ตอนที่ 459: เหยียดหยาม
“ช่างอุกอาจ เจ้าพยายามลอบสังหารน้องชายของข้า ข้า, หมิงตง, จะไม่ปล่อยให้เจ้ามีลมหายใจอีกต่อไป” ใบหน้าของหมิงตงนั้นมืดครึ้มขณะที่ดวงตาของเขาเปิดเผยเจตนาสังหารที่ดุร้าย เขาฟาดด้วยลมกระโชกแรงที่เกิดจากพลังเซียนธาตุลมตรงไปยังหัวของผู้โจมตี
ปัง ! หลังจากการปะทะอย่างไม่ตั้งใจ นักฆ่าก็มีเลือดไหลออกมาจากบริเวณที่เขาถูกโจมตี หมิงตงตีกะโหลกศีรษะของเขา ทำให้มันบุ๋มลงไปเล็กน้อย เสียงดังสิ้นสุดลงหลังจากที่นักฆ่าหมดสติ
เซียนปฐพีทั้งหมดในวังวิ่งมารวมตัวกันข้าง ๆ นักฆ่า แต่ละคนถือคบเพลิงเพื่อส่องสแสงยามค่ำคืนและมองไปที่ใบหน้าของนักฆ่า
เสื้อผ้าของนักฆ่าไหม้เป็นกองขี้เถ้าจนเขาเกือบจะเปลือยกาย แม้แต่ผมของเขาก็ถูกไฟไหม้ไปและผิวหนังของเขาก็เป็นสีเข้ม ใบหน้าของเขาถูกทำให้เสียโฉม และหลังจากที่ถูกหมิงตงโจมตี รูปร่างหน้าตาของเขาก็เละเทะจนไม่สามารถบอกได้ว่าเขาเป็นใคร
ทหารชุดเกราะดำ 100 นายรีบมาข้างหน้า และยังมีทหารชุดเกราะดำจากทั่วทุกมุมเข้าไปในพื้นที่
” เกิดอะไรขึ้น ? ” เสียงที่บ่งบอกถึงอำนาจดังขึ้นจากด้านหลังขณะที่ราชาก้าวเข้ามาในชุดนอนพร้อมกับองค์รักษ์หลายคน
“ฝ่าบาท มีนักฆ่าได้แทรกซึมเข้ามาในพระราชวังเพื่อที่จะสังหารนายน้อยสี่แห่งตระกูลเจียงหยาง แต่ในที่สุดเขาก็ถูกจับได้” ทหารชุดเกราะดำรายงานต่อราชาด้วยเสียงกระซิบเบา
ราชาฉุนเฉียวเมื่อได้ยินเช่นนั้น “จับตัวนักฆ่าและโยนเขาเข้าไปในคุก. สอบสวนเขาจนกว่าจะรู้ว่าเขาเป็นใคร”
ขอรับ ! ทันใดนั้นทหารหลายคนก็จับตัวนักฆ่าที่หมดสติและมัดเขาไว้ หลังจากนั้นเซียนปฐพี 2 คนจึงนำตัวนักฆ่าออกจากพื้นที่
เมื่อมาถึงจุดนี้ เจี้ยนเฉินก็เดินมาถึง เขาไพล่มือไว้ข้างหลังขณะที่เขาเดินไปหาทุกคนด้วยท่าทางสงบนิ่ง
หมิงตงเดินไปที่ฝั่งของเจี้ยนเฉินและถามว่า “เจี้ยนเฉิน เจ้าไม่เป็นไรใช่หรือไม่ ? “
เจี้ยนเฉินตอบด้วยการส่ายหน้า “ข้าไม่ได้เป็นอะไร เขาไม่ได้แตะต้องตัวข้า”
ราชารีบพรวดเข้ามายืนด้านข้างเจี้ยนเฉินด้วยความห่วงใย “ลูกเขย เจ้าได้รับอันตรายหรือไม่? ข้าหวังว่านักฆ่าคนนั้นไม่ได้ทำร้ายเจ้า เจ้าไม่จำเป็นต้องกังวล ข้าจะสอบสวนเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด” ราชาเคารพเขามากเพราะสถานะใหม่ของเขาที่สนับสนุนอาณาจักรเกอซุน
เจี้ยนเฉินลังเลครู่หนึ่งก่อนที่จะพยักหน้า ” ถ้าอย่างนั้น,ข้าต้องขอรบกวนพระองค์ด้วย”
ข่าวการลอบสังหารอันลึกลับในพระราชวังทำให้ผู้คนตื่นตกใจ ไม่เพียงแต่ราชาที่ต้องประหลาดใจ แม้แต่เซียนสวรรค์เย่หมิงก็ยังตกตะลึง เขารีบรุดมาด้วยตนเอง การปรากฏตัวของนักฆ่าไม่ใช่เรื่องเล็ก โดยเฉพาะเป้าหมายของเขาก็เป็นคนพิเศษ
อย่างไรก็ตามตามคำแนะนำของเจี้ยนเฉิน เรื่องนี้จึงถูกปล่อยวางอย่างรวดเร็ว ไม่นานหลังจากนั้นพระราชวังก็เงียบลงอีกครั้ง. ตอนนี้ทหารชุดเกราะดำถูกสั่งให้เพิ่มกำลังและลาดตระเวนพระราชวังในตอนกลางคืนอย่างเข้มงวด และด้านนอกตำหนักของเจี้ยนเฉิน จำนวนทหารเพิ่มขึ้นเป็น 4 เท่า จำนวนทหารชุดเกราะดำโดยรวมจึงมี 200 คนยืนอยู่รอบ ๆ
จักรพรรดิรู้ว่าพวกเขาทำหน้าที่เป็นแค่ของตกแต่งเท่านั้น แต่อย่างน้อยที่สุดมันก็เป็นสิ่งที่เขาสามารถทำได้
เจี้ยนเฉินกลับไปที่ห้องของเขาและนั่งลงบนเตียงอีกครั้ง ดวงตาทั้งสองข้างของเขาแฝงไว้ด้วยประกายอำมหิต
คืนนั้นผ่านไปอย่างรวดเร็ว แต่ในตอนเช้าเสียงดังร้องโวยวายดังขึ้นไปถึงข้างนอก
ทหารชุดเกราะดำหลายคนยืนอยู่ด้านนอกประตูวังในแนวเดียวกัน พวกเขาแข็งเหมือนหิน พวกเขาเปล่งประกายวิญญาณที่ดุร้ายพร้อมที่จะฆ่า หัวหน้าทหารพูดด้วยน้ำเสียงสุภาพว่า “องค์ชายรองและอัครเสนาบดี นี่คือตำหนักของนายน้อยสี่แห่งตระกูลเจียงหยาง หากไม่ได้รับอนุญาต ท่านจะเข้าไปข้างในไม่ได้”
ตรงข้ามกับพวกเขามีทหารหลายคนที่แต่งตัวในลักษณะที่คล้ายกัน พวกเขาจากอาณาจักรอินทรีสวรรค์ องค์ชายรองและอัครเสนาบดียืนนำอยู่ด้านหน้า
“เจียงหยางเซียงเทียน เจ้าได้ดูถูกเหยียดหยามอาณาจักรอินทรีสวรรค์ของเราและยิ่งไปกว่านั้นเจ้ายังเหยียบย่ำเกียรติยศแห่งอาณาจักรของเรา เจ้าจะต้องมากับเรา ถ้าไม่เช่นนั้นอย่าโทษพวกเราที่ต้องหยาบคาย” องค์ชายรองพูดอย่างหนักหน่วงด้วยอำนาจอันน่าเกรงขาม แม้ว่านี่จะเป็นพระราชวังที่ยิ่งใหญ่ของอาณาจักรเกอซุน แต่คนจากอาณาจักรอินทรีสวรรค์ก็ไม่เห็นว่ามันเป็นภัยคุกคามแต่อย่างใด
“องค์ชาย ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรท่านไม่สามารถเข้าไปได้ หากท่านได้รับอนุญาตจากนายน้อยสี่ เราก็จะปล่อยให้ท่านเข้าไป” ทหารพูดอย่างไม่หยุดยั้ง
“ฮึ่ม ทหารตัวน้อยกำลังขวางทางขององค์ชายอยู่เหรอ ? มันช่างน่าขันเสียนี่กระไร ? ” องค์ชายเริ่มฉุนเฉียวและโบกมือ “เข้าไป ! อย่าเมตตาใครที่ขวางทางเรา”
พะยะค่ะ ! กลุ่มทหารจากอาณาจักรอินทรีสวรรค์ตะโกนขณะที่พวกเขากวัดแกว่งอาวุธเซียน แม้ว่าพวกเขาจะมีเพียง 40 คน แต่ละคนก็เป็นเซียนปฐพี แม้จะอยู่ที่จุดสูงสุดของอาณาจักรเกอซุน ความแข็งแกร่งของอาณาจักรอินทรีสวรรค์นั้นมากกว่าพวกเขาหลายเท่า พวกเขาสามารถจัดการเซียนปฐพีหลายคนได้อย่างง่ายดาย
ในทางตรงกันข้าม ในบรรดาทหารชุดเกราะดำ 200 คน มีเพียง 5 คนเท่านั้นที่เป็นเซียนปฐพี ส่วนที่เหลือเป็นเซียนผู้เชี่ยวชาญพิเศษ ดังนั้นความแตกต่างระหว่างจุดแข็งของทั้งสองอาณาจักรจึงชัดเจนพอให้ทุกคนได้เห็นดั่งเช่นกลางวันและกลางคืน อย่างไรก็ตามทหารชุดเกราะดำก็ปฏิเสธที่จะแสดงความอ่อนแอและนำอาวุธเซียนของตนออกมา
“หยุดอยู่ตรงนั้น ! ” เสียงดังขึ้นอย่างฉับพลันขณะที่เจี้ยนเฉินเดินออกจากตำหนักของเขาอย่างไม่ทันคาดคิด บนใบหน้าของเขามีการแสดงออกที่เคร่งขรึมในขณะที่เขาจ้องมองคนของอาณาจักรอินทรีสวรรค์
“เจียงหยางเซียงเทียน ข้าคิดว่าอย่างน้อยเจ้าก็จะพยายามซ่อนตัว ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเจ้าจะเดินออกมา” ดวงตาขององค์ชายสองนั้นเหมือนไฟที่ลุกโชน มันเผาด้วยความอัปยศที่ฝังอยู่ในความทรงจำของเขา
เจี้ยนเฉินเดินออกจากตำหนักทีละก้าวอย่างสง่างามและเดินไปยังกลุ่มของอาณาจักรอินทรีสวรรค์ด้วยสายตาที่เย็นชา. ” จงอธิบายเหตุผลที่ทำให้เจ้ามาถึงที่นี่”
“เจียงหยางเซียงเทียน เจ้าดูถูกอาณาจักรอินทรีสวรรค์ของข้าเมื่อวานนี้และเหยียดหยามตามเกียรติของอาณาจักรของข้า หากเจ้ายังมีสมอง จงนั่งนิ่ง ๆ และปล่อยให้ตัวเองถูกจับเพื่อที่เราจะได้นำเจ้ากลับสู่อาณาจักรของเราเพื่อรอการลงโทษของราชา มิฉะนั้นเจ้าจะต้องรับผิดชอบหากเจ้าไม่ทำตาม” องค์ชายรองพูดอย่างจองหอง ครั้งนี้เขาได้เตรียมตัวมาพร้อม เขานำจอมยุทธ์มาหลายคน ดังนั้นเขาจึงไม่กลัวเจี้ยนเฉิน
ใบหน้าของเจี้ยนเฉินมีรอยยิ้มเย็นยะเยือกเมื่อเขามองดูด้วยความรังเกียจ ” องค์ชายรอง ถ้าท่านออกไปตอนนี้ ข้าก็จะปล่อยให้เรื่องทั้งหมดกลายเป็นอดีต มิฉะนั้น ข้าจะบอกท่านเช่นกันว่า ท่านจะต้องรับผิดชอบในการกระทำของท่าน”
ดวงตาขององค์ชายสองเปล่งประกายอย่างรุนแรง “เจ้ามันรนหาที่ตาย จับตัวเขา ! ” ทันทีที่องค์ชายรองพูดจบ เซียนปฐพีก็พุ่งตรงไปที่เจี้ยนเฉิน
“ขัดขวางพวกเขา ! ” ผู้นำของทหารชุดเกราะดำตะโกน เซียนปฐพี 5 คนบินไปข้างหน้าทันทีเพื่อหยุดคนของอาณาจักรอินทรีสวรรค์
เจี้ยนเฉินส่งเสียงแหลมเล็ก ๆ ก่อนที่จะชี้นิ้ว ปราณกระบี่ม่วง-ฟ้าที่หลากหลายบินออกมาจากปลายนิ้วของเขาและยิงเข้าหาเซียนสวรรค์จากอาณาจักรอินทรีสวรรค์
เซียนปฐพีของอาณาจักรอินทรีสวรรค์กำลังจะต่อสู้กับทหารชุดเกราะดำ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ได้ให้ความสนใจกับเจี้ยนเฉิน ในช่วงเวลาต่อมา ปราณกระบี่ก็เจาะรูเข้าไปในทรวงอกของพวกเขา
จอมยุทธ์ของอาณาจักรอินทรีสวรรค์ส่งเสียงคำรามขณะที่พวกเขาถอยหลังไป พวกเขาแสดงท่าทีประหลาดใจเมื่อมองดูเจี้ยนเฉินที่อยู่ด้านหลังทหารชุดเกราะดำ
“เจียงหยางเซียงเทียน เจ้าปรารถนาที่จะเป็นศัตรูกับอาณาจักรอินทรีสวรรค์หรือ ? เจ้าไม่รู้จักชื่อเสียงของอาณาจักรอินทรีสวรรค์ของเรารึ ? ” อัครเสนาบดีพูดอย่างจริงจัง เจี้ยนเฉินทำสิ่งที่เกินความคาดหมายของเขาอย่างมาก
” แล้วอาณาจักรอินทรีสวรรค์มีความสำคัญอย่างไร ? ราชทูตสองคนจากอาณาจักรอินทรีสวรรค์ เจ้าเชื่อหรือว่าเจ้าจะสามารถเดินออกไปจากพระราชวังของอาณาจักรเกอซุนได้ในวันนี้ ? “
ทันทีที่อัครเสนาบดีพูดจบ เสียงที่ก้าวร้าวก็ดังขึ้นจากด้านหลัง เมื่อได้ยินเสียงนี้ จอมยุทธ์ของอาณาจักรอินทรีสวรรค์จึงหันไปมองด้วยความอยากรู้อยากเห็น ชายหนุ่มผิวขาวอายุประมาณ 28 ปีเดินมาข้างหน้า. เขาคือคนที่เพิ่งพูดดูถูกอาณาจักรอินทรีสวรรค์