คุณสามี แห่ง ปาฏิหาริย์ บทที่ 690
”แก…”

ทุกคนต่างมีใบหน้าที่ชิงชังเมื่อพวกเขาได้ยินกับคำเตือนของเซปไฟร์ พวกเขาสบสายตากัน

เซปไฟร์เป็นส่วนหนึ่งของสำนักประตูสุราลัย! เขายังดำรงตำแหน่งสำคัญในสำนักประตูสุราลัยอีกด้วย เขาเป็นถึงรองประมุขสำนัก!

ความเงียบงันกินเวลาไปนานกว่าสิบวินาที

นาโอมิ แกรนด์ เจ้าสำนักพเนจรก้าวเท้าออกมาและกล่าวกับเซปไฟร์ “แดร์ริลผู้ทรยศคนนั้นได้ลี้ภัยไปหลบอยู่กับกองทัพโลกใหม่แล้ว! ได้โปรดอภัยให้พวกเราด้วย แต่เราไม่สามารถที่จะอนุญาตให้พ่อแม่ของผู้ทรยศออกไปได้!”

มาสเตอร์ลีโอนาร์ดก็ก้าวเท้าออกมาเผชิญหน้าเช่นกัน เขากล่าวอย่างชอบธรรม “ใช่แล้ว แดร์ริลเป็นคนหนึ่งที่อาศัยอยู่ในจักรวาลโลก เขามอบตัวให้กับพรรคกบฏและช่วยเหลือผู้รุกรานจากดินแดนอื่นเพื่อโจมตีเพื่อนร่วมชาติของตัวเอง มันเป็นการกระทำที่ยกโทษให้ไม่ได้ เราจะปล่อยตัวพ่อแม่ของเขาออกไปได้ยังไง?”

“ใช่ ถ้าหากมันเป็นเพราะการเลี้ยงดูลูกชายที่ไร้ค่าของพวกเขา ทำไมเราถึงจะต้องปล่อยตัวพวกเขาไปด้วย?”

คนอื่น ๆ ต่างพากันไม่สบายใจ พวกเขาโวยวายในความโมโห

เมื่อเขาได้ยินคำครหาใส่ร้ายแดร์ริล สีหน้าของเซเฟอร์ก็เศร้าใจ เขาฉีกยิ้มและไม่ได้ชักสีหน้าความโกรธใด ๆ ออกมา เขากวาดสายตามองไปรอบ ๆ และกล่าว “พวกท่านเอาแต่พูดว่าแดร์ริลลี้ภัยไปอยู่ในค่ายพักแรมโลกใหม่ ยังไงก็แล้วแต่ พวกท่านคนไหนเคยเห็นว่าเขาได้ทำร้ายใครในจักรวาลโลกบ้างไหม?”

“พวกท่านอ้างตนว่าเป็นผู้ทรงธรรม แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่มีปัญหาเกิดขึ้น พวกท่านไม่ได้พยายามเลยที่จะสืบหาความจริง! พวกท่านกลับอ้างตนว่ามีความยุติธรรมและด่วนสรุปตัดสินอย่างหยิ่งผยองเกี่ยวกับผู้อื่น! พวกท่านขังคู่สามีภรรยาผู้บริสุทธิ์เพียงเพราะพวกท่านเชื่อว่ามันคือความจริง ทั้ง ๆที่ยังไม่มีการสืบสวนใด ๆ พวกท่านเรียกสิ่งนี้ว่าความถูกต้องอย่างนั้นเหรอ?”

เสียงของเซปไฟร์ดังกังวาน ทรงพลังและชัดเจน!

บรรดาเจ้าสำนักทั้งหลายต่างจ้องมองไปที่เซปไฟร์อย่างเงียบขรึม พวกเขาไม่สามารถจะหาคำมาโต้แย้งแก้ต่างให้ตัวเองได้!

เซปไฟร์สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ความอดทนของเขาทั้งหมดมาถึงขีดสุดแล้ว “ผมขอบอกอีกครั้ง ปล่อยตัวพวกเขาไป!”

“เซปไฟร์ หยุดทำตัวไร้สาระสักที” ท่าทางของแม่ชีแห่งโชคชะตาเย็นชาขณะกระบี่เล่มยาวของเธอปรากฏขึ้นในมือของเธอ “ตราบใดที่เรายังอยู่ที่นี่ แกก็จะไม่มีวันเอาตัวพ่อแม่ของปีศาจร้ายตนนั้นออกไปได้!”

“เอาล่ะ เอาล่ะ!”

“ถ้านายอยากจะเอาตัวพ่อแม่ของไอ้คนจัญไรหนีไป งั้นก็คงจะต้องข้ามศพของพวกเราไปก่อน!”

เจ้าสำนักคนอื่น ๆ ต่างก็ส่งเสียงโกรธเคืองเช่นกัน พวกเขายังปลุกระดมกำลังภายในของตัวเองและชักอาวุธออกมาและจ่อไปที่เซปไฟร์!

“เอาล่ะ ถ้าเป็นเช่นนั้น…” เซปไฟน์ไม่หวาดหวั่นเลยแม้แต่น้อย เขารู้สึกชอบใจและเงยหัวขึ้นหัวเราะออกร่าออกมาเสียงดัง! “พวกท่านคิดว่ามีจำนวนคนมากกว่าผมงั้นเหรอ?”

ดวงตาของเซปไฟร์ลุกเป็นเพลิงด้วยความโมโห ขณะเขาควักเครื่องรางออกมาจากเสื้อของเขา เขาส่งกำลังภายในของตัวเองใส่เครื่องรางและขว้างมันออกไปนอกหน้าต่าง!

หวือ!

เครื่องรางลอยออกไปนอกหน้าต่างและจากนั้นมันก็ระเบิดราวกับพลุดอกไม้ไฟ!

ท้องฟ้าก็สว่างไสวขึ้นมาด้วยแสงสีและมันกลายเป็นลายธงขนาดใหญ่ มันคือธงเก้ามังกรผดุงความยุติธรรม!

มันคือสัญญาณลับของสำนักประตูสุราลัย!

พรึบพรับ! พรึบพรับ!

ในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ พวกเขาก็ได้ยินเสียงฝีเท้าดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง!

ด้านนอกของหอคอยดาวปราถนา บรรดาสาวกสำนักประตูสุราลัยที่เห็นสัญญาณต่างพากันวิ่งกรูเข้าไปในห้องราวกับอุกธาร!

มีเหล่าสาวกเป็นหมื่น ๆ คนวิ่งเข้ามาและปิดกั้นทางเข้าออกทุกหนทุกแห่งรอบ ๆ หอคอยดาวปราถนา!

สองขุนพลสายฟ้า สามพี่น้องตระกูลดิกสันและสิบปรมาจารย์สวรรค์พากันปีนขึ้นไปบนหอคอย

เมื่อพวกเขามาถึงที่ชั้นสอง สองขุนพลสายฟ้าและคนอื่น ๆ เห็นสภาพเดรกและภรรยาอยู่ในคุกและเนื้อตัวพวกเขาปกคลุมเต็มไปด้วยคราบเลือด

‘พ่อแม่ของท่านประมุขสำนักถูกปฏิบัติอย่างโหดเหี้ยมขนาดนี้ได้ยังไง?’

พวกเขาต่างก็เดือดดาลเคืองโกรธด้วยเช่นกันกับภาพที่ได้เห็น!

“พี่น้อง พี่น้อง พ่อแม่ของแดร์ริลกำลังทุกข์ทรมาน เราจะทำยังไงกันดี?” ดวงตาของเซปไฟร์แดงเถือกเป็นสีเลือด เขาแผดเสียงดังก้องกังวาล

“เราจะช่วยพวกเขา!” สองขุนพลสายฟ้าและสิบปรมาจารย์สวรรค์ตะโกนพร้อมกัน!

“แล้วเราจะทำยังไง ถ้ามีใครห้ามเรา?” เสียงของเซปไฟร์แหบแห้งจากการตะเบ็งเสียงอย่างต่อเนื่อง!

“เราจะฆ่าพวกมัน!”