การได้ซากมังกรน้ำแข็งมา ไม่เพียงแต่เยี่ยนจ้าวเกอกับอาหู่ได้รับประโยชน์เท่านั้น แม้แต่พ่านพ่านก็ได้บารมีไปด้วย
พ่านพ่านได้รับสารจำเป็นหล่อเลี้ยงร่างกายจากเลือดมังกรผ่านเยี่ยนจ้าวเกอ บัดนี้ได้รับการผลัดขนเปลี่ยนกระดูก มิอาจเปรียบกับในอดีตได้อีกแล้ว
ร่างกายขนาดใหญ่ยักษ์ของพ่ายพ่านขยายใหญ่ขึ้นกว่าเดิมมาก เมื่อเทียบกับก่อนหน้า ส่งพลังกดดันและมีพลังโจมตีแข็งแกร่งขึ้นเช่นกัน
กระแสน้ำสีดำหลายสายหมุนวนรอบร่างกายของพ่านพ่าน กลายเป็นรูปมังกร สร้างความรู้สึกหวาดกลัวยิ่งนัก
เดิมทีพ่านพ่านเป็นผีซิว[1]หนึ่งในราชันอสูร ขณะนี้มันดูเหี้ยมหาญไร้เทียมทาน
ปีศาจออัคคีที่เหมือนเขาขนาดย่อมสกัดอยู่ด้านหน้า
พ่านพ่านก้มหน้าพุ่งเข้าชนตรงๆ!
ปีศาจอัคคีได้แต่จ้องมองพ่านพ่านพุ่งเข้ามาด้วยความตกตะลึง ก่อนที่ร่างจะแหลกสลายไป!
เยี่ยนจ้าวเกอนั่งอยู่บนตัวพ่านพ่าน เขาฟาดมือซ้ายใส่ปีศาจอัคคีตัวหนึ่งจนตาย ส่วนภายในแขนเสื้อข้างขวาเหมือนมีมังกรสีเขียวคำรามเสียงดัง ฉับพลันนั้นประกายกระบี่สว่างวาบ เสือกเข้าใส่ศีรษะปีศาจอัคคีจนตายไปอีกตัว
อาหู่นั่งหันหลังชนกับเยี่ยนจ้าวเกอ เผชิญหน้ากับปีศาจอัคคีตัวหนึ่งที่ไล่ตามมา เขากางกรงเล็บทั้งสองมือพร้อมกัน ฉีกกระชากร่างปีศาจอัคคีตัวนั้น
เยี่ยนจ้าวเกอกวาดสายตามองไปรอบบริเวณ ปีศาจอัคคีหลายตัวล้วนมีลักษณะแตกต่าง
ปีศาจออัคคีส่วนใหญ่มิได้อยู่ในรูปร่างมนุษย์
บางตัวกางปีกไฟเหมือนนกยักษ์ ข้างใต้ท้องมีขาข้างเดียว ส่วนศีรษะเป็นสัตว์ป่าประเภทเสือ
บางตัวไร้แขนไร้ขาเหมือนภูเขาขนาดย่อม มีเพียงแต่ร่างกายขนาดใหโต แต่กลับบินไปมาได้อย่างอิสระ
บางตัวเลื้อยไปมาได้เหมือนกับงู
ส่วนปีศาจอัคคีที่ร่างกายเหมือนมนุษย์มีจำนวนเพียงน้อยนิด ทุกตัวล้วนมีองคาพยพและแขนขา
แต่ไม่ว่าจะมีรูปร่างอย่างไร ปีศาจอัคคีทุกตัวล้วนมีจุดเด่นร่วมกัน นั่นก็คือผิวเต็มไปด้วยเปลวไฟ ราวกับร่างกายเกิดขึ้นจากไฟก็ไม่ปาน
ปีศาจอัคคีจำนวนมากเข้ามายังทะเลพร้อมกัน ทำให้น้ำทะเลระเหยเป็นไปในทันที
ถ้ามิใช่เพราะทะเลตะวันออกกว้างใหญ่ไพศาล เกรงว่ามวลน้ำคงจะระเหยจนหมดสิ้น ไม่เหลือสักหยดเดียว
น้ำสามารถดับไฟ แต่ว่าถ้าไฟมีอานุภาพรุนแรงอย่างยิ่ง แม้แต่มหาสมุทรก็ยังต้องยอมแพ้
ตอนนี้ภายในมหาสมุทรมีปีศาจอัคคีมายมายเต็มไปหมด
ถึงแม้จะเป็นปีศาจอัคคีที่มีพลังเทียบเท่ากับมหาปรจารย์ขั้นซ่อนจิตของเผ่ามนุษย์ ก็มิอาจเก่งกาจทัดเทียบกับเยี่ยนจ้าวเกอได้
แม้จะมีศัตรูจำนวนมหาศาล แต่เยี่ยนจ้าวเกอก็ยังคงสีหน้าเรียบเฉย เขายืนอยู่บนหลังพ่านพ่าน คอยรับมือพวกศัตรู
ชายหนุ่มกำหมัดที่มือซ้าย ใช้ไฟปะทะไฟ ใช้แข็งชนแข็ง ใช้แกร่งข่มแกร่ง บัดนี้ปราณจิตราคลุ้มคลั่งแทบจะจับตัวกันเป็นแก่นสาร กลายเป็นเปลวไฟสีม่วงน่าหวาดหวั่น กระปทกใส่ทรวงอกของปีศาจอัคคีร่างมนุษย์ตนหนึ่งจนยุบเข้าไป
กระบี่วิญญาณมังกรมรกตในมือขวากลายร่างเป็นประกายกระบี่สีเขียว พุ่งออกมาจากแขนเสื้อ ทะลุร่างของปีศาจอัคคีในร่างงูอย่างแม่นยำ!
มีปีศาจอัคคีอีกตัวหนึ่งรูปร่างเหมือนกับต้นไม้สูงเทียมฟ้า มันแผ่กิ่งก้านยิงเปลวไฟสายแล้วสายเล่าออกมาใส่ร่างของเยี่ยนจ้าวเกอ มองแล้วเหมือนเถาวัลย์ไฟไม่มีผิด
เยี่ยนจ้าวเกอไม่หลบ ปล่อยให้ไฟนั้นพันเกี่ยวร่างกายของตนเอง
แม้ร่างอักขระทองจะสูญเสียพลังไปหมดสิ้นจากการต่อสู้กับเจิ้งซั่วและหลินโจว แต่ในตอนนี้เยี่ยนจ้าวเกอฝึกฝนหมัดนอแรดและวิชากายเพชรสำเร็จแล้ว จึงมีพลังป้องกันตนเองเหนือกว่าในอดีต
ถึงจะไม่ได้ใช้เกราะภูผาวิญญาณ เยี่ยนจ้าวเกอก็ไม่ได้รับบาดเจ็บจากการถูกไฟผลาญพันไว้แม้แต่น้อย
ชายหนุ่มอาศัยแรงลากของอีกฝ่าย เพิ่มความเร็วพุ่งเข้าหาปีศาจออัคคีที่เหมือนต้นไม้โบราณตัวนั้น จากนั้นก็ใช้กระบี่ฟันเข้าใส่!
ฉับพลันนั้นมีศัตรูฉวยโอกาสพุ่งเข้ามาจากด้านหลัง คิดจะลอบโจมตี
เขาไม่หันหลังกลับไปมองสักครั้ง เพียงพลิกตัวฟันศอกใส่หัวของผู้ลอบโจมตีจนแหลก
หลังจากนั้น เยี่ยนจ้าวเกอก็ตกลงบนร่างของพ่านพ่านที่พุ่งเข้ามาพอดี ก่อนจะบุกตะลุยไปด้านหน้าต่อ
ทว่ายังมีปีศาจอัคคีระดับมหาปรมาจารย์ขั้นกำเนิดญาณโจมตีใส่เยี่ยนจ้าวเกอ อาหู่ และพ่านพ่านอย่างบ้าคลั่ง
การโจมตีนั้นไม่ด้อยไปกว่าซื่อหลิงในอดีตเลย พลังไฟที่มีมาแต่กำเนิดกลับเหนือชั้นกว่าด้วยซ้ำ
เยี่ยนจ้าวเกอดวงตาเคร่งขรึม ไม่เห็นแววสับสนหรือกระวนกระวายสักนิด จู่ๆ เขาก็ชูมือซ้ายขึ้น พลันมีผลึกน้ำแข็งสีทองหลายกลุ่มพุ่งใส่ปีศาจอัคคีระดับมหาปรมาจารย์ขั้นกำเนิดญาณตัวนั้น
เป็นอาคมน้ำแข็งปราบมารที่เยี่ยนจ้าวเกอตั้งใจสร้างขึ้นมา!
ผลึกน้ำแข็งสีทองที่ดูเล็กกระจ้อยชนใส่ร่างของปีศาจอัคคีเหล่านั้น แล้วระเบิดออกในทันใด
แสงทองส่องสว่างพร่างตา หมอกน้ำแข็งฟุ้งกระจาย
น้ำทะเลที่เดือดพล่านคล้ายกับจะลุกไหม้ในตอนแรก บัดนี้มีอุณหภูมิลดต่ำลงในพริบตา
น้ำทะเลบริเวณที่อยู่ใกล้การระเบิดของอาคมน้ำแข็งปราบมาร ครั้นถูกละอองน้ำแข็งม้วนใส่ก็เริ่มแข็งตัว!
ปีศาจอัคคีตัวแล้วตัวเล่าคำรามขึ้นด้วยความตกใจระคนโมโห เปลวไฟที่ดุร้ายหมายขวัญลดลงไปหลายส่วน
เยี่ยนจ้าวเกอยืนบนหลังพ่านพ่านที่กระโจนไปด้านหน้า ก่อนจะไปถึงเบื้องหน้าปีศาจอัคคีที่ถูกแช่งแข็งจนเคลื่อนไหวช้าลง
ปีศาจอัคคีที่มีพลังเทียบเท่ากับมหาปรมาจารย์ขั้นกำเนิดญาณเผ่ามนุษย์ เบิกตามองเยี่ยนจ้าวเกอพุ่งผ่านร่างมันไป และใช้กระบี่สะบั้นคอมันลง!
เขาลงมือฟาดฟันศัตรูอย่างต่อเนื่อง ส่วนพ่านพ่านพุ่งไปด้านหน้า ฉับพลันนั้นเขาเกิดความรู้สึกอันตรายขึ้นที่ด้านหลัง
ครั้นหันกลับไปมอง ถึงเห็นปีศาจอัคคีที่แข็งแกร่งสุดขีดตัวหนึ่งไล่ล่าตามมา
จอมยุทธ์เผ่ามนุษย์แห่งมหาอำนาจแปดพิภพมักจะเรียกปีศาจออัคคี ที่มีพลังใกล้เคียงกับมหาปรมาจารย์ขั้นบรรลุธรรมและมหาปรมาจารย์ขั้นรูปญาณว่า จ้าวปีศาจอัคคี
ปีศาจอัคคีที่ไล่ตามอยู่ด้านหลังเยี่ยนจ้าวเกอในตอนนี้ ถึงแม้จะไม่ได้อยู่ในระดับจ้าวปีศาจอัคคี แต่ก็ใกล้เคียงมาก!
เยี่ยนจ้าวเกอมองอีกฝ่ายอย่างเย็นชา มือขวาเก็บกระบี่วิญญาณมังกรมรกต และหยิบธนูเปล่งประกายสายฟ้าสีม่วงออหมาแทน
อาวุธวิญญาณระดับสูง ธนูนภาอลหม่าน!
ทันทีที่เยียนจ้าวเกอดึงสายธนู เสียงสายฟ้าโครมครามพลันดังสนั่น
ถึงแม้เยี่ยนจ้าวเกอจะใช้พลังส่วนหนึ่งของมันเท่านั้น แต่พลังอันน่าทึ่งกลับสั่นสะท้านไปไกล
สิ่งที่ชายหนุ่มนำมาพาดบนสายมิใช่ลูกธนู แต่เป็นอาคมน้ำแข็งปราบมาร
เขาเล็งปีศาจอัคคีที่ตามมาด้านหลัง พริบตาที่ปล่อยมือ ธนูนภาอลหม่านส่งเสียงคำรามปานสายฟ้าฟาด แสงสีทองที่ห้อมล้อมไปด้วยสายฟ้าสีม่วงพลันพุ่งออกไป!
ปีศาจอัคคีตัวนั้นคิดหลบ แต่ไม่ทัน ได้แต่เลี่ยงจุดอ่อนบนร่างของตัวเอง ใช้มือข้างหนึ่งรับอาคมน้ำแข็งปราบมารแทน
สายฟ้ากับเปลวไฟชนใส่กันอย่างรุนแรง อาคมน้ำแข็งทำลายมารทำงานอีกครั้ง ทำลายกำลังของปีศาจอัคคีอย่างต่อเนื่อง
ท่ามกลางเสียงคำรามด้วยความเดือดดาล มือขวาของมันถูกสายฟ้าระเบิดจนแหลก!
หลังจากหยุดการโจมตีของปีศาจอัคคีที่แข็งแกร่งตัวนั้นเสร็จ เยี่ยนจ้าวเกอก็หมุนธนูฟาดด้านข้าง ฆ่าปีศาจอัคคีที่เข้ามาใกล้อีกตัว
เพื่อไม่ให้ถูกศัตรูจำนวนมากล้อม เยี่ยนจ้าวเกอ อาหู่ และพ่านพ่านจึงบุกตะลุยฝ่าวงล้อมโดยไม่หยุดพัก
ปีศาจอัคคีมิใช่ไม่มีสติปัญญา เพียงแต่เวลาสู้รบจะบ้าคลั่ง และกระตุ้นให้โมโหได้ง่าย
พวกเยี่ยนจ้าวเกอสามคนหนีรอดไปได้ ทำให้ปีศาจอัคคีโมโหเป็นฟืนเป็นไฟ ก่อนจะไล่ตามไปตลอดทาง
อาหู่มองศัตรูเขม็ง ถามโดยไม่หันหลัง “คุณชาย พวกเราจะทำอย่างไรดีขอรับ หากเป็นเช่นนี้ต่อให้ฝ่าวงล้อมออกไปได้ แต่เกรงว่าจะทำให้ราชันปีศาจอัคคีโกรธ และละทิ้งเมืองทะเลมรกตมาไล่ตามพวกเราไม่ได้”
เยี่ยนจ้วเกอกล่าว “ตอนนี้ยังใกล้เกินไป ลองหนีไกลอีกสักหน่อย แล้วค่อยลองใช้วิธีของข้า”
……………………………………….
[1] ผีซิว (貔貅) หรือ ปี่เซียะ