เสียงกรีดร้องดังสองครั้ง ผู้เฒ่าสองคนที่เข้าขวางหน่วยกวาดล้างตกตาย อกของทั้งคู่ถูกคมกระบี่ฟันจนเปิดออก! หลี่เจิงสังหารศัตรูสองคนที่มีพลังเท่าเขาในกระบี่เดียว!
แม้จะเป็นการโจมตีโดยไม่รู้ตัวก็แสดงให้เห็นถึงพลังของเขาที่เหนือกว่ากึ่งภูติที่มีแก้วพลังชีวิตสองดวงทั่วๆไป! การฟันกระบี่ของเขาทำให้ผู้เฒ่าที่เข้ามาขวางหลายคนต้องอ้าปากค้าง
หน่วยกวาดล้างกล้าสังหารผู้เฒ่า!
หน่วยกวาดล้างสองคนบินคู่กันไปลากผู้เฒ่าจางออกมาจากกลุ่มคน ตลอดทาง ผู้เฒ่าจางอ้อนวอนเสียงดังและตะโกนอย่างโกรธแค้น
แต่ไม่นานเสียงนั้นก็สงบลงหลังจากที่มีเสียงหัวเคาะพื้น ทหารคนหนึ่งจากหน่วยกวาดล้างเดินเข้ามา คือถือหัวนั้นไว้และโค้งคำนับต่อซือหยู
“นายท่าน เราบั่นคอมันตามคำสั่งแล้ว”
ซือหยูเหลือบมองหัวผู้เฒ่าจาง ดวงตานั้นยังคงเบิกกว้าง ซือหยูพยักหน้าเบาๆ
“โยนมันทิ้งไป”
หัวกลิ้งไปรอบๆเมื่อทหารคนนั้นโยนมันทิ้งราวกับขยะ ไม่ว่าจะกลิ้งไปทางใด เหล่าผู้เฒ่าก็จะหลีกทาง…
โหดร้ายเกินไปแล้ว!
เขาฆ่าคนเพียงแค่คำพูดไม่กี่คำ!
ผู้เฒ่าเฉินพูดขึ้นมา
“ซือหยู เจ้าสมคบคิดกับคนจากต่างโลกเพื่อฆ่าคนของเราในพันธมิตรผู้คุมสวรรค์จริงหรือไม่?”
ซือหยูยืนมือไพล่หลัง เขามองทะลวงไปยังทุกคนรวมถึงฟู่กังซานและมองตรงไปยังฟู่หงซื่อ
“ถ้าเจ้าจะเชื่อทุกอย่างที่ฟู่กังซานบอก เจ้าจะเสียเวลามาถามข้าทำไม?”
ผู้เฒ่าเฉินสับสน เขาหมายความว่าอย่างไรกัน?
“ซือหยู เจ้าสมคบกับคนต่างโลก เจ้าต้องการอะไรกันแน่”
ฟู่กังซานรู้ความจริงอยู่แล้ว แต่เขาก็ยังอยากจะสังหารซือหยู คงแปลกถ้าซือหยูไม่กลับมาล้างแค้น
ซือหยูตอบอย่างเย็นชาจนเขาแปลกใจ
“ข้าว่าเจ้าถามหลานรักของเจ้าก่อนจะดีกว่า! เรื่องที่เจ้าอยากจะฆ่าพวกข้าห้าคนเอาไว้ทีหลัง! ข้ากลับมาเพื่อเรื่องของหลานฟู่หงซื่อของเจ้า!”
อะไรนะ? เขามาถึงที่นี่เพื่อฟู่หงซื่องั้นรึ?
เขาทำเรื่องอะไรลงไป?
ฟู่กับซานสับสน มีความคิดมากมายแล่นผ่านหัว ทำไมข้าจะไม่รู้จักน้ำใจของหลานตัวเองกัน?
“หงซื่อ เจ้าทำอะไรลงไป? บอกความจริงข้ามา!”
ฟู่กังซานเค้นถาม
ฟู่หงซื่อหน้าซีดราวกับหิมะ เหงื่อผุดออกมาจากหน้าผาก
“ข้าบังเอิญมีปัญหากับซือหยู ข้าไม่ได้ตั้งใจจะ…”
ฟู่หงซื่อพยายามปิดบังเรื่องราว
แต่ก็มีเสียงหัวเราะของหลี่เจิงดังตามมา
“ถ้าเจ้าไม่กล้าพูดความจริง ข้าจะพูดเอง! เพราะมันก็ไม่ใช่ความลับยิ่งใหญ่อะไร! ทุกคนก็แค่กลัวที่จะพูดออกมาเพราะกลัวว่าฟู่กังซานอาจจะทำอะไรเรา!”
เขาอธิบายต่อ
“เขาแกล้งส่งสารแทนฟู่กังซานเพื่อให้ผู้เฒ่าฉิวออกจากห้อง แล้วเขาก็ทำบางอย่างที่มิอาจพูดได้กับจ้าวยี่หยูที่หมดสติ ถ้าซือหยูกับกังต้าเหล่ยไม่มาเจอเข้า เขาก็คงจะทำเรื่องชั่วร้ายสำเร็จไปแล้ว!”
เขาพูดต่อ
“จากนั้นเขาก็ไปที่คุกและพยายามจะชิงตัวฉีหยุนเซี่ยง โชคดีที่เจ้าพันธมิตรหลงไปที่นั่นทัน! ต่อมาเขาก็นำพวกเราไปรอเจ้าตำหนักฉีกับคนที่เหลือเพื่อที่จะสังหารทุกคน!”
เขาสรุป
“ทุกอย่างอาจจะเป็นเรื่องที่ผู้เฒ่าอย่างพวกท่านไม่รู้ แต่กับหน่วยกวาดล้างของข้าที่ต้องทำเรื่องสกปรกรับรู้ทุกอย่าง!”
ผู้เฒ่าหลายคนโกรธแค้น แม้ว่าพวกเขาจะรู้ว่าฟู่หงซื่อเป็นคนเช่นไร เขาก็ไม่คิดว่าฟู่หงซื่อจะกล้าทำเรื่องไร้ยางอายเช่นนั้น! เขายังกล้าส่งสารปลอมเพื่อที่จะแหวกทางไปสู่จ้าวยี่หยู มันคือการกระทำของคนชั้นต่ำ!
ส่วนเรื่องฉีหยุนเซี่ยง พวกเขาไม่แปลกใจนัก
“นายท่านกลับมาเพื่อกำจัดไอ้สารเลวนี่แทนพันธมิตรผู้คุมสวรรค์! จากที่ข้ารู้ สตรีหลายนางในพันธมิตรผู้คุมสวรรค์ล้วนแปดเปื้อนเพราะมัน อาจจะมีเรื่องที่พวกข้าไม่รู้อยู่อีกก็ได้! คนเช่นนี้ต้องถูกกำจัดทิ้ง!”
เมื่อหลี่เจียงเป็นทหารคุ้มกัน เขาได้แอบรายงานทุกอย่างกับหลงจื้อชิงมาก่อน แต่ด้วยเรื่องที่เกิดขึ้น หลงจื้อชิงได้แต่แสร้งทำเป็นไม่รู้ ตลอดมา เขาพยายามจะอดทน แต่ตอนนี้เมื่อซือหยูกลับมาเพื่อฆ่าฟู่หงซื่อ หลี่เจิงจึงดีใจมาก!
เพราะฟู่หงซื่อเป็นคนที่ข้ามเส้น เขากลายเป็นคนที่หลี่เจิงชิงชังที่สุด! ดังนั้นเขาจึงเต็มใจที่จะแฮเรื่องของฟู่หงซื่อด้วยตัวเอง
“ฮื่ม! ไร้สาระ จะตัดสินหลานข้าด้วยคำพูดพล่อยๆของเจ้าน่ะรึ?”
ฟู่กังซานถาม
“แล้วก็ยากนักที่จะสืบหาความจริงจากคนหมู่มากได้…”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น หลี่เจิงเงียบและไม่พูดต่อ
“หึหึ ใครบอกล่ะว่าข้าจะสืบหาความจริง? ข้าจะมาเอาชีวิตมัน เหตุผลง่ายๆก็คือข้าอยากให้มันตาย! ข้าไม่สนว่าใครจะเชื่อเรื่องนี้หรือไม่!”
ซือหยูเริ่มเดินไปข้างหน้า!
การเจรจาจบแล้ว มันล้มเหลวไม่เป็นท่า
“ผู้เฒ่าทุกท่าน โปรดช่วยกันจับชายหนุ่มผู้นี้ก่อนที่เราจะพูดคุยกันเถอะ! ข้าจะอธิบายเรื่องหลานชายกับทุกคนเมื่อเรื่องนี้จบลง!”
ฟู่กังซานคิดจะยื้อเรื่องไปอีก
ผู้เฒ่าหลายคนไม่เคลื่อนไหว เพราะหลี่เจิงไม่น่าจะโกหก และความตั้งใจของฟู่กังซานที่จะปกป้องหลานนั้นชัดเจนเกินไป
ผู้เฒ่าหลายคนเห็นแก่ภาพลักษณ์ของตัวเอง พวกเขาไม่คิดจะมัวหมองเพราะเด็กที่น่าขยะแขยงคนเดียว ดังนั้นหลายคนจึงไม่ได้เข้าไปล้อมซือหยู พวกเขาล้วนหลีกทางให้เขาไปหาปู่กับหลานคู่นั้น
มีเพียงคนของฟู่กังซานที่ตอบรับ นี่เป็นโอกาสสุดท้ายที่พวกเขาจะได้กอบกู้สิ่งที่มี พวกเขาต้องฆ่าซือหยูเสียตั้งแต่ตอนนี้! เพราะถ้าฟู่กังซานแพ้ พวกเขาจะต้องพบกับจุดจบที่ไม่อยากให้เกิดขึ้น!
“เราต้องจับจ่าฝูงก่อน เราต้องฆ่าซือหยู!”
หนึ่งในผู้เฒ่าตะโกน มีผู้เฒ่ามากกว่าสิบคนพุ่งเข้าหาซือหยู
หลี่เจิงใบหน้าเคร่งเครียด
“จัดกระบวน!”
สิบคนของหน่วยกวาดล้างรีบล้อมรอบตัวซือหยูทันที การต่อสู้ครั้งใหญ่กำลังจะเริ่มขึ้น!
แต่ละคนของหน่วยกวาดล้างนั้นโดดเด่นเหนือผู้ใด ส่วนมากคือผู้เฒ่าที่มีพลังต่อสู้มหาศาล แต่พวกเขาก็ยังคงขาดจำนวนที่มากพอ
กระบวนทัพป้องกันคงรับได้ไม่นานก่อนที่จะถึงตัวซือหยู!
จากนั้นก็มีคนหลายคนพุ่งเข้าใส่ซือหยู! คนเหล่านั้นคือคนของฟู่กังซาน พวกเขาไม่ลังเลเลยเมื่อได้โอกาสจู่โจม!
กระบวนทัพป้องกันแตก! พวกเขาเตรียมจะสู้กับหน่วยกวาดล้างจนตัวตาย! สถานการณ์แจ่มชัดขึ้นมาแล้ว!
พรึ่บ
มีแปดคนเข้าร่วมการต่อสู้และจู่โจมซือหยูกับคนของเขา ฟู่กังซานถอนหายใจด้วยความโล่งอกเมื่อเห็นว่าสถานการณ์เป็นใจ ดูเหมือนว่าเขาจะต้านอยู่
แต่อย่างไรก็ตาม ในที่สุด ซือหยูที่อยู่ตรงกลางได้คลายมือที่ไพล่หลังลง เขามองรอบๆอย่างเยือกเย็นในทุกทิศทาง
“คนที่ควรจะออกมาก็น่าจะออกมาจนหมดแล้ว ข้าควรจะล้างบางคนทรยศแทนเจ้าพันธมิตรหลิงสินะ?”
ไม้วิญญาณปรากฏในมือซือหยู ซือหยูไม่ต้องหันไปมองเลยเมื่อตบไม้ไปทางด้านขวา
โพล้ะ
เสียงที่คล้ายกับแตกโมแตกดังขึ้นมาทันที คนรอบๆสูดหายใจเข้าลึกเมื่อมองเห็นซือหยูสังหารผู้เฒ่าอย่างง่ายดาย ผู้เฒ่าที่พยายามจะโจมตีซือหยูตายไปแล้ว สมองของเขาแหลกเป็นเสี่ยงๆ!
โลหิตของผู้เฒ่ากระจายเต็มชุดของซือหยู มีหยดโลหิตเปื้อนใบหน้าเขาอยู่บ้าง ใบหน้าหล่อเหลาที่เปื้อนเลือดในตอนนี้ดูชั่วร้ายอย่างประหลาด
โพล้ะ
ขณะที่ผู้คนยังสับสนตกใจ ร่างของซือหยูหายไป จากนั้นก็มีเสียงตบไม้สี่ครั้งดังพร้อมกัน
ผู้เฒ่าสี่คนที่พุ่งเข้าใส่ซือหยูตายในวิธีเดียวกัน สมองของพวกเขาแหลกละเอียด!
แม้ว่าจะมีคนมากมายที่นี่…แต่ก็ไม่มีใครเลยว่าซือหยูสังหารยังไง! ตอนที่พวกเขาได้ยินเสียงตบไม้ ซือหยูก็ดึงมือกลับมาแล้ว!
โพล้ะ
พวกเขายังคงแปลกใจและสับสนอีกครั้ง ซือหยูฆ่าคนไปอีกแล้ว! แต่เงาของเขายังยืนอยู่ที่เดิมไม่ไปไหน
ทุกคนเย็นไปถึงกระดูกดำ ไม่ว่าจะเป็นใคร จะเป็นผู้เฒ่าเฉินหรือคนที่ไม่ได้ร่วมสู้ คนรอบๆล้วนหนาวไปจนถึงกระดูก!
นี่คือมนุษย์จริงๆรึ?
เหล่าผู้เฒ่าที่นี่มิใช่กึ่งภูติ มีบางคนเป็นกึ่งภูติที่มีแก้วพลังชีวิตสองดวง แม้อย่างนั้น ซือหยูก็สังหารได้โดยไม่สนใจเรื่องของฐานพลัง พวกเขาล้วนตายจากการโดนไม้ฟาดหัว!
เหมือนกับซือหยูฟาดแตงโมต่อหน้าต่อตาทุกคน แค่ฟาดครั้งเดียวก็สังหารผู้เฒ่าได้หนึ่งคน! วิธีสังหารนี้น่ากลัวจนไม่อยากมอง!
“อ๊าา! ข้าไม่เอาแล้ว!”
หนึ่งในผู้เฒ่าที่ล้อมซือหยูตะโกน เขารีบวิ่งหนี เขาทำราวกับเจอผี!
ผู้เฒ่าทุกคนรอบๆตัวแข็งราวกับศิลา พวกเขาคิดว่ากำลังร่วมมือกันฆ่าหมาป่า แต่พวกเขาได้รู้ในตอนหลังว่านี่คือราชสีห์ในคราบหมาป่า!
ใจสู้ของพวกเขาแตกสลาย คนที่เหลือไม่อยากจะสู้อีกต่อไปเมื่อเห็นหนึ่งคนหนีไปด้วยความกลัว! ผู้เฒ่าหลายคนก็แตกตื่นและเริ่มหนี!
“ฮื่ม! ถ้าเจ้าคิดจะลงมือกับข้า เจ้าก็ต้องชดใช้!”
แสงทองสามสายพุ่งออกจากชายเสื้อซือหยู
เสียงกรีดร้องดังหลายครั้ง เหล่าผู้เฒ่าที่ยังหนีไม่ทันไกลถูกสังหารตายหมด แต่ละคนถูกฟันหลายครั้ง เมื่อการล้างสังหารจบลง ทุกคนที่เหลือหัวใจเต้นแรงไม่หยุด!
ท่ามกลางความเงียบกริบ โลหิตฉาบเคลือบพื้น กลิ่นโลหิตคละคลุ้งโถงหลัก นี่คือวันนองเลือดที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์พันธมิตรผู้คุมสวรรค์ ผู้เฒ่ามากกว่าครึ่งถูกสังหารด้วยคนคนเดียว!
ซือหยูผู้เป็นมือสังหารยืนอยู่กลางบึงโลหิต ไม่มีใครกล้าจะพูดออกมาแม้แต่คำเดียว
ราวกับได้เจอสัตว์ป่าตัวใหญ่ยักษ์เมื่อเผชิญหน้ากับซือหยู แรงกดดันนี้มากพอที่จะทำให้พวกเขาเหนื่อยหอบ
ซือหยูสะบัดโลหิตออกจากตัว ซือหยูไร้อารมณ์อย่างเคย ดูเหมือนเขาจะไม่เกิดอารมณ์ใดแม้จะเพิ่งฆ่าคนไปมาก นี่ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เพราะตั้งแต่ที่ซือหยูไปบ่มเพาะในกระโจมเทพสวรรค์ เขาได้กลายเป็นคนกร้านโลกขึ้นมากและไม่สนใจในความเป็นความตาย
เขามองไปยังฟู่หงซื่ออีกครั้ง
“เจ้าไม่ควรคิดจะทำเรื่องแบบนั้น กับคนคนนั้น”
ฟู่หงซื่อก้าวถอยหลัง เขาตัวสั่นระริก เขามองซือหยูราวกับได้เจออสูรอันน่ากลัว!
เขารู้สึกโศกเศร้า ถ้าเขามีโอกาสให้แก้ตัวอีกครั้ง เขาจะไม่มีทางหมายตาจ้าวยี่หยูกับฉีหยุนเซี่ยง! ฟู่กังซานกลืนน้ำลาย เขานั่งบนที่นั่งของเจ้าพันธมิตรและไม่กล้าจะพูดอะไรออกมา
แต่ซือหยูก็ไม่ลืม เขาถามอย่างเย็นชา
“ฟู่กังซาน เห็นแก่ที่เจ้าเป็นผู้เฒ่าของพันธมิตรผู้คุมสวรรค์…ข้าอยากจะถามว่าเราควรจะจัดการกับคนที่ขี้โกงและสร้างปัญหาให้คนอื่นอย่างไร?”
ฟู่กังซานหัวใจเต้นแรง เขาพยายามจะใจเย็นเพื่อตอบกลับ
“เราควร…ฆ่าพวกมัน!”
“เช่นนั้น เจ้าจะลังเลอะไรอยู่เล่า?”
ซือหยูแววตาเยือกเย็นขึ้น
ฟู่กังซานหนาวสั่นเมื่อมองตาซือหยู ซือหยูอยากจะให้เขาฆ่าหลานตัวเอง!
ฟู่กังซานทั้งไม่เต็มใจและเจ็บปวด แต่เพื่อที่จะรักษาชีวิตตัวเอง เขาไม่มีทางเลือกอื่น เขาต้องโหดร้าย!
“หงซื่อ โปรดอย่าโทษปู่เจ้า เจ้าทำผิดกฎ ข้าที่เป็นผู้เฒ่าจำเป็นต้องทำตามกฎ!”
ฟู่กังซานพยายามจะกลืนความเจ็บปวดและแสร้งทำเป็นไร้ความรู้สึก
ฟู่หงซื่อพูดออกมาด้วยความโกรธ
“ท่านปู่จะฆ่าข้าเรอะ? ทั้งหมดข้าทำตามคำสั่งท่านปู่! ท่านอยากจะแทนที่เจ้าพันธมิตร ท่านสั่งให้ข้าแอบวางอุบายใส่ร้ายหลงจื้อชิง คนที่ถลำลึกที่สุดก็คือท่านปู่นั่นแหละ! คนที่ควรตายคือปู่! ไม่ใช่ข้า!”
ฟู่หงซื่อเคยชินกับการถูกประจบเอาใจ ความเห็นแก่ตัวของเขาพุ่งขึ้นมาอีกครั้งในยามลำบาก เพราะเขาไม่คิดจะสละตัวเองเพื่อคนอื่นอยู่แล้ว!
เหล่าผู้เฒ่าเริ่มคิดหนัก…
หลงจื้อชิงถูกใส่ความรึ? เขาถูกใส่ความยังไงกัน?
ฟู่กังซานหน้าหมองคล้ำ
“เจ้าบัดซบ จะตายแล้วยังไม่ยอมรับผิดอีกเรอะ? ข้าไม่มีทางเลือกนอกจากต้องใจร้าย!”
เมื่อพูดจบ เสียงกรีดร้องจากความเจ็บปวดดังลั่น ฟู่หงซื่อโดนปู่สุดที่รักตบจนตาย!
เรื่องนี้ช่างน่าขัน ฟู่หงซื่อหลีกหนีปัญหาทุกอย่างได้เพราะการคุ้มครองของปู่ สิ่งลักลั่นคือเขาลงเอยด้วยการถูกปู่ของเขาฆ่าด้วยมือตัวเอง!
“ทุกท่าน ต้นตอของปัญหาถูกจัดการไปแล้ว จากนี้ ข้าจะ…”
ฟู่กังซานรีบโค้งคำนับให้กับทุกคน
แต่ก่อนที่เขาจะพูดจบ ฟู่กังซานก็พูดไม่ออกอีก นั่นเป็นเพราะว่ามีกระบี่ทองเล่มเล็กทะลวงอกของเขา!
“จะ..เจ้า…”
แววตาของฟู่กังซานว่างเปล่า เขากำลังจะหมดสติ เขาได้ยินคำพูดสุดท้ายใกล้หู มันคือเสียงของซือหยูที่เล่นกระบี่ทองเล่มเล็กในมือ
“เจ้าพูดดีแล้วล่ะ ต้นตอของปัญหาจะถูกกำจัด…แต่ก็ต่อมเมื่อเจ้าไปอยู่ในนรก!”
ปู่หลานตระกูลฟู่ตายสิ้น หนึ่งคนตายเพราะโทษประหารจากซือหยู ส่วนอีกคนถูกซือหยูฆ่าทิ้งไปเอง! จุดจบเช่นนี้ทำให้เหล่าผู้เฒ่าที่อยู่รอดหัวหมุน
มีผู้เฒ่าหลายคนที่ตายไปเพราะการเอาใจออกห่าง โดยเฉพาะคนที่กระโจนตัวออกมาในคราสุดท้าย พวกเขาตายอย่างไม่เป็นธรรม! ถ้าหากพวกเขาข่มความโลภในเกียรติยศและอำนาจ พวกเขาก็คงจะไม่ถูกซือหยูฆ่า
เมื่อมองชายหนุ่มผมสีเงินที่ยืนกลางกองเลือด ไม่มีใครละสายตาออกไปได้ พวกเขาต่างคิดอยู่ในใจ…
เขาเป็นตัวตนแบบใดกันแน่?
เขาคือราชา…หรือ…อสูร?