บทที่ 396 ไปหาถึงที่

ยัยหมอวายร้ายที่รัก

ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 396 ไปหาถึงที่
“เกินไปไหม? ตระกูลวชิรนันท์กับคฤหาสน์หิรัญชาไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันแล้ว ผมยังให้หล่อนฉวยโอกาส นี้มันยุติธรรมกับแครอทเหรอ?”

“ห๊า?”

พี่ภาหยุดชะงัก!

ฉวยโอกาส?

ทำไมเขาถึงได้ใช้คำนี้พูดถึงผู้หญิงคนนั้น? เขาลืมไปแล้วเหรอว่าเมื่อก่อนเขาทำยังไงกับหล่อน? คนอื่นอาจจะไม่รู้ แต่หล่อนรู้แก่ใจดี คือคนที่หล่อนรักอย่างสุดหัวใจ

พี่ภาตกตะลึงกับคำพูดประโยคนั้น

แต่ในไม่ช้า เมื่อหล่อนเห็นใบหน้าที่ไม่แยแสและเย็นชาของเขา หล่อนก็เข้าใจอะไรบางอย่าง

ใช่แล้ว เขาคนนี้จำเรื่องราวของพวกเขาในเมื่อก่อนไม่ได้แล้ว ความทรงจำของเขาถูกลบเลือนไป แต่แล้วทำไมเขายังรู้สึกเจ็บปวดกับผู้หญิงคนนั้นอยู่อีกหล่ะ?

สุดท้ายพี่ภาก็ทำได้มองข้างหลังเขาและถอนหายใจ

——

เช้าวันรุ่งขึ้น

เมื่อเด็กน้อยทั้งสองคนในวิลล่าตื่นขึ้น พวกเขายังคงหดหู่หงอยเหงาไม่มีชีวิตชีวา เพราะความทุกข์ของเมื่อคืน

เมื่อพี่ภาเห็นอย่างนั้น ก็ทำได้เพียงปลอบใจพวกเขา: “วันนี้แด๊ดดี้ของพวกเธอไม่ไปทำงาน เดี๋ยวน้าภาจะบอกให้เขาพาพวกเธอไปเที่ยวที่สวนสนุกดีไหม?”

“ไม่ไป” คิวคิวไม่อยากได้ยินคำว่าแด๊ดดี้เลย

ชินจังก็เหมือนกัน

พี่ภาทำไม่รู้จะทำยังไง ทำได้เพียงพาพวกเขาไปเล่นที่สวนลอยฟ้าชั้นสอง

แต่คิดไม่ถึงว่า เมื่อเวลาผ่านไปไม่นานพี่ภาที่กำลังยุ่งอยู่ชั้นล่างจะได้ยินเด็กน้อยทั้งสองคนที่อยู่ชั้นบนตะโกนเสียงดังอย่างดีใจว่า: “หม่ามี๊กับน้องสาวนี่ พี่ชายรีบมาดูเร็ว ดูสิ หม่ามี๊กับน้องมาแล้ว”

“อืม หม่ามี๊—”

ชินจังยืนอยู่บนระเบียงสวนลอยฟ้าอย่างตื่นเต้น โบกมือให้กับรถเก๋งสีขาวที่กำลังแล่นมาด้านล่าง

ใช่แล้ว คือเส้นหมี่นั่นเอง

หล่อนคิดถึงการตัดสินใจเมื่อคืน วันนี้หล่อนจึงมาที่นี่ตั้งแต่เช้าตรู่ อีกทั้งยังขับรถคันใหม่ที่หล่อนซื้อเองมาด้วย

มองจากหน้าต่างรถออกไปจะมองเห็นเด็กน้อยสองคนที่ยืนตื่นเต้นอยู่บนสวนวิลล่าชั้นสองซึ่งอยู่ไม่ไกล หล่อนเลื่อนกระจกลง เพื่อบอกให้ลูกสาวที่นั่งอยู่คาร์ซีทข้างหลัง

“รินจัง ดูสิ พี่ๆกำลังตะโกนเรียกหนูหน่ะ

“จริงเหรอคะ?”

ขณะนั้นหนูรินจังกำลังก้มหน้าก้มตาตักเตรียมอาหารเช้าให้พี่ๆ เมื่อได้ยินหม่ามี๊บอกว่าพี่ๆกำลังตะโกนเรียกหาเธอ ทันใดนั้นก็รีบยื่นหน้ากลมๆของเธอออกไปนอกกระจกรถ

“พี่คะ! พี่ รีบลงมารับหนูเร็ว หนูเอาอาหารอร่อยๆมาให้ด้วยนะ”

“ว้าว…”

แค่คำเดียว ทำให้สองพี่น้องที่ยังหงุดหงิดอยู่ชั้นบน วิ่งลงมาจากสวนลอยฟ้าชั้นสองอย่างมีความสุขทันทีทันใด

ไม่กี่นาทีต่อมา แม่ลูกสี่คนก็ยืนอยู่หน้าประตูวิลล่า รวมทั้งพี่ภาที่ตามออกมาด้วย

“คุณเส้นหมี่ ไม่เจอกันนานเลยนะคะ ทำไมมาแต่เช้าหล่ะคะ?”

พี่ภามีความสุขมากจนน้ำตาคลอ เมื่อเห็นคุณนายน้อยคนเก่า

เส้นหมี่รู้สึกผิดเล็กน้อย เหลือบมองไปทางวิลล่า แล้วอธิบายว่า: “คือว่า บ้านของฉันกำลังจะร่วมรับประทานอาหารอย่างพร้อมเพรียงกัน ฉันก็เลยอยากจะรับลูกสองคนไปด้วย ไม่รู้ว่า…แด๊ดดี้ของพวกเขาจะคิดยังไง?”

“เอ่อ? เรื่องนี้ฉันช่วยอะไรไม่ได้เลย เอาอย่างงี้มั้ย คุณลองไปถามคุณชายก่อนดีไหมคะ?

พี่ภาเป็นคนฉลาด เมื่อได้ยินแบบนี้ก็มองขึ้นและชี้ไปที่ชั้นสามของวิลล่า

ทันใดนั้นหัวใจของเส้นหมี่ก็เต้นอย่างแรงขึ้นมาทันที

เขายังอยู่ที่บ้าน

เส้นหมี่แอบหัวเราะ จัดท่าทางกระโปรง และเตรียมจะเดินเข้าไป: “คิวคิว ชินชิน ดูแลน้องให้ดีนะ หม่ามี๊จะไปหาแด๊ดดี้ของพวกหนูแป๊บเดียว”

“ได้ครับ•••”

แล้วเด็กทั้งสามคนก็พยักหน้าพร้อมกัน

พูดเป็นเล่นหนะ นี่เป็นปรากฏการณ์ที่จะเกิดขึ้นครั้งแรกในรอบร้อยปี คือหม่ามี๊งี่เง่าของพวกเขาบุกไปหาแด๊ดดี้ก่อนถึงที่ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นมาก

หม่ามี๊ สู้ๆ! สุดยอดไปเลย!!

ภายใต้สายตาของลูกๆทั้งสาม ในที่สุดเส้นหมี่ก็เข้าไปในวิลล่าสุดหรูที่ไม่ได้มานานกว่าครึ่งปี

วิลล่ายังคงเหมือนเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ห้องโถงกว้างขวางและสว่างไสว เมื่อก้าวเท้าเข้าไปโคมไฟคริสตัลขนาดใหญ่ที่ห้อยลงมาจากเพดานหลังคา แม้ในกลางวันแสกๆยังคงสัมผัสได้ถึงความหรูหราหน้าต่างกระจกสะอาดสะอ้าน โซฟาสีขาวนวลที่สะท้อนกับพื้นกระเบื้องโทนเย็น ให้ความแสงแสว่างดูมีสไตล์

สถานที่แห่งนี้ หล่อนคุ้นเคยราวกับเหมือนเมื่อวาน

เส้นหมี่เดินตรงขึ้นไปชั้นสาม

วันอาทิตย์แสนรักจะหยุดพักผ่อนบางเป็นบางครั้ง มีลูกๆอยู่ที่บ้าน หากมีเวลา เขาก็หวังว่าจะได้ใช้เวลาร่วมกับพวกเขาให้มากขึ้น เขาไม่ใช่คนประเภทที่จะไม่สนใจอะไรเลย

เส้นหมี่ขึ้นไปชั้นบน แล้วเห็นประตูห้องนอนยังปิดแน่นอยู่

ขณะนั้น หล่อนยืนภวังค์นิ่งอยู่ตรงทางเดินระเบียง ราวกับว่ากลับมาตอนที่หล่อนเพิ่งถูกคนคนนี้จับกลับมาจากเมืองเคลียร์

ในตอนนั้น หล่อนกับเขาเข้ากันไม่ได้เลยจริงๆ

และตอนนี้พวกเขาก็เปลี่ยนไปแล้ว แต่ต้องกลับไปยังจุดเดิม

เส้นหมี่สูดหายใจเข้าลึกๆ ในที่สุดหล่อนก็ยกมือเคาะประตู

“ก๊อก ก๊อก ก๊อก—”

ในห้องอาบน้ำชั้นสามอันเงียบสงบในตอนเช้า เสียงเคาะประตูนั้นชัดเจนมาก เหมือนฝนที่ตกกระทบใบกล้วย ได้ยินเสียงหัวใจของเส้นหมี่เต้นรัว

ผ่านไปประมาณสองสามนาที ในที่สุดคนด้านในก็ได้ยินเสียงกรอบแกรบ

“ใครหน่ะ?”

ทันทีที่ประตูเปิดออก เสียงทุ้มต่ำของผู้ชายที่คุ้นเคยก็แว่วออกมาด้วยอารมณ์ร้อน เขาหงุดหงิดมากที่มีคนมารบกวนเขาในเวลานี้

แต่เส้นหมี่ประหม่ายิ่งกว่า