เทพสงครามพิทักษ์โลก บทที่ 444
สำหรับความเย่อหยิ่งไร้หลักการและเหตุผลของหลันซิน
เย่เมิ่งเหยียนก็รู้สึกจนใจจริงๆ
เธอสูดลมหายใจเข้าลึก พูดด้วยใบหน้าเย็นชา : “แม่คะ แม่อย่าไปหาเรื่องทะเลาะแบบไร้เหตุผล หรือทำให้หยางเฟิงขุ่นเคืองอีกเลยค่ะ แม่คิดว่าชีวิตแม่ตอนนี้ดีนักหรือคะ? แม่ต้องจำไว้ว่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่แม่มีในตอนนี้ก็มาจากหยางเฟิงทั้งนั้น!”
“ถ้าสักวันหนูหย่ากับหยางเฟิง ตระกูลเย่ก็จะไม่เป็นตระกูลเย่อย่างทุกวันนี้หรอกค่ะ แล้วแม่ก็จะรู้สึกเสียใจทีหลังอย่างที่สุด!”
“แล้วก็ หนูรักหยางเฟิง! ชีวิตนี้ หนูจะไม่มีทางหย่ากับหยางเฟิง! หนูแยกจากเขาไม่ได้! ลูกสาวหนูก็แยกจากพ่อไม่ได้เหมือนกัน! ดังนั้น ทีหลังแม่อย่าพูดอย่างนี้อีกนะคะ ไม่งั้นอย่ามาว่าตอนที่หนูตัดแม่ตัดลูกนะ!”
พูดจบ
เย่เมิ่งเหยียนก็ตรงกลับห้อง
ปัง!
เสียงดังขึ้น
ประตูห้องปิดลงทันใด
เย่เมิ่งเหยียนไม่อยากพูดอะไรไร้สาระกับหลันซินอีกแม้แต่ประโยคเดียว
บางทีเธอก็คิดว่า หลันซินเป็นแม่แท้ๆของเธอจริงหรือเปล่า?
มีแม่ที่ผิดธรรมดาอะไรขนาดนี้จริงหรือ?
ถ้าแม่บังคับให้เธอหย่ากับหยางเฟิงจริง
เธอจะตัดแม่ตัดลูกกับหลันซินแบบไม่ลังเลเลย!
พอเห็นว่าเย่เมิ่งเหยียนก็ไม่สนใจเธอ หลันซินตกตะลึงอย่างที่สุด
ครู่เดียวหลังจากนั้น
หลันซินแผดเสียง ราวกับถูกเฉือด : “บ้า! บ้า! ทุกอย่างกลับตตาลปัตรไปหมด! ดูเหมือนฉันจะไม่มีที่ยืนในบ้านนี้แล้ว ไม่มีใครฟังคำพูดฉันสักคน”
“หึ่ยๆๆ! น่าโมโหจริงๆเลย!”
“พวกแกรอดู ฉันหลันซินไม่ใช่คนที่ใครจะมารังแกได้ เดี๋ยวเราจะได้เห็นดีกันแน่!”
หลันซินโกรธแทบบ้า กระฟัดกระเฟียดไร้เหตุผลไม่หยุด
คนใช้รอบๆเข้าหน้าไม่ติดกันเลย แต่ละคนต้องหลบซ่อนตัวให้ไกล
ในขณะเดียวกัน
ด่าว่าหยางเฟิงไป ก็ยังมีอีกคนหนึ่ง!
“ไอ้สารเลว!”
“หยางเฟิง ไอ้สารเลวนี่แกมันสมควรตาย!”
“ไปตายซะ! ไปตายซะ! ไปตายซะ!!!”
ณ คฤหาสน์ตระกูลหลัน
หลันเฟิงด่าคำโตไม่หยุด
ปัง!
ปัง!
ปัง!
วัตถุโบราณหายากที่มูลค่าสูงในห้องโถง
ถูกหลันเฟิงปัดลงพื้นด้วยความโกรธทีละชิ้นทีละชิ้นจนหมด
คนใช้ในตระกูลหลันทั้งหมดเงียบเหมือนจักจั่นในฤดูหนาว ไม่กล้าโผล่หน้าออกมา!
ก่อนหน้านี้ คนใช้ไม่ดูตาม้าตาเรือมาเทชา
ไม่ระวังทำน้ำชากระฉอกเล็กน้อย ผลสุดท้ายโดนหลันเฟิงสั่ง ให้ไปตายซะ!
หลันเฟิงในตอนนี้ โกรธจัด สองตาแดงก่ำ
ไอ้สารเลวหยางเฟิงนั่น บังคับให้เขาขอโทษคนชั้นต่ำอย่างโจวซู่เอ๋อร์ นี่นับว่าเป็นการข่มเหงกันเกินไปมาก!
โดยเฉพาะ
ครั้งนี้ ของขวัญที่หลันเฟิงส่งให้หลันซินหลายร้อยล้าน ยังต้องไปชดใช้ให้โจวซู่เอ๋อร์หนึ่งร้อยล้าน
นับเป็นความเสียหายมหาศาลทีเดียว!
“พ่อคะ อย่าโกรธไปเลยนะคะ! ดีที่หลันฮ๋าวรับผิดแทนพวกเราไปแล้ว หนูว่าหยางเฟิงคงไม่มาอะไรกับเราแล้วแหละค่ะ” หลันจื่อเข้าไปกล่าวปลอบประโลม
“แกน่ะไร้เดียงสาเกินไป!”
หลันเฟิงดุว่าอย่างโกรธเกรี้ยว : “แกคิดว่าหยางเฟิงมันจะปล่อยพวกเราตระกูลหลันไปง่ายๆหรือ? แกฝันไปเถอะ! หยางเฟิงมันไม่สนใจความสัมพันธ์เครือญาติ ไม่สนหน้าอิทร์หน้าพรหมณ์หรอกนะ!”
ได้ยินดังนั้น
หลันจื่อพลันตกใจ
เธอถามกลับด้วยใบหน้าขาวซีด : “พ่อคะ พ่อหมายความว่า หยางเฟิงจะไม่มีทางปล่อยเราไปหรือคะ?”
“เหอะ!”
หลันเฟิงส่งเสียงในลำคอ พูดด้วยน้ำเสียงกังวาน : “หยางเฟิงเป็นคนอย่างไร แกยังดูไม่ชัดหรือ? ไอ้คนๆนี้มันจิตใจอำมหิต มันกำจัดศัตรูแบบถึงรากถึงโคน ไม่ไว้หน้าแม้แต่นิดเดียว”
“แกดูสิ เย่กวง เย่ขวง หวางหลงดูจุดจบของคนพวกนี้ก็รู้แล้ว! เมื่อก่อนพวกนั้นมีอำนาจเทียมฟ้า ตอนนี้ล่ะ? ตายคามือหยางเฟิงกันหมด หญ้าหัวหลุมศพสูงประมาณสามเมตรแล้ว!”
สำหรับหยางเฟิง
หลันเฟิงเข้าใจอย่างดี
ครั้งนี้ตระกูลหลันเอาชีวิตรอดจากวิกฤตโดยไม่มีความเสี่ยงใดๆ
แต่ไม่ได้แสดงว่า หยางเฟิงจะปล่อยพวกเขาตระกูลหลันไปอย่างนี้
โดยเฉพาะคำเตือนสุดท้ายของหยางเฟิง ราวกับการโจมตีอย่างหนักหน่วง เข้าที่หัวใจของหลันเฟิงอย่างแรง