ตอนที่ 208 คำตอบที่แน่ชัด / ตอนที่ 209 ความทรงจำของฟังหยวน

ออกแบบรักโปรเจกต์หัวใจ

ตอนที่ 208 คำตอบที่แน่ชัด 

 

 

           ฟังหยวนวางแก้วกาแฟลงบนโต๊ะเบาๆ แววตาอันล้ำลึกของเขาเบนไปทางอื่น ถังโจวโจวไม่เห็นว่าสายตาของเขาล่อกแล่กอะไร ส่วนเขาเองก็นึกไม่ถึงว่าถังโจวโจวจะคิดถึงมุมนี้ด้วย เป็นเพราะครั้งก่อนที่ไปสุสาน เธอได้เห็นรูปของซูเสี่ยวอย่างนั้นหรือ 

 

 

ลมพัดผ่านมา กระโปรงของถังโจวโจวก็เผยอขึ้นตามแรงลมที่แผ่วเบา ถังโจวโจวกดกระโปรงลง ก่อนจะอธิบายกับฟังหยวนว่า “ไม่ใช่ว่าฉันไม่เคยนึกถึงหันฮุ่ยซินนะคะ แต่ว่าท่าทีของเธอมันทำให้ฉันรู้สึกว่าเป็นไปไม่ได้” 

 

 

ถ้าหันฮุ่ยซินรู้ว่าลั่วอิงเป็นลูกของเธอ เธอคงจะต้องใช้ทุกวิถีทางเพื่อแย่งเซ่าเชินกลับไปแล้วสิ? เธอน่าจะประกาศสงครามเลยด้วยซ้ำ และลั่วเซ่าเชินเองก็คงจะเห็นแก่ลูก เขาจะต้องยอมตามใจเธอได้ทุกอย่าง 

 

 

ตราบใดที่ความรู้สึกของพวกเขามันยังไม่ถึงจุดจบ ถังโจวโจวเชื่อว่าทุกอย่างมันจะกลับไปเป็นเหมือนเดิม และถ้ามันเป็นอย่างนั้นจริง มันก็คงไม่มีเธอเข้ามาเกี่ยวข้องอยู่จนถึงทุกวันนี้หรอก 

 

 

“อย่างนั้นหรอกเหรอ? แบบนี้นี่เอง มันเป็นสัญชาตญาณของผู้หญิงใช่ไหม” 

 

 

ฟังหยวนไม่เข้าใจ หันฮุ่ยซินเป็นไปไม่ได้ตรงไหน หากถามว่าแม่คนหนึ่งควรจะปฏิบัติกับลูกเช่นนี้หรือ บนโลกใบนี้มีคุณแม่อยู่หลายพันล้านคน มีทั้งใจดี มีทั้งเมตตา แต่ก็มีทั้งโหดร้าย มีทั้งไร้ความรู้สึก ทุกคนล้วนแตกต่างกัน แล้วถังโจวโจวจะมั่นใจได้อย่างไร 

 

 

“จะว่าอย่างนั้นก็ได้ค่ะ! ฉันแค่รู้สึกว่าหันฮุ่ยซินดูไม่เหมือนคนเป็นแม่เลยสักนิด ต่อให้เธอไม่เคยพบหน้าลั่วอิง แต่เมื่อเธอเจอลูกของเธอ เธอจะไม่แตะต้องลูกของเธอเลยได้ยังไง” ตอนที่หันฮุ่ยซินพบกับลั่วอิงเป็นครั้งแรก นอกเหนือจากความสงสัยและรู้สึกเหลือเชื่อแล้ว เธอก็ไม่มีความอบอุ่นใดๆ แสดงออกมาเลย 

 

 

“มันก็จริงอย่างที่คุณพูดนะ” แบบนี้นี่เอง แต่ฟังหยวนไม่อยากจะบอกถังโจวโจวหรอกว่า สำหรับแม่บางคน แม้ว่าลูกจะหายไปต่อหน้าต่อตา ก็เป็นไปได้ที่เธอจะไม่แสดงอารมณ์ใดๆ ต่อลูกของเธอเลยสักนิด 

 

 

เขาไม่อยากจะทำลายความคิดอันแสนสวยงามของถังโจวโจว เธอไม่จำเป็นต้องแปดเปื้อนด้วยความจริงของโลกภายนอกอันแสนโสมมนี้ 

 

 

“ผมไม่แน่ใจว่าซูเสี่ยวเป็นแม่ของลั่วอิงหรือเปล่า แต่สิ่งที่ผมยืนยันได้ก็คือซูเสี่ยวกับอาเชินไม่ได้เป็นอะไรกัน โจวโจว คุณน่าจะเข้าใจผิดแล้วล่ะ” ฟังหยวนขมวดบทสรุปให้กับถังโจวโจว เขาหวังว่าเธอจะไม่ตรวจสอบเรื่องนี้อีกต่อไป 

 

 

ตอนแรกฟังหยวนก็พอจะเดาได้รางๆ ว่าลั่วอิงมีส่วนเกี่ยวข้องกับซูเสี่ยว เพราะลั่วอิงกับซูเสี่ยวนั้นมีลักษณะนิสัยคล้ายกัน โดยเฉพาะเรื่องหน้าตา หากนำรูปภาพของทั้งสองคนมาวางไว้ด้วยกัน ไม่ว่าใครก็ไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่าพวกเธอทั้งคู่เหมือนแม่ลูกกันจริงๆ 

 

 

บางคนอาจจะคิดว่าหน้าตาของลั่วอิงกับอาเชินนั้นคล้ายคลึงกัน ด้วยเหตุนี้จึงไม่มีใครสงสัยเกี่ยวกับการปรากฏตัวของลั่วอิง 

 

 

แม้แต่คุณพ่อกับคุณแม่ลั่วเองก็เช่นกัน มิเช่นนั้นพวกเขาจะยอมรับเด็กที่ไม่ใช่สายเลือดของตระกูลลั่วอย่างง่ายดายได้อย่างไร และมันก็ยิ่งชัดเจนมากขึ้น เพราะลั่วอิงยิ่งโตก็ยิ่งเหมือนลั่วเซ่าเชิน 

 

 

แต่ฟังหยวนกลับไม่คิดเช่นนั้น เขาคิดว่าลั่วอิงเหมือนกับอีกคนหนึ่งมากกว่า เพียงแต่คนทั่วไปมักจะนึกถึงลั่วเซ่าเชิน และเพราะพวกเขาเป็นพี่น้องกัน ดังนั้นเรื่องนี้จึงดูไม่มีข้อกังขา 

 

 

ฟังหยวนยังไม่พร้อมบอกถังโจวโจวว่าเขาคิดอย่างไร เพียงเพราะไม่ต้องการจะสร้างปัญหาเพิ่มก็เท่านั้น 

 

 

“จริงหรือคะ” เมื่อถังโจวโจวได้ยินน้ำเสียงและเห็นแววตาที่แน่วแน่ของฟังหยวน ความเชื่อมั่นที่อยู่ในใจของเธอก็สั่นคลอน เป็นเพราะว่าเธอไม่อยากเชื่อในตอนแรก ดังนั้น เธอจึงรู้สึกว่าฟังหยวนพูดเรื่องจริงได้อย่างง่ายดาย 

 

 

“ก็จริงน่ะสิ ผมจะหลอกคุณได้เหรอ” ฟังหยวนไม่อยากจะนึกถึงเรื่องใดและไม่อยากสนทนาเรื่องที่เกี่ยวข้องกับซูเสี่ยวอีกต่อไปแล้ว มันเป็นความทรงจำที่หนักหน่วงสำหรับเขา 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 209 ความทรงจำของฟังหยวน 

 

 

           เมื่อตอนที่ยังเป็นเด็ก ทุกอย่างนั้นสวยงามมาก ไม่ว่าจะร้องรำทำเพลง หรืออยากจะทำอะไรก็ตามแต่ เราสามารถทำได้ทุกอย่างตามใจนึก ไม่มีใครมาห้าม มีแต่คนคอยสนับสนุนให้คุณทำต่อไป แต่น่าเสียดายเมื่อความรักค่อยๆ คืบคลานเข้ามา มันกลับทิ้งร่องรอยที่ไม่อาจลบเลือนไปได้ไว้ในใจของคุณ 

 

 

           แม้ฟังหยวนจะพูดว่าไม่อยากคิดถึงเรื่องนี้ แต่เขาก็ไม่สามารถควบคุมความทรงจำของเขาได้ หากเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับซูเสี่ยวแล้ว คนที่รู้จักเขาจะรู้ดีว่าเธอเป็นข้อห้ามที่ไม่อาจแตะต้องได้ 

 

 

           แม้ว่าเขาจะฉีกยิ้มมากเพียงใด แต่ภายในใจก็ยังคงมีแต่ความเจ็บปวด คนที่เขารักมากที่สุดกลับทิ้งเขาไปและเลือกชายอื่น สุดท้ายเขาก็ทำได้แค่เพียงอวยพรพวกเขา เพราะผู้ชายคนนั้นที่เธอเลือกคือพี่น้องที่ดีที่สุดของเขา 

 

 

           ฟังหยวนนึกถึงรอยยิ้มอันแสนสวยงามของซูเสี่ยว แววตาและท่าทางที่ไม่ย่อท้อต่อความยากลำบาก ราวกับว่าความยากลำบากบนโลกใบนี้ไม่สามารถทำอะไรเธอได้ เธอเอาชนะมันด้วยความเมตตาและความงามของเธอ 

 

 

“ฟังหยวน ฟังหยวน คิดอะไรอยู่หรือคะ” ถังโจวโจวเห็นว่าฟังหยวนเอาแต่เหม่อมองดูผู้คนที่กำลังเดินผ่านไปผ่านมาอยู่บนถนน เธอเรียกเขาก็ไม่ตอบ นี่มันเกิดอะไรขึ้น? เธอคงไม่ได้สะกิดต่อมเศร้าของเขาเข้าแล้วหรอกนะ? 

 

 

ถังโจวโจวคาดเดาต่อไปอีก ซูเสี่ยวคงจะไม่ใช่คนรักของฟังหยวนใช่ไหม? ถังโจวโจวยังจำได้ดีว่าตอนที่เธอได้พบกับฟังหยวนเป็นครั้งแรก ฟังหยวนก็ต้องการให้เธอมาเป็นคนรักของเขา และเหตุผลนั้นก็คือเธอคล้ายคลึงกับคนรักเก่าของเขา 

 

 

ถังโจวโจวเปรียบเทียบตัวเองกับซูเสี่ยว แต่ก็ยังไม่เห็นความคล้ายคลึงใดๆ เลย นอกจากจะมีแค่รอยยิ้มของเธอคนนั้นที่เหมือนกัน 

 

 

“ไม่มีอะไร ผมแค่คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยน่ะ โจวโจว แล้วที่คุณถามซะละเอียดขนาดนี้ เป็นเพราะคุณไม่อยากจะเชื่ออาเชินใช่ไหม ถ้าอย่างนั้นคุณก็ย้ายมาอยู่กับผมสิ ผมรับรองได้เลยว่าผมจะดูแลคุณเป็นอย่างดี” ฟังหยวนทำทีเป็นพูดติดตลก 

 

 

“คุณนี่พูดเลอะเทอะอีกแล้วนะคะ” ถังโจวโจวไม่ได้เก็บเอาคำพูดของเขามาใส่ใจ เพราะไม่ว่าอย่างไรฟังหยวนก็มักจะพูดอะไรทำนองนี้กับเธอบ่อยๆ อยู่แล้ว มิน่าล่ะ เซ่าเชินถึงอยากจะสั่งสอนเขา เพราะว่าปากของเขาชวนหาเรื่องเก่งมากจริงๆ 

 

 

“ใช่… ใช่ๆ ผมพูดเลอะเทอะเองแหละ” ฟังหยวนพูดเออออไปตามน้ำ 

 

 

ถังโจวโจวได้ยินความผิดปกติในน้ำเสียงของเขา แต่เธอก็มองข้ามมันไป ไม่ใช่ว่าเธอไม่อยากจะปลอบใจฟังหยวน เพียงแต่เธอรู้ดีว่าถ้าเธอให้ความหวังกับเขา เขาก็จะติดอยู่ในนั้นตลอดไป ไม่สามารถดึงตัวเองออกมาได้ วิธีที่ดีที่สุดก็คือการลืม ทำเป็นไม่รู้เรื่องจะดีกว่า แล้วทุกอย่างก็จะค่อยๆ ดีขึ้นเอง 

 

 

“ฟังหยวน ฉันเชื่อในสิ่งที่คุณพูดนะคะ แต่ฉันก็ยังอยากจะขอร้องคุณให้ช่วยตรวจสอบให้หน่อย ลั่วอิงอยากพบแม่แท้ๆ ของเธอ มันเป็นสิ่งที่เธอต้องการมาโดยตลอด ในฐานะที่คุณเป็นคุณลุงฟังของเธอ คุณคงจะไม่ใจจืดใจดำ ไม่เต็มใจช่วยแม้แต่เรื่องเล็กๆ แบบนี้ใช่ไหมคะ” 

 

 

“ครับ” ฟังหยวนตอบอย่างยินดี แม้ว่าเธอจะไม่ยกลั่วอิงขึ้นมาอ้าง แต่เพื่อเห็นแก่ถังโจวโจว ฟังหยวนก็จะทำเช่นนี้ เพียงแต่เขาไม่รู้ว่าโจวโจวจะยอมรับผลลัพธ์ที่ตามมาภายหลังได้หรือไม่? 

 

 

“ถ้าอย่างนั้นฉันจะรอฟังข่าวจากคุณนะคะ” 

 

 

ถังโจวโจวยกแก้วขึ้นมา ฟังหยวนมองดูพฤติกรรมที่ผิดไปจากปกติของเธอ ก่อนจะถามอย่างขำขันว่า “นี่คุณจะชนแก้วกับผมเหรอ” 

 

 

รอยยิ้มของถังโจวโจวค้างไป “คุณพูดอะไรน่ะ ฉันจะทำเรื่องแบบนั้นไปทำไม” พอเธอลนลานแล้วสติก็กระเจิดกระเจิง โชคดีที่ฟังหยวนไม่ได้คิดเล็กคิดน้อยอะไร ถังโจวโจวคิดว่าวันนี้ใบหน้าของเธอแตกจนเกือบจะหมดแล้ว 

 

 

หลังจากดื่มกาแฟหมด ถังโจวโจวก็ปฏิเสธความหวังดีของฟังหยวนที่อยากจะไปส่งเธอที่บ้าน ครั้งก่อนก็ทำให้ลั่วเซ่าเชินหงุดหงิดมากพอแล้ว อย่าเพิ่งให้พวกเขาสองคนเจอกันเลยดีกว่า จะได้ไม่เกิดปัญหาอื่นๆ ตามมาอีก 

 

 

ถังโจวโจวไม่อาจรับมือกับโทสะของลั่วเซ่าเชินได้อีก และเธอก็ไม่อยากให้ลั่วเซ่าเชินโกรธอีกแล้ว แต่เธอก็ไม่อยากให้ฟังหยวนเศร้าใจ แค่เพราะเรื่องของเธอ มันจำเป็นด้วยหรือที่จะต้องทำให้ความสัมพันธ์ประหนึ่งพี่น้องนี้ยิ่งจืดจางลงเรื่อยๆ น่ะ? คนเรากว่าจะหาคนที่รู้ใจกันได้สักคนมันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลย