ตอนที่ 210 วางแผนเที่ยว / ตอนที่ 211 จัดการเรื่องตั๋ว

ออกแบบรักโปรเจกต์หัวใจ

ตอนที่ 210 วางแผนเที่ยว 

 

 

           “โจวโจว ตามผมไปที่ห้องหนังสือหน่อย” ถังโจวโจวและลั่วเซ่าเชินเข้าไปในห้องหนังสือด้วยกัน จากนั้นเธอก็เห็นว่าเขาหยิบรูปภาพต่างๆ บนโต๊ะส่งให้เธอ “คุณลองดูสิว่าคุณชอบที่ไหน?” 

 

 

“นี่มันอะไรหรือคะ” ถังโจวโจวมองดูรูปภาพอันแสนสวยงามแต่ละรูป ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นสถานที่ที่เธออยากไป นี่พวกเรากำลังจะได้ไปด้วยกันใช่ไหม? 

 

 

“ก็ไปเที่ยวไง! ช่วงนี้ผมตั้งใจจะเคลียร์งานให้เสร็จ จะได้มีเวลาออกไปเที่ยวกับคุณบ้าง เราตกลงกันแล้วไม่ใช่เหรอ” 

 

 

“อ๋อ ฉันนึกว่าคุณจัดการเรียบร้อยแล้วน่ะค่ะ” 

 

 

หลายวันมานี้เธอไม่ได้รับข่าวคราวอะไรเลย ถังโจวโจวยังนึกอยู่เลยว่าลั่วเซ่าเชินคงจะสั่งให้ลูซี่เตรียมการทุกอย่างแล้ว ความสามารถของลูซี่นั้นไร้ข้อกังขา แต่ในใจลึกๆ นั้นถังโจวโจวก็หวังว่าตัวเธอเองจะได้ทำแบบลูซี่ เพราะสิ่งที่เธอหวังมากกว่านั้นเกี่ยวกับทริปของเธอและลั่วเซ่าเชิน คือเธอจะได้จองตั๋วเอง ได้เลือกสถานที่ รวมถึงวางแผนต่างๆ 

 

 

“จะเป็นไปได้ยังไง ในเมื่อคุณไปเที่ยวกับผม มันก็ต้องขึ้นอยู่กับคุณสิ” เดิมทีลั่วเซ่าเชินก็จะให้ลูซี่เป็นคนจัดการทั้งหมด ส่วนเขาก็แค่รับผิดชอบพาถังโจวโจวไปเที่ยวก็พอ 

 

 

แต่เมื่อลั่วเซ่าเชินมาคิดๆ ดูแล้ว ถังโจวโจวเป็นคนใส่ใจรายละเอียดและสนุกกับทุกๆ ก้าวของชีวิต เธอคิดว่าทุกอย่างที่เธอเลือกเอง จัดการเอง นั่นถึงจะเป็นสิ่งที่เธอต้องการ หากเขาจัดการทุกอย่างไว้หมดแล้ว ความสนุกของเธอก็คงจะหายไป 

 

 

ดังนั้น ลั่วเซ่าเชินจึงเปลี่ยนใจ ตอนนี้เขารู้สึกว่าความคิดของเขาที่เปลี่ยนไปอย่างกะทันหันนั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้อง ความสุขของถังโจวโจวคือสิ่งที่เขาอยากเห็นมากที่สุด หากถังโจวโจวไม่มีความสุข แล้วสิ่งที่เขาทำมาทั้งหมดจะมีความหมายอะไรล่ะ 

 

 

หากให้คนของเขาเป็นคนจัดทริป แล้วทำให้ถังโจวโจวไม่มีความสุข ไม่เท่ากับเขาเสียเวลาและลงแรงไปโดยเปล่าประโยชน์หรอกหรือ เพราะเขาไม่อาจได้ในสิ่งที่ต้องการ สู้อยู่บ้านเฉยๆ ดีกว่า บางทีอาจจะได้ผลลัพธ์ที่คาดไม่ถึงก็เป็นได้ 

 

 

“คุณลองเลือกดูสิ ชอบที่ไหนก็บอกผมนะ” ลั่วเซ่าเชินเอ่ยกระตุ้น ถังโจวโจวค่อยๆ พลิกดูรูปที่ลั่วเซ่าเชินส่งให้เธอ 

 

 

“เราไปที่นี่กันเถอะค่ะ!” ถังโจวโจวมองดูภาพทุ่งลาเวนเดอร์สีม่วง ราวกับว่าตัวเธอได้เข้าไปอยู่ท่ามกลางมหาสมุทรสีม่วง ถังโจวโจวอยากจะไปเยี่ยมชมสักครั้งในชีวิต บางทีทุ่งลาเวนเดอร์ของจริงอาจจะน่าทึ่งกว่าในภาพถ่ายมาก 

 

 

“โอเค เราไปที่นี่กันนะ” เมื่อลั่วเซ่าเชินเห็นว่าถังโจวโจวเลือกที่หมายได้แล้ว เขาก็ดึงภาพนั้นออกมา มันสวยงามมากจริงๆ ไม่แปลกใจเลยที่มันจะดึงดูดสายตาของถังโจวโจวได้ 

 

 

“คุณอยากจะจองตั๋วเครื่องบินเองหรือจะให้ผมบอกลูซี่ให้ช่วยจองให้?” คราวนี้ลั่วเซ่าเชินรู้ทันความคิดของเธอแล้ว เขาต้องถามความคิดเห็นของถังโจวโจวก่อน แล้วจึงค่อยตัดสินใจเรื่องต่างๆ ที่จะตามมา แบบนี้จึงจะทำให้ทริปฮันนีมูนของพวกเขาไม่พบจุดจบแบบคราวก่อน 

 

 

“ฉันขอจองเองได้ไหมคะ” ถังโจวโจวไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าภายใต้มหาอำนาจของลั่วเซ่าเชินนั้น เธอจะสามารถเริ่มแสดงความคิดเห็นของเธอเองได้แล้ว วันนี้มันช่างมีแต่เรื่องน่าแปลกใจ ลั่วเซ่าเชินถามความคิดเห็นของเธอบ้างแล้ว นี่มันทำให้เธอรู้สึกเซอร์ไพรส์เป็นอย่างมาก! 

 

 

“ได้แน่นอน” เป็นเพราะเขามักจะบีบบังคับเธอมากเกินไปหรือเปล่า ถังโจวโจวถึงได้รู้สึกว่ามันไม่น่าเชื่อเมื่อเขาพูดออกมาแบบนั้น ปกติแล้วเขาก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้นมั้ง? 

 

 

“เยี่ยมไปเลย! ฉันจะไปจัดการเดี๋ยวนี้แหละค่ะ ว่าแต่อีกกี่วันคุณถึงจะเคลียร์งานเสร็จคะ” ถังโจวโจวรู้สึกตื่นเต้น ตอนแรกลั่วเซ่าเชินจะให้ลูซี่เป็นคนจัดการ เธอก็เลยรู้สึกว่าเธอสูญเสียความหมายที่แท้จริงของคำว่าท่องเที่ยวไป แต่ตอนนี้เธอสามารถจัดการมันได้อย่างเต็มที่ ทำให้เธอได้เปิดทริปครั้งใหม่นี้ได้อย่างสวยงาม 

 

 

“น่าจะราวๆ อีกสี่วัน” ลั่วเซ่าเชินคำนวณคร่าวๆ ก่อนจะกำหนดเวลาออกมาให้ถังโจวโจว และเมื่อถังโจวโจวได้คำตอบ เธอก็ตั้งท่าจะวิ่งออกไปข้างนอกอย่างมีความสุข 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 211 จัดการเรื่องตั๋ว 

 

 

           “โจวโจว คุณจะไปไหนน่ะ” 

 

 

           “ก็ไปหาตั๋วไงคะ!” เขานี่ก็ถามอะไรแปลกๆ เมื่อครู่นี้ก็คุยกันแล้วไม่ใช่เหรอ เขาคงจะไม่ได้ลืมมันไปแล้วหรอกนะ? 

 

 

“ผมรู้ว่าคุณจะหาตั๋ว แต่ทำไมคุณถึงไม่หามันซะที่นี่ล่ะ” ลั่วเซ่าเชินสาวเท้าไปแค่ไม่กี่ก้าวก็ถึงตัวของถังโจวโจว 

 

 

“ตะ…แต่ว่าคุณต้องทำงานไม่ใช่หรือคะ ไม่กลัวว่าฉันจะรบกวนคุณเหรอ” ถังโจวโจวขมวดคิ้วมุ่น เธอกลับไปหาข้อมูลที่ห้องก็ได้นี่ ทำไมเธอต้องอยู่ที่นี่ด้วย? 

 

 

“ไม่สักหน่อย คุณไม่รบกวนผมหรอก คุณอยู่ที่นี่แหละ” ลั่วเซ่าเชินรีบล้มเลิกความคิดของถังโจวโจวที่เตรียมจะออกไปจากห้องหนังสือ เขาจะไปรู้สึกว่าถังโจวโจวน่ารำคาญได้อย่างไร และเมื่อมองดูท่าทางที่น่ารักของเธอ ลั่วเซ่าเชินก็รู้สึกว่าเขามีแรงจัดการกับงานต่างๆ มากขึ้นเป็นกอง 

 

 

เมื่อนึกถึงช่วงเวลาที่ดีที่เขาได้อยู่ในห้องทำงานเดียวกันกับถังโจวโจวในครั้งนั้น เขาก็รู้สึกคิดถึงมันขึ้นมาเล็กน้อย น่าเสียดายที่ช่วงเวลานั้นมันสั้นเกินไป เขาอยากจะดื่มด่ำให้มากกว่านี้ หากเขาไม่เห็นว่าถังโจวโจวดูอึดอัด ไม่เป็นตัวของตัวเอง เขาก็คงไม่ปล่อยให้เธอออกไปจากห้องทำงานอย่างง่ายดายหรอก 

 

 

“โจวโจว คุณนั่งที่โซฟานี่แหละ ผมสัญญาว่าผมจะไม่รบกวนคุณเด็ดขาด” ด้วยกลัวว่าถังโจวโจวจะเปิดปากอ้างเหตุผลอีกครั้ง ลั่วเซ่าเชินจึงยืนยันกับเธอและไม่เปิดโอกาสให้เธอหาข้อแก้ตัว 

 

 

“แปลกชะมัด” ถังโจวโจวบ่นพึมพำพลางหมุนตัว 

 

 

ลั่วเซ่าเชินได้ยิน แต่เขาก็ยังแสร้งทำเป็นว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นอยู่ดี เขาไม่อาจทำให้ถังโจวโจวรู้ได้ว่าเขาได้ยินมัน เกิดเจ้าแมวน้อยโมโหขึ้นมาอีกก็คงจะไม่ดี 

 

 

เมื่อป้าหลิวยกของว่างเข้ามาเสิร์ฟ เธอก็พบว่าลั่วเซ่าเชินนั่งอยู่ที่หน้าโต๊ะทำงาน คิ้วของเขาขมวดแน่น เขากำลังขีดเขียนอะไรบางอย่างลงไปในกระดาษในขณะที่กำลังพูดคุยโทรศัพท์อยู่กับใครสักคน เขาดูยุ่งเอามากๆ 

 

 

อีกด้านหนึ่ง ถังโจวโจวที่สวมกางเกงสีกากีและเสื้อเชิ้ตสีขาว กำลังเอนตัวนั่งอยู่บนโซฟาเดี่ยว บนโต๊ะตัวเล็กมีสมุดและปากกาอีกหนึ่งด้ามวางอยู่ เธอถือโทรศัพท์เอาไว้ในมือและขยับปากกาเขียนอะไรบางอย่างลงบนกระดาษเป็นครั้งเป็นคราว 

 

 

“คุณชายคะ กาแฟค่ะ”  

 

 

“วางไว้ตรงนี้แหละ เดี๋ยวเอานมไปให้คุณผู้หญิงนะ ของว่างก็เอาไปเสิร์ฟเธอเลย” ลั่วเซ่าเชินเอ่ยปากโดยไม่ได้เงยหน้าขึ้นมา 

 

 

“ค่ะ” ป้าหลิววางของว่างลงตรงหน้าถังโจวโจวทีละอย่าง และเมื่อถังโจวโจวเห็นว่าป้าหลิวมา สมาธิของเธอที่จดจ่ออยู่กับโทรศัพท์ก็กลับคืนสู่สภาวะปกติ “ป้าหลิว ของว่างหรือคะ” 

 

 

“นมค่ะ คุณผู้หญิง พักทานของว่างก่อนนะคะ นี่คุณผู้หญิงกำลังทำอะไรอยู่หรือคะ” เธอมองดูสามีภรรยาคู่นี้ พวกเขาต่างยุ่งอยู่กับธุระของตัวเอง และต่างก็เป็นด้านซ้ายด้านขวาให้แก่กัน ซึ่งภาพที่เห็นนั้นทำให้เธอมีความสุขมากจริงๆ 

 

 

“อ๋อ ดูแผนการเที่ยวน่ะค่ะ” ถังโจวโจวหยิบซูปิ่ง[1]ขึ้นมากัดหนึ่งชิ้น “อื้ม อร่อยจัง ฝีมือของป้าหลิวนี่ดีขึ้นเรื่อยๆ เลยนะคะ” 

 

 

เมื่อได้ยินคำชมของถังโจวโจว ป้าหลิวก็ยิ้มเขินออกมา “คุณผู้หญิงชอบก็ดีแล้วค่ะ ในครัวยังมีอีกนะคะ เดี๋ยวฉันไปนำมาเพิ่มให้” 

 

 

“ไม่ต้องหรอกค่ะ แค่นี้ก็พอแล้ว เซ่าเชินก็ไม่ค่อยชอบกินขนมพวกนี้” ถังโจวโจวไม่อยากกินขนมมากเกินไป เพราะกลัวว่ามันจะแน่นท้องจนรู้สึกอึดอัด ของอร่อยนั้นต้องค่อยๆ กิน ค่อยๆ ลิ้มรส ถึงจะสามารถสัมผัสถึงความอร่อยที่อยู่บนปลายลิ้นได้ 

 

 

“คุณผู้หญิงคะ คุณผู้หญิงกับคุณชายจะไปเที่ยวกันหรือคะ” 

 

 

“ค่ะ จู่ๆ เซ่าเชินก็มาบอกว่าจะไปเที่ยว ฉันรีบตกลงเลยค่ะ เพราะว่าฉันเองก็ไม่ได้ออกไปเปิดหูเปิดตามานานแล้ว” ถังโจวโจวคิดไปถึงความฝันของเธอที่อยากจะเดินทางไปท่องเที่ยวรอบโลก แต่มันก็ถูกผัดวันออกไปเสมอด้วยเหตุผลต่างๆ มากมาย 

 

 

 

 

 

[1] ซูปิ่ง คือ คุกกี้ชนิดหนึ่งของจีน