังภายในของเขานั้นอยู่ในขั้นเซียงเทียน-6 แต่กลับพ่ายแพ้ให้กับหลิงหยุนได้อย่างง่ายดาย!

 

  ตู้เฉิงไม่ได้รับบาดเจ็บหลังจากที่ลุกขึ้นมาได้ เขาก็สะบัดข้อมือเบาๆ สีหน้าและน้ำเสียงก็เปลี่ยนไป..

 

  “นี่เจ้าเป็นใครกันแน่ใครเป็นคนส่งเจ้ามา?”

 

  “ไม่มีใครส่งข้ามาทั้งนั้น..ข้ามาที่นี่เพื่อช่วยคน! ข้าบอกแล้วว่าไม่ต้องการสังหารผู้ใด หากเจ้าปล่อยให้ข้าพาคนตระกูลหลิงออกไปจากที่นี่ ข้าจะไม่ทำร้ายพวกเจ้า..”

 

  เมื่อเฉินไห่คุนเห็นหลิงหยุนแข็งแกร่งถึงเพียงนี้ก็ถึงกับตกใจยิ่งขึ้นกว่าเดิม!เขารีบหันไปสั่งยอดฝีมือที่อยู่ข้างๆ

 

  “คนผู้นี้ฝีมือสูงส่ง..ข้าว่ากำลังภายในของมันคงจะต้องสูงกว่าเซียงเทียน-7 ทุกท่านบุกเข้าไปพร้อมกันเลยจะดีกว่า!”

 

  แต่แล้วจู่ๆตู้เฉิงก็ยกมือขึ้นห้ามพร้อมกับพูดขึ้นมาว่า“ไม่.. คนผู้นี้ยังไม่ถึงขั้นเซียงเทียน-7 ข้าจะจัดการกับมันเอง!”

 

  จากนั้น..ตู้เฉิงก็สูดลมหายใจลึก เขาบิดตัวเล็กน้อยก่อนจะเดินเข้าไปหาหลิงหยุนเพื่อลงมืออีกครั้ง!

 

  หลิงหยุนอยู่ในท่ายืนเอามือไพล่หลังและกำลังรอคอยตู้เฉิงที่ก้าวเข้ามาตรงหน้าอย่างเงียบๆ แต่แล้วจู่ๆ ก็ฟาดฝ่ามือที่รุนแรงและรวดเร็วออกไปทันที!

 

  ฝ่ามือสวรรค์!

 

  ปัง!ปัง!

 

  ฝ่ามือทั้งสองข้างของหลิงหยุนฟาดใส่ร่างของยอดฝีมือสองคนที่พุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็วก่อนจะฟาดใส่ร่างของตู้เฉิงเป็นรายต่อไป

 

  ร่างผอมบางของตู้เฉิงลอยละลิ่วออกไปอีกครั้งและพุ่งกระแทกเข้ากับร่างของยอดฝีมืออีกเจ็ดแปดคนที่ยืนอยู่ ทุกคนต่างก็กรีดร้องออกมาเสียงดัง!

 

  ฝ่ามือสวรรค์ของหลิงหยุนนั้นรุนแรงและทรงพลังยิ่งกว่าหมัดปีศาจเถียนกังหลายสิบเท่า และยากที่ใครจะสามารถต้านทานได้ และเมื่อไหร่ก็ตามที่ใช้ฝ่ามือสวรรค์ พลังในการทำลายล้างก็จะสูงมาก!

 

  ยอดฝีมือสองคนที่เพิ่งถูกฝ่ามือที่มีพลังหยิน-หยางของหลิงหยุนเข้าไปนั้นเส้นลมปราณภายในร่างกายถึงกับถูกทำลายในทันที และครั้งนี้หากไม่ใช่เพราะตู้เฉิงได้รวบรวมลมปราณทั้งหมดปกป้องจุดตันเถียนของตนเองไว้ได้แล้วล่ะก็ วิชาของเขาที่ฝึกฝนมาก็คงต้องถูกหลิงหยุนทำลายจนหมดสิ้นแล้ว!

 

  ใบหน้าของตู้เฉิงซีดเผือดและถึงกับกระอักเลือด เขาจ้องมองหลิงหยุนที่ยังคงยืนนิ่งอยู่หน้ากระท่อม ตู้เฉิงรับรู้ได้ถึงฝ่ามือร้อนและเย็นอันแข็งแกร่งที่ยากจะต้านทานได้ของผู้ที่ยืนอยู่ตรงหน้า และในใจถึงกับสั่นไหวด้วยความกลัว!

 

  ‘ลมปราณที่ปกป้องร่างกายของยอดฝีมือขั้นเซียงเทียน-6ไม่เลวเลยทีเดียว!’

 

  “แน่แล้ว!นี่ไม่ใช่กำลังภายในของยอดฝีมือขั้นเซียงเทียนอย่างแน่นอน! แต่เป็นความแข็งแกร่งแบบใหนกัน.. ช่างน่ากลัวยิ่งนัก!”

 

  เฉินไห่คุนมองดูตู้เฉิงที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการรับมือกับหลิงหยุนเพียงแค่สองครั้งตัวเขาเองนั้นไม่สามารถต่อกรกับหลิงหยุนได้อย่างแน่นอน ดวงตาของเฉินไห่คุนเบิกโพลงพร้อมกับร้องตะโกนออกไปราวกับคนคลุ้มคลั่ง

 

  “เร็วเข้าทุกคน..อย่าให้มันหนีออกไปได้! ทุกท่านบุกเข้าไปพร้อมๆกันเลย!”

 

  ความลับเรื่องนี้ของตระกูลเฉินไม่อาจให้แพร่งพรายออกไปได้ไม่เช่นนั้นตระกูลเฉินคงต้องแย่แน่ๆ และเขาคงไม่สามารถที่จะกลับไปอธิบายอะไรให้กับน้องชายคนที่สองซึ่งเป็นผู้นำตระกูล และเหล่าอาวุโสของตระกูลฟังได้ ดังนั้นเฉินไห่คุนจึงจำเป็นต้องรีบจัดการกับหลิงหยุนให้เร็วที่สุด!

 

  ยอดฝีมืออีกสี่ห้าคนต่างก็พุ่งเข้าหาหลิงหยุนพร้อมกันในมือของพวกเขามีทั้งกระบี่ ดาบและอาวุธที่ตนเองถนัด ต่างก็ทิ่มแทงเข้าใส่หลิงหยุนกันอย่างบ้าคลั่ง!

 

  “พวกเจ้ารนหาที่ตายชัดๆ!”

 

  หลิงหยุนไม่รอช้า..เขาเรียกกระบี่โลหิตแดนใต้ออกมาทันที และเพียงแค่ดาบเดียวของหลิงหยุน ก็สามารถตัดกระบี่ และดาบในมือของยอดฝีมือทั้งห้าคนได้ อีกทั้งพลังหยินที่เย็นยะเยือกซึ่งกระจายสู่ตัวกระบี่โลหิตแดนใต้นั้น ก็ฟันเข้ากับร่างของยอดฝีมือทั้งห้าคนขาดในทันทีจนเลือดไหลนองเต็มพื้นไปหมด!

 

  “ระวังกระบี่นั่น..”ยอดฝีมือบางคนที่สายตาว่องไวถึงกับร้องอุทานออกมา!

 

  “นั่น.. นั่นมันกระบี่โลหิตแดนใต้! มันเป็นคนของพรรคมาร มันมีกระบี่โลหิตแดนใต้อยู่ในมือ!” ยอดฝีมือหลายคนร้องออกมาเสียงดัง!

 

  หลิงหยุนได้แต่นึกเย้ยหยันอยู่ในใจ‘ไร้สาระสิ้นดี! ใครถือกระบี่โลหิตแดนใต้ก็ต้องกลายเป็นคนของพรรคมารงั้นรึ หากข้าถือปังตอ คงต้องกลายเป็นพ่อค้าขายหมูสินะ!?’

 

  “ในเมื่อเป็นคนของพรรคมาร..ทุกคนจะมัวนิ่งอยู่ทำไม รีบสังหารมันทิ้งซะ!”

 

  ยอดฝีมือมากกว่าสิบคนต่างก็ร้องตะโกนออกมาเสียงดังและต่างก็ถืออาวุธในมือพุ่งเข้าหาหลิงหยุน แต่ละคนต่างก็ใช้วิชาที่ตนเองถนัดเข้าจู่โจมหลิงหยุน!

 

  ‘ข้าอยากจะไว้ชีวิตพวกเจ้า..แต่พวกเจ้ากลับวิ่งเข้ามาหากระบี่ของข้าเอง!’

 

  หลิงหยุนได้แต่นึกเย้ยหยันอยู่ในใจเขากวัดแกว่งกระบี่โลหิตแดนใต้ใส่กลุ่มยอดฝีมือที่พุ่งเข้ามาไม่หยุด กระบี่วิเศษในมือของหลิงหยุนเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วราวกับมังกรดำร่ายรำ และตัดร่างของยอดฝีมือสิบกว่าคนที่จู่โจมเข้ามาได้ง่ายดายราวกับผัก.. และเวลานี้บริเวณนั้นก็เต็มไปด้วยเลือดสดๆที่กำลังไหลเจิ่งนอง

 

  เมื่อเหตุการณ์สงบหลิงหยุนยังคงยืนนิ่งอยู่ที่หน้าประตูกระท่อมสีดำ และในมือซ้ายถือกระบี่ชี้ไปข้างหน้าพร้อมกับจ้องมองเหล่ายอดฝีมือที่ร้องคร่ำครวญโหยหวนอยู่บนพื้นด้วยแววตาเหยียดหยัน

 

  “อาวุโส..ท่านทำเกินไปจริงๆ! เพียงแค่ต้องการช่วยคน แต่กลับฆ่าคนมากมายถึงเพียงนี้ วันนี้ท่านทำเกินไปแล้ว!”

 

  เสียงพูดดังขึ้นและร่างของยอดฝีมือขั้นเซียงเทียนสองคนก็กระโดดเข้ามา หลิงหยุนไม่สามารถมองเห็นขั้นกำลังภายในของทั้งคู่ได้

 

  “งั้นรึเจ้าไม่ห้ามพวกเขา แต่กลับมาโทษว่าข้าสังหารคนไปมากมาย ในเมื่อเจ้ากล่าวหาข้าเช่นนี้ ข้าก็จะไม่ปราณีเจ้า!”

 

  หลิงหยุนยิ้มเล็กน้อยพร้อมกับคิดว่า..มันต้องตาย!