ตอนที่ 437: บรรพชนออกโรง!

Crazy Leveling System

CLS ตอนที่ 437: บรรพชนออกโรง!

 

คำพูดของอี้เทียนหยุนเหมือนเป็นการตบหน้าจักรพรรดิใต้พิภพอย่างแรง จากสถานการณ์ปัจจุบัน พวกเขาเป็นฝ่ายกุมความเหนือกว่าได้อย่างเด็ดขาด แต่กลับอยากให้พวกเขาเข้าร่วมด้วยความจริงใจ นี่ไม่เรียกว่าโง่หรอกเหรอ?

 

นี่เปรียบได้กับกำลังจะได้เมืองมาครอง มีดจ่ออยู่ที่คออยู่แล้ว มีสิทธิ์อะไรมาต่อรอง?

 

“ดูเหมือนเจ้าจะมั่นใจในพลังของตนมากสินะ?” น้ำเสียงจักรพรรดิใต้พิภพดูเย็นชา “ที่ข้าอยากให้เจ้าเข้าร่วม เพราะข้าคิดว่าเจ้ามีความสามารถสูง ไม่อยากจะเสียผู้มีพรสวรรค์ไป แต่ในเมื่อเจ้าพูดอย่างนั้น งั้นข้าก็จะให้เจ้าได้ตายสมใจ!”

 

คำพูดเพิ่งจบ ก็พลันปรากฏร่างเงาขนาดใหญ่ออกมาจากพระราชวัง จากนั้น ก็รวมกันเป็นร่างเงาจักรพรรดิใต้พิภพ มองมายังอี้เทียนหยุนอย่างเย็นชา จิตสังหารพวยพุ่งออกมาจากดวงตาไม่หยุด ดูราวกับจักรพรรดิใต้พิภพมาด้วยตัวเอง

 

และเมื่อร่างเงานี้ปรากฏขึ้น พลังกดดันที่น่าสะพรึงก็ถูกปล่อยออกไปรอบๆ ผู้ฝึกตนที่อยู่นอกกำแพงวังต่างก็ถูกพลังที่น่าสะพรึงนี้กดดันจนร่างกายสั่นสะท้านขึ้นคราหนึ่ง เทียบกับก่อนหน้านี้แล้ว แข็งแกร่งขึ้นมาก ไม่รู้ว่าเขามีพลังระดับไหน ทำไมถึงได้แสดงพลังที่แข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ ออกมาได้มากขนาดนี้?

 

เห็นร่างเงาปรากฏขึ้น อี้เทียนหยุนก็หรี่ตา นี่แท้จริงแล้วเป็นอีกขั้นของเครื่องรางป้องกัน ซึ่งเทียบกันแบบเก่าแล้วแข็งแกร่งกว่ามาก ไม่สามารถเอามาเทียบกันได้เลยด้วยซ้ำ

 

เพราะนี่เป็นจักรพรรดิใต้พิภพใช้ออกด้วยตนเอง แน่นอนว่าผลลัพธ์ที่ได้ย่อมต่างกันอย่างสิ้นเชิง ยิ่งกว่านั้น ความต่างยังไม่ใช่น้อยๆ ด้วย

 

และในพริบตาที่ร่างเงานี้ปรากฏ จักรพรรดิใต้พิภพก็ฟาดฝ่ามือขนาดยักษ์ลงมา ตบลงมายังอี้เทียนหยุน ตรงฝ่ามือนั้นปล่อยลมพายุที่รุนแรงออกมา พร้อมกับรวบรวมเปลวเพลิงใต้พิภพรอบๆ เข้ามา บางที นี่อาจจะเป็นฝ่ามือเทพใต้พิภพที่แท้จริงก็เป็นได้

 

ปราศจากเปลวเพลิงใต้พิภพ แล้วยังจะเรียกว่าฝ่ามือเทพใต้พิภพได้อยู่เหรอ?

 

พริบตา พลังรบของฝ่ามือนี้ก็พุ่งขึ้นไปถึง 120 ล้าน เทียบกับก่อนหน้านี้แล้วแข็งแกร่งกว่ามาก เห็นได้ถึงความต่างอย่างชัดเจน หรือว่านี่จะเป็นพลังที่แท้จริงของระดับวิญญาณเที่ยงแท้ขั้นสูงสุด?

 

“พลังรุนแรงก็จริง แต่หากมีพลังเพียงเท่านี้แล้วล่ะก็ คงต้องขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง เพราะวันนี้จะต้องเป็นวันตายของเจ้าอย่างแน่นอน!”

 

อี้เทียนหยุนตาเป็นประกาย ทั่วทั้งร่างปรากฏเกล็ดมังกรขึ้นปกคลุมชั้นหนึ่งในพริบตา นี่เป็นผลจากการเพิ่มระดับให้กับสายเลือดเทพมังกร ทำให้พลังเพิ่มขึ้นขั้นใหญ่ เขาทำการเหวี่ยงหมัดออกไป ทำให้มังกรแดงพุ่งออกไปจากมือเขา ทะลวงผ่านโลกเป็นเส้นตรง พุ่งเข้าใส่ร่างเงาจักรพรรดิใต้พิภพในทันที

 

“หมัดเทพมังกร!”

 

เคล็ดวิชาเทพมังกรแต่ละท่าล้วนแต่เป็นกระบวนท่าที่แข็งแกร่งอย่างยิ่ง เพราะสามารถแสดงพลังของสายเลือดเทพมังกรได้ถึงขีดสุด ระเบิดพลังของเทพมังกรออกมา

 

“คำราม!”

 

เทพมังกรกู่ร้องออกมาคราหนึ่ง จากนั้นหัวมังกรขนาดใหญ่ก็เข้าปะทะกับฝ่ามือยักษ์อย่างแรง พร้อมกันนั้นก็มีเปลวเพลิงนิรันดร์ติดขึ้นมา ทำการเผาผลาญเปลวเพลิงใต้พิภพ พริบตาก็สะกดเพลิงของอีกฝ่าย พร้อมกับเผาไหม้จนสลายไปในทันใด

 

หลังจากที่ฝ่ามือเทพใต้พิภพถูกทำลายไป มังกรแดงตนนั้นก็ยังไม่หยุด ยังคงโจมตีเข้าใส่ร่างเงาจักรพรรดิใต้พิภพจนสลายไป จนสุดท้าย ด้วยสภาวะที่แข็งแกร่งที่สุด มันก็ได้พุ่งเข้าใส่พระราชวังอย่างแรง!

 

“ตูม!”

 

เสาเพลิงปะทุขึ้นที่พระราชวัง เปลวเพลิงถูกยิงขึ้นฟ้าทะลวงหมู่เมฆ พริบตา คลื่นความร้อนก็ได้แพร่กระจายไปทั่วทุกที่ ก่อให้เกิดเป็นลำแสงฉายชัดลงมายังที่แห่งนี้

 

กระบวนท่านี้สามารถบดขยี้ร่างเงาจักรพรรดิใต้พิภพได้อย่างง่ายดาย กระทั่งสามารถระเบิดพระราชวังออกเป็นเสี่ยงๆ นี่เป็นเพราะผลของพลังที่เพิ่มขึ้น ตอนนี้พลังรบทั้งหมดของเขาได้เพิ่มขึ้นไปมากกว่า 180 ล้านแล้ว เป็นการเพิ่มระดับขั้นสู่จุดใหม่ จึงสามารถบดขยี้พลังของจักรพรรดิใต้พิภพได้อย่างสิ้นเชิง

 

ระหว่างทั้งสองราวกับไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกัน พลังของอี้เทียนหยุนสามารถจัดการพวกเขาได้อย่างสมบูรณ์

 

หลังจากเสียงระเบิดสิ้นสุด ตัวพระราชวังก็ได้ระเบิดออกจนแทบไม่เหลือสภาพเดิม เผยให้เห็นสถานการณ์ที่อยู่ด้านใน ในนั้นมีชายวัยกลางคนรูปร่างหล่อเหลานั่งอยู่บนบัลลังก์มังกร พร้อมกับกำลังมองมายังที่นี่ด้วยสีหน้าเย็นชา ร่างของเขามีเปลวเพลิงใต้พิภพพวยพุ่งออกมา บนพื้นมีค่ายกลขนาดใหญ่ ที่มีเปลวเพลิงใต้พิภพกำลังลุกไหม้อย่างต่อเนื่อง พร้อมกับหลอมเข้าไปในร่างของเขา

 

“บัดซบ นี่มันพลังอะไรกัน!” ในสายตาของจักรพรรดิใต้พิภพเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก เขาไม่คิดมาก่อนว่าพลังของอี้เทียนหยุนจะแข็งแกร่งขนาดนี้ ขนาดที่นี่มีมหาค่ายกลคอยหนุน แต่ก็แทบจะถูกระเบิดออกในพริบตา

 

แม้ว่าตอนนี้จะพอประคองเอาไว้ได้ แต่มหาค่ายกลที่อยู่รอบ ๆ ก็ได้มีรอยแตกร้าว หากเป็นอย่างนี้ต่อไป มันจะต้องพังทลายลงอย่างแน่นอน และเมื่อมหาค่ายกลที่อยู่ที่นี่พังทลายลง อย่างนั้น พลังของจักรพรรดิใต้พิภพก็จะอ่อนแอลงขั้นใหญ่

 

ที่เขาสามารถระเบิดพลังที่แข็งแกร่งขนาดนี้ออกมาได้ ทั้งหมดล้วนแต่พึ่งพามหาค่ายกลนี้ ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่สามารถระเบิดพลังที่แข็งแกร่งขนาดนั้นออกไปได้

 

ภายใต้ดวงตาประเมินของอี้เทียนหยุน ทำให้เขาสามารถมองเห็นความสามารถของจักรพรรดิใต้พิภพได้อย่างทะลุปรุโปร่ง ดวงตาประเมินที่ได้เพิ่มระดับนั้น ไม่เพียงแต่จะสามารถมองเห็นผู้ที่มีระดับสูงแล้ว ยังสามารถมองทะลุได้อย่างง่ายดาย

 

จักรพรรดิใต้พิภพ : ระดับวิญญาณเที่ยงแท้ขั้นสูงสุด, สวมใส่อุปกรณ์ระดับศักดิ์สิทธิ์ขั้นสูง, มีเปลวเพลิงใต้พิภพที่แข็งแกร่ง สามารถควบคุมเปลวเพลิงใต้พิภพที่อยู่ระหว่างสองโลกได้, ฝึกเคล็ดวิชาเทพใต้พิภพ, ฝ่ามือใต้พิภพ, เคล็ดวิชาใต้พิภพเพลิงผลาญ! จุดอ่อน : พ่ายแพ้ต่อเปลวเพลิงอมตะที่รุนแรง, พลังรบ 120 ล้าน, เมื่อสังหารจะได้รับเคล็ดวิชาเทพใต้พิภพ, ฝ่ามือเทพใต้พิภพ, เคล็ดวิชาใต้พิภพเพลิงผลาญ และไอเทมหายากอื่นๆ

 

มหาค่ายกลใต้พิภพ : มหาค่ายกลระดับจงซือ, สามารถดูดซับเปลวเพลิงใต้พิภพจากด้านล่างมาเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับตนได้, ขึ้นอยู่กับระดับ

 

ที่เขามีพลังแข็งแกร่งจนน่าสะพรึงขนาดนี้ ที่แท้ก็เพราะพึ่งมหาค่ายกลนี้นี่เอง ไม่อย่างงั้นคงไม่มีพลังถึงขนาดนี้

 

“หากว่าข้าไม่ทำลายให้สิ้นซาก ก็คงไม่คิดที่จะออกมาจากที่นี่จริงๆ” อี้เทียนหยุนขมวดคิ้ว เขารู้ว่าพลังที่ซ่อนอยู่ของจักรพรรดิใต้พิภพนั้นน่าสะพรึง ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่หาเรื่องจนมีศัตรูมากขนาดนี้ ช่างสมควรตายจริงๆ

 

ไม่แปลกที่เขาจะไม่ยอมออกจากตำหนักนี้ เพราะหากออกจากที่นี่ไป เขาก็จะไม่ได้รับการสนับสนุนจากมหาค่ายกลใต้พิภพนี้อีก ทำให้พลังของเขาต้องตกลง

 

แม้ระดับวิญญาณเที่ยงแท้ขั้นสูงสุดจะแข็งแกร่งมาก แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะมีพลังรบมากถึง 100 ล้าน นี่ไม่ใช่หัวผักกาด ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีระบบคลั่งอย่างเขา ที่จะสามารถระเบิดพลังรบออกมาได้มากมายขนาดนั้น

 

“มหาค่ายกลใต้พิภพ ไม่แปลกที่เจ้าจะไม่ยอมออกมา…. แต่ยังไงก็ได้เวลาหยุดแล้ว”

 

ตาของอี้เทียนหยุนเป็นประกายอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับเหวี่ยงหมัดเข้าใส่ยังตำหนักที่จักรพรรดิใต้พิภพอยู่ เมื่อหมัดเทพมังกรถูกใช้ออก มังกรแดงขนาดยักษ์ก็พลันพุ่งออกไปในทันที

 

จักรพรรดิใต้พิภพหน้าเปลี่ยนสี พร้อมกับรีบร้องตะโกนออกไป “บรรพชนทั้งสอง!”

 

ในตอนนี้เอง ที่มหาค่ายกลข้างล่าง ก็พลันมีโลงศพสองใบโผล่ขึ้นมา โลงนั้นข้างในเต็มไปด้วยเลือด เพิ่งจะโผล่ขึ้นมาก็พลันมีกลิ่นที่ชวนคลื่นเหียนโชยออกมา เลือดไหลทะลักออกมาจากข้างบนโลงศพ ไหลอาบพื้นจนแดงฉาน

 

“ไม่คิดเลยว่าในโลกนี้จะมีคนที่มีพรสวรรค์อย่างนี้ด้วย…..”

 

น้ำเสียงที่เก่าแก่ดังมาจากโลง พร้อมกับฝาโลงที่ถูกเปิดออกอย่างรวดเร็ว จากนั้น ร่างที่แห้งเหี่ยวสองร่างก็ปีนขึ้นมาจากโลงที่เต็มไปด้วยเลือด พร้อมกับยกมือตบขึ้นไปกลางอากาศ

 

พริบตา พลังของพวกเขาก็หลอมเข้าด้วยกัน ค่อยๆ รวมเข้ากับพลังของมหาค่ายกลใต้พิภพ ราวกับว่าพวกเขากำลังผสานเป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้น ฝ่ามือเทพใต้พิภพก็ระเบิดขึ้น พร้อมกับปลดปล่อยพลังรบที่มากถึง 150 ล้านออกมา

 

แข็งแกร่ง แข็งแกร่งมาก แต่เมื่อเผชิญหน้ากับการโจมตีของอี้เทียนหยุน กลับกลายเป็นเปราะบาง!