ตอนที่ 456 ความลับของจูจิ่น / ตอนที่ 457 ชาติหน้าเป็นของข้าได้หรือไม่

ชายาหยุดเย้าข้าเสียทีเถิด

ตอนที่ 456 ความลับของจูจิ่น 

 

 

“ข้าไม่เคยสงสัยความเอาใจใส่ที่เขามีต่อข้าเลย เป็นปัญหาของข้าเอง” 

 

 

หลิงอวี้จื้อพูดจบก็ดื่มเหล้าหนึ่งจอก จากนั้นก็รินอีกจอก 

 

 

“มา มา ดื่มกันต่อ” 

 

 

“จูจิ่น เจ้าไม่ต้องพูดจาไร้สาระแล้ว ข้าเข้าใจหลิงอวี้จื้อ นางรักท่านอ๋องมากจริงๆ ถึงได้คอยพะวงเรื่องเฉินปี้ตลอดเวลา ข้าจะไปขอร้องไทเฮากับฮ่องเต้อีกครั้ง อย่างไรก็อีกนานกว่าจะแต่งงาน ไม่แน่ว่าเรื่องอาจจะมีจุดพลิกผัน” 

 

 

มู่หรงนี่อวิ๋นไม่อยากเห็นหลิงอวี้จื้อผิดหวังเช่นนี้ จึงส่งเสียงออกมาปลอบใจเธอ 

 

 

หลิงอวี้จื้อคิดไม่ถึงว่าในบรรดาคนทั้งหมด คนที่เข้าใจเธอที่สุดกลับเป็นคุณชายเจ้าสำราญอย่างมู่หรงนี่อวิ๋น สมกับเป็นคนที่คลุกคลีกับผู้หญิงมามากมายจริงๆ ถึงได้เข้าใจหัวอกผู้หญิงได้ง่าย เธอยกจอกให้มู่หรงนี่อวิ๋น 

 

 

“นี่อวิ๋น ขอบใจนะ เรื่องนี้พยามเต็มที่ก็พอ ไม่ต้องฝืน ข้าไม่อยากให้เจ้าต้องลำบากอีก” 

 

 

“ไทเฮาเป็นพี่สาวแท้ๆ ของข้า นางไม่ทำอะไรข้าหรอก นางยังหวังให้ข้าสืบทอดกิจการของครอบครัว” 

 

 

มู่หรงนี่อวิ๋นยิ้มอย่างไม่ยี่หระ เขารู้ว่าหากมีเฉินปี้เพิ่มมาอีกคน หลิงอวี้จื้อจะไม่มีความสุข มิเช่นนั้นคงไม่มีปฏิกิริยาตอบโต้เช่นนี้ เขาจะต้องพยายามสุดกำลังที่จะหยุดยั้งเรื่องนี้ ทำให้หลิงอวี้จื้อออกเรือนอย่างสบายใจอีกครั้ง 

 

 

ตอนนี้มีเพียงเขาเท่านั้นที่พอจะไปขอร้องมู่หรงกวานเย่ว์ได้ คนอื่นแม้แต่จะพบก็ยังพบมู่หรงกวานเย่ว์ไม่ได้ 

 

 

ทั้งสามคนคุยไปดื่มไป ดื่มสุราไปห้าไหโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว บนโต๊ะมีแต่ไหสุรา หลิงอวี้จื้อเริ่มเมาแล้ว มู่หรงนี่อวิ๋นกับจูจิ่นก็เมา สามคนฟุบกับโต๊ะหัวเราะโง่ๆ 

 

 

“มา ทุกคนลุกขึ้นมาดื่มกันอีก” 

 

 

หลิงอวี้จื้อตัวเซ อยากจะลุกขึ้น แต่ทำอย่างไรก็ลุกไม่ขึ้น จูจิ่นช่วยประคองเธอ 

 

 

“อวี้จื้อ เจ้าเมาแล้ว” 

 

 

“ข้ายังไม่เมาสักหน่อย คอข้าไม่ได้อ่อนขนาดนั้น นี่อวิ๋น อย่าหลับ ดื่มอีก ข้าสั่งพวกเขาแล้ว ไม่มีใครมากวนพวกเราดื่มสุรา พวกเราดื่มต่อ ไม่เมาไม่กลับ” 

 

 

หลิงอวี้จื้อพูดจบก็ฝืนยืนขึ้น ตัวอ่อนตัวพับ ล้มลงกับพื้นทันที เธอล้มแผ่กับพื้น พูดงึมงำกับตนเอง 

 

 

“อาเหยี่ยน ไม่เอาเฉินปี้ ไม่เอานาง…” 

 

 

จูจิ่นยังมีสติอยู่บ้าง ถึงแม้ตัวจะโซเซ แต่ยังไม่ได้ดื่มเมาเต็มที่ เห็นหลิงอวี้จื้อล้มพับกับพื้นหลับไปแล้ว กลัวว่านางจะหนาว จึงใช้แรงทั้งหมดประคองหลิงอวี้จื้อขึ้นมาจากพื้น ใช้แรงไปมากกว่าจะประคองหลิงอวี้จื้อไปที่เตียง 

 

 

มู่หรงนี่อวิ๋นฟุบลงกับโต๊ะไม่ขยับ จูจิ่นเดินไปข้างๆ มู่หรงนี่อวิ๋น สุดท้ายแล้ว นึกไม่ถึงว่านางจะคอแข็งที่สุด นางตบหน้ามู่หรงนี่อวิ๋นเบาๆ 

 

 

“มู่หรงนี่อวิ๋น ตื่นๆ พวกเราควรไปแล้ว” 

 

 

มู่หรงนี่อวิ๋นพูดอืมสองสามครั้ง เมาจนหมดสภาพ 

 

 

จูจิ่นประคองเขา ให้ลูกน้องมาช่วย พามู่หรงนี่อวิ๋นขึ้นรถม้าของตน พอขึ้นรถม้าแล้ว มู่หรงนี่อวิ๋นก็พิงไหล่จูจิ่น 

 

 

นี่เป็นครั้งแรกที่จูจิ่นได้อยู่ใกล้เขาขนาดนี้ นางเคยบอกหลิงอวี้จื้อไว้นานแล้ว ว่าใจนางมีคนที่ชอบอยู่ คนที่นางชอบก็คือมู่หรงนี่อวิ๋น 

 

 

ด้วยความเมา จูจิ่นจึงลูบไล้ใบหน้าของมู่หรงนี่อวิ๋นตามใจ พูดเสียงต่ำๆ ข้างหูเขาว่า 

 

 

“ก็รู้อยู่ว่าไม่มีทาง ทำไมยังไปชอบเขาเช่นนั้นอยู่ได้ อย่างนี้ในใจเจ้าไม่เป็นทุกข์หรือ” 

 

 

มู่หรงนี่อวิ๋นดูเหมือนจะหลับแล้ว ไม่ส่งเสียงอะไรเลย จูจิ่นยิ้มเยาะตนเองพลางพูดว่า 

 

 

“ข้ากับเจ้าต่างกันตรงไหน ก็รู้อยู่ว่าเจ้าไม่ชอบข้า ข้าก็ยังหยุดชอบเจ้าไม่ได้ นี่ข้าโง่ใช่หรือไม่ ช่างสมกันจริงๆ นึกไม่ถึงว่าจะมาพบบรรจบกัน” 

 

 

จูจิ่นส่งมู่หรงนี่อวิ๋นกลับจวนตระกูลมู่หรงด้วยตนเอง ถ้าให้ลูกน้องพาเขาไปตั้งแต่แรก ป่านนี้ตนเองก็กลับไปได้แล้ว วันนี้ไม่รู้เป็นอะไร นางไม่กลับ แต่เข้าไปในห้องของมู่หรงนี่อวิ๋น ซ้ำยังไล่ให้สาวใช้ออกไปให้หมด 

 

 

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 457 ชาติหน้าเป็นของข้าได้หรือไม่ 

 

 

สุราช่างเป็นสิ่งที่ดี นึกไม่ถึงว่าเรื่องที่ไม่กล้าทำ เมื่อดื่มสุราแล้วก็เกิดกล้าขึ้นมา นี่คงเป็นครั้งแรกและครั้งเดียว นางอยากจะอยู่เป็นเพื่อนมู่หรงนี่อวิ๋นเช่นนี้ 

 

 

นางมองมู่หรงนี่อวิ๋นที่อยู่บนเตียง สายตาอ่อนโยนมาก ยื่นมือออกไปลูบไล้ใบหน้าของมู่หรงนี่อวิ๋น วาดไล้ไปตามคิ้วและตาของเขา 

 

 

เขามีอะไรดีตรงไหน เห็นอยู่ว่าเป็นคุณชายเจ้าสำราญแห่งเมืองหลวง เป็นผู้ชายที่เมื่อก่อนนางเกลียดที่สุด ตอนนี้กลับชอบเสียได้ ก็เห็นอยู่ว่าพบหน้ากันทีไรต้องทะเลาะกันทุกครั้ง 

 

 

“น้ำ น้ำ…” 

 

 

ได้ยินเสียงของมู่หรงนี่อวิ๋น จูจิ่นก็ลุกขึ้นรินน้ำให้มู่หรงนี่อวิ๋นหนึ่งแก้ว แล้วยังช่วยประคองให้เขาลุกขึ้นด้วย ป้อนน้ำให้เขา ดื่มน้ำแล้ว มู่หรงนี่อวิ๋นก็เหมือนจะฟื้นคืนสติขึ้นมาเล็กน้อย เขาลืมตาขึ้น แววตาเลื่อนลอย แล้วจู่ๆ ก็กอดจูจิ่นแน่น แล้วเรียกเสียงต่ำๆ ข้างหูนางว่า 

 

 

“อวี้จื้อ อวี้จื้อ เจ้ามาได้อย่างไร” 

 

 

“ข้าไม่ใช่อวี้จื้อ มู่หรงนี่อวิ๋น เจ้าดูให้ดี ๆ” 

 

 

จูจิ่นผลักมู่หรงนี่อวิ๋น น้ำเสียงโมโหขึ้นมาโดยไม่มีสาเหตุ ถลึงตาใส่เขา 

 

 

“ข้าคงฝันไปแน่ๆ มีเพียงในฝันเท่านั้นที่ท่านเทวดาจะสามารถสงเคราะห์ข้าได้” 

 

 

มู่หรงนี่อวิ๋นกอดจูจิ่นอีกคนั้ง 

 

 

“ชาติหน้าเป็นของข้าได้หรือไม่” 

 

 

ประโยคนี้แทงใจดำจูจิ่น นางเกร็งตัวแข็ง ชาติหน้าของเขาก็ยังไม่มีนาง 

 

 

จู่ๆ มู่หรงนี่อวิ๋นก็โน้มตัวลงมาจุมพิตริมฝีปากของจูจิ่น ริมฝีปากของเขาเย็นเฉียบ สมองของจูจิ่นว่างเปล่า ลืมผลักมู่หรงนี่อวิ๋นออกไป ได้แต่ปล่อยให้มู่หรงนี่อวิ๋นจูบอยู่อย่างนั้น 

 

 

เรื่องที่เกิดขึ้นต่อมาเหนือจินตนาการของจูจิ่น ด้วยพลังของสุรา จูจิ่นมิได้ปฏิเสธมู่หรงนี่อวิ๋น นางลืมขนบธรรมเนียมประเพณีทุกอย่าง จวบจนมู่หรงนี่อวิ๋นผล็อยหลับสนิท 

 

 

จูจิ่นหยิบเสื้อผ้าที่ตกอยู่บนพื้นขึ้นมา สวมเสื้อผ้า มองดูมู่หรงนี่อวิ๋นที่นอนอยู่บนเตียงอย่างอาลัยอาวรณ์ สุดท้ายก็หมุนตัวจากไป 

 

 

เรื่องนี้นางไม่คิดจะบอกให้มู่หรงนี่อวิ๋นรู้ และไม่เสียใจภายหลังด้วย 

 

 

นางไม่อยากเอาเรื่องนี้มาบีบบังคับให้มู่หรงนี่อวิ๋นมาสู่ขอนาง ถึงเวลานั้นทั้งสองคนต่างฝ่ายต่างก็เจ็บปวด ตอนนี้มู่หรงนี่อวิ๋นไม่ได้เกลียดนางจริงๆ หากทำเช่นนี้ เขาจะเข้าใจนางผิด ถึงเวลานั้นจะกลายเป็นเกลียดนางจริง ๆ 

 

 

ถูกคนที่ชอบเกลียดเป็นเรื่องที่เจ็บปวดที่สุด นางยอมเก็บเรื่องทั้งหมดนี้ไว้ในใจ ให้กลายเป็นความลับไปตลอดชีวิตดีกว่า 

 

 

วันต่อมาหลิงอวี้จื้อตื่นขึ้นมาปวดหัวมาก เธอกุมหัว เมื่อวานดื่มเหล่าไปเท่าไรกันแน่ พูดอะไรออกไปบ้าง เธอจำอะไรไม่ได้เลย อาการเมาค้างช่างทรมานจริง ๆ 

 

 

เพิ่งคลานขึ้นมาเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ หรูเยียนก็เข้ามารายงาน 

 

 

“คุณหนูเจ้าคะ เพิ่งมีข่าวมาจากในวังเจ้าค่ะ สามวันจากนี้ ไทเฮาจะจัดงานเลี้ยงในวัง ถึงเวลาให้คุณหนูเข้าวังไปร่วมงานเลี้ยงด้วยเจ้าค่ะ” 

 

 

หลิงอวี้ลูบๆ หัว 

 

 

“รู้แล้ว หรูเยียน ให้คนไปทำน้ำแกงแก้เมาค้างให้ข้าหน่อย มิเช่นนั้นจะปวดหัว” 

 

 

หรูเยียนพยักหน้าแล้วออกไป หลิงอวี้จื้อหาวขณะล้างหน้าล้างตา ไทเฮาเรียกเธอเข้าวังตอนนี้จะต้องไม่ใช่เรื่องดีแน่ คงไม่ใช่จะโจมตีเธออีกหรอกนะ! 

 

 

หากไปร่วมงานเลี้ยง เช่นนั้นต้องไม่ใช่เธอแค่คนเดียวแน่ หากเดาไม่ผิด เฉินปี้ก็คงไปด้วย คราวนี้จะมาไม้ไหนอีก 

 

 

เซียวเหยี่ยนออกจากวังแล้วก็ไปจวนตระกูลเฉินด้วยตนเอง ทุกคนในจวนตระกูลเฉินต่างให้ความสำคัญกับเขามาก ท่านมหาบัณฑิตเฉินพาคนทั้งจวนมารอต้อนรับเซียวเหยี่ยนที่ประตู 

 

 

เซียวเหยี่ยนโบกมือ ให้พวกเขาออกไป เฉินปี้อยู่ข้างๆ เซียวเหยี่ยน ทั้งสองคนนั่งอยู่ในศาลากุยอวิ๋นที่เรือนด้านหลัง 

 

 

ศาลากุยอวิ๋นสร้างริมทะเลสาบ บนโต๊ะมีผลไม้และเครื่องดื่ม เฉินปี้สวมชุดสีฟ้าน้ำทะเล ดูเป็นการเป็นงานมาก ปลายแขนเสื้อปักลายดอกกล้วยไม้วิจิตรบรรจง ลมอ่อนๆ พัดผมดำสลวยของนาง กลิ่นหอมจางๆ คละเคล้ากลางสายลม