จนกระทั่งหอบ ในที่สุดจึงแยกออกอย่างไม่อยากทำนัก จากนั้นลมหายใจอุ่นๆก็รวยรินตรงหน้าอกเขา พอดีขึ้นมา ก็ได้ยินเสียงหัวใจที่เต้นแรงและทรงพลังของเขา แต่กลับรู้สึกอุ่นใจ ไม่แยแส และพูดไปเบาๆ
“ฉันไม่เป็นไร ก็แค่ข่าวนั้นกะทันหันไป ถ้านี่เป็นโชคชะตาที่พระเจ้าให้ฉัน ฉันก็ต้องยอมรับ……”
แล้วก็ มีเขาอยู่ข้าง ช่างดีเสียจริง……
ทุกคนล้วนแต่มีโชคชะตาของแต่ละคน มักจะได้ยินคำนี้บ่อยๆ โชคชะตาเล่นตลก ตอนนี้เธอสัมผัสถึงความหมายประโยคนั้นแล้ว
“งั้น ถ้าแบบนี้ การปลูกถ่ายไขกระดูกของวินดาก็อยู่ที่หยาดฝนใช่ไหม?”
ไม่น่าล่ะสองวันนี้สิงหาไม่โทรหาเธอเลย ต้องรู้เรื่องนี้แน่ๆ ความคิดของเขาไปอยู่ที่หยาดฝนแล้วใช่ไหม?
ในเวลาสั้นๆ เธอก็คิดเรื่องทั้งหมดนี้ได้
“อัตราความเข้ากันระหว่างแม่และลูกสูง ก็ไม่ได้หมายความว่าจะเข้ากันได้แน่นอน ผลการทดสอบยังไม่ออกมา ล้วนแต่เป็นเรื่องที่ยังไม่รู้”
“แต่ว่า……”คอของเชอร์รีนเอียงขึ้นเล็กน้อย มองไปที่เขา มือคว้าชุดนอนตรงหน้าอกเขา:“ฉันกลับอยากให้ไขกระดูกของเธอกับวินดาเข้ากันได้ ถ้าเป็นแบบนี้ งั้นก็ไม่ต้องการไขกระดูกของฉัน ลูกก็จะอยู่อย่างปลอดภัย ฉันคิดแบบนี้ เห็นแก่ตัวมากเลยใช่ไหม?”
เธอบอกว่าสิงหาเห็นแก่ตัว แต่เวลานี้ ตัวเธอเองก็เห็นแก่ตัว
ถึงแม้จะไม่รู้สึกอะไรกับวินดาเลยสักนิด แต่ยังไงวินดาก็เป็นคนให้ชีวิตนี้เธอ เห็นเธอตายต่อหน้าต่อตา ในใจเธอจะไม่รู้สึกผิดได้ไง?
ตอนนี้ ถ้าหยาดฝนนั้นเข้ากันได้ ก็สามารถช่วยชีวิตวินดาได้ และก็สามารถปล่อยเธอไปได้ด้วย ……
“ไม่”เขาจูบลงบนหน้าผากเธอถี่ยิบ:“ไม่เห็นแก่ตัวเลยสักนิด ปกติมาก……”
คืนนี้ เชอร์รีนนอนอย่างไม่สบายใจ มักจะฝันเสมอ ฝันแบบยุ่งเหยิง ทำให้เธอนอนไปคืนหนึ่งก็ยังรู้สึกเหนื่อย
เช้าตรู่วันถัดมา
หยาดฝนไปทำการทดสอบไขกระดูกที่โรงพยาบาล ตอนนี้เธอคิดแค่จะทำการทดสอบ ไม่ได้คิดจะปลูกถ่าย
ถ้าไขกระดูกเข้ากัน ก็ไม่ใช่ว่าไม่เกิดประโยชน์กับเธอเลย มันก็มีข้อดี แต่ถ้าไม่เข้ากันล่ะก็ ทั้งสองก็ไม่ต้องมายุ่งกับเธออีก
เชอร์รีนก็ไม่ใช่ว่าไขกระดูกไม่เข้ากัน เธอไม่เข้ากัน ก็ยังมีเธออีก ถึงตอนนั้นก็อยู่ระหว่างแม่แท้ๆกับสุนันท์ แล้วเธอจะทำอย่างไร?
ดังนั้นไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไร ก็ดีต่อเธอทั้งนั้น……
แต่เพียงพอที่จะทำให้สิงหาดีใจ กลับกัน สุนันท์กลับคอยแอบจ้องอย่างน่ากลัว
ผลทดลองนั้นใช้เวลาสองวันถึงจะออก สิงหาและสุนันท์ต่างจับตาดูหยาดฝน ไม่ไปไหนทั้งนั้น เธอจึงพักผ่อนที่บ้านตระกูลสิริไพบูรณ์
ทุกคนต่างกำลังรอผลนี้ ใจเต้นแรง สองวันถัดมา ผลก็ออกมาแล้ว
หยาดฝนไปโรงพยาบาล ผลถูกสิงหาเอาไปแล้ว เธอหาเขาเจอตรงทางเดิน ไม่พูดอะไร นั่งนิ่งอยู่อย่างนั้น
“ทำไมเหรอ พี่?”เธอไม่เข้าใจ ไม่รู้ว่าทำไมเขาปรากฏสีหน้าแบบนี้ เกิดปัญหาตรงไหนกันแน่?
“ความเข้ากันไม่สูง ปลูกถ่ายไม่ได้ ปลูกถ่ายไม่ได้”สิงหาเหมือนกับจะบดขยี้รายงานผลนั้น ริ้วรอยที่ใบหน้าปรากฏออกมาอย่างไม่ต้องสงสัย
หยาดฝนตะลึง มองไปที่รายงานผล ความเข้ากันต่ำเกินไปจริง เธอยืนยันได้ว่าตัวเองไม่ได้ทำอะไรลงไป
สิงหารับผลลัพธ์นี้ไม่ได้เท่าไหร่นัก เขารอมาตั้งนาน ก็ไม่ใช่รอเพื่อผลลัพธ์แบบนี้ ถ้าเป็นแบบนี้ งั้นเรื่องราวทุกอย่างก็กลับไปจุดเดิมอีกครั้ง
ไม่เข้ากัน เธอกับเชอร์รีนล้วนแต่เป็นลูกสาวของวินดา ตอนนี้ ความเข้ากันของเธอต่ำไป งั้น ก็เหลือแค่เชอร์รีน……
หยาดฝนนั่งข้างสิงหา ไม่พูดอะไรเช่นกัน แสงไฟตรงทางเดินโรงพยาบาลสาดไปที่หน้าเธอ สามารถมองเห็นอารมณ์หม่นหมองชัดเจน
นั่งหลังโค้งงอ ก้มศีรษะไปที่ขาสองข้าง สิงหาก็เหมือนแก่ลงไปเยอะทันที จนกระทั่งตอนนี้ เขาไม่สามารถยอมรับผลลัพธ์นี้ได้ ต้องรู้ว่า ความหวังทั้งหมดในใจเขาล้วนแต่อยู่ที่หยาดฝน ซึ่งตอนนี้ไม่เหลือเลยสักนิด……
สีหน้าโทรมๆ สภาพจิตใจแย่ๆ ทั้งหมดนี้เห็นได้ชัดว่าพี่ชายรักวินดาผู้หญิงคนนั้นอย่างลึกซึ้งจริงๆ หลังจากจ้องมองสีหน้าของเขาอยู่นาน หยาดฝนจึงละสายตา ถอนหายใจเบาๆ ปลอบเขา:“พี่ พี่ก็อย่าเสียใจไปเลย”
ตอนได้ยินข่าวนี้ สุนันท์กำลังพักผ่อนอยู่ พอได้ยิน ก็เกือบจะนั่งขึ้นมาจากเตียงทันที อารมณ์ไม่เคยดีอย่างนี้ แล้วจึงให้คนใช้เตรียมอาหารกลางวัน
แต่ว่า เธอก็ยังไม่วางใจ กังวลว่าหยาดฝนกับสิงหาจะทำอะไรลับหลัง จากนั้นปล่อยข่าวปลอมมาจงใจรังแกเธอ ทำให้เธอโดนหลอกและระวังตัวน้อยลง ดังนั้นสุนันท์จึงไม่ชะล่าใจและผ่อนคลายลง แต่ส่งคนแอบไปตรวจสอบรายงานผลอันแท้จริงฉบับนั้นที่โรงพยาบาล
ข่าวเมื่อแพร่ออกไปก็ไวมาก ไม่นานนัก ออกัสกับเชอร์รีนก็รู้
มือที่ถือแก้วน้ำก็แข็งไปเล็กน้อย เชอร์รีนยืนตะลึงอยู่ตรงนั้น แม้แต่ว่าตัวเองทำอะไรก็ลืมไปหมดทันที
เป็นอย่างประโยคนั้นที่เธอคิดก่อนหน้านี้จริงๆ โชคชะตาหลอกคน โชคชะตากลั่นแกล้งคน……
พอรู้ว่าหยาดฝนเป็นลูกสาวแท้ๆของวินดา ถึงแม้ไม่ว่าในใจจะเป็นความรู้สึกอย่างไร แต่พูดจริงๆแล้ว กลับโล่งใจจริงๆ เมื่อสูญเสียโอกาสหนึ่งไป จะมีโอกาสหนึ่งมาแทน
เธอคิดว่าพระเจ้าให้โอกาสเธอแล้ว แต่ไม่คิดเลยว่า โอกาสนั้นจะไม่มีแล้ว ไม่มีอีกแล้ว
ตอนนี้ จินตนาการอันสวยงามของเธอพังทลายลง และทุกอย่างก็กลับไปสู่จุดเดิม
“หม่ามี๊ หม่ามี๊ หม่ามี๊……”ร่างเล็กๆของซารางกระโดดไปมาตุบๆ ลากเสียงยาว
นานมาก เชอร์รีนถึงได้สติคืนมา ก้มหน้าลง มองไปที่ซาราง:“ทำไมเหรอ?”
“หนูเรียกหม่ามี๊ตั้งหลายรอบ หม่ามี๊ก็ไม่ได้ยิน”ซารางเบะปาก เด็กฉลาดคนนี้กลอกตาไปมา:“หม่ามี๊ หม่ามี๊กำลังคิดถึง
พ่อเหรอ!หม่ามี๊ติดพ่อกว่าซารางอีก!”
เธอมองซารางเด็กคนนี้อย่างไม่สบอารมณ์ พูดไปตรงๆ:“กองของเล่นรกๆนั้นบนโซฟาลูกอยากให้แม่เอาไปทิ้งให้หมดเลย ใช่ไหม?”
พอได้ยิน เด็กน้อยก็ส่ายก้น แล้ววิ่งไปอย่างเร็ว วิ่งจนหายไปอย่างรวดเร็ว ได้ยินเสียงดังวุ่นวายที่ดังมาจากห้องรับแขก
วันเสาร์วันอาทิตย์ไม่ต้องไปเข้าเรียน และเชอร์รีนก็อารมณ์เสียด้วย กลับถึงห้อง เธอก็หลับ
ณ โรงพยาบาล
สิงหาเงียบไปไม่พูด จากสีหน้าของเขา วินดาก็ได้คำตอบแล้ว:“ไม่เข้ากันใช่ไหม?”
นิ่งไปแป๊บหนึ่ง สิงหาจึงพยักหน้า:“อัตราเข้ากันของไขกระดูกหยาดฝนกับคุณต่ำไป ไม่สามารถทำการปลูกถ่ายได้”
ไม่มีการพูดอะไร ผ่านไปสักพัก เสียงของวินดาก็ดูไม่ใส่ใจนัก:“ทำปลูกถ่ายไม่ได้ก็ช่างมันเถอะ ยังไงซะชีวิตนี้ ใครอยากได้ก็เอาไปเลย”
แต่ว่า เธอไม่แคร์ไม่ได้หมายความว่าสิงหาจะไม่แคร์ เขาจึงพูด ไปทีละคำว่า:“ผมจะต้องคิดหาทุกวิถีทางมาช่วยคุณให้ได้!”
“คุณพูดแบบนี้ก็เพียงพอแล้ว สุดท้ายเป็นไงไม่สำคัญ”วินดาเอนไปอย่างเกียจคร้าน มุมปากยิ้มขึ้นมา เป็นมุมบางๆ
คิดไม่ถึงว่า ชีวิตของเธอที่ชื่อวินดานี้จะมีผู้ชายปฏิบัติกับเธอแบบนี้ด้วย รู้สึกดีเหลือเกิน
ยิ่งเธอยิ้มแบบนี้ ยิ่งไม่แคร์แบบนี้ ความคิดในใจสิงหาที่อยากจะช่วยรักษาเธอก็รุนแรงมากขึ้น และแน่วแน่
บ้านตระกูลสิริไพบูรณ์
สุนันท์ที่ได้รับคำตอบจึงโล่งอก มุมปากมีรอยยิ้มร้ายกาจและสะใจ รู้สึกมีความสุข