ตอนที่ 314 จัดการเรื่องราวหลังการตายของซูเหลียงอิน / ตอนที่ 315 ทุกสิ่งทุกอย่างควรสิ้นสุดเสียที

หวนแค้นชะตารัก

ตอนที่ 314 จัดการเรื่องราวหลังการตายของซูเหลียงอิน

 

 

 

 

คำพูดของนางทำให้เสี่ยวเหลียนไม่รู้จะตอบอย่างไร วังในมีผู้หญิงมากมาย การรักฝ่าบาทย่อมเป็นเรื่องทุกข์ทรมาน ก่อนหน้านี้กู้ชิงเฉิงก็เป็นเช่นนี้ เสี่ยวเหลียนจึงไม่พูดเตือน บางทีสภาพอย่างนี้จะเป็นผลดีต่อกู้ชิงเฉิง อย่างน้อยก็ไม่รู้สึกหดหู่เหมือนเมื่อก่อน

 

 

เฟิ่งอวิ๋นหล่างทรงจัดคนส่งซูจิ่วซือออกไปนอกเมืองด้วยพระองค์เอง โลงศพของซูเหลียงอินอยู่ในคฤหาสน์หลังหนึ่งนอกเมือง

 

 

นางปลิดชีวิตตัวเองหนีความผิด เดิมทีควรโยนศพทิ้งบนเขารกร้าง เฟิ่งอวิ๋นหล่างทรงให้ส่งศพนางมาที่นี่ ถือว่าทรงเห็นแก่ซูเหลียงอินมาก แต่เป็นไปไม่ได้ที่จะจัดพิธีศพอย่างเอิกเกริก

 

 

ขณะที่ซูจิ่วซือมาถึงนอกเมือง ซูเหิงและกู้หลียวนอยู่ที่นั่นแล้ว คฤหาสน์หลังนี้เดิมเป็นของเฟิ่งอวิ๋นหล่าง บัดนี้ทรงพระราชทานให้ซูจิ่วซือแล้ว

 

 

ซูเหิงและกู้หลียวนสวมชุดขาว ซูจิ่วซือก็เช่นกัน ใบหน้าไม่ได้ทาแป้ง บนศีรษะมีเพียงดอกไม้ประดิษฐ์สีขาว

 

 

“เด็กคนนี้โง่จริงๆ นางกลัวว่าจะทำให้พวกเจ้าพลอยเดือดร้อน เป็นเด็กโง่เขลา”

 

 

กู้หลียวนเองก็รู้สึกเสียดายมาก เขาไม่สนิทกับซูเหลียงอินเป็นพิเศษ แต่ก็ชอบเด็กสาวคนนี้มาก รู้สึกว่านางเป็นคนที่น่ารัก

 

 

“กู้หลียวนนี่น้องสาวข้า ไม่ต้องให้คนสกุลกู้อย่างเจ้ามาตีสีหน้าอยู่ที่นี่ รีบไสหัวไป”

 

 

ซูเหิงเกลียดคนสกุลกู้อยู่ลึกๆ เขาแปลกใจที่ซูจิ่วซือสนิทสนมกับกู้หลียวนและกู้ชิงเฉิง ยังหลงรักกู้เฉินหรง เขาไม่ชอบคนสกุลกู้

 

 

กู้หลียวนขมวดคิ้ว รู้ดีว่าซูเหิงอารมณ์ไม่ดี แต่ไม่ถือสาซูเหิงและไม่พูดตอบ

 

 

ซูจิ่วซือกลับเดินเข้ามาหา พูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “ซูเหิง หลียวนเป็นรุ่นพี่ของเรา คอยช่วยเหลือเราตลอดมา เจ้าทำแบบนี้กับหลียวนไม่ได้ หลียงอินกับหลียวนก็มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน วันหน้าเราจะเป็นครอบครัวเดียวกัน”

 

 

“แต่เขาแซ่กู้”

 

 

“เป็นอย่างนั้นแล้วจะยังไง? ในตัวเขามีสายเลือดของป้า เป็นญาติผู้พี่ของเรา เหลียงอินไม่อยู่แล้ว พวกเราไม่ว่าใครจะเกิดเรื่องอีกไม่ได้ ซูเหิง ในเมืองหลวง ข้ามีพวกเจ้าเท่านั้นแล้ว”

 

 

คำพูดซูจิ่วซือแฝงด้วยความปวดร้าว

 

 

เวลานี้นางคิดถึงกู้เฉินหรงเป็นพิเศษ พอคิดถึงเขาจึงรู้สึกสบายใจขึ้น กู้เฉินหรงกลายเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจนางอย่างไม่รู้ตัว นางรู้ว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น กู้เฉินหรงจะยืนอยู่กับนาง

 

 

“เด็กโง่ อย่าเศร้าไปเลย ถ้าเจ้ามีเรื่องอะไร ขอให้บอกเถอะ ข้ารับปากกู้เฉินหรงแล้วว่าจะดูแลเจ้าให้ดี” กู้หลียวนไม่เคยเห็นซูจิ่วซือแสดงท่าทีเช่นนี้ ที่ผ่านมาที่เขาเห็นซูจิ่วซือมักจะเยือกเย็นและเลือดเย็น ราวกับว่าไม่ว่าไม่มีอะไรที่กระทบนาง ความจริงแล้วเด็กสาวคนนี้เป็นคนยึดมั่นในความรักและคุณธรรม

 

 

“พี่สาวข้า ข้าดูแลได้ เจ้าไม่ต้องยุ่ง”

 

 

ซูเหิงยังคงไม่ชอบกู้หลียวน เขาคิดว่ากู้เฝิ่นไต้เป็นคนฆ่าซูเหลียงอิน จึงรู้สึกเป็นศัตรูกับสกุลกู้มาก

 

 

“เจ้าไม่รบกวนพี่สาวเจ้าก็ไม่เลวแล้ว ซูเหิง คนหนุ่มเลือดร้อนบางครั้งก็ไม่ใช่เรื่องดี ถูกคนอื่นหลอกใช้ได้ง่าย เจ้าควรเอาอย่างจิ่วซือ เยือกเย็น ตั้งใจเรียนรู้วิธีปฏิบัติตัวในเมืองหลวง”

 

 

กู้หลียวนไม่ถือสาซูเหิง ถึงอย่างไรซูเหิงก็เพิ่งอายุสิบเจ็ด อายุน้อยกว่าเขามาก เขาไม่อยากถือสาเด็กหนุ่มในเรื่องเหล่านี้ เมื่อคำนึงว่าเขาเป็นน้องชาย จึงเตือนเขาด้วยความหวังดี

 

 

ซูเหิงไม่พูดอะไร เขารู้ว่าที่กู้หลียวนพูดนั้นมีเหตุผล แต่เวลานี้เขาอารมณ์ไม่ดี เขาเพิ่งกลับมาเมืองหลวงไม่นาน ก็เผชิญกับเหตุการณ์สูญเสียทั้งมารดาและน้องสาว แม้แต่ตัวเองก็เฉียดผ่านประตูผี ทำให้เขาแค้นใจที่ตนไร้ความสามารถ และเศร้าโศกเสียใจ

 

 

 

 

——

 

 

ตอนที่ 315 ทุกสิ่งทุกอย่างควรสิ้นสุดเสียที

 

 

 

 

พอเห็นกู้หลียวน ก็เหมือนเจอที่ระบายออก เขาจึงโยนโทสะทั้งหมดใส่กู้หลียวน เพราะเขาเป็นคนสกุลกู้

 

 

ซูจิ่วซือตบไหล่ซูเหิงเบาๆ บอกให้รู้ว่าซูเหิงควรใจเย็นๆ

 

 

“ขอโทษ”

 

 

ซูเหิงทิ้งคำพูดนี้ไว้ขณะเดินไปที่ข้างโลงศพของซูเหลียงอิน แล้วคุกเข่าลงหน้าโลงศพ เผากระดาษให้ซูเหลียงอิน

 

 

“หลียวน อย่าถือสาซูเหิงเลย เขาเข้าใจ เพียงแต่อารมณ์ไม่ดี”

 

 

ซูจิ่วซือไม่อยากให้เกิดช่องว่างระหว่างซูเหิงกับกู้หลียวน ทั้งสองเป็นญาติของนาง เป็นญาติเท่าที่มีอยู่

 

 

“ข้าจะถือสาหาความได้อย่างไร ซูเหิงอายุยังน้อย ไม่เหมือนเจ้าที่รู้จักควบคุมอารมณ์ ข้าเข้าใจดี เขาเพิ่งมาถึงเมืองหลวงก็พบการเปลี่ยนแปลงมากมาย ไม่แปลกที่จะอารมณ์ไม่ดี จิ่วซือ เจ้าจะจัดการสกุลกู้เมื่อไหร่”

 

 

วันนั้นหลังจากทั้งสองคุยกัน กู้หลียวนจึงรู้ว่าซูจิ่วซือวางแผนจะจัดการตระกูลกู้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับซูเหลียงอินน่าจะทำให้ซูจิ่วซือลงมือเร็วขึ้น

 

 

“ข้าไม่ได้จัดการสกุลกู้ แต่จัดการซูเหมย”

 

 

ซูจิ่วซือย่อมไม่จัดการสกุลกู้ นี่เพราะเป็นสกุลกู้ของกู้เฉินหรง นางต้องการชีวิตของซูเหมย อยากให้ซูเหมยทุกข์ทรมานแสนสาหัสแล้วค่อยตาย จึงจะระบายความแค้นในใจนางได้

 

 

บัดนี้ซูเหมยได้ลิ้มรสความเจ็บปวดที่สูญเสียลูกสาวแล้ว ต่อไปควรจะเสียกู้เหยี่ยนอย่างสิ้นเชิง ซูจิ่วซือต้องการให้กู้เหยี่ยนเห็นชัดๆ ว่าผู้หญิงข้างหมอนคนนี้มีเรื่องปิดบังเขามากแค่ไหน

 

 

นางรู้ว่าระยะนี้กู้เหยี่ยนเย็นชาต่อซูเหมยมาก คิดว่าซูเหมยคงทุกข์ทรมาน ทุกสิ่งทุกอย่างควรสิ้นสุดเสียที

 

 

“เจ้าเองก็ต้องระวังตัว จิ่วซือ เรื่องนี้ข้าช่วยเจ้าไม่ได้ แต่จะไม่ขัดขวางเจ้า”

 

 

“ข้าจัดการเอง เจ้าไม่ต้องเข้ามาเกี่ยวข้อง”

 

 

ซูจิ่วซือไม่ได้เคยคิดจะให้กู้หลียวนยื่นือเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ นางวางแผนเล่นงานซูเหมยไว้แล้ว ก่อนจัดการซูเหมย ต้องจัดการซูเหวิน ให้ซูเหมยเห็นกับตาตัวเองว่าน้องชายสุดที่นักของนางถูกขับออกจากจวนอย่างไร

 

 

กู้หลียวนไม่ได้ซักถามต่อ เขาไม่ชอบซูเหมย แต่ถึงอย่างไรซูเหมยก็เป็นแม่เลี้ยงของเขา ให้เขาช่วยซูจิ่วซือสังหารแม่เลี้ยง เขาทำไม่ได้ เขาจึงไม่อยากรู้แผนการรายละเอียดของซูจิ่วซือ

 

 

กู้หลียวนไม่เคยสงสัยในความสามารถของซูจิ่วซือ

 

 

ทั้งสามเฝ้าห้องพิธีศพ ไม่มีใครพูด อยู่เป็นเพื่อนซูเหลียงอินเงียบๆ วันพรุ่งนี้ก็จะทำพิธีฝังศพแล้ว นี่เป็นคืนสุดท้ายที่พวกเขาจะอยู่ซูเหลียงอิน

 

 

…..

 

 

เมืองหลวงตูเฉิงแคว้นเจียง

 

 

กู้เฉินหรงอยู่ที่ตำหนักหันจาง เป็นวังที่ประทับของซุ่นตี้ซึ่งเป็นพระอัยกา เขามาถึงเมืองหลวงตูเฉิงแคว้นเจียงหลายวันแล้ว ซุ่นตี้ทรงประกาศฐานะของกู้เฉินหรงอย่างเป็นทางการ เขาเปลี่ยนชื่อเป็นฟู่เฉินหรงอย่างเป็นทางการ คารวะบรรพชนคืนสู่ตระกูลอย่างเป็นทางการ

 

 

ไม่มีใครสงสัยฐานะของฟู่เฉินหรง เพราะเขาหน้าตาเหมือนรัชทายาทตวนฮุ่ยที่เสียชีวิตไปมาก มองออกทันทีว่าเป็นพ่อลูกกัน จึงไม่ต้องสงสัย

 

 

ซุ่นตี้ซึ่งทรงชราภาพแล้ว ประทับนั่งบนราชบัลลังก์ จอนพระเกศาสองข้างหงอกแล้ว พระพักตร์มีรอยเ**่ยวย่นลึก แม้ทรงชราภาพ แต่พระวรกายยังเปี่ยมด้วยพระบารมี ดวงพระเนตรที่ขุ่นมัวยังมีประกาย

 

 

พระพลานามัยถดถอยลงมากแล้ว ทรงไอเป็นพักๆ สำหรับพระองค์การตามฟู่เฉินหรงกลับมาจึงเป็นเรื่องที่ไม่อาจรอช้า

 

 

“เฉินหรง หลานกลับมาหลายวันแล้ว คงเข้าใจสถานการณ์ในเมืองหลวงดี พรุ่งนี้เราจะประกาศต่อทั่วหล้า แต่งตั้งเจ้าเป็นรัชทายาทอย่างเป็นทางการ นับจากนี้ไปเจ้าก็คือรัชทายาทแห่งแคว้นเจียง ภารกิจในการทำให้แคว้นเจียงรุ่งเรืองตกเป็นภาระของเจ้าแล้ว”

 

 

ฟู่เฉินหรงสีหน้าเคร่งขรึมยืนอยู่เบื้องหน้าพระพักตร์ซุ่นตี้ เขาคุกเข่าลง “หลานจะไม่ทำให้พระอัยกาผิดหวังพ่ะย่ะค่ะ”