ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 397 คุณเส้นหมี่เกี่ยวข้องอะไรกับผม?
“ใครให้คุณ——”
แสนรักโมโหร้อนเป็นฟืนเป็นไฟ เพราะเมื่อคืนเขาไม่ได้นอนเลย เพิ่งจะได้นอนก็ตอนฟ้าสาง แต่เพิ่งจะนอนหลับได้ไม่นานก็มีคนมาเคาะประตูห้องเขา
แต่หลังจากที่เขาเปิดประตูและเห็นผู้หญิงที่เคาะประตูห้องของเขา
เขากลืนคำพูดประโยคเข้าไปไม่ได้พูดออกมา
“สวัสดี ไม่ได้เจอกันตั้งนาน ฉันรบกวนเวลานอนของคุณรึเปล่า? ขอโทษนะ ที่ฉันมาหาคุณ เพราะฉันอยาก…ถามคุณว่า วันนี้ฉันจะพาคิวคิวและชินชินไปตระกูลวชิรนันท์ได้ไหม วันนี้…ฉันเตรียมตัวจะย้ายเข้าไปแล้วหนะ”
มือของเส้นหมี่ก็เหงื่อออก
ทันทีที่หล่อนเห็นผู้ชายคนนี้ออกมา ดวงตาคู่นั้นก็จ้องมาที่หล่อนอย่างโหดเหี้ยม ราวกับจะกลืนกินหล่อนทั้งเป็น แล้วหล่อนก็ชาไปทั่วหนังศีรษะ
เขาโกรธที่หล่อนมาหาเขาเหรอ?
ไม่สิ ถึงแม้เขาจะโกรธ หล่อนก็ถอยไม่ได้ หล่อนต้องอดทน มีเพียงวิธีนี้เท่านั้นหล่อนถึงจะมีโอกาส
เส้นหมี่กลืนน้ำลาย: “อีกอย่าง ฉันขอเชิญคุณ…ให้ไปกับเด็กๆด้วย ได้ไหม?”
เธอพยายามวางตัวอ่อนน้อมถ่อมตนแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนและสั่นไหวของหล่อนมองเขาอย่างระมัดระวัง ราวกับลูกแมวที่รอรักอย่างทะนุถนอม
แววตาสวยคมของแสนรักยิ้มหวานๆ
แค่เสี้ยววินาทีนั้น เขาก็จะยอมจำนน
เขาไม่เคยเห็นหล่อนเป็นแบบนี้มาก่อน และไม่เคยได้ยินหล่อนแสดงความต้องการกับเขามาเลย เมื่ออยู่ต่อหน้าเขา หล่อนทำตัวเหมือนเม่นและก้อนหิน โดยที่เขาไม่มีทางทำให้หล่อนอ่อนข้อและใจเย็นลงไม่ได้เลย
แล้วตอนนี้หล่อนกำลังเล่นอะไร?
ตระกูลวชิรนันท์กำลังจะสร้างขึ้นมาใหม่ เป้าหมายของหล่อนสำเร็จแล้ว ตอนนี้รู้สึกยังขาดลูกๆที่เคียงข้างหล่อนงั้นเหรอ?
สายตาของผู้ชายสงบลง ทันใดนั้นคลื่นทั้งหมดก็สงบลง และเปลี่ยนไปเป็นคนละคน เหมือนคนแปลหน้า
“คุณเส้นหมี่ คุณเข้าใจอะไรผิดไปรึป่าว? ตอนนี้คุณกับผมเราเกี่ยวข้องอะไรกันเหรอ?”
“ฮะ?” เส้นหมี่ราวกับถูกคนเตะอย่างไรอย่างนั้น
“ทำไมผมต้องไปรับประทานอาหารที่บ้านคุณด้วย ตอนนี้ผมมีคู่หมั้นใหม่แล้ว ผมกับคุณสนิทสนมกันอย่างนั้น คุณต้องการให้คู่หมั้นของผมเข้าใจผิดงั้นเหรอ?”
เขาโต้หักล้าง โกรธจนหน้าตาบูดบึ้ง ขมวดคิ้วชนกัน แท้จริงแล้วเป็นการตำหนิคำพูดเหล่านี้อย่างรุนแรง และเป็นการออกตัวปกป้องคู่หมั้นที่เขาพูดถึง
เส้นหมี่ตะลึงงัน
หล่อนไม่อยากเชื่อว่าเขาจะด่าหล่อนอย่างนี้ และยิ่งไม่อยากเชื่อเลยว่า คำพูดปกป้องแครอทเหล่านั้นจะออกมาจากปากของเขา
เขาความจำเสื่อมจริงรึเปล่า?
ถ้าอย่างนั้น ทำไมเขาถึงพูดคำที่น่าเกลียดแบบนี้หล่ะ? เขาไม่รู้เหรอว่า ถ้าเขาพูดอย่างนั้นหล่อนจะเสียใจมาก?
เส้นหมี่ตาเริ่มแดง.
“ไม่สิ คุณ……ทำไมคุณ……”
“ฉัน ทำไมเหรอ? เส้นหมี่ ตอนนี้ผมไม่ได้ห้ามคุณให้พบลูก ผมยินดีกับคุณมาก หวังว่าคุณจะไม่ใช่คนที่ได้คืบจะเอาศอก ไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าผมไม่ให้คุณเจอลูกล่ะ!”
เขาทิ้งท้ายด้วยประโยคนี้ หลังจากนั้น เสียงปิดประตูก็ดัง “ปัง”
เส้นหมี่กำลังจะอ้าปาก
ในที่สุดบางสิ่งในใจหล่อนก็พังทลายลง และอดกลั้นน้ำตาไว้ไม่ไหว ไหลออกมาพรากๆ
ต้องไม่ใช่แบบนี้สิ ไม่ใช่แบบนี้ หล่อนกลับมาแล้ว เขาไม่เห็นเหรอ?
เส้นหมี่ไม่เคยเจ็บปวดทรมานแบบนี้มาก่อน…
ในวันนั้น เส้นหมี่ทำได้เพียงแค่พาลูกสองคนกลับตระกูลวชิรนันท์
หลังจากนั้น หลายวันต่อมาหล่อนก็ไม่ได้ไปเรืองรองอีกเลย นับประสาอะไรกับคฤหาสน์หิรัญชา ราวกับว่าหล่อนหายสาบสูญไปแล้ว และไม่เคยเห็นหล่อนในเมืองนี้อีกเลย
เพราะอย่างนี้คุณท่านถึงได้โมโหมาก
“ไอ้เด็กบ้า แกไปพูดอะไรกับเธออีกหล่ะ? ทำไมช่วงนี้เธอไม่มาที่นี่เลย แกไม่รู้เหรอว่าฉันคิดถึงหลานสาวมากแค่ไหน?”
คุณท่านจงใจไปถึงบริษัท เพื่อเรื่องนี้โดยเฉพาะ
แสนรักกำลังนั่งอยู่ในห้องสำนักงาน
มีเอกสารมากมายกองอยู่ตรงหน้า และบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ก็เต็มไปด้วยงานต่างๆ ที่เขาต้องจัดการ เขาขมวดคิ้วเงียบลง ลมหายใจเย็น เมื่อคุณท่านพูดจบ เขาก็ปัดปากกาตกจากโต๊ะเสียงดัง “ป๊อก”
“ท่านอยากพบเธอ ท่านก็ไปหาเธอเอง จะมาหาผมทำไม? ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับผมเลย ผมว่างงั้นเหรอ”
“……”
ผ่านไปครู่หนึ่ง คุณท่านชี้นิ้วไปที่ไอ้สารเลวและดุด่าว่า: “ไม่ใช่เรื่องของแก แต่เป็นเรื่องของฉันงั้นเหรอ? ตั้งแต่วันนั้นที่หล่อนไปหาแก เธอก็ไม่กลับมาอีกเลย ผีรู้แล้วว่าคุณกับเธอพูดอะไร?”
แสนรัก:“……”
เขากำลังจะทุบข้าวของ
ทันใดนั้น โทรศัพท์ของุณท่านก็ดังขึ้นทันที
“ว่าไง?สมมาตรมีอะไรรึป่าว?”
“คุณท่าน ผมเจอคุณเส้นหมี่แล้วครับ สองวันที่ผ่านเธอไปติดต่อลูกค้ารายเก่าของตระกูลวชิรนันท์ที่เมืองA คุณชายมาร์ตินเป็นคำบอกผมเองครับ”
“มาร์ติน?”
เมื่อคุณท่านได้ยินชื่อนี้ น้ำเสียงของเขาก็สูงขึ้นหลายเท่า:”เขารู้ที่อยู่ของหล่อนได้ยังไง?”
พ่อบ้านโรจน์พูดว่า: “เพราะว่าตอนนี้คุณชายมาร์ตินกำลังช่วยคุณเส้นหมี่ติดต่อลูกค้าที่เขารู้จัก”
คุณท่านกมลภพถอนหายใจด้วยความโล่งอก: “โอเค ถ้าอย่างนั้นนายโทรหามาร์ติน และให้เขาดูแลหมี่ดีๆ มีเรื่องอะไรต้องบอกฉันทุกอย่าง”
จากนั้นคุณท่านก็วางสาย เดินยิ้มออกไปอย่างมีความสุข โดยที่ไม่มองหน้าลูกชายเลย
แสนรักหักข้อนิ้ว
ในที่สุด เขาก็ควบคุมตัวเองไม่ได้ และปัดกองเอกสารที่อยู่บนโต๊ะตกพื้น