ตอนที่ 350 ความสำคัญ

บุตรอสูรบรรพกาล

ตอนที่ 350

ความสำคัญ

“ได้มาคนเดียวเนี่ยนะ”องค์ชายกู่หานถามพลางมองชิงชิวที่โดนมัดเอาไว้กับเสาภายในวังขององค์ชายกู่ มันสั่งให้คนของมันพาผู้ติดตามทั้ง 2 คนขององค์หญิงไป๋หลินมา แต่กลับได้เพียงคนเดียว แถมเจ้า 4 คนที่เหลือยังโดนจัดการไปแล้วอีกต่างหาก

“ขออภัยด้วยขอรับองค์งชาย ข้าจัวตัวเจ้าเด็กนี่ออกมาได้ก็ถอนตัวออกมาเลย ไม่ทราบจริงๆว่าทำไมพี่ๆถึงได้โดนจัดการได้”ชายที่จับตัวชิงชิวรายงาน

“ช่างมัน ว่าแต่เจ้านี่จะมีค่าพอให้องค์หญิงมาช่วยหรือเปล่า”องค์ชายกู่หานถามพลางมองชิงชิวด้วยท่าทีพิจารณา ความจริงอายุเท่านี้นับว่าชิงชิวมีพลังวิญญาณสูงทีเดียว จะเรียกว่าอัจฉริยะก็ไม่ผิด เพียงแต่ตอนนี้มันยังไม่สามารถนับเป็นกำลังรบที่มีค่าได้

“หึ…”ชิงชิวส่งเสียงในลำคออกมาพลางยิ้มบางๆ

“เสียใจด้วย ข้ามันก็แค่ทหารกระจอก จับข้าไปก็ไม่ทำให้อาณาจักรไป๋สะเทือนหรอก”ชิงชิวว่าพลางมองไปรอบๆ วังของอาณาจักรกู่นับว่างดงามไม่แพ้อาณาจักรอู๋เลย แต่หากเทียบกับวังทองของท่านน้าไก่ฟ้าคงเทียบกันไม่ติดกระมัง มันไม่ทราบหรอกว่าอาณาจักรกู่มีกำลังคนมากมายแค่ไหน แต่มันได้เห็นทัพอสูรและทัพมนุษย์ของอาณาจักรไป๋แล้ว ไม่มีทางแพ้อาณาจักรไหนอย่างแน่นอน

“เดี๋ยวก็รู้ ข้าไม่เชื่อหรอกว่าคนสนิทที่ติดตามองค์หญิงมาจะไม่มีค่าอะไรเลย เอามันไปขัง”องค์ชายกู่หานว่าพลางเตะเข้าที่ท้องของชิงชิวไปทีหนึ่ง น่าเสียดายที่องค์ชายไม่ใช่ผู้ฝึกฝนพลังวิญญาณ แรงเตะของมันเบาหวิวกว่าปุยนุ่นเสียอีก

ปึง!! ชิงชิวโดนลากเข้ามาขังในกรงโลหะพร้อมมัดร่างของมันเอาไว้ด้วยโซ่ให้มั่นใจว่ากำลังระดับชิงชิวไม่สามารถหลุดออกมาได้

“อยู่เงียบๆล่ะ แล้วก็ไม่ต้องคิดว่าจะมีใครมาช่วยเจ้าด้วย”ชายที่นำตัวชิงชิวมาขังพูดพลางปิดประตูกรงขังช้าๆ

“อาณาจักรเฉินและอินเป็นพันธมิตรกับอาณาจักรกู่เรา กองทัพของอาณาจักรเจ้าไม่มีทางเดินทางมาถึงอาณาจักรกู่แน่ๆ เจ้าจงภาวนาให้องค์หญิงของเจ้ามาก้มกราบองค์ชายกู่หานเร็วๆก็พอ”พูดจบชายคนนั้นก็เดินจากไป ทำเอาชิงชิวได้แต่กัดฟันกรอด แต่สักพักมันก็ถอนหายใจออกมา ไม่มีทางที่องค์หญิงจะต้องลดเกียรติตัวเองลงมาช่วยคนอย่างมันหรอก เด็กแบบมันนั้นสามารถหามาทดแทนไม่ยากอยู่แล้ว

วูม…แม้จะไม่ทราบว่าจะหนีไปจากที่นี่อย่างไร แต่ชิงชิวก็ไม่คิดจะนอนรอความตาย มันเพ่งสมาธิฝึกฝนวิชาเทวะปราบมารที่มันท่องจำเสียขึ้นใจ จนกระทั่งเวลาล่วงเลยผ่านไปหลายวัน ชิงชิวถึงได้สัมผัสถึงกลิ่นแปลกๆภายในห้องขังแห่งนี้

กลิ่นที่ชิงชิวสัมผัสได้เป็นกลิ่นที่คุ้นเคยในอาณาจักรไป๋ แต่กลิ่นแบบนี้แทบจะไม่เจอในอาณาจักรอื่นเลย มันคือกลิ่นของอสูรนั่นเอง

กึก…อยู่ๆประตูกรงของชิงชิวก็ถูกเปิดออกทั้งๆที่ไม่มีใครอยู่ตรงนั้นแท้ๆ

“อสูร….”ชิงชิวขมวดคิ้วพลางมองภาพตรงหน้าด้วยท่าทางงุนงง หากมันไม่ได้กลิ่นละก็คงคิดว่าผีแน่ๆ

“ทราบด้วยหรือขอรับ”หลังจากชิงชิวทักออกไป อยู่ๆแมงมุมตัวหนึ่งก็ปรากฏขึ้นเบื้องหน้าชิงชิว ก่อนที่เจ้าแมงมุมตัวนั้นจะเปลี่ยนร่างกายตนเองให้กลายเป็นมนุษย์ที่กำลังสวมเครื่องแบบของอาณาจักรไป๋อยู่

“ท่านเป็นคนของทัพอสูรสินะขอรับ”ชิงชิวประหลาดใจปนดีใจอย่างมากที่มีคนมาช่วย ความจริงมันบอกตนเองเอาไว้อยู่แล้วว่าคงไม่มีใครมาช่วยแน่ๆ แต่ใจลึกๆของมันก็แอบหวังเช่นกันว่าจะมีคนมาช่วยเอาไว้

“ข้ารับคำสั่งจากองค์จักรพรรดิให้มาช่วยเหลือท่านขอรับ”อสูรแมงมุมตรงหน้าพูดพลางยิ้มบางๆ

“องค์จักรพรรดิ..ให้มาช่วยข้างั้นหรือ”ชิงชิวอึ้งไปเมื่อได้ยินเช่นนั้น ไม่นึกว่าองค์จักรพรรดิจะสั่งมาด้วยตนเอง

“ขอรับ ท่านบอกว่าคนที่จะตามองค์หญิงได้มีแต่ท่านเท่านั้นขอรับ”อสูรแมงมุมตอบพลางเลื่อนมือไปปลกโซ่ของชิงชิวออก

“งั้นหรือ…”ชิงชิวอึ้งไปครู่ใหญ่ ที่ขอบตาของมันมีน้ำตาไหลออกมาน้อยๆด้วยความซาบซึ้ง

“แน่นอนขอรับ ไม่อย่างนั้นองค์จักรพรรดิคงไม่ส่งรองขุนพลอย่างข้ามาหรอกขอรับ”อสูรแมงมุมว่าพลางยิ้มกว้าง ตัวมันนั้นอยู่ในกองทัพของขุนพลกิ้งก่า มีความสามารถเปลี่ยนสีตนเองให้เหมือนสภาพแวดล้อมรอบๆได้ จึงเหมาะกับงานลอบเร้นมาก

“รองขุนพล!!”ชิงชิวอึ้งหนักกว่าเดิม ไม่นึกว่าองค์จักรพรรดิจะส่งอสูรระดับรองขุนพลมาเลย

“ท่านชิงชิวเอาผ้านี้คลุมร่างกายเอาไว้ขอรับ”อสูรแมงมุมว่าพลางเอาผ้าผืนหนึ่งออกมาจากมิติของตนเอง มันคือผ้าที่สร้างจากใยแมงมุมของมันเอง

“สิ่งนี้คือ…”ชิงชิวมองผ้าตรงหน้าด้วยท่าทีงุนงง ผ้าผืนนี้เป็นสีขาวล้วน ขืนคลุมไปทั้งๆแบบนี้ไม่เด่นสะดุดตาไปหรือ

“ไม่ต้องห่วงขอรับ ใยของข้ามีความสามารถเปลี่ยนสีได้เหมือนตัวข้าขอรับ ตราบใดที่ข้ายังจับใยแมงมุมเอาไว้มันจะล่องหนหายไปเหมือนตัวข้าเลยขอรับ”อสูรแมงมุมตอบพลางหายตัวไปต่อหน้าต่อตาชิงชิว หากมันไม่ได้กลิ่นละก็คงนึกว่าอสูรแมงมุมหายตัวไปแล้วแน่ๆ

“ขอบคุณ”ชิงชิวตอบพลางเอาผ้าของอสูรแมงมุมมาคลุมตัวเอาไว้ เมื่ออสูรแมงมุมยื่นมามาแตะผ้าคลุมทั้งตัวผ้าคลุมทั้งตัวชิงชิวก็ล่องหนหายไปในทันที

“เกือบลืมไป กินยานี้เอาไว้นะขอรับ มันจะช่วยปิดบังพลังวิญญาณของท่านได้”อสูรแมงมุมว่าพลางยื่นเม็ดยาเม็ดหนึ่งให้ชิงชิว มันเป็นยาที่ช่วยกดพลังวิญญาณเอาไว้ ซึ่งมันจะทำให้คนรอบๆสัมผัสพลังวิญญาณของชิงชิวไม่ได้ แต่ก็ทำให้ชิงชิวใช้พลังวิญญาณไม่ได้เช่นกัน

“ขอรับ”ชิงชิวตอบพลางเอายาเข้าปาก ตอนนี้มันมีแต่ต้องเชื่อใจอสูรแมงมุมเท่านั้น

“งั้นไปเลยนะขอรับ”อสูรแมงมุมว่าพลางกลายร่างเป็นแมงมุมแล้วใช้ใยแมงมุมมัดตัวชิงชิวเอาไว้กับตัวมันเพื่อความสะดวกในการเดินทาง

“……..”ชิงชิวที่อยู่ภายในผ้าคลุมที่ทำจากใยของอสูรแมงมุมในเต้นตุ้มๆต่อมๆอย่างช่วยไม่ได้ ตัวมันแม้จะมองจากภายในไม่เห็น แต่ก็สัมผัสกลิ่นภายนอกได้ มันมั่นใจว่าตอนนี้พวกมันออกมาจากคุกแล้ว แถมรอบๆตัวมันยังมีคนเดินเพ่นพ่านอีกจำนวนมากเลยทีเดียว นับว่าความสามารถของอสูรแมงมุมตนนี้นับว่าน่ากลัวจริงๆ มันเดินผ่านกลุ่มทหารเดินออกทางประตูหน้าอย่างกับแขกผู้มีเกียรติไม่มีผิด

ตึง! อยู่ๆชิงชิวก็ได้ยินเสียงประตูปิดตัวลง ก่อนที่ใยแมงมุมของอสูรแมงมุมจะหายไป ทำให้ชิงชิวสามารถลุกขึ้นยืนจากหลังของอสูรแมงมุมได้

“ท่านชิงชิว แหวนมิติของท่านคือวงไหนหรือขอรับ”อสูรแมงมุมถามก่อนที่ชิงชิวจะเปิดผ้าคลุมออกมา ตอนนี้พวกมันอยู่ในห้องที่เหมือนห้องเก็บของ โดยตรงหน้าพวกมันมีแหวนที่วางอยู่บนโต๊ะเอาไว้ 5 วง ท่าทางจะเป็นของนักโทษเหมือนชิงชิวนั่นเอง

“วงนี้”ชิงชิวว่าพลางเก็บเอาแหวนมิติของตนเองคืนมา ตอนนี้มันยังใช้พลังวิญญาณไม่ได้ก็เลยตรวจสอบของภายในไม่ได้ คงได้แต่หวังว่าจะไม่มีอะไรหายไปเท่านั้น

“เท่านี้ก็ออกไปได้แล้วขอรับ”อสูรแมงมุมถอนหายใจพลางมัดร่างของชิงชิวเอาไว้บนหลังอีกครั้ง ก่อนจะเดินออกไปจากห้องเก็บของ

ตุบ……อยู่ๆชิงชิวก็ได้ยินเสียงเหมือนมีอะไรบางอย่างตกลงมาบนพื้น แน่นอนว่าไม่ใช่ของชิงชิว แต่เป็นเสียงของคนๆหนึ่งที่กระโดดลงมาขวางหน้าอสูรแมงมุมเอาไว้เท่านั้นเอง

“ชิบ!”อยู่ๆอสูรแมงมุมก็สบถออกมาด้วยท่าทีตกใจ มันกระโดดถอยหลังออกมาจนผ้าที่คลุมร่างของชิงชิวเอาไว้เลิกขึ้นจนชิงชิวมองเห็นด้านนอก ตรงหน้าอสูรแมงมุมปรากฏชาย 3 คนยืนอยู่โดยชายตรงกลางนั้นกำลังหลับตาอยู่

“เนตรจิต?”ชิงชิวอุทานออกมาด้วยท่าทีตกใจ ไม่นึกว่าจะมาเจอผู้ใช้เนตรจิตที่นี่ พวกมันเป็นเหมือนศัตรูโดยธรรมชาติของอสูรที่มีความสามารถเปลี่ยนสีหายตัวได้ เพราะการเปลี่ยนสีไม่มีผลกับพวกมัน

เปรี้ยง!!! อสูรแมงมุมไม่รอช้าพุ่งพรวดเข้าไปหาชายคนนั้นทันที แม้จะไม่สามารถหายตัวได้แต่มันก็ยังเป็นอสูรระดับมายาขั้นที่ 10 อยู่ดี มันไม่มีทางมาโดนจับง่ายๆแน่ๆ

“จับมัน”ชายที่ใช้เนตรจิตสั่งพลางรับใช้สอบมือรับร่างของอสูรแมงมุมเอาไว้ หากจัดการชายคนนี้ได้ก็ไม่ต้องห่วงเรื่องโดนเจอตัว แต่น่าเสียดายชายคนนี้กลับเป็นชนชั้นยอดฝีมือเสียด้วย

“ท่านชิงชิว..”อสูรแมงมุมว่าพลางปล่อยพลังอสูรออกมา

“เกาะเอาไว้แน่นๆนะขอรับ”อสูรแมงมุมว่าพลางกระโดดถอยหลังออกมา แม้คนตรงกลางที่ใช้เนตรจิตจะสัมผัสตัวตนของอสูรแมงมุมได้ แต่อีก 2 คนที่เหลือไม่สามารถทำได้ อสูรแมงมุมเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วป่วนการโจมตีของทั้ง 2 จนขยับไปไหนไม่ได้

วูบ…..วูบ…… อสูรแมงมุมเคลื่อนไหวเร็วขึ้นๆจนชิงชิวต้องเกาะเอาไว้แน่นๆอย่างที่มันขอ สมกับเป็นอสูรระดับมายาขั้นที่ 10 ร่างของมันพุ่งไปมาวูบวาบอย่างกับภาพลวงตา ไม่นานชายอีก 2 คนที่เหลือก็เริ่มรับมือไม่ไหวเพราะจับทางไม่ถูก

“อากกก”ชายคนหนึ่งร้องออกมาเมื่อโดนฟันของอสูรแมงมุมกัดเข้าให้ที่ลำคอของมันอย่างจังเท่ากับจัดการศัตรูไปได้หนึ่งคน

เปรี้ยง!!! ร่างของอสูรแมงมุมโดนโจมตีเข้าอย่างจังจากกระบี่ของชายที่ใช้เนตรจิต ไม่ว่าจะอย่างไรเนตรจิตสำหรับมันก็น่ารำคาญจริงๆ

ฟุบ!! ร่างของอสูรแมงมุมทะยานใส่ร่างของผู้ใช้เนตรจิต ก่อนจะใช้ความเร็วสูงสุดหายวับไปกับตาไปโผล่ที่ด้านหลังของชายที่ใช้เนตรจิต

“หนอย”ชายคนนั้นคำรามออกมาพลางหันมารับการโจมตีของอสูรแมงมุมอย่างรวดเร็ว เนตรจิตของชายคนนี้ไม่เลวเลย รู้แม้กระทั่งการโจมตีจากด้านหลังด้วย

เปรี้ยงๆๆ ดาบของชายอีกคนหนึ่งฟาดลงมาบนร่างของอสูรแมงมุม แต่นอกจากสร้างความเสียหายแล้วผ้าคลุมที่มันเอามาให้ชิงชิวยังโดนฟันขาดอีกต่างหาก ทำให้ยามนี้เห็นร่างของชิงชิวบนหลังของมันอย่างชัดเจน

“เท่านี้ก็มองเห็นแล้ว”ชายคนนั้นพูดพลางยิ้มออกมา การมีชิงชิวบนหลังของอสูรแมงมุมก็เท่ากับว่ามีจุดด่างดวงเบอเริ่มบนหลังของมันนั่นเอง