ตอนที่ 341 คงไม่ใช่ว่ามีแล้วกระมัง
เฝิงเยี่ยไป๋ได้ยินก็หัวโล่งทันที ผ่านไปอยู่นานถึงดึงสติกลับมาได้ อยากกินของเปรี้ยว ดมกลิ่นน้ำมันไม่ได้ ขี้เกียจง่วงนอน ไม่มีชีวิตชีวา…ทั้งหมดนี้เอามาคิดรวมกันแล้ว หัวใจของเขาแทบหยุดเต้นทันที ตามมาด้วยความดีใจ อาการเช่นนี้ แล้วนับเวลาดูอีก นางคงจะไม่ใช่ว่า…มีแล้วกระมัง”
ห่างจากที่ร่วมหอครั้งก่อนก็เดือนเศษแล้ว หรือว่าจะแม่นเช่นนั้น ครั้งเดียวก็ได้เลย?
“อยากกินสิ่งใดเขียนไว้ให้หมด ข้าจะสั่งคนไปซื้อ” เขาดีใจยิ่งนัก ยิ้มแป้นเดินออกจากข้างหลังฉากกั้นแกะสลัก ความเศร้าที่สะสมมาหลายวันก็หายไปหมดสิ้น
ซั่งเหมยซั่งเซียงรีบย่อตัวทักทายเขา เฉินยางเห็นเขา ก็อึ้งไปเล็กน้อย แล้วบ่นออกมาว่า “ไฉนท่านถึงมาเสียแล้ว” นางนอนพิงไปที่เก้าอี้โยกข้างหน้าต่าง ใบหน้ายังคงเย็นชาเช่นเดิม
เขามีรักใหม่แล้วยังจะมาหารักเก่าอย่างนางทำไมอีก มาอวดหญิงงามหลายคนของตัวเองกับนางหรือ
หลายวันนี้ไม่เห็นนางอวบขึ้น มองแล้วหลับผอมลงไม่น้อย คางแหลมคม ผอมจนเหมือนดั่งเขาบีบก็จะแตกได้เช่นนั้น
เฝิงเยี่ยไป๋มองไปที่ท้องของนางตามธรรมชาติ ต่อให้มีแล้ว ก็พึ่งจะเดือนเศษเท่านั้น ยังไม่ชัดเจน หลังจากความดีใจก็เริ่มกังวลขึ้นมา ตัวนางเองก็ยังเป็นเด็กอยู่เลย หากว่ามีแล้วจริงๆ จะคลอดเด็กเป็นความทุกข์มหันต์เพียงใด! เมื่อก่อนก็เคยได้ยิน บอกว่าผู้หญิงคลอดลูก สิบคนมีแปดคนคลอดยาก ก็คือเดินวนเวียนอยู่หน้าประตูผี หากราบรื่น เดินเล่นเสียรอบหนึ่งก็กลับมาแล้ว หากไม่ราบรื่น ก็อยู่ที่นั่นไปตลอดกาลเลย พอคิดได้เช่นนี้ ก็ไม่สนว่าเป็นเขาเองที่เอาความรักไปให้กับนางที่ไม่ได้รักหรือไม่ เขาเข้าไปกอดนางไว้ มือหลบท้องของนางอย่างระมัดระวัง คล้องที่เอวของนางเอาไว้
“เจ้าอยากกินอะไร เขียนมาให้หมดเสีย ข้าจะสั่งคนไปซื้อให้เจ้า ไม่ใช่ว่าอยากกินของเปรี้ยวหรือ ข้าให้คนไปเด็ดพุทราป่าเถิด พุทราป่าเปรี้ยว ให้เจ้ากินจนสมใจอยากดีหรือไม่”
เฉินยางถูกเขากอดไว้ เขาสูงเกินไป นางเงยหน้าจนเมื่อย จึงเอียงศีรษะพิงอยู่ที่ไหล่ของเขา น่าแปลกยิ่งนัก พอถูกเขากอดเช่นนี้ ความโกรธก็หายไปกว่าครึ่ง เพียงแต่ใบหน้าก็ยังคงไม่พอใจนัก นางถามเขาด้วยน้ำเสียงไม่พอใจว่า “ไฉนท่านถึงมาแล้ว ไม่ต้องอยู่เป็นเพื่อนกับพระชายารองทั้งสามคนที่สวยงามแล้วหรือ”
“เมื่อใดที่ข้าได้อยู่เป็นเพื่อนพวกนางเสียแล้ว” เฝิงเยี่ยไป๋ยื่นมือเตะจมูกนางเบาๆ “ฟ้าสวรรคเป็นตา ในใจข้ามีเพียงเจ้าคนเดียว”
เขาก็พูดเช่นนี้กับน่าอวี้กระมัง! จู่ๆ เฉินยางก็หมดอารมณ์ “ข้าไม่ได้เห็นเสียหน่อย ในใจเจ้ามีกี่คนข้าจะรู้ได้อย่างไร”
“จะต้องให้ข้าควักหัวใจออกมาให้เจ้าดูให้ได้?”
“เช่นนั้นท่านก็ควักเลย!”
ซั่งเหมยซั่งเซียงตกใจจนเหงื่อซึม อุตส่าห์มีท่าทางที่จะดีขึ้น ท่านอ๋องก็มายอมให้นางแล้ว ไฉนถึงยังดื้อดึงอีก คำพูดดีๆ สองประโยคไม่ดียิ่งกว่าสิ่งใดหรือ
ตอนแรกยังคิดว่าเขาจะสะบัดแขนเสื้อจากไป แต่ครั้งนี้กลับไม่ ถูกเถียงกลับมาก็ยังยิ้มอยู่ คำพูดนี้เขาไม่รู้จะตอบอย่างไร เขาเปลี่ยนเรื่องขึ้นมา ถามถึงอย่างอื่น “ช่วงนี้รู้สึกร่างกายไม่สบายหรือไม่”
เฉินยางก็ไม่ค่อยเข้าใจเขานัก นางส่ายหน้าด้วยความงุนงง “ข้าดีอยู่ ไม่ต้องให้ท่านเป็นกังวล”
นางประมาทนัก ปกตินอกจากกินดื่ม ยามนี้ก็มีต้าหมี่มาอีก ตัวเองก็ไม่สนใจ นอกจากสามอย่างนี้ คาดว่าก็คงไม่มีสิ่งใดที่ทำให้นางสนใจได้แล้ว ถามนางก็เท่ากับถามเปล่า เฝิงเยี่ยไป๋หันหน้าถามซั่งเหมยซั่งเซียง “ช่วงนี้ร่างกายพระชายาได้มีความผิดปกติหรือไม่ ประจำเดือนมาปกติหรือไม่”
——
ตอนที่ 342 เจ้าสัตว์น้อยโชคไม่เลวเลยนะ
อยู่ดีๆ ไฉนถึงได้ถามเรื่องนี้ขึ้นมาเสียแล้ว ซั่งเหมยซั่งเซียงสบตาเฉินยาง กำลังจะอ้าปาก เฉินยางก็หน้าแดง โวยวายขึ้นมาให้พวกนางอย่าพูด
เฝิงเยี่ยไป๋นวดหน้านาง “ไฉนถึงพูดไม่ได้ ข้ายังรู้ไม่ได้อีกหรือ”
“เรื่องของผู้หญิง ท่านถามมากมายไปเพื่ออะไร” นางถูหน้าตัวเอง เมื่อครู่ถูกเขานวดยิ่งร้อนผ่าวขึ้นไปอีก
“เจ้าเป็นผู้หญิงของข้า เล่าให้ข้าฟังไม่เป็นไร เจ้ายังอายอีกหรือ” เขาดึงนางขึ้นมา มือข้างหนึ่งประคองที่หลังเอ;ของนาง มืออีกข้างประสานสิบนิ้วกับนาง “ทั้งวันอยู่แต่ในห้องไม่ได้ ต้องออกไปเดินเล่นบ้าง ยิ่งนอนยิ่งขี้เกียจ เป็นเช่นนั้นก็ไม่ดีต่อร่างกายนัก”
ท่าทางเช่นนี้แปลกเกินไปแล้ว เฉินยางเอามือที่ประคองอยู่บนเอวตัวเองนั้นออก แล้วถอยหลังไปสองก้าว “ข้าไม่ได้แก่จนอายุเจ็ดสิบแปดสิบเสียหน่อย ท่านไม่ต้องประคองข้าเช่นนั้น”
ซั่งเหมยซั่งเซียงที่อยู่ข้างกายนางก็เป็นสาวน้อยที่ไม่รู้เรื่อง แม้จะสังเกตถึงความผิดปกติ ก็คิดว่าเป็นนางเลือกกิน ไม่อยากอาหาร จะนึกถึงเรื่องท้องได้อย่างไร ตัวนางเองประมาท คนที่อยู่ข้างกายก็ประมาท แถมยังเลี้ยงแมวไม่ห่างกาย ไปถึงที่ใดก็พาไปด้วย หากทำนางเจ็บอีกเล่า
“ต้าหมี่เล่า” เขาหันศีรษะถามซั่งเหมย “ไปอุ้มต้าหมี่มาให้ข้า”
เฉินยางไม่รู้ว่าเขาจะทำอะไร รู้สึกไม่สบายใจ นางมองเขาด้วยความงุนงง “ท่านจะอุ้มต้าหมี่ทำไมหรือ กลางคืนต้าหมี่นอนกับข้า”
“นอนกับเจ้า?” นี่เป็นแมวตัวผู้ เขายังไม่มีโชคที่ได้นอนกับนางทุกวันเลย เจ้าสัตว์น้อยตัวนี้โชคไม่เลวนัก เฝิงเยี่ยไป๋อุ้มต้าหมี่ขยับสองที “ต้าหมี่วางไว้อยู่ที่ข้านั่นเลี้ยงไว้สองวันเสียก่อน… เจ้าดูสิมันอ้วนขนาดไหนแล้ว หากยังเป็นเช่นนี้ต่อไป ปีนต้นไม้ก็ไม่ไหว”
“ไม่ได้ ข้าเลี้ยงมันได้ ท่านจะอุ้มมันไปไม่ได้” เฉินยางยื่นมือไปแย่งต้าหมี่ ต้าหมี่ดิ้นอยู่ในอกเฝิงเยี่ยไป๋ แมวก็รู้จักเจ้านาย มันออกแรงถีบขา กระโดดจากอกเฝิงเยี่ยไป๋ไปบนตัวเฉินยาง เฉินยางถูกมันชนเข้า เซล้มไปที่มุมโต๊ะ ยังดีที่เฝิงเยี่ยไป๋ตาไวมือเร็ว คว้าเอวนางเอาไว้ ยังคงบางเช่นนี้ ทั้งบางทั้งนิ่ม คนอยู่ในอ้อมกอดของเขาเห็นได้ว่าตัวเล็กไปครึ่งหนึ่ง ยังคงเป็นผู้หญิงตัวเล็กอยู่เช่นนี้ เขาอาลัยอาวรณ์ยิ่งนัก ไม่อยากให้นางต้องทรมานเพื่อเขาแม้แต่นิดเดียว
ต้าหมี่กระโดดไปบนโต๊ะตามแรง แล้วโดดออกจากหน้าต่างไป
เฝิงเยี่ยไป๋ได้ทีก็เสนอว่า “แมวนี้นิสัยดื้อนัก ไม่สั่งสอนมันดีๆ วันหลังแม้แต่เจ้านายก็ยังกล้าทำร้าย ข้าพาไปเสียก่อน ช่วงนี้ข้าจะเอาเลี้ยงไปสักพัก รอให้มันเชื่องแล้วค่อยส่งมาให้เจ้า”
เฉินยางมองทางที่ต้าหมี่วิ่งไป บ่นขึ้นมาว่า “ปกติต้าหมี่เชื่องนัก ข้าสามารถเลี้ยงมันได้ ท่านพามันไปแล้ว ใครจะอยู่เป็นเพื่อนคลายเบื่อให้ข้า”
“ไม่ใช่ว่ายังมีน่าอวี้หรือ ความสัมพันธ์ของพวกเจ้าไม่ใช่ว่าดีหรือ วันก่อนนางไม่ได้มาวันหนึ่ง เจ้าก็บ่นว่าจะไปเยี่ยมนาง ยามนี้เจอกันได้ทุกวันแล้ว ยังบอกอีกหรือว่าไม่มีใครอยู่เป็นเพื่อนคลายเบื่อให้เจ้า?”
เมื่อก่อนคือเมื่อก่อน ยามนี้ยังจะเหมือนเมื่อก่อนได้อีกหรือ ยามนี้พวกนางทั้งสองปรนนิบัติสามีคนเดียวกัน แม้ปากจะไม่พูด เพียงแต่ต่อหน้าลับหลังล้วนแก่งแย่งกัน ยังมีซ่งจูและหลี่หรู ทุกวันพวกนางมาน้อมทักทายที่นี่ พิธีการมารยาทครบถ้วน เพียงแต่สายตาแฝงด้วยความอาฆาต แม้แต่น่าอวี้ก็สนิทกับนางไม่ได้เสียแล้ว
“เจ้าถึงจะเป็นเจ้านายอันดับหนึ่งในจวนของเรา แม้แต่ข้าก็ยังต้องเรียงอยู่ถัดจากเจ้า เจ้าอยากให้ใครมาอยู่เป็นเพื่อนเจ้า เพียงขยับปาก พวกนางก็ต้องวิ่งมาหาเจ้าที่นี่ เจ้าก็อย่าได้ใจเสาะนัก รอให้ฤดูร้อนผ่านไปแล้ว ข้าจะพาเจ้าออกไปเที่ยว เจ้าอยากไปที่ใดพวกเราก็ไปที่นั่น”