เทพสงครามพิทักษ์โลก บทที่ 445
เขารู้ดี หยางเฟิงตั้งใจจะฆ่าเขา!

ระหว่าตระกูลหลันและหยางเฟิง เกรงว่าต้องสู้กันให้ตายไปข้าง…

หลันจื่อกล่าวอย่างตกตะลึง : “พ่อคะ พวกเราไม่ได้เกลียดชังไม่ลงรอยกับเขา? ทำไมเขาต้องต่อกรกับเราด้วย?”

แม้ว่าพวกเขาจะเคยเยาะเย้ยหยางถากถางเฟิงมาก่อน

แต่ก็คงไม่ถึงขนาด ทำให้หยางเฟิงอยากจะฆ่าล้างตระกูลหลันขนาดนี้ไหม?

ทุกคนว่าอย่างไร อย่างไรเสียก็เป็นญาติกัน

หรือว่าหยางเฟิงไม่สนใจเลยว่าโลกนี้จะคิดเห็นอย่างไร?

“เหอะๆ! ไม่ได้เกลียดชังไม่ลงรอย?”

หลันเฟิงแค่นหัวเราะแล้วกล่าวอย่างจนใจ : “หยางเฟิงมีสมญานามว่าราชาตงไห่! ตอนนี้หม่าตงคือตัวพ่อแห่งพื้นที่สีเทาในตงไห่ มันคือหุ่นเชิดของหลันเฟิง ตระกูลหลันของเราเข้าไปแทรกแซงพื้นที่สีเทาของตงไห่ ก็เท่ากับไปแย่งชิ้นเค้กของหยางเฟิง แกว่ามันปล่อยพวกเราไปไหมล่ะ?”

การที่ตระกูลหลันกลายเป็นตระกูลชั้นหนึ่งในตงไห่ได้

นอกจากจะอาศัยอิทธิพลของตระกูลเย่แล้ว

สาเหตุส่วนใหญ่มาจากการที่ตระกูลหลันได้กอบโกยผลประโยชน์จากพื้นที่สีเทาไปจำนวนมาก

ควรรู้ไว้ว่า

ตอนนี้พื้นที่สีขาวในตงไห่ แทบจะเป็นเขตในปกครองของตระกูลเย่แล้ว

เฟิงเมิ่งกรุ๊ปเป็นบริษัทอันดับหนึ่งของตงไห่

เข้าไปมีส่วนในอุตสาหกรรม ขยายไปแล้วสิบกว่าอย่าง

แล้วยิ่งไปกว่านั้นในขอบเขตเหล่านั้น ล้วนเป็นตัวพ่อสุดๆ

บริษัทอื่นๆแข่งขันกับเฟิงเมิ่งกรุ๊ปไม่ได้โดยสิ้นเชิง

แค่สามารถอาศัยการพัฒนาของเฟิงเมิ่งกรุ๊ป!

ก็นับว่าหลันซื่อกรุ๊ปของตระกูลหลัน ตอนนี้ก็พึ่งพาการดูแลของเฟิงเมิ่งกรุ๊ป

ถึงจะสามารถมีตำแหน่งสูงในตงไห่ได้!

ดังนั้นหากตระกูลหลันอยากจะแข่งขันกับตระกูลเย่ในเขตพื้นที่สีขาว มันเป็นไปไม่ได้อย่างสิ้นเชิง!

ตระกูลหลันมองได้เพียงพื้นที่สีเทาเท่านั้น

ในทุกๆปีทั้งกาสิโน ธนาคารใต้ดิน เงินกู้ดอกสูง ไนท์คลับทั้งหลาย ไปจนถึงธุรกิจที่แสงส่องไม่ถึง นำกำไรกว่าหนึ่งพันล้านมาสู่ตระกูลหลัน!

ผลประโยชน์มหาศาลเช่นนี้

ใครจะไม่ปรารถนา?

ใครจะไม่ตาลุกวาว?

แล้วหม่าตงที่มีสมญานามว่าเจ้าพ่อใต้ดินแห่งตงไห่ ก็เป็นหุ่นเชิดของหยางเฟิง

ตระกูลหลันทำเช่นนี้ ก็เท่ากับทำลายผลประโยชน์ของหยางเฟิง!

จริงๆแล้ว หลันเฟิงคิดผิดไป

สถานะความมั่งคั่งของหยางเฟิง แม้แต่เฟิงเมิ่งกรุ๊ปก็ไม่ได้อยู่ในสายตาเขา นับประสาอะไรกับพื้นที่สีเทาในตงไห่ที่ไม่สำคัญ

เขาต้องการต่อกรกับตระกูลหลัน

เพราะตระกูลหลัน ทำความชั่วมากมาย และทำให้ประชาชนเดือดร้อน!

สถานะของหยางเฟิงเป็นถึงเทพสงครามพิทักษ์โลกแห่งต้าเซี่ย

จะทนได้อย่างไรกับการมีอยู่ของเนื้อร้ายอย่างตระกูลหลัน?

จะปล่อยให้พวกเขาเป็นอันตรายต่อชีวิตผู้คนในตงไห่ต่อไปได้อย่างไร?

ตระกูลหลัน——

เขาต้องกำจัดมันให้ได้!

“ทำอย่างไรดี? ทำอย่างไรดี? หรือว่าพวกเราต้องถูกมัดมือรอความตายอย่างนี้หรือ?”

ได้ยินดังนั้น หลันจื่อก็ตกใจหวาดกลัว

เธอกลัวจริงๆ!

อย่ามองว่าก่อนหน้านี้หลันจื่อเยาะเย้ยถากถางหยางเฟิง

แต่หลังจากประสบพบเจอเรื่องราวต่างๆมากมาย

เธอก็รู้ว่าหยางเฟิง มีต้นทุนที่หยิ่งทะนง!

หลันจื่อยังอายุน้อย

เธอไม่อยากตายตั้งแต่ยังเด็ก!

“ทำไงดีคะ? ตอนนี้พวกเราทำได้แค่…” หลันเฟิงพูดยังไม่ทันจบ

โจวห้าวรีบร้อนวิ่งเข้ามา

“พ่อครับ! แย่แล้ว! แย่แล้วครับ!”

เห็นท่าทางโจวห้าวร้องตะโกน หลันเฟิงเหลือบมองเขา ใบหน้าเต็มไปด้วยความผิดหวัง แล้วพูดอย่างไม่พอใจ : “ในฐานะลูกเขยของตระกูลหลันของฉัน ทำท่าทางอย่างนี้ได้อย่างไร?”

แต่ก่อน หลันเฟิงก็ยังพอใจในตัวโจวห้าวเป็นอย่างมาก

รู้สึกว่าการที่ให้ลูกสาวแต่งงานกับเขา นับว่าแต่งถูกคนแล้ว

แต่!

แต่ตอนนี้เมื่อเทียบกับหยางเฟิงแล้ว โจวห้าวเป็นเพียงกองปฏิกูลเท่านั้น!

เป็นลูกเขยเหมือนกัน

คนหนึ่งเป็นลูกเขยของตระกูลหลัน

อีกคนเป็นลูกเขยของตระกูลเย่

ทำไมถึงได้แตกต่างกันมากขนาดนี้นะ?

ถ้าโจวห้าวเป็นได้สักครึ่งหนึ่งของหยางเฟิง

ตระกูลหลันของพวกเขาคงสามารถครองตงไห่ทั้งหมดได้แล้ว!

หลันเฟิงกล่าวอย่างไม่พอใจ : “พูดมาสิ ตกลงเกิดอะไรขึ้น?”

“เอ่อ คือ…”

โจวห้าวอ้ำๆอึ้งๆ ไม่กล้าเอ่ยปาก