ตอนที่ 436: เจรจา

Crazy Leveling System

CLS ตอนที่ 436: เจรจา

 

เปลวเพลิงใต้พิภพที่น่าสะพรึง ภายใต้พลังดูดที่น่ากลัวของอี้เทียนหยุน ทำได้เพียงถูกเขาดูดเข้าไปอย่างเรียบๆ ร้อยๆ เท่านั้น ไม่ได้ทำอันตรายต่อคนอื่นเลยแม้แต่น้อย ทั้งยังมอบค่าประสบการณ์ให้กับเขาอีก แบบนี้มีเท่าไหร่เขาก็จะดูดเอามาให้หมด ดูดกลืนทุกอย่างเข้ามาในร่าง

 

“ท่านได้รับค่าประสบการณ์ 8.3 ล้าน, 8.4 ล้าน, 8.5 ล้าน, 8.48 ล้าน…..”

 

การดูดกลืนแต่ละครั้ง ทำให้เขาได้รับค่าประสบการณ์เป็นระดับล้าน นี่แน่นอนว่าต้องเป็นความดีความชอบของค่าประสบการณ์ 116 เท่า หากว่าดูดกลืนธรรมดา อย่างมากก็ได้ค่าประสบการณ์แค่ 7-8 หมื่น แต่ตอนนี้กลับได้ทีเป็นระดับหลายล้าน!

 

นี่คือความได้เปรียบของการมีบัตรเพิ่มค่าประสบการณ์ หากได้ค่าประสบการณ์จากการดูดแบบนี้เป็นประจำ การจะเลื่อนระดับย่อมไม่มีความยากแม้แต่น้อย พูดได้ว่าเป็นเรื่องที่ราบรื่นเลยทีเดียว

 

ภายใต้การดูดกลืนที่บ้าคลั่ง มังกรมืดตัวใหญ่ก็ทะยานหายเข้าไปในหลุมดำ หากมองไกลๆ จะเห็นเหมือนกับมันทะลุเข้าไปในร่างของเขา แต่กลับไม่ส่งผลอะไรต่อฝั่งตรงข้าม ดูราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

 

ก่อนหน้านี้พวกเขาได้ประสบกับการแสดงของอี้เทียนหยุนมาหลายครั้ง แต่ละครั้งล้วนแต่เป็นเรื่องที่ทำให้พวกเขาตกตะลึง ไม่มีเลยสักครั้งที่จะไม่ตกใจ ครั้งนี้เองก็เช่นกัน

 

เพราะว่าแต่ละครั้ง หากเทียบกับก่อนหน้า ล้วนแต่เป็นพลังที่แข็งแกร่งขึ้น มังกรมืดตัวนี้ก็เช่นกัน ขนาดมังกรมืดที่ทรงพลังขนาดนี้ ตอนนี้กลับมาถูกเขาดูดกลืนเข้าไป แล้วอย่างนี้จะไม่ให้ตกใจได้อย่างไง? หากเปลี่ยนเป็นคนอื่น เจออย่างนี้เข้าไปคงตายไปนานแล้ว จะยังมีชีวิตอยู่อีกอย่างงั้นเหรอ?

 

แต่ว่าอี้เทียนหยุนไม่แม้แต่จะขนหัวลุก กลับดูดกลืนพวกมันเข้าไปในร่างไม่หยุด โดยไร้ซึ่งแรงกดดัน

 

“แค่พอจะดูดกลืนได้แบบเต็มฝืนเท่านั้น ไม่สามารถดูดกลืนได้จนหมด” อี้เทียนหยุนรู้สึกว่าค่าประสบการณ์ของเขาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นการระเบิดขึ้นของค่าประสบการณ์เลยทีเดียว หากว่าเป็นอย่างนี้ต่อไป เขาจะต้องเก็บเกี่ยวค่าประสบการณ์ได้อีกก้อนใหญ่อย่างแน่นอน

 

หลังจากดูดกลืนต่ออีกไม่นานเท่าไหร่ มังกรมืดก็ไม่ได้กระโจนเข้ามาต่อ เห็นได้ชัดว่ามันสัมผัสได้ว่าไม่สามารถสร้างความเสียหายให้อี้เทียนหยุนได้แม้แต่น้อย ดังนั้นจึงเลือกที่หยุดการโจมตีไป

 

เมื่ออี้เทียนหยุนเห็นเปลวเพลิงใต้พิภพหยุดโจมตี เขาก็ทำสีหน้าไม่พอใจออกมา กับเปลวเพลิงใต้พิภพนี้ เป็นแค่เพียงการปะทะกันเล็กน้อย แต่ก็มอบค่าประสบการณ์ให้กับเขาเกือบจะร้อยล้าน การที่ได้ค่าประสบการณ์มากขนาดนี้ ใจความสำคัญอยู่ที่บัตรเพิ่มค่าประสบการณ์ที่ทบทวีเข้าด้วยกันอย่างสูง ไม่อย่างนั้น อย่างมากเขาก็ได้ค่าประสบการณ์เพียงครั้งละ 7-8 หมื่นเท่านั้น ทั้งต้องใช้เวลาดูดกลืนนานกว่าจะได้ค่าประสบการณ์เท่าปัจจุบัน

 

จากนั้น หลังจากที่เปลวเพลิงใต้พิภพนี้ถูกดูดกลืนเข้าไปกลุ่มใหญ่ ก็ทำให้มันดูอ่อนแอลงมาก ภายนอกสามารถเห็นขนาดที่เล็กลงของมันได้อย่างชัดเจน

 

“ไม่โจมตีแล้วเหรอ?” อี้เทียนหยุนยิ้มอย่างดูถูกออกมาครั้งหนึ่ง เขายังดูดไม่หนำใจเลย ยังอยากจะดูดต่ออีก แน่นอนว่ายิ่งมากยิ่งดี แต่ใครจะรู้ว่าเพิ่งจะปลดปล่อยการโจมตีออกมา อีกฝ่ายก็หยุดมือซะแล้ว

 

ที่จริงแล้ว นี่ก็ไม่สามารถใช้ได้ตลอดไป ในขณะเดียวกัน มังกรมืดก็ถูกเขาดูดกลืนไปมาก ทำให้เสียพลังงานไปเปล่าๆ แล้วอย่างนี้อีกฝั่งจะรู้สึกดีได้ยังไง?

 

“ไม่แปลกที่ราชครูจะถูกเจ้าสังหาร ก็พอมีความสามารถอยู่บ้าง” จักรพรรดิใต้พิภพยังไม่ยอมปรากฏตัว ยังคงซ่อนตัวอยู่พระตำหนัก หลังจากนั้น เขาก็พูดต่อว่า “ถือว่าเห็นแก่เจ้าที่มีระดับค่อนข้างดี ข้าจะให้โอกาสเจ้า หากว่าเจ้ายอมเข้าร่วมอาณาจักรใต้พิภพ ข้าจะมอบตำแหน่งเอกอัครราชทูตป้องกันอาณาจักรให้กับเจ้า เป็นผู้ที่มีฐานะต่อจากข้า ตราบเท่าที่ข้าไม่เอ่ยปาก เจ้าสามารถควบคุมขุมอำนาจไหนก็ได้ในอาณาจักรใต้พิภพแห่งนี้!”

 

“ส่วนเรื่องทรัพยากร ข้าก็ไม่ขอพูดมาก ตราบเท่าที่เจ้าเข้าร่วมกับอาณาจักรใต้พิภพของข้า ข้าจะมอบแผ่นดินครึ่งหนึ่งให้กับเจ้า!”

 

จักรพรรดิใต้พิภพยังคงส่งตัวล่อออกมาอย่างต่อเนื่อง ตราบเท่าที่เข้าร่วม ก็จะถือว่านั่งอยู่ฝั่งเดียวกับอาณาจักรใต้พิภพ แต่ถ้ามองจากอีกทางหนึ่ง นั่นหมายความว่าเขายอมรับในความแข็งแกร่งของอี้เทียนหยุน ไม่อย่างนั้น ด้วยอารมณ์ของจักรพรรดิใต้พิภพ ทำไมเขาถึงต้องยอมมอบอำนาจที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ให้กับอีกฝ่าย?

 

นี่ก็คือการประนีประนอม เพราะยอมรับในพลังที่แข็งแกร่งของอี้เทียนหยุน จึงได้ยอมมอบแผ่นดินให้ครึ่งหนึ่ง

 

ผู้คนต่างก็พากันมองไปยังอี้เทียนหยุนด้วยสีหน้าอึดอัด กระทั่งทหารของอาณาจักรใต้พิภพเองก็มองเข้าไปยังพระราชวังด้วยสีหน้าตกใจ พวกเขาไม่คิดว่าจักรพรรดิใต้พิภพจะยอมก้มหัว ก่อนหน้านี้ผยองราวกับจะบี้อีกฝ่ายให้ตาย แต่อยู่ๆ ก็พลันเลือกที่จะประนีประนอมกันซะงั้น

 

มอบแผ่นดินให้ครึ่งหนึ่ง นี่มันถือเป็นความอัปยศอย่างแท้จริง

 

ยังไงก็ตาม พวกเขาก็พากันคิด อี้เทียนหยุนจะยอมรับปากเหรอ? หากรับปาก ขุมกำลังเกือบทั้งหมด รวมถึงอาณาจักรเทียนหลงเอง ก็ต้องรวมเข้าด้วยกันกับอาณาจักรใต้พิภพ เมื่อถึงตอนนั้น ขุมอำนาจทั้งสองก็จะมีความแข็งแกร่งยิ่งกว่าอาณาจักรอื่นเป็นหลายเท่าตัว ภายใต้ขุมกำลังระดับนี้ ถามหน่อยใครจะต้านทานได้?

 

เมื่อถึงตอนนั้น พวกเขาก็จะเข้าสู่ขุมอำนาจระดับแดนศักดิ์สิทธิ์อย่างเป็นทางการ เท่ากับโผนทะยานขึ้นเป็นขุมอำนาจที่แข็งแกร่งอย่างแท้จริงในคราวเดียว!

 

ยังไงก็ตาม ขุมอำนาจระดับแดนศักดิ์สิทธิ์ก็ไม่สามารถสำเร็จได้ตามใจ แม้จะมีผู้เชี่ยวชาญจำนวนมาก แต่หากไม่ผ่านมาตรฐาน ก็ไม่มีคุณสมบัติที่จะเข้าร่วม แต่แม้จะมีโอกาส ก็ไม่มีใครรู้ข้อมูลเลยสักคน เพราะแดนศักดิ์สิทธิ์นั้นลึกลับเกินไป ไม่ใช่ขุมอำนาจที่ตั้งอยู่บนโลก

 

อี้เทียนหยุนเผยรอยยิ้มคลุมเครือออกมา “นี่คือการประนีประนอมอย่างงั้นเหรอ?”

 

“ไม่ แต่เป็นเพราะจักรพรรดิอย่างข้าเห็นว่าพลังของเจ้านั้นแข็งแกร่ง หากเข้าร่วมกับอาณาจักรของข้า จะทำให้ขุมอำนาจในมืออาณาจักรข้าแข็งแกร่งขึ้นช่วงใหญ่ เมื่อถึงตอนนั้น ก็จะสามารถเข้าร่วมขุมอำนาจระดับแดนศักดิ์สิทธิ์ได้!” เสียงพูดของจักรพรรดิใต้พิภพดังมา

 

“จะเอาอย่างงั้นก็ได้ แต่ว่าข้ามีเงื่อนไขอยู่หนึ่งข้อ” อี้เทียนหยุนพูดอย่างไม่ใส่ใจ

 

“เงื่อนไขอะไร?” น้ำเสียงของจักรพรรดิใต้พิภพดูมีความตื่นเต้นเล็กน้อย นี่เพราะว่าเขาได้รับผลกระทบจากคำตอบของอี้เทียนหยุน หากว่าอี้เทียนหยุนยอมเข้าร่วม นั่นจะเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างมาก

 

แม้ว่าอี้เทียนหยุนจะเหมือนกับเป็นคนทำลายล้างอาณาจักรใต้พิภพ แต่หากยอมเข้าร่วม ต่อให้อาณาจักรจะถูกทำลายไป แต่ก็ย่อมสามารถสร้างขึ้นใหม่ได้

 

เริ่นหลงกับพวกพากันตกใจ มองมายังอี้เทียนหยุนด้วยความแตกตื่น นี่เขาเลือกที่จะเข้าร่วมอาณาจักรใต้พิภพจริงๆ เหรอ?

 

“ท่านเจ้าตำหนัก หากท่านประมุขเลือกที่จะเข้าร่วมอาณาจักรใต้พิภพจริงๆ พวกเราจะทำยังไง…..” ผู้อาวุโสที่ยืนอยู่ใกล้ๆ ชิเสวี่ยอวิ๋นถามขึ้นอย่างกังวล

 

“หากเขาเข้าร่วม ข้าก็จะเข้าด้วย” สีหน้าชิเสวี่ยอวิ๋นยังคงเฉยชา เธอตอบราวกับถูกล้างสมอง ไม่มีลังเล

 

คำตอบนี้ทำให้หลายคนตาโต อาณาจักรใต้พิภพโหดเหี้ยมขนาดนั้น การเข้าร่วมกับอีกฝ่ายไม่เท่ากับหาที่ตายหรอกเหรอ? หากเป็นแผนถ่วงเวลาของจักรพรรดิใต้พิภพ มันจะไม่เป็นอันตรายหรือไง

 

เริ่นหลงกับพวกยังคงเงียบ รอคอยคำตอบของอี้เทียนหยุน

 

“เงื่อนไขของข้าง่ายมาก อาณาจักรใต้พิภพนอกจากเจ้า ให้ทั้งหมดฆ่าตัวตายเพื่อไถ่โทษซะ จากนั้นข้าจึงจะยอมสร้างแผ่นดินร่วมกับเจ้า!” อี้เทียนหยุนตอบกลับไปเบาๆ

 

หลังจากนั้นสักพัก จักรพรรดิใต้พิภพก็คำรามออกมาด้วยความโกรธว่า “เจ้ากล้าล้อข้าเล่นอย่างงั้นเหรอ!?”

 

นอกจากจักรพรรดิใต้พิภพ คนอื่นให้ฆ่าตัวตายให้หมด นี่ไม่ใช่การล้อเล่นหรือยังไง? หากเหลือเพียงแต่จักรพรรดิใต้พิภพคนเดียว คำพูดเขาใครจะไปยอมฟัง? จักรพรรดิที่ไม่มีอำนาจสั่งการ นี่ไม่เท่ากับน่าสมเพชอย่างงั้นเหรอ

 

หลังจากที่ผู้คนได้ฟัง ก็พากันยิ้มออกมา ชิเสวี่ยอวิ๋นก็เผยรอยยิ้มบนใบหน้าเช่นกัน ราวกับคิดไว้อยู่แล้วว่าอี้เทียนหยุนจะตอบว่ายังไง นิสัยของอี้เทียนหยุนเป็นยังไง ทำไมเธอจะไม่รู้?

 

“อาณาจักรใต้พิภพของเจ้าสังหารคนของเราไปมาก ทั้งยังทำเรื่องที่ผิดต่อฟ้าดินหลายเรื่อง แล้วอย่างนี้ยังคิดจะให้ข้าเข้าร่วมกับเจ้า แบ่งแผ่นดินกันปกครอง?” อี้เทียนหยุนหัวเราะเยาะออกมา “แผ่นดินครึ่งหนึ่ง หากว่าข้าฆ่าเจ้า ไม่ใช่ว่าแผ่นดินทั้งหมดจะตกเป็นของข้าอย่างงั้นเหรอ? จากสถานการณ์ปัจจุบัน ยังคิดจะให้ข้าแบ่งแผ่นดินครึ่งหนึ่งกับเจ้า เจ้าคิดว่าข้าโง่หรือไง?”