บทที่ 124
ภาพถ่าย

อย่างไรก็ตามไป่เสวี่ยหลี่มองไปที่เขาด้วยความกังวลและพูดออกมาว่าเธอจะไม่บอกเสี่ยวเสวี่ย ดังนั้นให้เขามั่นใจได้ขอแค่เขาแวะมาหาเธอบ้างเป็นครั้งคราว เธอจะไม่ร้องขออะไรตราบใดที่ได้เก็บเด็กไว้งั้นเธอก็ไม่อยากที่จะมีชีวิตต่อ

ชางกวนโม่ช่วยไม่ได้ เขาไม่รู้ว่าจะแก้เรื่องนี้ยังไง แต่วันนี้เขารู้ถึงภัยคุกคามของเด็กคนนี้ที่มีต่อความรู้สึกของเขาและ มู่หรงเสวี่ยอย่างชัดเจนแล้ว ตราบใดที่เด็กคนนี้ยังอยู่ เขาไม่มีวันสบายใจได้แน่ๆ อีกอย่างถ้าไป๋เสวี่ยหลี่คลอดเด็กคนนี้ออกมา แล้วเธอจะแต่งงานได้ยังไง?! ไม่ใช่ว่าเขาใจร้ายนะแต่เด็กคนนี้ไม่ควรที่จะเกิดมา เด็กคนนี้คือความผิดพลาด “เสวี่ยหลี่ พี่จะไปกับเธอด้วยตอนที่เอาเด็กออก มันจะดีกับทุกคน! ไม่ต้องกังวล พี่จะจัดการเรื่องนี้อย่างดี จะไม่มีใครรู้เรื่องนี้ นอกจากนี้พี่จะหาหมอที่ดีที่สุดมาให้เธอเองซึ่งจะไม่กระทบกับเธอในอนาคตแน่ๆ…”
“ไม่ ฉันไม่ต้องการ ใครก็ตามที่กล้ามาแตะต้องลูกของฉัน ฉันจะฆ่าตัวตาย…” ไป๋เสวี่ยหลี่ลุกขึ้นอย่างตื่นตระหนกพร้อมทั้งหยิบมีดปอกผลไม้บนโต๊ะขึ้นมาจี้อยู่ที่คอเธอเอง พร้อมถอยห่างชางกวนโม่ไปสองสามเมตร

พี่โม่โหดร้ายเหลือเกิน แม้แต่เด็กก็ยังทำให้เขาใจอ่อนไม่ได้

สีหน้าของชางกวนโม่เปลี่ยนไป “เสวี่ยหลี่ อย่าทำแบบนี้ วางมีดลงก่อน…” ถึงแม้เขาจะไม่ได้รักไป๋เสวี่ยหลี่แต่เธอก็ยังเป็นน้องสาวของเขาเสมอและเขาก็เป็นหนี้เธออย่างมากด้วย

“พี่โม่ ฉันแค่อยากที่จะมีลูก ฉันจะไม่บอกเสี่ยวเสวี่ยด้วยซ้ำว่าพี่พยายามกันฉันออกจากกำลังใจเดียวของฉัน มันจะมีความหมายอะให้ฉันอยู่ต่อ…” ไป๋เสวี่ยหลี่ร้องไห้

ชางกวนโม่ขมวดคิ้วและกำลังคิดถึงความเป็นไปได้ที่เขาจะแย่งมีดปอกผลไม้ออกมาจากมือของไป๋เสวี่ยหลี่ แม้จะต้องเป็นการบังคับ เขาก็จะต้องให้เธอเอาเด็กคนนี้ออกให้ได้ อันที่จริงชางกวนโม่เป็นคนที่โหดร้ายอย่างที่สุดกับคนอื่นยกเว้นก็แต่กับ มู่หรงเสวี่ย

ไป๋เสวี่ยหลี่เป็นคนที่รู้เรื่องนี้ดีที่สุด ตอนที่เธอเห็นอาการของเขา เธอก็รู้แล้วว่ามันต้องไม่ดีแน่ๆ ทันใดนั้นมือก็กำมีดแน่นขึ้นไปอีกและบาดเข้าไปในผิวเล็กน้อย เลือดสีแดงสดไหลออกมาทันที บาดแผลตื้นมากๆแต่สีแดงของเลือดก็ดูน่าตกใจ

ชางกวนโม่อยากที่จะขยับร่างกายแต่ก็ต้องหยุดคิดในทันที “เสวี่ยหลี่ อย่าสร้างปัญหาน่า วางมีดลงก่อน พี่ไม่บังคับเธอแล้ว…”

ไป๋เสวี่ยหลี่มีความสุข “จริงเหรอคะ?” แต่เธอก็ยังไม่กล้าที่จะวางมีดลง เธอรู้ว่าถ้าพี่โม่อยากให้เธอแท้งจริงๆ งั้นทุกอย่างก็จะต้องผิดแผนไปหมด เธอจะต้องแท้งอยู่แล้วแต่ต้องไม่ใช่ตอนนี้หรือด้วยวิธีแบบนี้

“จริงสิ วางมีดลงก่อนแล้วเราค่อยมาคุยกันดีๆ!” ชางกวนโม่พูดพร้อมอาการปวดหัวที่ความคิดของไป๋เสวี่ยหลี่จะมองด้านดีมากเกินไป เขากลัวว่าการบังคับไม่ใช่ทางออก เขาต้องสอนเธอซะหน่อยแล้ว

ไป่เสวี่ยหลี่ค่อยเดินเข้ามา สายตาจ้องไปที่ท่าทางของชางกวนโม่ เมื่อเธอว่าเขาไม่ได้มีท่าทางอะไรแล้วเธอจึงวางมีด “พี่โม่…เด็กคนนี้เหมือนของขวัญจากสวรรค์…ฉันมีความสุขจริงๆนะคะ…” เธอลูบไปที่ท้องแบนราบอย่างระวัง ยิ้มด้วยความรักใคร่ราวกับว่ามีความเป็นแม่อยู่เต็มเปี่ยม

หัวใจของชางกวนโม่อ่อนลงและอยู่ดีๆเขาก็รู้สึกใจร้อนขึ้นมาเล็กน้อย แต่หลังจากที่คิดถึงมู่หรงเสวี่ย เขาก็พูดออกมาอย่างโหดร้าย “เสวี่ยหลี่ เด็กคนนี้ก็แค่ความผิดพลาด…”

“เขาอาจจะเป็นความผิดพลาดสำหรับพี่โม่แต่เป็นสมบัติล้ำค่าของฉัน…พี่โม่ฉันขอร้องล่ะ…ฉันจะไม่บอกเสี่ยวเสวี่ย…” ไป๋เสวี่ยหลี่ร้องไห้อ้อนวอน

“ไม่ได้ ถ้ามีลูกแล้วเธอจะทำยังไง?”
“ฉันจะเลี้ยงเขาเอง จะไม่รบกวนพี่โม่เลย…” ไป๋เสวี่ยหลี่พูดพร้อมก้มหัวเล็กน้อยแต่เสียงอันแผ่วเบากลับทำให้รู้สึกเศร้า
ชางกวนโม่เงียบไปนาน เขาจะปล่อยให้เธอคลอดเด็กคนนี้ออกมาไม่ได้ เขารู้ว่าตัวเองพูดออกไปอย่างโหดร้าย พูดง่ายๆก็คือเขาจะเสียเสี่ยวเสวี่ยไปไม่ได้ “ไม่ได้ เด็กคนนี้จะต้องไม่เกิดมา ถ้าในอนาคตเธออยากที่จะแต่งงานแล้วปัญหาเรื่องการมีลูกล่ะ…”

ไป๋เสวี่ยหลี่กัดริมฝีปาก “พี่โม่ พี่…” หลังจากเวลาผ่านไปนานดูเหมือนกับว่าเธอตัดสินใจแล้ว เธอพูดออกไปพร้อมน้ำตาเอ่อล้นที่หางตา “โอเคค่ะ ฉันสัญญา…ตราบใดที่พี่โม่ต้องการ ฉันก็จะทำถึงแม้นั่นจะหมายถึงความตาย…”

ชางกวนโม่เองก็คิดเรื่องท่าทางของไป๋เสวี่ยหลี่ที่อยู่ตรงหน้าเขา ความรู้สึกผิดในสายตาแวบขึ้นมาและเขาก็ค่อยๆหันหัวไปทางอื่น เขาเผชิญหน้ากับเธอตรงๆไม่ได้อีกแล้วไม่งั้นมีแต่จะทำให้เขารู้สึกผิดมากขึ้นไปอีก แต่เขาเลือกเสี่ยวเสวี่ยและตั้งใจที่จะทำร้ายเธอ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเขามีเพียงความรักแบบพี่น้องให้ไป๋เสวี่ยหลี่เท่านั้น “เสวี่ยหลี่ พี่ขอโทษนะ…”

“พี่โม่ไม่ต้องขอโทษหรอก…ฉันสมัครใจเอง…แต่พี่โม่สัญญาอะไรฉันอย่างหนึ่งได้ไหม?”
ชางกวนโม่มองไปที่ดวงตาโหยหาของเธอ ประกอบกับเดิมที่หัวใจรู้สึกผิดกับเธออยู่แล้ว เขาจึงพยักหน้าออกไป “ได้ เรื่องอะไรล่ะ?”

“คืนนี้อยู่กับฉันที่นี่นะคะ พี่โม่ไม่ได้อยู่กับฉันมานานแล้ว…” ไป่เสวี่ยหลี่พูด

อย่างไรก็ตามสีหน้าชางกวนโม่เปลี่ยนไปและปฏิเสธออกมาทันที “ไม่มีทาง!”

“อยู่ดื่มกับฉันหน่อยไม่ได้เหรอคะ? ฉันเสียใจจริงๆนะพี่โม่ ฉันปวดใจอย่างมากเลย…”

“ดื่มงั้นเหรอ?! เธอยังท้องอยู่นะ ดื่มมันไม่ดีกับสุขภาพเธอนะ…” เสวี่ยหลี่บอกว่าดื่ม เขาคิดว่าเธอจะไม่ยอมแพ้

ไป่เสวี่ยหลี่พูด “สำคัญด้วยเหรอคะ?! ยังไงซะเขาก็ต้องตายอยู่แล้ว…ฉันแค่อยากจะดื่มให้สบายใจและลืมเรื่องที่ไม่มีความสุขทุกอย่างไป…”
ชางกวนโม่ทนฟังไม่ได้ หลังจากที่คิดเรื่องนี้แล้วเขาก็ตอบตกลงไป “โอเค คืนนี้พี่จะดื่มกับเธอแต่แค่คืนนี้เท่านั้น…” เขารู้ว่าความเจ็บปวดที่เขาทนไม่ได้ก็มีแค่เพียงช่วงวันเวลาที่ต้องสูญเสียเสี่ยวเสวี่ยไป…เขาคิดว่ามันคงไม่เป็นอะไรถ้าจะแค่ดื่มกับเธอ เขาไม่มีทางมอบความสุขให้เธอได้อยู่แล้ว

“งั้นพี่โม่นั่งนี่นะคะ เดี๋ยวฉันจะไปหยิบไวน์มาให้…” ไป๋เสวี่ยหลี่หันไปเผยรอยยิ้มแห่งความสำเร็จ

“พี่ไปเอาเอง” ชางกวนโม่พูด
“ไม่ต้องค่ะ ฉันจะให้ป้าฟางไปเอามาให้ค่ะ พี่ไม่รู้หรอกว่าอะไรอยู่ตรงไหน” ถึงแม้พี่โม่จะมาที่นี่บ่อย แต่เขาก็ไม่เคยมากินข้าวที่นี่ดังนั้นเขาไม่รู้หรอกว่าไวน์อยู่ตรงไหน แต่ถึงแม้เขาจะรู้เธอก็ไม่ยอมให้เขาไปหยิบหรอก…ก็เพราะว่า

หลังจากนั้นสักพักไป๋เสวี่ยหลี่ก็บอกให้ป้าฟางไปหยิบไวน์มาสองแก้ว ในระหว่างที่ไป๋เสวี่ยหลี่รับสองแก้วมาจากมือของเธอ เธอตั้งใจเลื่อนแก้วฝั่งขวาไปทางชางกวนโม่

“พี่โม่ ขอบคุณนะคะที่อยู่เป็นเพื่อนฉัน…”
ชางกวนโม่พูดด้วยความรู้สึกผิด “ขอบคุณนะ พี่ต้องขอโทษเธอด้วย…” ถ้าเขาไม่ได้เจอเสี่ยวเสวี่ย บางทีเขาอาจจะอยากใช้ชีวิตทั้งชีวิตกับไป๋เสวี่ยหลี่ก็ได้แต่ต้องไม่ใช่ในชีวิตนี้ เขาได้เจอคนที่สำคัญที่สุดของหัวใจเขาแล้วดังนั้นเขาจึงไม่สามารถที่จะไปอยู่กับคนอื่นได้อีก

“พี่โม่ ฉันไม่เคยเสียใจ…เป็นความสมัครใจของฉันเอง…มาเถอะ พี่โม่ คืนนี้มาลืมทุกอย่างกันเถอะ…” เธอพูดอย่างเขินๆ เทไวน์ลงในแก้วแล้วจึงส่งแก้วที่อยู่ด้านขวาให้ชางกวนโม่

ชางกวนโม่ไม่มีท่าทีสงสัยอะไร เขาดื่มเข้าไปทั้งหมดในคราวเดียวแต่ในใจเขาอยากที่ควบคุมปริมาณของแอลกอฮอล์ที่กินเข้าไป เขายังไม่ลืมความผิดพลาดที่ก่อไว้หลังจากที่ตัวเองเมาในครั้งที่แล้ว เขาไม่อยากที่จะทำเรื่องผิดพลาดซ้ำเดิมอีก

ไป่เสวี่ยหลี่ยิ้มอ่อน แล้วจึงหยิบแก้วของตัวเองขึ้นมาดื่ม หลังจากนั้นสักพักเธอก็แกล้งทำเป็นเมาพร้อมทั้งส่ายหัวเบาๆ “พี่โม่…ฉันเวียนหัว…พี่หยุดส่ายไปส่ายมาได้ไหม…”

ชางกวนโม่แปลกใจที่ได้เห็นไป่เสวี่ยหลี่เมาหลังจากที่ดื่มไวน์ไปแค่แก้วเดียว

“เสวี่ยหลี่ เธอเมาแล้ว พี่จะพาเธอขึ้นไปนอนที่ห้อง…” ชางกวนโม่ยืนขึ้นและอยากที่จะช่วยพยุงเธอกลับไปที่ห้อง

ไป๋เสวี่ยหลี่พึมพำสองสามคำและล้มลงไปที่โซฟา ชางกวนโม่พยายามที่จะอุ้มเธอไปที่ห้องแต่ทันใดนั้นเขาก็เริ่มที่จะรู้สึกสับสนและล้มลงไปที่โซฟาเช่นกัน อย่างไรก็ตามไป๋เสวี่ยหลี่ที่เมาไปก่อนแล้วก็ค่อยๆลืมตาและมองไปที่ชางกวนโม่ที่สลบอยู่ข้างๆ เธอกระซิบออกมา “พี่โม่ ฉันเองก็ช่วยไม่ได้เหมือนกัน…”

หลังจากนั้นเธอก็เรียกป้าฟาง ทั้งสองช่วยกันพยัง ชางกวนโม่ไปที่ห้องเธอ ไป่เสวี่ยหลี่บอกให้ป้าฟางออกไป

เธอมองไปที่ชางกวนโม่ที่อยู่บนเตียง มองไปที่ใบหน้าที่หล่อเหลาของเขา เธอยังหลงใหลใบหน้านี้ของเขาอยู่ คิ้วดำเข้ม จมูกโด่งและปากบาง ทุกอย่างรวมกันเป็นผลงานชิ้นเอกของพระเจ้าจริงๆ มีเพียงเธอเท่านั้นที่คู่ควรกับผู้ชายแบบนี้ แล้วมู่หรงเสวี่ย นังเด็กบ้านนอกจะมาคู่ควรจะพี่โม่ของเธอได้ยังไง
เธอค่อยๆปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตเขา เผยให้เห็นกล้ามแผงอกที่แข็งแรง เลื่อนลงมาตลอดทางจนกระทั่งถอดกางเกงของเขา สีหน้าเธออดไม่ได้ที่จะแดงระเรื่อแต่ก็ยังกัดริมฝีปาก และสุดท้ายก็ถอดเสื้อผ้าทั้งหมดของพี่โม่ออก

หลังจากนั้น เธอก็ถอดเสื้อผ้าทั้งหมดของตัวเอง เผยให้เห็นส่วนโค้ง ส่วนนูนของร่างกาย เธอเบียดตัวเองเข้าไปใกล้ร่างของชางกวนโม่แล้วเธอก็จับมือของชางกวนโม่มาโอบเอวเธอไว้

หลังจากที่ทุกอย่างเรียบร้อย เธอก็เรียกป้าฟางที่อยู่ข้างนอกให้เข้ามา

“แบบนี้จะดีเหรอคะคุณหนู?” ป้าฟางถามอย่างไม่เห็นด้วยเล็กๆ

ไป่เสวี่ยหลี่พูดอย่างน่าสงสารออกมาทันที “ป้าฟาง ฉันก็ไม่อยากเป็นแบบนี้หรอกนะคะ แต่พี่โม่ไม่ต้องการฉันและแม้แต่เด็กในท้องเขาก็อยากให้ฉันเอาออก ฉันจะทำยังไงได้…”
หัวใจของป้าฟางรู้สึกเจ็บปวด ใช่คุณหนู เธอช่างน่าสงสารจริงๆ “งั้นฉันจะถ่ายรูปเดี๋ยวนี้เลยค่ะคุณหนู งั้นหลับตาและแกล้งทำเป็นหลับนะคะ”

ไป๋เสวี่ยหลี่ยิ้มอย่างขอบคุณ “ขอบคุณนะคะป้าฟาง”
หลังจากนั้นป้าฟางก็ถ่ายรูปไปหลายรูปและส่งรูปทั้งหมดให้ไป๋เสวี่ยหลี่